“ยังมีประกันหนึ่งตัว จะมอบให้เธอไว้ครองงงง” แม่มณีมีความใฝ่ฝันอยากให้ผู้คนในสยามประเทศรู้จักและรักแบบประกันประเภทนี้มาก ๆ เลยเธอเอ้ยยย โดยเฉพาะมนุษย์เมีย species เดียวกันกับแม่มณี ได้มีโอกาสเขียนถึง แสนจะดีใจ เพราะมันขายไม่ค่อยจะออกเล้ยยย ตัวแทนก็ไม่ค่อยอยากจะขาย เพราะส่วนใหญ่ค่าคอมมิชชั่นจะไม่เยอะ แถมเบี้ยรวมก็มักจะถูก ส่วนลูกค้าก็ไม่ค่อยอยากจะซื้อเพราะว่าแสลงหูกับคำว่า “เบี้ยจ่ายทิ้ง” กลายเป็นแบบประกันที่เสี่ยงสูญพันธ์ุจากวงการ
Terms เป็นแบบประกันแรก ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกหล้า ลองคิดดูสิว่าคนเราจะคิดประดิษฐ์ระบบประกันได้ตอนไหน แต่น แตน แต๊นนน ก็ตอนที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะไป “เสี่ยงตาย” ไง สถานการณ์ปกติใครจะมานั่งวางแผนตาย แสกนดิเนเวียนสมัยโบราณเค้าอยู่กันเป็นหมู่บ้าน สามีจะทำมาหากินก็ต้องลำบากออกเรือไป แต่ละบ้านก็จะเอาของมีค่ามากองรวมกัน ถ้าเกิดขากลับกลับไม่ครบ ของมีค่ากองนี้ก็จะเอามาหารให้กับมนุษย์เมียและลูกของครอบครัวที่สามีตาย นั่นนนนนแหล่ะ มันคือ Terms ความคุ้มครองที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาจำกัด ที่ครอบครัวต้องการหลักประกัน จ่ายแล้วทิ้งไปไม่มีเงินคืน หมดช่วงเวลาแห่งความเสี่ยง ก็เลิกทำประกัน
สมัยนี้ สามี “ออกรถ” ไปหากิน มนุษย์เมียอย่างเราก็เลยเลือน ๆ ลืมที่จะกลัวว่าตัวจะตาย ในขณะที่ครอบครัวเรายังหาต้นเดือนกินพอดีปลายเดือน บ้าน, รถ, มือถือ ต้องผ่อน แน่นอน ซักวันรายได้เราจะมากขึ้น ครอบครัวจะมั่นคง มีเงินเก็บให้ลูก แล้วไง ประกันจะช่วยให้รวยได้เหรอ ชิส์ ไม่ได้หรอก แม่มณีพูดเลยว่าเราจะรวยได้ก็ด้วยการทำงาน ด้วยการลงทุน ด้วยการเก็บออม ด้วยการเล่นหวย ด้วยฝาชาเขียว ไม่ใช่จาก “ประกัน” แต่ในวันนี้ที่ชีวิตครอบครัวเรา “ยังรวยไม่เสร็จ” ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นกับคนหาเงินเนี่ย แม่เจ้าาาา “ไม่เหลืออะไรเลยยย แหลกสลายลงไปกับตา” แม่มณีนึกถึงเพลง “ปราสาททราย” ของสุรสีห์
https://www.youtube.com/watch?v=mKFmwCNRvR8 โอ้ เก่าจิง เค้ารู้เลยแม่มณีอายุเท่าไหร่
สมมุติเมีย ๆ อยากเราอยากให้สามีมีทุนประกันซัก 5 ล้าน ถ้าซื้อแบบประกันธรรมดา ทุน 5 ล้านเนี่ย คุณน่าจะต้องโดนเบี้ยต่ำ ๆ ก็เป็นหลักแสน แต่อันนี้ไม่ถึงสามหมื่น ตกเดือนละ 2,500 ยอมประหยัดค่าเครื่องสำอางค์มาซื้อเบี้ยประกันให้สามี อันนี้ไม่มีการผูกมัด วันใดไม่ต้องการก็ไม่ต้องต่อ เพราะเบี้ยมันจ่ายทิ้งไปอยู่แล้ว ถ้าครอบครัวมั่นคงพออกพอใจ เรียกว่าต่อให้สามีตายครอบครัวก็ยัง survival ก็หยุดจ่ายเบี้ยไปเลย
ลากมาซะยาว แม่มณีเอาประกันแบบ Terms หลาย ๆ ที่มาเปรียบเทียบให้ดูด้วย เห็นมะว่าระยะเวลาครบกำหนดมันจะสั้น ๆ แป๊บ ๆ แล้วแต่เราจะเลือก ยิ่งเลือกระยะเวลาคุ้มครองยาว เบี้ยยิ่งแพงนะเธอ อันนี้กลับตาลปัตรกับแบบประกันอันอื่น ๆ จะเห็นได้ว่า ถ้าจะเอาเจ๋งจริง จ่ายน้อยกว่าจริง ๆ “เทยประกัน” เค้ามาเหนือ เพราะเค้าจ่ายเบี้ยแค่ปีเดียว แต่เจ้าอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะจ่ายกันไปเป็นระยะเวลาเท่ากับระยะเวลาความคุ้มครอง ถ้าคิดกันทั้งสัญญาเทยประกันก็จะจ่ายถูกที่สุด ดังนั้นสำหรับคนมีอัฐพอ มีทางเลือก แม่มณีก็ชี้ไปที่ “เทยประกัน” เจ็บแต่จบ รอบเดียวเสร็จเลยเธอเอ้ยย แต่ถ้าสำหรับเบี้ยอัฐไม่ค่อยมี ขอทยอยผ่อนมรดก จ่ายมันไปทุก ๆ ปี เนี่ย เบี้ยที่ถูกที่สุดก็คือ F อะไร D จ้า จ่ายเบี้ยแค่ปีละ 5,700 ตายให้ดี ตายให้ไว ถ้าตายได้ ให้ล้านนึง.. ถ้าจะซื้อมากกว่า 1 ล้าน ใช้คณิตศาสตร์ชั้นสูงเทียบบัญญัติไตรยางค์เอาเลย อยากซื้อ 5 ล้าน จับเบี้ยคูณห้า อยากซื้อสิบล้าน จับเบี้ยคูณสิบ ง่ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
แม้ว่ามันจะเป็นเบี้ยจ่ายทิ้ง แต่อย่าลืมว่า “ชนช้ันกลาง” อย่างเรา ๆ จ่ายเงินทิ้งไร้สาระกับสารพัดเรื่อง แม่มณีว่าการจะตั้ง “กองมรดกเฉพาะกิจของสามี” ให้ครอบครัว ก็คงไม่ใช่เรื่องไร้สาระเนอะ ถ้าวันใดที่ครอบครัวมั่นคง มีทุกอย่างที่เราตั้งใจแล้ว เราก็หยุดทำประกันเมื่อไหร่ก็ได้ แถมถ้าเป็นแบบที่ระยะเวลาคุ้มครองเกิน 10 ปีขึ้นไป ตัวนี้ยังเอาไปลดหย่อนภาษีได้อีกต่างหากนะ มันแสนจะดี เหมาะสมและคู่ควรสำหรับศรีภรรยาที่จะโอ้โลม ปฏิโลม ขู่กรรโชกให้สามีทำไว้เป็นหลักประกันของครอบครัวนะตัวเธอว์
[CR] Terms กองมรดกชนชั้นกลาง แบบประกันดี ๆ ที่ขายไม่ค่อยจะออก โดย Ms.Many อีนี่เยอะ
“ยังมีประกันหนึ่งตัว จะมอบให้เธอไว้ครองงงง” แม่มณีมีความใฝ่ฝันอยากให้ผู้คนในสยามประเทศรู้จักและรักแบบประกันประเภทนี้มาก ๆ เลยเธอเอ้ยยย โดยเฉพาะมนุษย์เมีย species เดียวกันกับแม่มณี ได้มีโอกาสเขียนถึง แสนจะดีใจ เพราะมันขายไม่ค่อยจะออกเล้ยยย ตัวแทนก็ไม่ค่อยอยากจะขาย เพราะส่วนใหญ่ค่าคอมมิชชั่นจะไม่เยอะ แถมเบี้ยรวมก็มักจะถูก ส่วนลูกค้าก็ไม่ค่อยอยากจะซื้อเพราะว่าแสลงหูกับคำว่า “เบี้ยจ่ายทิ้ง” กลายเป็นแบบประกันที่เสี่ยงสูญพันธ์ุจากวงการ
Terms เป็นแบบประกันแรก ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกหล้า ลองคิดดูสิว่าคนเราจะคิดประดิษฐ์ระบบประกันได้ตอนไหน แต่น แตน แต๊นนน ก็ตอนที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะไป “เสี่ยงตาย” ไง สถานการณ์ปกติใครจะมานั่งวางแผนตาย แสกนดิเนเวียนสมัยโบราณเค้าอยู่กันเป็นหมู่บ้าน สามีจะทำมาหากินก็ต้องลำบากออกเรือไป แต่ละบ้านก็จะเอาของมีค่ามากองรวมกัน ถ้าเกิดขากลับกลับไม่ครบ ของมีค่ากองนี้ก็จะเอามาหารให้กับมนุษย์เมียและลูกของครอบครัวที่สามีตาย นั่นนนนนแหล่ะ มันคือ Terms ความคุ้มครองที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาจำกัด ที่ครอบครัวต้องการหลักประกัน จ่ายแล้วทิ้งไปไม่มีเงินคืน หมดช่วงเวลาแห่งความเสี่ยง ก็เลิกทำประกัน
สมัยนี้ สามี “ออกรถ” ไปหากิน มนุษย์เมียอย่างเราก็เลยเลือน ๆ ลืมที่จะกลัวว่าตัวจะตาย ในขณะที่ครอบครัวเรายังหาต้นเดือนกินพอดีปลายเดือน บ้าน, รถ, มือถือ ต้องผ่อน แน่นอน ซักวันรายได้เราจะมากขึ้น ครอบครัวจะมั่นคง มีเงินเก็บให้ลูก แล้วไง ประกันจะช่วยให้รวยได้เหรอ ชิส์ ไม่ได้หรอก แม่มณีพูดเลยว่าเราจะรวยได้ก็ด้วยการทำงาน ด้วยการลงทุน ด้วยการเก็บออม ด้วยการเล่นหวย ด้วยฝาชาเขียว ไม่ใช่จาก “ประกัน” แต่ในวันนี้ที่ชีวิตครอบครัวเรา “ยังรวยไม่เสร็จ” ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นกับคนหาเงินเนี่ย แม่เจ้าาาา “ไม่เหลืออะไรเลยยย แหลกสลายลงไปกับตา” แม่มณีนึกถึงเพลง “ปราสาททราย” ของสุรสีห์ https://www.youtube.com/watch?v=mKFmwCNRvR8 โอ้ เก่าจิง เค้ารู้เลยแม่มณีอายุเท่าไหร่
สมมุติเมีย ๆ อยากเราอยากให้สามีมีทุนประกันซัก 5 ล้าน ถ้าซื้อแบบประกันธรรมดา ทุน 5 ล้านเนี่ย คุณน่าจะต้องโดนเบี้ยต่ำ ๆ ก็เป็นหลักแสน แต่อันนี้ไม่ถึงสามหมื่น ตกเดือนละ 2,500 ยอมประหยัดค่าเครื่องสำอางค์มาซื้อเบี้ยประกันให้สามี อันนี้ไม่มีการผูกมัด วันใดไม่ต้องการก็ไม่ต้องต่อ เพราะเบี้ยมันจ่ายทิ้งไปอยู่แล้ว ถ้าครอบครัวมั่นคงพออกพอใจ เรียกว่าต่อให้สามีตายครอบครัวก็ยัง survival ก็หยุดจ่ายเบี้ยไปเลย
ลากมาซะยาว แม่มณีเอาประกันแบบ Terms หลาย ๆ ที่มาเปรียบเทียบให้ดูด้วย เห็นมะว่าระยะเวลาครบกำหนดมันจะสั้น ๆ แป๊บ ๆ แล้วแต่เราจะเลือก ยิ่งเลือกระยะเวลาคุ้มครองยาว เบี้ยยิ่งแพงนะเธอ อันนี้กลับตาลปัตรกับแบบประกันอันอื่น ๆ จะเห็นได้ว่า ถ้าจะเอาเจ๋งจริง จ่ายน้อยกว่าจริง ๆ “เทยประกัน” เค้ามาเหนือ เพราะเค้าจ่ายเบี้ยแค่ปีเดียว แต่เจ้าอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะจ่ายกันไปเป็นระยะเวลาเท่ากับระยะเวลาความคุ้มครอง ถ้าคิดกันทั้งสัญญาเทยประกันก็จะจ่ายถูกที่สุด ดังนั้นสำหรับคนมีอัฐพอ มีทางเลือก แม่มณีก็ชี้ไปที่ “เทยประกัน” เจ็บแต่จบ รอบเดียวเสร็จเลยเธอเอ้ยย แต่ถ้าสำหรับเบี้ยอัฐไม่ค่อยมี ขอทยอยผ่อนมรดก จ่ายมันไปทุก ๆ ปี เนี่ย เบี้ยที่ถูกที่สุดก็คือ F อะไร D จ้า จ่ายเบี้ยแค่ปีละ 5,700 ตายให้ดี ตายให้ไว ถ้าตายได้ ให้ล้านนึง.. ถ้าจะซื้อมากกว่า 1 ล้าน ใช้คณิตศาสตร์ชั้นสูงเทียบบัญญัติไตรยางค์เอาเลย อยากซื้อ 5 ล้าน จับเบี้ยคูณห้า อยากซื้อสิบล้าน จับเบี้ยคูณสิบ ง่ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
แม้ว่ามันจะเป็นเบี้ยจ่ายทิ้ง แต่อย่าลืมว่า “ชนช้ันกลาง” อย่างเรา ๆ จ่ายเงินทิ้งไร้สาระกับสารพัดเรื่อง แม่มณีว่าการจะตั้ง “กองมรดกเฉพาะกิจของสามี” ให้ครอบครัว ก็คงไม่ใช่เรื่องไร้สาระเนอะ ถ้าวันใดที่ครอบครัวมั่นคง มีทุกอย่างที่เราตั้งใจแล้ว เราก็หยุดทำประกันเมื่อไหร่ก็ได้ แถมถ้าเป็นแบบที่ระยะเวลาคุ้มครองเกิน 10 ปีขึ้นไป ตัวนี้ยังเอาไปลดหย่อนภาษีได้อีกต่างหากนะ มันแสนจะดี เหมาะสมและคู่ควรสำหรับศรีภรรยาที่จะโอ้โลม ปฏิโลม ขู่กรรโชกให้สามีทำไว้เป็นหลักประกันของครอบครัวนะตัวเธอว์