おはようございます
สวัสดีพี่ๆ น้องๆ ทุกท่านครับ ^_^

วันนี้...ผมจะขอมาเม้าเรื่องวัดในนารากันต่อ
ตอนแรก...ว่าจะเข้าไปสู่สมัยถัดไป คือ สมัย “เฮอัน” 平安時代 เลย
แต่คิดไปคิดมายังมีวัดใหญ่ๆ ที่น่าสนใจใน จ.นารา ที่ไม่ควรปล่อยผ่านไป
เพราะเหตุที่วัดทั้งหมดที่จะกล่าวต่อไปนี้ มีอะไรๆ ที่เป็น “ที่สุด” อยู่
สำหรับ 7 วัดใหญ่ที่ว่านี้ ได้แก่...

1. วัด “โตไดจิ” 東大寺
2. วัด “กังโกจิ” 元興寺
3. วัด “โคฟุขุจิ” 興福寺
4. วัด “ไซไดจิ” 西大寺
5. วัด “ไดอันจิ” 大安寺
6. วัด “ยะขุชิจิ” 薬師寺
7. วัด “โฮริวจิ” 法隆寺

ในจำนวนนี้ มีเพียง 4. วัด “ไซไดจิ” และ 5. วัด “ไดอันจิ” เท่านั้นที่เป็น
“มรดกสำคัญทางวัฒนธรรม” และ “มรดกแห่งชาติ”
ที่เหลือเป็นวัดที่ได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็น “มรดกโลก” เรียบร้อยแล้ว
ดีกรีขนาดนี้...ไม่ไปไม่ได้แล้ว

สำหรับ 1. วัด “โตไดจิ” ผมได้พูดถึงเอาไว้แล้วในตอนที่ 4
“ปริศนาวัดโตไดจิ หลวงพ่อโตแห่งนารา”
(ติดตามได้ที่)
↓↓↓↓↓↓↓↓
http://pantip.com/topic/34888476

จึงขอผ่านไปเลยนะครับ
มาเริ่มกันที่...วัดที่ 2 วัด “กังโกจิ” และวัดที่ 3 วัด “โคฟุขุจิ”กันเลย
เนื่องจากว่า 3 วัดนี้ อยู่ใกล้ๆ กัน อยู่ในวิสัยที่จะเดินถึงกันได้

เริ่มจาก วัด “กังโกจิ” กันเลย...
Let’s go !!

วัดนี้...มีดีอะไร ?

ในบรรดาวัดทั้ง 7 นี้...วัดนี้ “เก่าแก่” ที่สุด คือ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1136 (ค.ศ. 593)
ก็ไม่นานนะครับ...แค่ 1423 ปีที่แล้วเอง ^^;



อาคารหลังแรกที่เมื่อผ่านประตูเข้าไปพบ คือ “อุโบสถ” 本堂
กระเบื้องหลังคาโบสถ์นี้ “เก่าที่สุดในญี่ปุ่น” มีอายุพอๆ กับอายุวัด





อาคารที่ถัดจากอุโบสถ คือ “อาคารนั่งสมาธิเซนโด” 禅堂
แต่น่าเสียดายที่ไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้า T^T

พื้นที่ของวัดนี้ในปัจจุบันแม้จะไม่ใหญ่มาก
แต่ในอดีตใหญ่โตมโหฬารมาก ดังที่ปรากฏในจดหมายเหตุและบันทึกต่างๆ ดังในรูปนี้



ไปต่อกันที่วัดที่ 3 คือ วัด “โคฟุขุจิ” กันเลยนะครับ

วัดนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1212 (ค.ศ. 669)

วัดนี้...มีดีอะไร ?

ในบรรดาวัดทั้ง 7 นี้ (หรือวัดทั้งประเทศก็ว่าได้)...วัดนี้มีพระพุทธรูปเก่าแก่และสิ่งล้ำค่า
ระดับ “มรดกแห่งชาติ” หรือ “มรดกสำคัญทางวัฒนธรรม” มากที่สุด
และหนึ่งในสิ่งล้ำค่าที่เวลาใครมาก็ต้องไปชม คือ “เทพอาชุระ” 阿修羅



“อาชุระ” นี้ เป็น 1 ใน 8 เทพที่มีชื่อเสียง
ถ้าใครที่เป็นแฟน “มังกรหยก” จะมีภาคหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “แปดเทพอสูรมังกรฟ้า”
(เป็นภาคที่กล่าวความเป็นมา ก่อนที่จะมาเป็น “มังกรหยก” ภาค 1)
“อาชุระ” นี้คือ 1 ในนั้นนั่นเอง



นอกจากนี้ยังมี “เจดีย์ 5 ชั้น” และ “เจดีย์ 3 ชั้น” ที่งดงามอยู่ในวัดอีกด้วย...



วัดที่ 4 วัด “ไซไดจิ” 西大寺

วัดนี้...มีดีอะไร ?

วัดนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1308 (ค.ศ. 765)
แปลว่า “วัดใหญ่ทางตะวันตก” และวัดที่อยู่อีกฝากฝั่งของเมือง คือ “วัดใหญ่ทางตะวันออก”
ซึ่งก็คือ วัด “โตไดจิ” หรือ วัดหลวงพ่อโตแห่งนารานั่นเอง
จึงถือว่าเป็นวัดใหญ่ที่โด่งดังในอดีต



และเดิมทีวัดนี้มี “กะรัง” 伽藍 หรือ “สังฆาราม” ในภาษาบาลี-สันสกฤต
ที่ยิ่งใหญ่และสง่างาม เป็นที่โดดเด่นกว่าวัดอื่นๆ ทั้ง 7
แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าวัดนี้ถูกปล่อยปละละเลยไปในสมัย “เฮอัน” จนเกือบจะรกร้าง
และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในสมัย “คามาคุระ”



ปัจจุบัน…วัดนี้มีลักษณะเด่นตรงที่ ใน 1 วัดใหญ่ จะมี 7 วัดย่อยๆ ในพื้นที่



5. วัด “ไดอันจิ” 大安寺

วัดนี้...มีดีอะไร ?

วัดนี้มีอีกหนึ่งว่า “นันไดจิ” 南大寺 แปลว่า “วัดใหญ่ทางใต้”



วัดนี้ในอดีต...เคยมี “เจดีย์ 7 ชั้น” อยู่
ซึ่งเจดีย์ที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันโดยมากจะพบ “เจดีย์ 5 ชั้น” เป็นหลัก
สำหรับ “เจดีย์ 7 ชั้น” นี้ ในอดีตมีเพียง...
วัด “ไดอันจิ” และวัด “โตไดจิ” (วัดหลวงพ่อโตแห่งนารา) เท่านั้น !!

แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายว่า...ไม่ว่าจะเป็นวัด “ไดอันจิ” หรือ “โตไดจิ” ก็ตาม “เจดีย์ 7 ชั้น” ไม่มีปรากฏแล้ว
มีเพียง “ฐานราก” เท่านั้น
ที่ยังคงหลงเหลือไว้เป็นพยานความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา T^T



6. วัด “ยะขุชิจิ” 薬師寺

วัดนี้...มีดีอะไร ?

วัดนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1223 (ค.ศ. 680)
วัดนี้ถือมีโครงสร้างของ “กะรัง” หรือ “สังฆาราม” ที่ “ถือว่าสมบูรณ์ที่สุด” ที่มีมาถึงปัจจุบัน
พอๆ กับของวัด “โฮริวจิ” เพียงแต่มี “โครงสร้าง” ที่แตกต่างกันไป
มาเริ่มกันที่ “กะรัง” หรือ “สังฆาราม” ของวัด “ยะขุชิจิ” นี้กันก่อน



โดยมีรายละเอียดดังนี้



A = จูมง 中門 = ประตูกลาง
B = ไคโร 回廊 = วิหารคด
C = คนโด 金堂 = อุโบสถ
D = โต 塔 = เจดีย์ (มี 2 องค์)
E = โคโด 講堂 = ธรรมสภา (สำหรับแสดงธรรม & ศึกษาธรรม)
F = โชโร 鐘楼 = หอระฆัง
G = เคียวโซ 経蔵 = หอไตร

ซึ่งโครงสร้างของ “กะรัง” หรือ “สังฆาราม” ของวัด “ยะขุชิจิ” นี้
เป็นที่ปรากฏในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 7 ถึง 8
และ "เจดีย์" ของวัดนี้ มีลักษณะหนึ่งที่โดดเด่น คือ ถ้าดูโดยผิวเผินแล้ว
จะเข้าใจว่าเป็น "เจดีย์ 6 ชั้น" เพราะมีส่วนที่เป็น "หลังคา" อยู่ 6 ชั้น
แต่จริงๆ แล้ว...เป็น "เจดีย์ 3 ชั้น" เพียงแต่ระหว่างชั้นมีการทำหลังคาเพิ่มขึ้นมา

...ตรงนี้เอง ตอนแรกก็สงสัยอยู่ว่า ปกติ "เจดีย์" จะมี 3 บ้าง 5 บ้าง 7 บ้าง
แต่ที่นี่ทำไมมี 6 ชั้น พอได้สอบถามพระที่ท่านอยู่ที่นี่ จึงได้คำตอบที่แท้จริงออกมา
ไม่งั้นก็คงเดามั่วไปเรื่อย ^^;

เรื่อง "เจดีย์" ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมาก
แต่เดี๋ยวจะรวมมาพูดทีเดียวเลยเกี่ยวกับ
ประวัติศาสตร์ของเจดีย์ที่มีมาราว 2000 ปี



ปัจจุบัน…เจดีย์ตะวันออก อยู่ในระหว่างการบูรณะ
ก็ไม่นานเท่าไหร่...บูรณะแค่ 10 ปีเท่านั้น (พ.ศ. 2553 - 2563) T^T
แต่โชคดีที่ “กะรัง” ของวัดนี้มี 2 ฝั่ง คือ ยังมี “เจดีย์ตะวันตก” ให้ชมอยู่



และ
สำหรับวัดสุดท้ายของ 7 วัดใหญ่ในนารา คือ
วัดที่ 7 วัด “โฮริวจิ” 法隆寺 นี้ “มีดี” อยู่มาก (ขอบอก)

เริ่มจาก
1. ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกโลกแห่งแรก” ของประเทศญี่ปุ่น



2. สิ่งก่อสร้างเป็นโครงสร้างไม้ ที่ “เก่าแก่ที่สุดในโลก”
3. เจดีย์ 5 ชั้นของวัดนี้มี “ความสูงเป็นอันดับ 2” ของประเทศ รองจากเจดีย์วัด “โทจิ” 東寺 ของเกียวโต
และมีลักษณะที่ลดหลั่นลงไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 5
ซึ่งเจดีย์โดยทั่วไปจะมีขนาดเท่าๆ กันทุกชั้น



4. มี “พระพุทธรูป” เก่าแก่ที่ถูกเก็บรักษาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ (เข้าชมได้)
5. มี “หอฉัน” ที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้ในสภาพเดิม สืบมาถึงปัจจุบัน (ชมได้เพียงภายนอก)
6. วัดนี้ถือมีโครงสร้างของ “กะรัง” หรือ “สังฆาราม” ที่ “ถือว่าสมบูรณ์ที่สุด” ที่มีมาถึงปัจจุบัน
ดังที่กล่าวมาในวัดที่แล้ว เพียงแต่มี “โครงสร้าง” ที่แตกต่างกันไป
ซึ่งโครงสร้างของ “กะรัง” หรือ “สังฆาราม” ของวัด “โฮริวจิ” นี้
เป็นที่ปรากฏในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 7



(ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ)

สำหรับโครงสร้างของ “กะรัง” หรือ “สังฆาราม” ของวัด “โฮริวจิ” นี้
มีรายละเอียดดังนี้



A = จูมง 中門 = ประตูกลาง
B = ไคโร 回廊 = วิหารคด
C = คนโด 金堂 = อุโบสถ (มี 1 องค์)
D = โต 塔 = เจดีย์
E = โคโด 講堂 = ธรรมสภา (แสดงธรรม & ศึกษาธรรม)
F = เคียวโซ 経蔵 = หอไตร
G = โชโร 鐘楼 = หอระฆัง

วัดนี้มีข้อเสียอยู่อย่างเดียว คือ อยู่ไกลเหลือเกิน
T^T
ต้องตั้งใจไป ไม่มีอะไรใกล้ๆ วัดนี้ให้ได้แวะเลย
T^T

และนี่คือ “7 วัดใหญ่ในนารา...ที่ทุกคนไม่ควรพลาด”
ที่มีอะไรๆ ที่เป็น “ที่สุด” อยู่



ในตอนต่อไป เราจะก้าวไปสู่สมัย “เฮอัน” ซึ่งเป็นสมัยที่พระพุทธศาสนา
มีการเปลี่ยนแปลงไปอีกก้าวหนึ่ง
ส่วนว่า...จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ?
โปรดติดตามตอนต่อไป
つづく