Phuket Outdoor Adventures บริการรถตู้ 10 ที่นั่งสำหรับเช่าเหมาคันเพื่อเดินทางท่องเที่ยวจากภูเก็ตไปจุดชมวิว “เขาเสม็ดนางชี” ซึ่งเป็นจุดชมวิว “อ่าวพังงา” ที่สวยที่สุด โดยการนำทางของคนขับและมัคคุเทศก์ที่มีประสบการณ์การนำเที่ยวอย่างยาวนาน พร้อมทั้งมีประกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นขณะใช้บริการกับ Phuket Outdoor Adventures วงเงินสูงถึง 1,000,000 บาท
การเดินทางเราจะเริ่มต้นจากเกาะภูเก็ตโดยมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือของเกาะหรือมุ่งหน้าไปทางสะพานสารสิน เพื่อเดินทางต่อไปยัง “บ้านเสม็ดนางชี” โดยใช้เวลาจากสนามบินภูเก็ต – จุดชมวิว “เขาเสม็ดนางชี” 1 ช.ม. โดยประมาณ จากนั้นพาทุกท่านเดินขึ้นสู่จุดชมวิว เพื่อชมทิวทัศน์ที่งดงามของอ่าวพังงา

เราจะเดินทางต่อไปยังท่าเรือ “บ้านหินร่ม” เพื่อพายเรือแคนูไปตามหา “ลายแทงมหาสมบัติ” และ “สุสานหอย 5000 ปี” บ้านหินร่มเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่ซ้อนตัวอยู่ใน ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ชุมชนบ้านหินร่ม เป็นชุมชนที่อยู่ติดกับพื้นที่ป่าชายเลนผืนใหญ่ของอ่าวพังงา ซึ่งมีทรัพยากรสัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะปูดำ ปูม้า และกุ้งทะเล ดังนั้นการเดินทางมาที่บ้านหินร่มนี้ นอกเหนือจากชมความงามทางธรรมชาติแล้วสิ่งที่พลาดไม่ได้คือ การได้ลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ จากฝีมือชาวบ้านของชุมชนนี้


เมื่อเดินทางมาถึงท่าเรือบ้านหินร่ม สิ่งที่เราจะได้เห็นกันนั่นคือ ความงามของท้องทะเลอ่าวพังงา และเขาพระอาดหนุ่มตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า พร้อมทั้งเขาพระอาดเฒ่าที่กำลังเอนกายนอนอยู่ทางด้านขวาของเขาพระอาดหนุ่ม ท่าเรือที่นี่เป็นท่าเรือที่ชาวบ้านชุมชนนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่บ้านหินร่ม ซึ่งเป็นท่าเรือที่ทางเดินทำจากวัสดุธรรมชาติคือ ไม้ท้องถิ่น ซึ่งทำให้เราได้สัมผัสถึงความเรียบง่ายของชุมชนนี้ นอกเหนือจากวิวที่สวยงามแล้ว เนื่องจากหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านชาวประมง ดังนั้นเราอาจจะได้พบชาวบ้านกำลังเอาปลาขึ้นจากอวน และได้เห็นวิถีการดำรงชีพแบบชาวประมง


การเดินทางเพื่อค้นหา “ลายแทงมหาสมบัติ” นั้นสามารถเดินทางได้ 2 วิธีด้วยกันคือ เรือหางยาว หรือ เรือแคนู ซึ่งที่บ้านหินร่มนี้เค้ามีบริการเรือทั้งสองชนิด โดยสามารถติดต่อเช่าได้ที่ท่าเรือโดยตรง
จุดหมายแรกที่ Phuket Outdoor Adventures จะพาท่านไปคือ สุสานหอยโบราณอายุ 5000 ปี โดยพาหนะที่เราได้เลือกใช้ในวันนี้คือ เรือแคนู วันนี้เราได้รับเกียรติจากคุณครู สงัด (เสื้อชมพู)ซึ่งเป็นคุณครูโรงเรียนบ้านหินร่ม เป็นผู้พาเราไปชมจุดต่างๆ พร้อมทั้งเล่าประวัติความเป็นมาให้พวกเราได้ฟังกัน

เรือแคนูสามารถบรรจุคนนั่งได้ 3 คน (รวมคนพาย) ซึ่งระหว่างทางคนพายจะพาเราลัดเลาะไปตามริมตลิ่งเพื่อชมธรรมชาติป่าชายเลนและสัตว์น้ำสองข้างทาง เราจะใช้เวลาในการนั่งเรือแคนูประมาณ 30 นาที ก่อนถึงจุดหมายแรก คือ สุสานหอยโบราณ 5000 ปี



เมื่อถึงจุดหมาย เราจะเจอสะพานเล็กๆ สำหรับจอดและผูกเรือขณะเดินชมจุดต่างๆ ซึ่งสะพานนี้เป็นสะพานขนาดเล็ก ที่ทำจากไม้ และต้องปีนขึ้นสู่ด้านบนเพื่อเดินไปยังจุดต่างๆ

จากนั้นครูสงัดได้นำทางพวกเราเดินทางไปดู “สุสานหอยโบราณ 5000 ปี” สิ่งที่พวกเราได้เห็นกันคือ กองเปลือกหอย จำนวนมากซึ่งทับถมกันเป็นเนินเปลือกหอย โดยที่ครูสงัดได้เล่าว่า เคยมีคนมาขุดบริเวณนี้แล้วพบว่า เมื่อขุดลึกลงไปเรื่อยๆ สิ่งที่พบก็คือเปลือกหอย ซึ่งไม่มีใครสามารถบอกได้ถึงที่มาและสาเหตุที่เปลือกหอยได้มาทับถมรวมกันในบริเวณนี้


โดยลักษณะของเปลือกหอยที่เราสังเกตได้จะมีอยู่ 2 ชนิดคือ เปลือกหอยที่มีลักษณะเหมือนหอยแครงและเปลือกหอยที่มีลักษณะฝาแบนๆ ซึ่งความแปลกที่เราสังเกตเห็นคือเปลือกหอยทั้ง 2 ชนิดนี้ ทับถมกันอยู่ในจุดที่แตกต่างกัน ไม่ได้ทับถมกันแบบผสมปนกัน


จากสุสานหอยโบราณ 5000 ปี เมื่อเดินต่อไปอีกหน่อย เราจะพบป้ายแสดง “กะโหลกและกระดูกมนุษย์โบราณ” ซึ่งจะมีชิ้นส่วนของโครงกระดูกวางอยู่ โดยครูสงัดเล่าว่า ชาวบ้านเล่าต่อๆ กันมาว่าเป็นกระดูกของมนุษย์โบราณ ที่ถูกฝังเพื่อเฝ้าสมบัติบริเวณนี้ ดังนั้นจึงมีคนบางคนได้เข้ามาขุดดินบริเวณนี้เพื่อหาสมบัติ แต่อย่างไรก็ตามไม่เคยมีใครพบสมบัติหรือของมีค่าใดๆ เลย


จากจุดที่พบโครงกระดูกเราเดินต่อไปจนพบ “ลายแทงมหาสมบัติ” วาดอยู่บนหน้าผาหิน โดยครูสงัดได้เล่าให้พวกเราฟังว่า ในปี พ.ศ.2523 ได้มีผู้เชี่ยวชาญจาก 32 ประเทศ เข้ามาศึกษาที่จุดนี้และได้สรุปว่าภาพที่เราเห็นบนหน้าผานี้ไม่ใช่ภาพเขียนทั่วไป แต่เป็นลายแทง ที่มีอายุมากกว่า 5000 ปี และเป็นลายแทงที่สมบูรณ์ที่สุดในโลกที่ยังไม่มีใครอ่านและแปลความหมายได้ นอกเหนือจากลายแทงนี้แล้ว ยังมีประโยคพูดที่พูดต่อๆ กันมาว่า “เดินเข้า 3 วา ออกมา 3 ศอก ใครคิดออก กินจนตาย ก็ไม่หมด” ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่มีใครสามารถแปลความหมายได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นที่มาและความเชื่อของคนชุมชนนี้ว่า บริเวณนี้อาจจะมีสมบัติสมัยโบราณฝังอยู่ก็เป็นได้


จากจุดสุดท้าย “ลายแทงมหาสมบัติ” ไม่สามารถเดินต่อไปได้อีกแล้ว นี่จึงเป็นจุดสุดท้ายของการเดินทางของเราในวันนี้ แต่เรายังมีสิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนบ้านหินร่ม นั้นก็คือ อาหารทะเลสดๆ ที่กำลังรอเรากลับเข้าไปทาน การเดินทางออกจากสุสานหอย 5000 ปี เราต้องพายเรือกลับโดยใช้เส้นทางขามา แต่ถ้ามาในจังหวะที่น้ำขึ้น ทางคนพายจะพาเราพายเข้าไปในป่าโกงกาง โดยลัดเลาะไปตามช่องทางเล็กๆ ซึ่งเข้าได้เฉพาะเรือแคนูเท่านั้น เมื่อเรากลับมาถึงท่าเรือ อาหารทะเลสดๆ ก็รอเราอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว

การเดินทางของเราครั้งนี้ต้องขอขอบคุณ คุณครู สงัด ที่พาพวกเราชาว Phuket Outdoor Adventures ไปชมสถานที่ต่างๆ พร้อมทั้งได้เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้พวกเราได้รับทราบกัน
อัตราค่าบริการ
ค่าเช่าเหมารถตู้รับ-ส่ง (ภูเก็ต-เขาเสม็ดนางชี-ท่าเรือบ้านหินร่ม) ราคา 2500 บาท (ผู้โดยสารไม่เกิน 10 คน)
อัตราค่าบริการเช่าเรือแคนูพร้อมคนพาย 500 บาท / ลำ (นั่งได้ 3 คน รวมคนพาย)
สามารถเยี่ยมชมกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร ในสไตล์ Phuket Outdoor Adventures ได้ที่ facebook : phuketoutdooradventures หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณ ฤทัย โทร 084 7510232 , Lind ID : ruetai8 ได้ตลอด 24 ช.ม. ทางเรายินดีให้คำปรึกษาข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ แล้วพบกันนะคะ ขอบคุณค่ะ
Phuket Outdoor Adventures บริการรถตู้นำเที่ยวจุดชมวิวเขาเสม็ดนางชี ค้นหาลายแทงมหาสมบัติ สุสานหอย 5000 ปี
การเดินทางเราจะเริ่มต้นจากเกาะภูเก็ตโดยมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือของเกาะหรือมุ่งหน้าไปทางสะพานสารสิน เพื่อเดินทางต่อไปยัง “บ้านเสม็ดนางชี” โดยใช้เวลาจากสนามบินภูเก็ต – จุดชมวิว “เขาเสม็ดนางชี” 1 ช.ม. โดยประมาณ จากนั้นพาทุกท่านเดินขึ้นสู่จุดชมวิว เพื่อชมทิวทัศน์ที่งดงามของอ่าวพังงา
เราจะเดินทางต่อไปยังท่าเรือ “บ้านหินร่ม” เพื่อพายเรือแคนูไปตามหา “ลายแทงมหาสมบัติ” และ “สุสานหอย 5000 ปี” บ้านหินร่มเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่ซ้อนตัวอยู่ใน ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ชุมชนบ้านหินร่ม เป็นชุมชนที่อยู่ติดกับพื้นที่ป่าชายเลนผืนใหญ่ของอ่าวพังงา ซึ่งมีทรัพยากรสัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะปูดำ ปูม้า และกุ้งทะเล ดังนั้นการเดินทางมาที่บ้านหินร่มนี้ นอกเหนือจากชมความงามทางธรรมชาติแล้วสิ่งที่พลาดไม่ได้คือ การได้ลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ จากฝีมือชาวบ้านของชุมชนนี้
เมื่อเดินทางมาถึงท่าเรือบ้านหินร่ม สิ่งที่เราจะได้เห็นกันนั่นคือ ความงามของท้องทะเลอ่าวพังงา และเขาพระอาดหนุ่มตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า พร้อมทั้งเขาพระอาดเฒ่าที่กำลังเอนกายนอนอยู่ทางด้านขวาของเขาพระอาดหนุ่ม ท่าเรือที่นี่เป็นท่าเรือที่ชาวบ้านชุมชนนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่บ้านหินร่ม ซึ่งเป็นท่าเรือที่ทางเดินทำจากวัสดุธรรมชาติคือ ไม้ท้องถิ่น ซึ่งทำให้เราได้สัมผัสถึงความเรียบง่ายของชุมชนนี้ นอกเหนือจากวิวที่สวยงามแล้ว เนื่องจากหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านชาวประมง ดังนั้นเราอาจจะได้พบชาวบ้านกำลังเอาปลาขึ้นจากอวน และได้เห็นวิถีการดำรงชีพแบบชาวประมง
การเดินทางเพื่อค้นหา “ลายแทงมหาสมบัติ” นั้นสามารถเดินทางได้ 2 วิธีด้วยกันคือ เรือหางยาว หรือ เรือแคนู ซึ่งที่บ้านหินร่มนี้เค้ามีบริการเรือทั้งสองชนิด โดยสามารถติดต่อเช่าได้ที่ท่าเรือโดยตรง
จุดหมายแรกที่ Phuket Outdoor Adventures จะพาท่านไปคือ สุสานหอยโบราณอายุ 5000 ปี โดยพาหนะที่เราได้เลือกใช้ในวันนี้คือ เรือแคนู วันนี้เราได้รับเกียรติจากคุณครู สงัด (เสื้อชมพู)ซึ่งเป็นคุณครูโรงเรียนบ้านหินร่ม เป็นผู้พาเราไปชมจุดต่างๆ พร้อมทั้งเล่าประวัติความเป็นมาให้พวกเราได้ฟังกัน
เรือแคนูสามารถบรรจุคนนั่งได้ 3 คน (รวมคนพาย) ซึ่งระหว่างทางคนพายจะพาเราลัดเลาะไปตามริมตลิ่งเพื่อชมธรรมชาติป่าชายเลนและสัตว์น้ำสองข้างทาง เราจะใช้เวลาในการนั่งเรือแคนูประมาณ 30 นาที ก่อนถึงจุดหมายแรก คือ สุสานหอยโบราณ 5000 ปี
เมื่อถึงจุดหมาย เราจะเจอสะพานเล็กๆ สำหรับจอดและผูกเรือขณะเดินชมจุดต่างๆ ซึ่งสะพานนี้เป็นสะพานขนาดเล็ก ที่ทำจากไม้ และต้องปีนขึ้นสู่ด้านบนเพื่อเดินไปยังจุดต่างๆ
จากนั้นครูสงัดได้นำทางพวกเราเดินทางไปดู “สุสานหอยโบราณ 5000 ปี” สิ่งที่พวกเราได้เห็นกันคือ กองเปลือกหอย จำนวนมากซึ่งทับถมกันเป็นเนินเปลือกหอย โดยที่ครูสงัดได้เล่าว่า เคยมีคนมาขุดบริเวณนี้แล้วพบว่า เมื่อขุดลึกลงไปเรื่อยๆ สิ่งที่พบก็คือเปลือกหอย ซึ่งไม่มีใครสามารถบอกได้ถึงที่มาและสาเหตุที่เปลือกหอยได้มาทับถมรวมกันในบริเวณนี้
โดยลักษณะของเปลือกหอยที่เราสังเกตได้จะมีอยู่ 2 ชนิดคือ เปลือกหอยที่มีลักษณะเหมือนหอยแครงและเปลือกหอยที่มีลักษณะฝาแบนๆ ซึ่งความแปลกที่เราสังเกตเห็นคือเปลือกหอยทั้ง 2 ชนิดนี้ ทับถมกันอยู่ในจุดที่แตกต่างกัน ไม่ได้ทับถมกันแบบผสมปนกัน
จากจุดสุดท้าย “ลายแทงมหาสมบัติ” ไม่สามารถเดินต่อไปได้อีกแล้ว นี่จึงเป็นจุดสุดท้ายของการเดินทางของเราในวันนี้ แต่เรายังมีสิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนบ้านหินร่ม นั้นก็คือ อาหารทะเลสดๆ ที่กำลังรอเรากลับเข้าไปทาน การเดินทางออกจากสุสานหอย 5000 ปี เราต้องพายเรือกลับโดยใช้เส้นทางขามา แต่ถ้ามาในจังหวะที่น้ำขึ้น ทางคนพายจะพาเราพายเข้าไปในป่าโกงกาง โดยลัดเลาะไปตามช่องทางเล็กๆ ซึ่งเข้าได้เฉพาะเรือแคนูเท่านั้น เมื่อเรากลับมาถึงท่าเรือ อาหารทะเลสดๆ ก็รอเราอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
การเดินทางของเราครั้งนี้ต้องขอขอบคุณ คุณครู สงัด ที่พาพวกเราชาว Phuket Outdoor Adventures ไปชมสถานที่ต่างๆ พร้อมทั้งได้เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้พวกเราได้รับทราบกัน
อัตราค่าบริการ
ค่าเช่าเหมารถตู้รับ-ส่ง (ภูเก็ต-เขาเสม็ดนางชี-ท่าเรือบ้านหินร่ม) ราคา 2500 บาท (ผู้โดยสารไม่เกิน 10 คน)
อัตราค่าบริการเช่าเรือแคนูพร้อมคนพาย 500 บาท / ลำ (นั่งได้ 3 คน รวมคนพาย)
สามารถเยี่ยมชมกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร ในสไตล์ Phuket Outdoor Adventures ได้ที่ facebook : phuketoutdooradventures หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณ ฤทัย โทร 084 7510232 , Lind ID : ruetai8 ได้ตลอด 24 ช.ม. ทางเรายินดีให้คำปรึกษาข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ แล้วพบกันนะคะ ขอบคุณค่ะ