อวสานโลกสวย...4จี วัดใจ "แจส โมบาย" บนทางสองแพร่งโทรคมนาคม
ไทยรัฐ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559
เป็นเพราะ “ผิดฝา–ผิดตัว” มาตั้งแต่แรก เส้นทางสู่การรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม 4 จีบนคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ของ 2 ผู้ชนะการประมูลอย่าง บริษัททรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมูนิเคชั่น จำกัด และ บริษัทแจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด จึงเต็มไปด้วย “ขวากหนาม” และ “คำสบประมาท” เป็นรายวัน!
รายแรกนั้น แม้ “คร่ำหวอด” อยู่ในวงการมานาน มีฐานลูกค้าไม่น้อย แต่ตลอดเวลากว่า 26 ปีในการประกอบธุรกิจ กลับยังไม่สามารถทำกำไรได้ และมีภาระหนี้ต่อเนื่องสูงที่สุดเกิน 100,000 ล้านบาท ส่วนรายที่สองถือว่า “ใหม่ถอดด้าม” หวังใช้ใบอนุญาต 4 จีเป็น “ใบเบิกทาง” เข้าสู่ธุรกิจนี้
แต่ข้อจำกัดเหล่านี้ คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงของผู้ชนะการประมูลทั้ง 2 รายสักเท่าไร หากราคาประมูล 4 จีไม่พุ่งไปถึง 76,298 ล้านบาท สำหรับใบอนุญาตของทรู และ 75,654 ล้านบาทสำหรับใบอนุญาตของแจส โมบาย
สำหรับทรูนั้น การชนะการประมูลในคลื่น 900 MHz เพิ่มเติมในราคาระดับนี้ หลังมีภาระจากการต้องชำระค่าประมูล 4 จีคลื่น 1800 ก่อนหน้าด้วยราคา 39,792 ล้านบาทนั้น อาจถือเป็นวิบากกรรมด้านการเงินครั้งใหญ่
แต่สำหรับ “แจส โมบาย” มันคือนรกชัดๆ เมื่อพิจารณาถึงต้นทุนที่แจส “ต้องจ่าย” ในการเข้าสู่ธุรกิจใหม่ ซึ่งราคาประมูลนั้นเป็นแค่ต้นทุนน้ำจิ้มเบื้องต้น ไม่รวมเงินในการลงทุนสร้างโครงข่าย ขยายงานด้านบริการแข่งขันในตลาดที่ผู้ประกอบการรายเดิมทั้ง “โหด ดุ และทั้งเขี้ยวลากดิน” ทั้งสิ้น
ขณะที่ผู้แพ้ประมูลขาใหญ่อย่าง บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส และบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ต่างพร้อมใจออกมาตอกย้ำ “ยอมรับความพ่ายแพ้ เพราะราคาที่สูงลิ่วไม่ตอบโจทย์ทางธุรกิจ” จึงต้องถอดใจนั้น ยิ่งทำให้ผู้ชนะประมูลส่อเผชิญแรงกดดัน
..... แม้วันนี้ “ศุภชัย เจียรวนนท์” ซีอีโอใหญ่แห่ง “ทรู คอร์ปอเรชั่น” จะสามารถผ่าทางตันในการระดมทุนจนสามารถเดินเข้าไปชำระเงินค่าประมูลงวดแรก 8,602 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และวางแบงก์การันตีตามมูลค่าเงินประมูลที่เหลือ 73,036 ล้านบาทไปได้เรียบร้อย
......แต่สำหรับ “พิชญ์ โพธารามิก” แห่ง “แจส โมบาย” เรายังไม่ได้ยินข่าวคราวความเคลื่อนไหวใดๆจากเขา นอกจากความเคลื่อนไหวทางการเงินตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาทั้งทางลับและทางแจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลายคนยังแอบลุ้นอยู่ว่า ถึงอย่างไรเขาก็ต้อง “สู้ยิบตา”เข้ามาจ่ายเงินเพื่อรับใบอนุญาตในที่สุด เพราะประมูลสู้ราคามาถึงขั้นนี้คงไม่ได้มาเล่นๆ หาไม่เช่นนั้น ชื่อเสียงที่ไม่ค่อยจะมีคงจะป่นปี้ลงไปอีก
แต่หลายคนก็ดูเหมือนจะเชื่อไปแล้วว่า “แจส โมบาย” น่าจะถอดใจทิ้งใบอนุญาตไปแล้ว
วินาทีนี้ถนนทุกสายจึงต่างจับจ้องไปที่น้องใหม่ “แจส โมบาย” กับโค้งสุดท้ายที่ต้องเข้ามาจ่ายเงินค่าธรรมเนียมประมูลก้อนแรกในวันที่21 มีนาคมศกนี้ว่า จะมีเหตุพลิกผัน หรือ “ปาฏิหาริย์” ใดหรือไม่?
“ทีมเศรษฐกิจ” จึงถือโอกาสที่ถนนทุกสายยังเฝ้าลุ้นระทึกอยู่นี้ถอดรหัส 4 จีบนคลื่น 900 MHz ที่กำลังระอุแดดอยู่ในเวลานี้ ดังนี้ :
จาก “แจส ผู้ฆ่ายักษ์” สู่ความอึมครึม
หลังการประมูล 4 จีบนคลื่นความถี่ 900 MHz สิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.58 นายพิชญ์ โพธารามิก ผู้บริหาร “แจส โมบาย” ได้เลือกเอาวันที่ 21 ธ.ค.เปิดแถลงข่าวถึงความสำเร็จในการประมูล 4 จีที่ปาดหน้าเอาชนะยักษ์สื่อสารอย่าง “เอไอเอส–ดีแทค” ในเวลานั้น
โดยระบุว่า การเข้ามารุกตลาดผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ จะส่งผลให้ “แจส โมบาย” มีรายได้เพิ่มในธุรกิจใหม่ โดยตั้งเป้าว่า ภายในปี 2559 นี้จะมีจำนวนลูกค้าจากธุรกิจนี้ 2 ล้านเลขหมาย และเพิ่มเป็น 5 ล้านเลขหมายภายใน 3 ปี พร้อมยืนยัน “แจส โมบาย” จะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดผู้ให้บริการมือถือให้ได้ร้อยละ 10 ภายใน 3 ปี จากเงินสะพัดในตลาดนี้ของทั้งสามค่ายเดิมที่มีอยู่กว่า 300,000 ล้านบาท
แต่คล้อยหลังการแถลงข่าวของผู้บริหารแจส โมบายไปไม่ทันข้ามวัน กระแสข่าวในอีกฟากฝั่งก็ถาโถมเข้าสู่ธุรกิจนี้ โดยเฉพาะในประเด็นมูลค่าของใบอนุญาต 4 จีที่ 2 บริษัทสื่อสาร “ทรูมูฟ เอช” และ “แจส โมบาย” ชนะประมูลมาว่าแพงเกินกว่าพื้นฐานที่จะนำไปให้บริการหรือไม่?
ยิ่งเมื่อค่ายทรูมูฟถึงกับต้องวิ่งโร่หาแหล่งเงินและสถาบันการเงินที่จะเข้ามาให้การสนับสนุนโครงการ โดยถึงขั้นต้องมีการ “จัดทัพ” โครงสร้างทางการเงินและการลดทุน-เพิ่มทุนขนาดใหญ่ถึง 60,000 ล้าน ก็ยิ่งทำให้สถานะของน้องใหม่ “แจส โมบาย”ถูกจับตาอย่างไม่กระพริบเข้าไปอีก
จนถึงกับมีกระแสข่าวแพร่สะพัด สถาบันการเงินพากันถอยกรูด ขยาดที่จะปล่อยกู้ให้ เพราะเริ่มไม่แน่ใจในอนาคตของธุรกิจจะไปได้หรือไม่ หลัง “แจส โมบาย” ถูก 3 ค่ายยักษ์มือถือเดินเกมต้อนรับน้องใหม่ชนิด “ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต” ที่ทั้งลดแลกแจกแถมอัดสงครามโปรโมชั่นกันจนละลานตา
จนถึงขนาดที่นักวิเคราะห์ฟันธง แม้จะแจกเครื่องฟรีวันนี้ ก็คงยากที่น้องใหม่จะเบียดมือถือ 3 ค่ายเดิมขึ้นมาผงาดได้ โอกาสที่จะระดมเม็ดเงินมาจ่ายค่าประมูลจึงแทบไม่หลงเหลืออยู่ กระแสสะพัดอื้ออึ้งวันนี้ จึงมีแต่ข่าว “แจสโมบาย” ถูกบีบให้ต้องทิ้งใบอนุญาตเป็นรายวัน!
วัดใจ “แจส” ทิ้ง–ไม่ทิ้ง
ท่ามกลางกระแสดังกล่าว “แจส โมบาย” กำลังวิ่งวุ่นกับการหาสถาบันการเงินมาปล่อยสินเชื่อและออกแบงก์การันตี ที่กำหนดต้องนำเงินสดงวดแรกกว่า 8,000 ล้านบาท พร้อมแบงก์การันตีอีกกว่า 70,000 ล้านบาทไปจ่ายให้ กสทช.ในวันที่ 21 มี.ค.นี้
-----มีต่อ-----
อวสานโลกสวย...4จี วัดใจ "แจส โมบาย" บนทางสองแพร่งโทรคมนาคม
อวสานโลกสวย...4จี วัดใจ "แจส โมบาย" บนทางสองแพร่งโทรคมนาคม
ไทยรัฐ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559
เป็นเพราะ “ผิดฝา–ผิดตัว” มาตั้งแต่แรก เส้นทางสู่การรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม 4 จีบนคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ของ 2 ผู้ชนะการประมูลอย่าง บริษัททรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมูนิเคชั่น จำกัด และ บริษัทแจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด จึงเต็มไปด้วย “ขวากหนาม” และ “คำสบประมาท” เป็นรายวัน!
รายแรกนั้น แม้ “คร่ำหวอด” อยู่ในวงการมานาน มีฐานลูกค้าไม่น้อย แต่ตลอดเวลากว่า 26 ปีในการประกอบธุรกิจ กลับยังไม่สามารถทำกำไรได้ และมีภาระหนี้ต่อเนื่องสูงที่สุดเกิน 100,000 ล้านบาท ส่วนรายที่สองถือว่า “ใหม่ถอดด้าม” หวังใช้ใบอนุญาต 4 จีเป็น “ใบเบิกทาง” เข้าสู่ธุรกิจนี้
แต่ข้อจำกัดเหล่านี้ คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงของผู้ชนะการประมูลทั้ง 2 รายสักเท่าไร หากราคาประมูล 4 จีไม่พุ่งไปถึง 76,298 ล้านบาท สำหรับใบอนุญาตของทรู และ 75,654 ล้านบาทสำหรับใบอนุญาตของแจส โมบาย
สำหรับทรูนั้น การชนะการประมูลในคลื่น 900 MHz เพิ่มเติมในราคาระดับนี้ หลังมีภาระจากการต้องชำระค่าประมูล 4 จีคลื่น 1800 ก่อนหน้าด้วยราคา 39,792 ล้านบาทนั้น อาจถือเป็นวิบากกรรมด้านการเงินครั้งใหญ่
แต่สำหรับ “แจส โมบาย” มันคือนรกชัดๆ เมื่อพิจารณาถึงต้นทุนที่แจส “ต้องจ่าย” ในการเข้าสู่ธุรกิจใหม่ ซึ่งราคาประมูลนั้นเป็นแค่ต้นทุนน้ำจิ้มเบื้องต้น ไม่รวมเงินในการลงทุนสร้างโครงข่าย ขยายงานด้านบริการแข่งขันในตลาดที่ผู้ประกอบการรายเดิมทั้ง “โหด ดุ และทั้งเขี้ยวลากดิน” ทั้งสิ้น
ขณะที่ผู้แพ้ประมูลขาใหญ่อย่าง บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส และบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ต่างพร้อมใจออกมาตอกย้ำ “ยอมรับความพ่ายแพ้ เพราะราคาที่สูงลิ่วไม่ตอบโจทย์ทางธุรกิจ” จึงต้องถอดใจนั้น ยิ่งทำให้ผู้ชนะประมูลส่อเผชิญแรงกดดัน
..... แม้วันนี้ “ศุภชัย เจียรวนนท์” ซีอีโอใหญ่แห่ง “ทรู คอร์ปอเรชั่น” จะสามารถผ่าทางตันในการระดมทุนจนสามารถเดินเข้าไปชำระเงินค่าประมูลงวดแรก 8,602 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และวางแบงก์การันตีตามมูลค่าเงินประมูลที่เหลือ 73,036 ล้านบาทไปได้เรียบร้อย
......แต่สำหรับ “พิชญ์ โพธารามิก” แห่ง “แจส โมบาย” เรายังไม่ได้ยินข่าวคราวความเคลื่อนไหวใดๆจากเขา นอกจากความเคลื่อนไหวทางการเงินตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาทั้งทางลับและทางแจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลายคนยังแอบลุ้นอยู่ว่า ถึงอย่างไรเขาก็ต้อง “สู้ยิบตา”เข้ามาจ่ายเงินเพื่อรับใบอนุญาตในที่สุด เพราะประมูลสู้ราคามาถึงขั้นนี้คงไม่ได้มาเล่นๆ หาไม่เช่นนั้น ชื่อเสียงที่ไม่ค่อยจะมีคงจะป่นปี้ลงไปอีก
แต่หลายคนก็ดูเหมือนจะเชื่อไปแล้วว่า “แจส โมบาย” น่าจะถอดใจทิ้งใบอนุญาตไปแล้ว
วินาทีนี้ถนนทุกสายจึงต่างจับจ้องไปที่น้องใหม่ “แจส โมบาย” กับโค้งสุดท้ายที่ต้องเข้ามาจ่ายเงินค่าธรรมเนียมประมูลก้อนแรกในวันที่21 มีนาคมศกนี้ว่า จะมีเหตุพลิกผัน หรือ “ปาฏิหาริย์” ใดหรือไม่?
“ทีมเศรษฐกิจ” จึงถือโอกาสที่ถนนทุกสายยังเฝ้าลุ้นระทึกอยู่นี้ถอดรหัส 4 จีบนคลื่น 900 MHz ที่กำลังระอุแดดอยู่ในเวลานี้ ดังนี้ :
จาก “แจส ผู้ฆ่ายักษ์” สู่ความอึมครึม
หลังการประมูล 4 จีบนคลื่นความถี่ 900 MHz สิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.58 นายพิชญ์ โพธารามิก ผู้บริหาร “แจส โมบาย” ได้เลือกเอาวันที่ 21 ธ.ค.เปิดแถลงข่าวถึงความสำเร็จในการประมูล 4 จีที่ปาดหน้าเอาชนะยักษ์สื่อสารอย่าง “เอไอเอส–ดีแทค” ในเวลานั้น
โดยระบุว่า การเข้ามารุกตลาดผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ จะส่งผลให้ “แจส โมบาย” มีรายได้เพิ่มในธุรกิจใหม่ โดยตั้งเป้าว่า ภายในปี 2559 นี้จะมีจำนวนลูกค้าจากธุรกิจนี้ 2 ล้านเลขหมาย และเพิ่มเป็น 5 ล้านเลขหมายภายใน 3 ปี พร้อมยืนยัน “แจส โมบาย” จะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดผู้ให้บริการมือถือให้ได้ร้อยละ 10 ภายใน 3 ปี จากเงินสะพัดในตลาดนี้ของทั้งสามค่ายเดิมที่มีอยู่กว่า 300,000 ล้านบาท
แต่คล้อยหลังการแถลงข่าวของผู้บริหารแจส โมบายไปไม่ทันข้ามวัน กระแสข่าวในอีกฟากฝั่งก็ถาโถมเข้าสู่ธุรกิจนี้ โดยเฉพาะในประเด็นมูลค่าของใบอนุญาต 4 จีที่ 2 บริษัทสื่อสาร “ทรูมูฟ เอช” และ “แจส โมบาย” ชนะประมูลมาว่าแพงเกินกว่าพื้นฐานที่จะนำไปให้บริการหรือไม่?
ยิ่งเมื่อค่ายทรูมูฟถึงกับต้องวิ่งโร่หาแหล่งเงินและสถาบันการเงินที่จะเข้ามาให้การสนับสนุนโครงการ โดยถึงขั้นต้องมีการ “จัดทัพ” โครงสร้างทางการเงินและการลดทุน-เพิ่มทุนขนาดใหญ่ถึง 60,000 ล้าน ก็ยิ่งทำให้สถานะของน้องใหม่ “แจส โมบาย”ถูกจับตาอย่างไม่กระพริบเข้าไปอีก
จนถึงกับมีกระแสข่าวแพร่สะพัด สถาบันการเงินพากันถอยกรูด ขยาดที่จะปล่อยกู้ให้ เพราะเริ่มไม่แน่ใจในอนาคตของธุรกิจจะไปได้หรือไม่ หลัง “แจส โมบาย” ถูก 3 ค่ายยักษ์มือถือเดินเกมต้อนรับน้องใหม่ชนิด “ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต” ที่ทั้งลดแลกแจกแถมอัดสงครามโปรโมชั่นกันจนละลานตา
จนถึงขนาดที่นักวิเคราะห์ฟันธง แม้จะแจกเครื่องฟรีวันนี้ ก็คงยากที่น้องใหม่จะเบียดมือถือ 3 ค่ายเดิมขึ้นมาผงาดได้ โอกาสที่จะระดมเม็ดเงินมาจ่ายค่าประมูลจึงแทบไม่หลงเหลืออยู่ กระแสสะพัดอื้ออึ้งวันนี้ จึงมีแต่ข่าว “แจสโมบาย” ถูกบีบให้ต้องทิ้งใบอนุญาตเป็นรายวัน!
วัดใจ “แจส” ทิ้ง–ไม่ทิ้ง
ท่ามกลางกระแสดังกล่าว “แจส โมบาย” กำลังวิ่งวุ่นกับการหาสถาบันการเงินมาปล่อยสินเชื่อและออกแบงก์การันตี ที่กำหนดต้องนำเงินสดงวดแรกกว่า 8,000 ล้านบาท พร้อมแบงก์การันตีอีกกว่า 70,000 ล้านบาทไปจ่ายให้ กสทช.ในวันที่ 21 มี.ค.นี้
-----มีต่อ-----