อยากให้แฟนละครเจ้าบ้านเจ้าเรือนได้อ่านค่ะ สนุกดีได้ทราบที่มาที่ไปของละคร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.manager.co.th/Drama/ViewNews.aspx?NewsID=9590000025999
“เจ้าบ้านเจ้าเรือน” จากตัวอักษรสู่ละคร
"ละครเรื่องนี้ ถ้าไม่ได้พี่ติ๊ก ก็ไม่ทำ"
จากประโยคดังกล่าว ทำให้ละครเรื่องนี้ ผู้จัด "ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา" ถึงได้เลื่อนเวลามาเรื่อยๆ ปีกว่า ถึงจะได้เริ่มต้นถ่ายทำกัน ซึ่งขณะนี้ก็กำลังออกอากาศอยู่ทางช่อง 3 อย่างเข้มข้นเลยทีเดียว
ละครเรื่อง “เจ้าบ้านเจ้าเรือน” บทประพันธ์ของ “แก้วเก้า” (รศ.ดร.วินิตา ดิถียนต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2547) จินตนิยาย แนวลี้ลับ ระทึก น่าติดตาม
เริ่มแรกตีพิมพ์ลงในนิตยสารสกุลไทยก่อน ช่วงปี 2553 -2554 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เมื่อจบก็รวมเล่ม ผู้อ่านซื้อไปอ่านรวดเดียวจบ และบอกกันว่า สนุกกว่าอ่านครั้งแรกอีก
ในงานเสวนา (หัวข้อเดียวกัน) บรรยากาศพูดคุยสนุกสนานมาก โดยเฉพาะคำถามคำตอบจาก 4 ท่าน (ผู้ประพันธ์, ผู้จัด(วรายุฑ มิลินทจินดา), ผู้กำกับ(รัญญา ศิยานนท์), ผู้เขียนบท(ปราณประมูล / ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์) นำมาเสนอ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมละครให้มากขึ้น
“วรายุฑ มิลินทจินดา” ผู้จัด
เหตใดถึงเลือกเรื่องนี้มาทำเป็นละคร
“เป็นคนอ่านหนังสือ อ่านนวนิยายตั้งแต่เด็กๆ พออ่านเรื่องนี้มันเหมือนมีมนต์ขลัง ทำให้รู้สึกอยากทำละครเรื่องนี้ อยากให้คนดูละครเรื่องนี้รู้สึกว่า คนในแผ่นดินของเรา มีเจ้าบ้านเจ้าเรือนจริงๆ ไม่ใช่แค่นวนิยาย”
พอมาทำเป็นละครแล้วเป็นอย่างไร
“ยากมากค่ะ ยากกว่าสี่แผ่นดิน เพราะนั่นมีแค่สี่แผ่นดิน แต่เรื่องนี้มีห้าแผ่นดิน ตั้งแต่รัชกาลที่ 5-6-7-8-9 ยากในด้านของผู้จัด ยากในด้านโปรดักชั่น จะทำอย่างไรให้คนดู ดูแล้วลื่นไหลไปกับตัวละคร แล้วมีหลายๆ อย่างต้องขออาจารย์(วินิตา)เยอะมาก เช่น ขอให้พระเอกเล่นเปียโนแทนตีขิม จะได้ดูสง่า หรืออย่างตอนคุณแพรขาวพบคุณไรวินท์ทุกครั้งจะใส่ชุดนอน ขอให้เปลี่ยนการแต่งตัวมาแต่งตามสถานที่ที่เธอไปปรากฏตัวเพื่อความสวยงาม”
การเลือกทีมงาน
“คนเขียนบท แอ๊นท์งานเยอะมาก ก็เลยถามอาจารย์ๆ บอกเอาคนนี้ล่ะค่ะ ก็เลยเป็นแอ๊นท์เขียนให้ ส่วนบุ๋ม สนิทกันมาก เคยเห็นงานเขา เป็นผู้ช่วยก็หลายเรื่อง คิดว่าสักวันหนึ่งต้องมากำกับให้ไก่ แล้วเราจะเอาของง่ายๆ ไปให้ได้อย่างไร ต้องบอกเลยว่าเขามีความสามารถมากมากทีเดียว
เวลาทำละคร ไก่จะยุ่งไปหมดทุกอย่าง แม้กระทั่งตัวดาราเอง เขาเรียกไก่ว่าเป็น ผู้กำกับผู้กำกับผู้กำกับอีกที เป็นซุปเปอร์ไดเร็คเตอร์ บุ๋มสามารถสื่อสารกับตัวละครได้อย่างชัดเจน พี่ติ๊กก็ชอบลองของเรานะ เราก็กลัวในความเป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขา
เขาเคยถามบุ๋ม แล้วก็มาถามไก่ ปรากฏว่าเราสองคนตอบเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย สร้างความเชื่อให้เขาได้ว่าเราทางเดียวกัน ออกมาเหมือนกัน ที่สำคัญ ถ้าไมได้พี่ติ๊กเราไม่ทำค่ะ ใครจะหล่อข้ามชาติได้ขนาดนี้คะ ทั้งผีทั้งคนหลงกัน
ต้องบอกว่าแฟนหนังสือของอาจารย์เยอะมาก แล้วจินตนาการของคนอ่านมันลึกล้ำกว่าคนทำ คนอ่านเป็นล้านๆ คน คนทำ หัวใจแค่ 3 คน เราจะต้องเอาชนะคนทั้งล้านคนให้ได้ เราจะทำยังไงให้เขารู้สึกอิ่มเอมเปรมปรีดิ์กับสิ่งที่เขาฝันจากตัวหนังสือ เราจะถึงเขาแค่ไหน เราจะส่งไปได้มั้ย
มันยากสำหรับผู้จัดเล็กๆ อย่างเรา เราต้องคิดเยอะๆๆๆ คิดเกิน ไว้อีก มันก็บ้านะ “แอ๊นท์ พี่ว่าให้เข้าไปในบ้านเลยละกัน” อย่างน้อยมากกว่าหนังสือนิดหนึ่งไม่โดนตำหนิแน่ ถ้าทำน้อยกว่าหนังสือก็โดนว่าแน่ แต่ถ้าทำเกินก็ เอ้ย เกินไปหรือเปล่า”
“เจ้าบ้านเจ้าเรือน”จากตัวอักษรสู่ละคร"ละครเรื่องนี้ ถ้าไม่ได้พี่ติ๊ก ก็ไม่ทำ"“ภาพจอยฝังอยู่ในเสาหันมาแล้วบุ๋มก็เห็น...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
“เจ้าบ้านเจ้าเรือน” จากตัวอักษรสู่ละคร
"ละครเรื่องนี้ ถ้าไม่ได้พี่ติ๊ก ก็ไม่ทำ"
จากประโยคดังกล่าว ทำให้ละครเรื่องนี้ ผู้จัด "ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา" ถึงได้เลื่อนเวลามาเรื่อยๆ ปีกว่า ถึงจะได้เริ่มต้นถ่ายทำกัน ซึ่งขณะนี้ก็กำลังออกอากาศอยู่ทางช่อง 3 อย่างเข้มข้นเลยทีเดียว
ละครเรื่อง “เจ้าบ้านเจ้าเรือน” บทประพันธ์ของ “แก้วเก้า” (รศ.ดร.วินิตา ดิถียนต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2547) จินตนิยาย แนวลี้ลับ ระทึก น่าติดตาม
เริ่มแรกตีพิมพ์ลงในนิตยสารสกุลไทยก่อน ช่วงปี 2553 -2554 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เมื่อจบก็รวมเล่ม ผู้อ่านซื้อไปอ่านรวดเดียวจบ และบอกกันว่า สนุกกว่าอ่านครั้งแรกอีก
ในงานเสวนา (หัวข้อเดียวกัน) บรรยากาศพูดคุยสนุกสนานมาก โดยเฉพาะคำถามคำตอบจาก 4 ท่าน (ผู้ประพันธ์, ผู้จัด(วรายุฑ มิลินทจินดา), ผู้กำกับ(รัญญา ศิยานนท์), ผู้เขียนบท(ปราณประมูล / ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์) นำมาเสนอ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมละครให้มากขึ้น
“วรายุฑ มิลินทจินดา” ผู้จัด
เหตใดถึงเลือกเรื่องนี้มาทำเป็นละคร
“เป็นคนอ่านหนังสือ อ่านนวนิยายตั้งแต่เด็กๆ พออ่านเรื่องนี้มันเหมือนมีมนต์ขลัง ทำให้รู้สึกอยากทำละครเรื่องนี้ อยากให้คนดูละครเรื่องนี้รู้สึกว่า คนในแผ่นดินของเรา มีเจ้าบ้านเจ้าเรือนจริงๆ ไม่ใช่แค่นวนิยาย”
พอมาทำเป็นละครแล้วเป็นอย่างไร
“ยากมากค่ะ ยากกว่าสี่แผ่นดิน เพราะนั่นมีแค่สี่แผ่นดิน แต่เรื่องนี้มีห้าแผ่นดิน ตั้งแต่รัชกาลที่ 5-6-7-8-9 ยากในด้านของผู้จัด ยากในด้านโปรดักชั่น จะทำอย่างไรให้คนดู ดูแล้วลื่นไหลไปกับตัวละคร แล้วมีหลายๆ อย่างต้องขออาจารย์(วินิตา)เยอะมาก เช่น ขอให้พระเอกเล่นเปียโนแทนตีขิม จะได้ดูสง่า หรืออย่างตอนคุณแพรขาวพบคุณไรวินท์ทุกครั้งจะใส่ชุดนอน ขอให้เปลี่ยนการแต่งตัวมาแต่งตามสถานที่ที่เธอไปปรากฏตัวเพื่อความสวยงาม”
การเลือกทีมงาน
“คนเขียนบท แอ๊นท์งานเยอะมาก ก็เลยถามอาจารย์ๆ บอกเอาคนนี้ล่ะค่ะ ก็เลยเป็นแอ๊นท์เขียนให้ ส่วนบุ๋ม สนิทกันมาก เคยเห็นงานเขา เป็นผู้ช่วยก็หลายเรื่อง คิดว่าสักวันหนึ่งต้องมากำกับให้ไก่ แล้วเราจะเอาของง่ายๆ ไปให้ได้อย่างไร ต้องบอกเลยว่าเขามีความสามารถมากมากทีเดียว
เวลาทำละคร ไก่จะยุ่งไปหมดทุกอย่าง แม้กระทั่งตัวดาราเอง เขาเรียกไก่ว่าเป็น ผู้กำกับผู้กำกับผู้กำกับอีกที เป็นซุปเปอร์ไดเร็คเตอร์ บุ๋มสามารถสื่อสารกับตัวละครได้อย่างชัดเจน พี่ติ๊กก็ชอบลองของเรานะ เราก็กลัวในความเป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขา
เขาเคยถามบุ๋ม แล้วก็มาถามไก่ ปรากฏว่าเราสองคนตอบเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย สร้างความเชื่อให้เขาได้ว่าเราทางเดียวกัน ออกมาเหมือนกัน ที่สำคัญ ถ้าไมได้พี่ติ๊กเราไม่ทำค่ะ ใครจะหล่อข้ามชาติได้ขนาดนี้คะ ทั้งผีทั้งคนหลงกัน
ต้องบอกว่าแฟนหนังสือของอาจารย์เยอะมาก แล้วจินตนาการของคนอ่านมันลึกล้ำกว่าคนทำ คนอ่านเป็นล้านๆ คน คนทำ หัวใจแค่ 3 คน เราจะต้องเอาชนะคนทั้งล้านคนให้ได้ เราจะทำยังไงให้เขารู้สึกอิ่มเอมเปรมปรีดิ์กับสิ่งที่เขาฝันจากตัวหนังสือ เราจะถึงเขาแค่ไหน เราจะส่งไปได้มั้ย
มันยากสำหรับผู้จัดเล็กๆ อย่างเรา เราต้องคิดเยอะๆๆๆ คิดเกิน ไว้อีก มันก็บ้านะ “แอ๊นท์ พี่ว่าให้เข้าไปในบ้านเลยละกัน” อย่างน้อยมากกว่าหนังสือนิดหนึ่งไม่โดนตำหนิแน่ ถ้าทำน้อยกว่าหนังสือก็โดนว่าแน่ แต่ถ้าทำเกินก็ เอ้ย เกินไปหรือเปล่า”