เจ้าคุณเบอร์ลิน & เดลินิวส์ >> เตรียมเปิดหน้าคนชักใย / ขบวนการชั่วทำลายสงฆ์.

กระทู้ข่าว



ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลาครับ มาว่ากันเลย.

อันเนื่องมาจาก การที่มีกลุ่มออกมา พยายามคัดค้าน เพื่อไม่ให้ สมเด็จช่วง วัดปากน้ำ กทม. ขึ้นเป็นสังฆราช นั้น.

หลังจากที่เมื่อวานผมโพสต์ว่า จากนี้ไปเพจเจ้าคุณเบอร์ลิน มีแผน มีเป้าหมาย ที่จะโพสต์เรื่องอะไรบ้าง โดยแยกเป็น ๓ หัวข้อใหญ่ ๆ คือ

๑. เปิดเผยผู้อยู่เบื้องหลังเกมส์นี้.

๒. เปิดเผยคน (พระ) ที่ยืนบงการ และคอยชงเรื่องทั้งหมด.

๓.ดำเนินการโดดเดี่ยว สมาชิก แก๊งค์ชั่วไปทีละคน.

ไปแล้วนั้น.


เมื่อเช้านี้ ผมต้องถือว่า "เป็นบุญของพระศาสนา"   และดังคำว่า "อยุธยาไม่สิ้นคนดี"   อย่างโบราณว่าไว้จริง ๆ ครับ คือ....

ปรากฏว่า ผมถูกปลุกตั้งแต่เช้ามืด ...สายจากไทย... แจ้งให้ผมทราบว่า

"วันนี้ ได้มีสื่อไทยค่ายใหญ่ ติดต่อเข้ามา".

เพื่อต้องการประสานกับ ผม เพจเจ้าคุณเบอร์ลิน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และร่วมงานป้องภัยพระศาสนา  ซึ่งผมก็ได้พูดคุยเบื้องต้นด้วยไปแล้ว.


ต่อมาตอนสาย ๆ ผมก็ได้รับข้อมูล ที่ประสานผ่านมาทางทีมงานผมที่ประเทศไทย เรียกว่า "ลับ" ก็ได้.

เป็นข้อมูล เรื่อง "ห้องกระจก" จาก พระมหาเถระ ระดับกรรมการมหาเถรสมาคม สังกัดฝ่าย คณะธรรมยุต ที่ผมนับถือ และเคยประสานเรื่อง "จดหมายน้อย" กับผมในครั้งก่อน

ในวันนี้ท่านได้ส่งข้อมูลบางอย่างมาให้ผมทางไลท์

พร้อมกันนี้ ท่านก็ยังขยายเรื่อง แผนสกัด สมเด็จช่วงให้ผมทราบอีกด้วย

จากนั้น ท่านทั้งหลายเอ๋ย  สมองผมมึนเลย...

ข้อที่ "สื่อใหญ่ไทยประสานผมมานั้น" ผมแทบจะกระโดดดีใจบอกทีมงานไปว่า.......

"พวกเราจะไม่เหน็ดเหนื่อตามลำพังกันแล้ว สวรรค์มีตาแล้ว"

แต่ข้อมูลที่ได้จากมหาเถรระดับสูงนี้ซิ  ทำเอาผมแทบทรุดเลย  อุทานในใจว่า ...

"ห่า นี่คิดเล่นกันขนาดนี้หรือว่ะนี่"

เพราะรายชื่อระดับชั้น รองสมเด็จพระราชาคณะ ที่เป็นถึงขนาด กรรมการมหาเถรสมาคม ตามผังที่ผมแนบมานั้น....

"กลายเป็นว่า เป็นคน (พระ) ที่ผมรู้จักดี ถึงไม่สนิท แต่ก็ขนาดเล่นไลท์กันมาก่อน"  

อีกทั้งในสมัยที่ หลวงตาจันทร์ วัดป่าชัยรังสี ยังดัง ๆ ก็ยังเฮฮากันแบบสนิท  (แต่ตรงนี้ ก็ต้องมาสรูปว่าเรื่องส่วนตัว เรื่องอดีต พักไว้ก่อน)

แต่ถ้า "" คิดการณ์ชั่วใหญ่ขนาดนี้

มาทำลายระบบการปกสงฆ์ที่บุรพาจารย์ได้วางไว้อย่างดี เพื่อความมั่นคงของพระศาสนาโดยรวมนั้น.

เพียงเพราะ "" แค่เพื่อหวังตำแหน่งสมมมติ หวังอำนาจ ทางการปกครอง.

โดยไม่สนใจ ธรรมวินัย กฏหมายสงฆ์ จารีตประเพณี ใด ๆ ทั้งสิ้น แบบนี้.

กู ก็ถือว่า  เป็นเนรคุณพระศาสนา และเนรคุณแม้แต่อาจารย์ตัวเองด้วย.

จากนี้ไป "กับกู เจอกัน อายุก็ไม่ห่างกับกูมากนักหรอก".

นี่คือ คำอุทานในใจผมเอง เมื่อได้รับข้อมูลดิบ ๆ เมื่อเช้าครับ.

ขออภัย...อารมณ์มันขึ้นครับ เลือดอาจารย์มันแรงครับ.


ท่านผู้อ่านอย่าตกใจ นะครับว่า ทำไม วันนี้ เจ้าคุณเบอร์ลิน จึงขึ้น "กู - ".

เพราะผมถือว่า ผมเป็นพระสงฆ์ คนที่ผมเอ่ยถึง ก็เป็นพระสงฆ์เช่นเดียว เพียงแต่ ผมเป็นมหานิกาย ท่านเป็น ธรรมยุตนิกาย เท่านั้น.

ก็เมื่อเป็นพระเหมือนกัน "พูดแบบนี้กันได้ครับ".

ที่สำคัญ "พูดเพื่อพระศาสนา" สมควร ๆ แล้ว.



วันนี้ นสพ. เดลินิวส์ เปิดเกมแรกเลยครับ    การที่ เดลินิวส์ ขยายได้ถึงขนาดนี้ก็ถือว่าเป็นการยืนยันในคำพูดที่ ดร. วิษณุ เครืองาม ที่เคยพูดไว้ว่า.

" เขาอยากให้อาจารย์เขาเป็น (สมเด็จพระสังฆราช) ".

วันนี้ นสพ. เดลินิวส์ เปิดนิ่ม ๆ แบบเกริ่น ๆ ไปก่อน....

ในคอลัมน์ สังคมข่าว ประจำวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ไว้ ว่า....

"........ฝ่ายต่อต้าน สมเด็จช่วง เจ้าอาวาส วัดปากน้ำนั้น ที่นำโดย

"ศิษย์ก้นกุฏิ แห่งห้องกระจก"........."

ขยายความว่า....

คำว่า "ห้องกระจก" หมายถึง ห้อง ๆ หนึ่งที่เป็นกระจกทืบเลื่อน ที่ตั้งอยู่ทางเข้า หน้าตำหนัก "คอยท่าปราโมช"

ที่สมเด็จพระญาณสังวร อดีตสมเด็จพระสังฆราชท่านเคยประทับ ตั้งอยู่ภายในวัดบวร นิเวศ กทม. นะครับ.



ตรงนี้ ขอบอกว่า นสพ. เดลินิวส์ ต้องการที่จะเน้นคำว่า "ศิษย์ก้นกุฏิ"

คำว่า "ศิษย์ก้นกุฏิ" นี้ ผมจะขยายให้ฟังว่า...

ตรงนี้ มีทั้งเป็นพระ และฆารวาส ครับ.

ในส่วนที่ตายไป หรือติดคุก ไม่ต้องพูดถึง.

มาถึงตรงนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรครับว่า...

ในปัจจุบันนี้ ยังมีใครบ้าง มีพระรูปไหนบ้าง มีฆารวาสคนไหนบ้าง ที่ยังอยู่ และเป็นใหญ่ในสังคมไทย.


ในส่วนของพระสงฆ์นั้น ยิ่งไม่ยากใหญ่ ที่จะสืบรู้ว่า.

เมื่อสมัยสมเด็จญาณอยู่นั้น อาจเป็นพระเด็ก ๆ เป็นเจ้าคุณอายุพรรษาน้อย ๆ

แต่ปัจจุบัน เป็นถึง สมเด็จพระราชาคณะ รองสมเด็จพระราชาคณะ กันไปหมดแล้ว ทั้งที่อยู่ภายในวัดบวรเอง หรืออยู่วัดอื่น.


นสพ. เดลินิวส์ เริ่มเรื่องราวทั้งหมด มาจากจากแก็งค์ "ห้องกระจก" ครับ.

อันที่จริง ปัญหาเรื่องห้องกระจกนี้ ในสังคมสงฆ์ ทั้งธรรมยุต และมหานิกาย และสังคมชาวบ้านแวดวงพระศาสนา ไม่มีใครไม่ทราบหรอกครับ เพราะมีอิทธิทธิ์ทางลบโด่งดังไปทั่ว.

แต่ที่เขาไม่พูดกันนั้น "เพราะต้องการรักษาพระเกียรติ องค์สมเด็จญาณท่านไม่ให้เสื่อมเสีย".


ตรงนี้ ผมจะขอแทรก  รู้มัยครับ ว่า....

จริง ๆ แล้ว คำว่า "จดหมายน้อย" นี้ คนที่เขาเห็นถือว่าเข้า มส. สมัยทุกครั้งนั้น.

เขาพูดในอาการติด "ตลก" นะครับ เพราะไม่ได้ให้เครดิตใด ๆ เลย

เพราะเป็นอันเข้าใจกันว่า " ในเรื่องที่ไปที่มา"

ไม่เชื่อไปสอบถามคนที่เคยทำงานยุคนั้นดูได้.


ช่วงท้าย ในวันนี้ นสพ. เดลินิวส์ สรูปท้าย ไว้ว่า....

".......ปมการตั้งสังฆราชคงต้อง "ยืดเยื้อ" ออก ไปตามเจตนารมณ์ ของ ผู้ชักใย อยู่เบื้องหลัง......"


ก่อนที่ นสพ. เดลินิวส์ จะขมวดทิ้งท้ายไว้ว่า.....

" ผู้ชักใยนั้น ต้องการสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ มาจากสาย "ธรรมยุต" มากกว่า สาย "มหานิกาย....."

"เหมือนกับที่ เคยให้สมเด็จเกี่ยว เจ้าอาวาส วัดสระเกศ ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช จนมรณภาพในที่สุด..."

ในวงเล็บนั้นทั้งหมด คือ ข้อความที่ผมคัดมาจาก นสพ. เดลินิวส์ ในวันนี้ครับ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่