เราเป็นคนหนึ่งที่เป็นแฟนคลับของศิลปินเกาหลีมานาน 10 ปีค่ะ ซึ่งไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ที่คนอื่นเรียกว่า "ติ่ง" เพราะแฟนคลับก็คือแฟนคลับ หมายถึงกลุ่มคนที่ชื่นชอบและสนันบสนุนสิ่งใด สิ่งหนึ่ง หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มบุคคลใดก็แล้วแต่ ซึ่งการชอบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากหน้าตาแต่เพียงอย่างเดียว
ประสบการณ์ตรงจากคนจริงๆ คนนี้ บอกได้เลยค่ะว่า เราชื่นชอบศิลปินเกาหลีและคิดที่จะติดตามเขาครั้งแรกตอนที่ได้ยินเสียงของเขาในรายการเพลง เมื่อก่อนนี้ต้องดูในทีวี กว่าจะเปิดทีรอนานมาก พอเราได้ยินเสียงแล้วเราก็เริ่มชื่นชอบค่ะ เพราะเสียงเขามีเอกลักษณ์ เขาสามารถร้องเพลงช้าได้อย่างเศร้าจับใจ จนเราร้องไห้ ทั้งที่เราไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร คุณคิดว่านี่คือ ความสามารถที่ดีที่สุดของนักร้องคนหนึ่งรึเปล่าคะ ที่จะส่งผ่านอารมณ์ให้คนฟังได้ขนาดนี้ หลังจากนั้นเราเลยไปศึกษาหาข้อมูลจนได้รู้ว่าเขาชื่ออะไร อยู่วงไหน มีเพลงอะไรบ้าง และสิ่งสำคัญ คือ เราได้รู้ประวัติของเขาค่ะ คนที่เราชอบนี้เป็นเด็กหนุ่มบ้านนอกคนหนึ่งที่เดินทางมาตามหาความฝันของตัวเองในโซลและใช้ความสามารถในการร้องเพลงจนได้ที่หนึ่งและได้รับการฝึกในค่ายเพลงชื่อดัง
เขามีฐานะที่ไม่ดีนะแต่การฝึกจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก เขาจึงไปทำงานพิเศษทั้งรับส่งหนังสือพิมพ์ ทำงานก่อสร้าง รวมถึงทำงานที่ร้านหารเพื่อสานฝันของตัวเอง จนในที่สุดเขาก็ได้เป็นนักร้องสมใจ นี่คือความพยายามของคนๆ นึง ที่คุณบอกว่าเป็นแค่ศิลปินเกาหลีค่ะ และเป็นความพยายามที่ทำให้เรานำเอาสิ่งนี้มาเป็นแรงใจในการดำเนินชีวิตเพื่อทำตามฝันของตัวเอง นอกจากนี้สมาชิกในวงคนอื่นๆ ยังเป็นแบบอย่างที่ดีอีกมากมาย ทั้งหัวหน้าวงที่เป็นบุคคลที่เคารพผู้อื่นเสมอ เขาจะพูดตลอดว่า "จงก้มให้ต่ำที่สุดในวันที่เราอยู่สูงที่สุด" และเขาก็ทำตามที่พูดมาโดยตลอดระยะเวลา 12 ปี ในการเป็นนักร้อง สิ่งนี้ทำให้เรารับรู้ได้เลยว่าการอ่อนน้อมถ่อมตนนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการใช้ชีวิตในสังคม สมาชิกอีกสองคน คือ คนที่ดูแลและสนับสนุนครอบครัวของเขาอย่างสุดความสามารถ และเป็นที่รู้จักของทุกๆ คน ว่า ครอบครัวของพวกเขาสำคัญที่สุด การดูแลเอาใจใส่ คนในครอบครัวถือเป็นสิ่งที่สำคัญ และคนสุดท้าย ที่ตอนนี้กลายเป็นดร.แล้วเพราะสามารถเรียนจบปริญญาเอกได้แม้อายุยังน้อยและเป็นศิลปินไปด้วย เขาพูดับแฟนคลับเสมอว่า "เรียนยังทำไม่ได้เลย แล้วจะไปทำอย่างื่นได้ยังไง" และบางครั้งเมื่อมีแฟนคลับใส่ชุดนักรียนมาตามพวกเขา เขาก็จะบอกว่า "นี่เป็นเวลาเรียน กลับไปเรียนซะ" นี่คือความใส่ใจของเขาคนนี้ ศิลปินเกาหลีที่ใครบางคนบอกว่าเฟค ไม่จริง แอ๊บ
เราไม่การันตีนะคะว่าศิลปินทุกคนจะเป็นแบบนี้ แต่เรายืนยันว่าศิลปินเกาหลีดีๆ นั้นมีมาก และมีมากกว่าแค่หน้าตาแน่นอน เพราะนอกจากเขาจะร้องเพลงได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว เขายังสมมารถแต่งเพลงเองได้ ควบคุมคอนเสิร์ตเองได้ เป๋นนักแสดงมีรางวัลการันตีมากมาย และทำงานอย่างหนักจริงๆ ที่สำคัญคือ เขาเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ชีวิตในทุกๆ เรื่อง ถ้าเราจะสังเกตและใส่ใจ ทั้งการดูแลครอบครัว การเรียน การอ่อนน้อม ถ่อมตน และความพยายาม
เมื่อมีคนถามว่าไม่รู้จริงๆ หรอว่าศิลปินเกาหลีเฟค และแค่มองว่าเราเป็นแค่แหล่งดงินทุนของเขานั้น คุณคิดผิดแล้วล่ะคะ เพราะส่งที่ศิลปินเกาหลีทุกคนต้องผ่านกันมาก็คือ การเป็นเด็กฝึก ซึ่งกว่าจะผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้ เขาต้องใช้ความพยายาม ความสามารถและความอดทนอย่างที่สุด เพื่ออะไร ในตอนแรก ไม่ใช่เพื่อพวกเราแฟนคลับแน่นอนค่ะ แต่เพื่อความฝันของเขา ความฝันที่จะได้ร้องเพลง มีเพลงเป็นของตัวเอง ได้เป็นศิลปินที่ทุกคนณุ้จัก และยืนร้องเพลงให้ผู้คนได้ฟัง แต่หลังจากที่พวกเขาเหล่านั้นต้องทำเพลง อัดเพลง ฝึกร้อง ฝึกเต้นกันมานาน พอผลงานของพวกเขาออกมา พวกเรานี่แหละค่ะ คือ ตัวตัดสินความฝันของพวกเขา ว่าเพลงของพวกเขาดีมั้ย ท่าเต้นเป็นอย่างไร ภาพลักษณ์ การแสดงต่างๆ โอเคมั้ย เมื่อพวกเราตอบรับและแสดงความคิดเห็น เขาก็จะมีแรงและมีแนวทางในการทำงานครั้งต่อๆ ไปให้ดียิ่งๆ ขึ้น เพื่อทำความฝันของเขาให้กลายเป็นฝันที่ยิ่งใหญ้มากขึ้นเรื่อยๆ และการที่เขาจะประสบความสำเร็จนั้นก็จำเป็นจะต้องมีแรงซัพพอร์ตจากแฟนคลับเพื่อเป็นกำลังใจให้เขาได้ทำงานดีๆ ออกมาต่อไป เรามองว่าส่งนี้เหมือนเป็นการให้ กับการรับที่เท่าเทียมกันนะคะ ไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบเลยแม้แต่น้อย ในด้านแฟนคลับ เราได้รับผลงานดีๆ ออกมาให้เราดูให้เราฟัง คนเราเวลาที่เศร้า เครียด หรือแม้แต่มีความสุขเพลงก็คือส่วนประกอบหนึ่งใน ณ อารมณ์นั้นๆ เสมอ เหมอนเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่คอยอยู่เคียงข้างเรา ในขณะเดียวกันศิลปินก็ได้กำลังใจและแรงซัพพอร์ตเพื่อไปทำผลงานชิ้นต่อๆ ไป
ถ้าโลกนี้ไม่ได้ใช้เงินในการลงทุนหรือซื้อของ เราว่าศิลปินเกาหลีเขาก็คงไม่ให้เราจ่ายค่านู้น ค่านี่หรอกค่ะ แต่มันไม่ใช่อย่างั้นนะสิ เพราะการสร้างงานต้องมีการลงทุน ดังนั้นเงินจึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่ก็ไม่ได้มีค่ามากไปกว่าสิ่งที่เขาและเราได้รับและมอบให้แก่กันผ่านผลงานเพลงเลยแม้แต่น้อย
บางคนบอกว่าติ่งเกาหลีเอาเงินไปซื้อแต่ของเกาหลีไม่อุดหนุนคนไทย ย้ำอีกครั้งว่าแฟนคลับศิลปินเกาหลี คือ คนไทยค่ะ อยู่ที่ไทย กินที่ไทย และใช้ที่ไทย ในส่วนของการซื้อของเกาหลีนั้นก็มีแค่บางช่วงเท่านั้น ที่อัลบั้มออกบ้าง หรือสินค้าตัวอื่นๆ ออกบ้าง ซึ่งแต่ละวงก็จะแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งสำคัญ คือ การไปดูคอนเสิร์ตค่ะ บางคนบอกว่าบัตรตั้งเป็นพันๆ เด็กๆ ตัวแค่นี้เอาเงินพ่อแม่มา ไม่สงสารพ่อแม่หรอ เราขอตอบตรงนี้เลยนะคะ ว่าเราเก็บเงินเองตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ ซึ่งตอนนี้เราก็ยังเรียนอยู่ แต่ก็หางานพิเศษทำบ้าง เพื่อเก็บเงินค่ะ สิ่งนี้เรามองว่าเป็นเรื่องที่ด้วยซ้ำนะคะ ที่ทำให้เรารู้จักเก็บ รู้จักอดออม เพื่อของที่เราอยากได้ เพื่อนสิ่งที่เราอยากดู เป็นการฝึกวินัยในตนเองไปในตัวด้วยค่ะ ซึ่งเราก็ไม่ได้เอาไปซื้อบัตรคอนเสิร์ตทั้งหมด แต่ก็แบ่งไปซื้อของให้พ่อแม่บ้าง แบ่งไว้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวบ้าง แล้วแต่กรณีค่ะ และที่สำคัญหว่านั้นอีกก็คือ คอนเสิร์ตไม่ได้มีทุกวัน ดังนั้นอย่าว่าเราเลยค่ะ
ด้วยความว่าอยู้คนละประเทศ ดังนั้นการที่วงที่เราชอบจะมาจัดคอนเสิร์ตนั้น จึงเป็นเรื่องที่ทำบ่อยไม่ได้ ปีละครั้ง สองปีครั้ง สามปีครั้ง สี่ปีครั้ง หรือห้าปีครั้งก็ยังมีเลยค่ะ บอกเลย นี่กป็นอีกส่งหนึ่งที่สอนเราค่ะ คือ สอนให้เรารู้จักการรอคอย และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มีผู้คนทั่วทั้งประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านมารวมตัวกันเพื่อไปเจอศิลปินที่เราชื่นชอบค่ะ ทุกคนอาจจะมองว่าเห็นมีทุกวัน คนเยอะตลอดๆ ขอบอกเลยนะคะว่า มีทุกวันแต่คนละวงค่ะ เราชอบวงนี้ เราก็ตามวงนี้ อีกคนชอบวงนึงก็ตามของเขาไป พอวงนั้นมา วงนี้มา วงนู้นมา สลับกันไปก็ทำให้ดูเหมือนว่าแฟนคลับเกาหลีตามศิลปินตลอด ตามทุกวัน ตามทีละเยอะๆ แต่จริงๆ แล้ง เราไปตามวงเราวันเดียวค่ะ อีกวัน คือ อีกวง คือ อีกกลุ่มศิลปิน ที่เขาอาจจะไม่ได้มามาสองปีแล้ว แต่มาวันนี้ เราก็ต้องไปตามสิค่ะ
.ซึ่งตรงนี้ คหสต. คิดว่า คือ สิ่งที่ แฟนคลับศิลปินเกาหลีและแฟนคลับศิลปินไทยต่างกันค่ะ เนื่องจากเรายู่ประเทศไทย ศิลปินไทยก็รับงานอีเว้นท์บ่ยและมีการทัวร์ต่างจังหวัด ดังนั้น เวลามีงานในแต่ละที่จึงมีแฟนคลับจำนวนไม่ได้มากเท่ากับศิลปินเกาหลีมาทีเดียว เพราะเขามาครั้งเดียว มาที่เดียวคือ กทม. เราเจอเขาได้แค่ที่นั่น ปีละครั้ง สองปีครั้ง สามปีครั้ง สี่ปีครั้ง เราจึงต้องไปไงค่ะ ช่วยเข้าใจตรงนี้ด้วย เราไม่ได้ว่าแฟนคลับของศิลปินไทยมีน้อยนะคะ แต่เรามองว่าเขามีการกระจายตัวกันไปในแต่ละจังหวัด ซึ่นี่ด็เป็นสิ่งที่น่ารักอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ศิลปินมีกำลังใจในการทำงานไม่ว่าจะที่ไหน เพราะทุกที่มีคนที่เขารักอยู่
จนทำให้เราคิดว่าถ้าผู้จัดมีการกระจายงานไปตามจังหวัดอื่นๆบ้าง อย่าง เชียงใหม่ ขอนแก่น กทม. สงขลา ปัญหาที่คนแออัด หนาแน่นจนทำให้การจราจรติดขัดอาจจะลดน้อยลงก็เป็นได้ เพราะทุกคนก็อยากจะดูคนที่เรารักทั้งนั้น แล้วถ้าคนที่เรารักมาหาเราใกล้ๆ บ้าน มีหรอคะ ที่เราจะดั้นด้นไปในกทม. ดีซะอีกจะได้ประหยัดค่ารถ
ยาวมากเลย ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็ขอบคุณมากนะคะ แล้วก็หวังว่าหลายๆคนจะเข้าใจแฟนคลับศิลปินเกาหลีมากขึ้นกว่าเดิม และมองพวกเราในแง่มุมใหม่ๆ บางคนอาจจะทำผิดจริง ทำไม่ดีจริง แต่ก็ไม่ทุกคนหรอกค่ะ และคนส่วนใหญ่เขาก็พยายามห้ามปรามและตักเตือนกันไปบ้างแล้ว แต่ก็อาจจะไม่ได้ผลทั้งหมด ส่วนแฟนคลับศิลปินเกาหลีด้วยกันก็สามารถบอกเหตุผลที่ตัวเองชื่นชอบศิลปินกันมาได้เลยนะคะ เพราะเราเชื่อว่าเรื่องราวดีๆ ของอปป้าจะทำให้คนอีกหลายๆ คนเข้าใจพวกเราเหล่าแฟนคลับกันมากขึ้นค่ะ 😀😀😀😀😀
ไม่รู้จริงๆ หรอ ว่าแฟนคลับที่ชอบศิลปินเกาหลีไม่ใช่แค่เพราะมีดีที่หน้าตา?
ประสบการณ์ตรงจากคนจริงๆ คนนี้ บอกได้เลยค่ะว่า เราชื่นชอบศิลปินเกาหลีและคิดที่จะติดตามเขาครั้งแรกตอนที่ได้ยินเสียงของเขาในรายการเพลง เมื่อก่อนนี้ต้องดูในทีวี กว่าจะเปิดทีรอนานมาก พอเราได้ยินเสียงแล้วเราก็เริ่มชื่นชอบค่ะ เพราะเสียงเขามีเอกลักษณ์ เขาสามารถร้องเพลงช้าได้อย่างเศร้าจับใจ จนเราร้องไห้ ทั้งที่เราไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร คุณคิดว่านี่คือ ความสามารถที่ดีที่สุดของนักร้องคนหนึ่งรึเปล่าคะ ที่จะส่งผ่านอารมณ์ให้คนฟังได้ขนาดนี้ หลังจากนั้นเราเลยไปศึกษาหาข้อมูลจนได้รู้ว่าเขาชื่ออะไร อยู่วงไหน มีเพลงอะไรบ้าง และสิ่งสำคัญ คือ เราได้รู้ประวัติของเขาค่ะ คนที่เราชอบนี้เป็นเด็กหนุ่มบ้านนอกคนหนึ่งที่เดินทางมาตามหาความฝันของตัวเองในโซลและใช้ความสามารถในการร้องเพลงจนได้ที่หนึ่งและได้รับการฝึกในค่ายเพลงชื่อดัง
เขามีฐานะที่ไม่ดีนะแต่การฝึกจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก เขาจึงไปทำงานพิเศษทั้งรับส่งหนังสือพิมพ์ ทำงานก่อสร้าง รวมถึงทำงานที่ร้านหารเพื่อสานฝันของตัวเอง จนในที่สุดเขาก็ได้เป็นนักร้องสมใจ นี่คือความพยายามของคนๆ นึง ที่คุณบอกว่าเป็นแค่ศิลปินเกาหลีค่ะ และเป็นความพยายามที่ทำให้เรานำเอาสิ่งนี้มาเป็นแรงใจในการดำเนินชีวิตเพื่อทำตามฝันของตัวเอง นอกจากนี้สมาชิกในวงคนอื่นๆ ยังเป็นแบบอย่างที่ดีอีกมากมาย ทั้งหัวหน้าวงที่เป็นบุคคลที่เคารพผู้อื่นเสมอ เขาจะพูดตลอดว่า "จงก้มให้ต่ำที่สุดในวันที่เราอยู่สูงที่สุด" และเขาก็ทำตามที่พูดมาโดยตลอดระยะเวลา 12 ปี ในการเป็นนักร้อง สิ่งนี้ทำให้เรารับรู้ได้เลยว่าการอ่อนน้อมถ่อมตนนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการใช้ชีวิตในสังคม สมาชิกอีกสองคน คือ คนที่ดูแลและสนับสนุนครอบครัวของเขาอย่างสุดความสามารถ และเป็นที่รู้จักของทุกๆ คน ว่า ครอบครัวของพวกเขาสำคัญที่สุด การดูแลเอาใจใส่ คนในครอบครัวถือเป็นสิ่งที่สำคัญ และคนสุดท้าย ที่ตอนนี้กลายเป็นดร.แล้วเพราะสามารถเรียนจบปริญญาเอกได้แม้อายุยังน้อยและเป็นศิลปินไปด้วย เขาพูดับแฟนคลับเสมอว่า "เรียนยังทำไม่ได้เลย แล้วจะไปทำอย่างื่นได้ยังไง" และบางครั้งเมื่อมีแฟนคลับใส่ชุดนักรียนมาตามพวกเขา เขาก็จะบอกว่า "นี่เป็นเวลาเรียน กลับไปเรียนซะ" นี่คือความใส่ใจของเขาคนนี้ ศิลปินเกาหลีที่ใครบางคนบอกว่าเฟค ไม่จริง แอ๊บ
เราไม่การันตีนะคะว่าศิลปินทุกคนจะเป็นแบบนี้ แต่เรายืนยันว่าศิลปินเกาหลีดีๆ นั้นมีมาก และมีมากกว่าแค่หน้าตาแน่นอน เพราะนอกจากเขาจะร้องเพลงได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว เขายังสมมารถแต่งเพลงเองได้ ควบคุมคอนเสิร์ตเองได้ เป๋นนักแสดงมีรางวัลการันตีมากมาย และทำงานอย่างหนักจริงๆ ที่สำคัญคือ เขาเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ชีวิตในทุกๆ เรื่อง ถ้าเราจะสังเกตและใส่ใจ ทั้งการดูแลครอบครัว การเรียน การอ่อนน้อม ถ่อมตน และความพยายาม
เมื่อมีคนถามว่าไม่รู้จริงๆ หรอว่าศิลปินเกาหลีเฟค และแค่มองว่าเราเป็นแค่แหล่งดงินทุนของเขานั้น คุณคิดผิดแล้วล่ะคะ เพราะส่งที่ศิลปินเกาหลีทุกคนต้องผ่านกันมาก็คือ การเป็นเด็กฝึก ซึ่งกว่าจะผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้ เขาต้องใช้ความพยายาม ความสามารถและความอดทนอย่างที่สุด เพื่ออะไร ในตอนแรก ไม่ใช่เพื่อพวกเราแฟนคลับแน่นอนค่ะ แต่เพื่อความฝันของเขา ความฝันที่จะได้ร้องเพลง มีเพลงเป็นของตัวเอง ได้เป็นศิลปินที่ทุกคนณุ้จัก และยืนร้องเพลงให้ผู้คนได้ฟัง แต่หลังจากที่พวกเขาเหล่านั้นต้องทำเพลง อัดเพลง ฝึกร้อง ฝึกเต้นกันมานาน พอผลงานของพวกเขาออกมา พวกเรานี่แหละค่ะ คือ ตัวตัดสินความฝันของพวกเขา ว่าเพลงของพวกเขาดีมั้ย ท่าเต้นเป็นอย่างไร ภาพลักษณ์ การแสดงต่างๆ โอเคมั้ย เมื่อพวกเราตอบรับและแสดงความคิดเห็น เขาก็จะมีแรงและมีแนวทางในการทำงานครั้งต่อๆ ไปให้ดียิ่งๆ ขึ้น เพื่อทำความฝันของเขาให้กลายเป็นฝันที่ยิ่งใหญ้มากขึ้นเรื่อยๆ และการที่เขาจะประสบความสำเร็จนั้นก็จำเป็นจะต้องมีแรงซัพพอร์ตจากแฟนคลับเพื่อเป็นกำลังใจให้เขาได้ทำงานดีๆ ออกมาต่อไป เรามองว่าส่งนี้เหมือนเป็นการให้ กับการรับที่เท่าเทียมกันนะคะ ไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบเลยแม้แต่น้อย ในด้านแฟนคลับ เราได้รับผลงานดีๆ ออกมาให้เราดูให้เราฟัง คนเราเวลาที่เศร้า เครียด หรือแม้แต่มีความสุขเพลงก็คือส่วนประกอบหนึ่งใน ณ อารมณ์นั้นๆ เสมอ เหมอนเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่คอยอยู่เคียงข้างเรา ในขณะเดียวกันศิลปินก็ได้กำลังใจและแรงซัพพอร์ตเพื่อไปทำผลงานชิ้นต่อๆ ไป
ถ้าโลกนี้ไม่ได้ใช้เงินในการลงทุนหรือซื้อของ เราว่าศิลปินเกาหลีเขาก็คงไม่ให้เราจ่ายค่านู้น ค่านี่หรอกค่ะ แต่มันไม่ใช่อย่างั้นนะสิ เพราะการสร้างงานต้องมีการลงทุน ดังนั้นเงินจึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่ก็ไม่ได้มีค่ามากไปกว่าสิ่งที่เขาและเราได้รับและมอบให้แก่กันผ่านผลงานเพลงเลยแม้แต่น้อย
บางคนบอกว่าติ่งเกาหลีเอาเงินไปซื้อแต่ของเกาหลีไม่อุดหนุนคนไทย ย้ำอีกครั้งว่าแฟนคลับศิลปินเกาหลี คือ คนไทยค่ะ อยู่ที่ไทย กินที่ไทย และใช้ที่ไทย ในส่วนของการซื้อของเกาหลีนั้นก็มีแค่บางช่วงเท่านั้น ที่อัลบั้มออกบ้าง หรือสินค้าตัวอื่นๆ ออกบ้าง ซึ่งแต่ละวงก็จะแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งสำคัญ คือ การไปดูคอนเสิร์ตค่ะ บางคนบอกว่าบัตรตั้งเป็นพันๆ เด็กๆ ตัวแค่นี้เอาเงินพ่อแม่มา ไม่สงสารพ่อแม่หรอ เราขอตอบตรงนี้เลยนะคะ ว่าเราเก็บเงินเองตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ ซึ่งตอนนี้เราก็ยังเรียนอยู่ แต่ก็หางานพิเศษทำบ้าง เพื่อเก็บเงินค่ะ สิ่งนี้เรามองว่าเป็นเรื่องที่ด้วยซ้ำนะคะ ที่ทำให้เรารู้จักเก็บ รู้จักอดออม เพื่อของที่เราอยากได้ เพื่อนสิ่งที่เราอยากดู เป็นการฝึกวินัยในตนเองไปในตัวด้วยค่ะ ซึ่งเราก็ไม่ได้เอาไปซื้อบัตรคอนเสิร์ตทั้งหมด แต่ก็แบ่งไปซื้อของให้พ่อแม่บ้าง แบ่งไว้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวบ้าง แล้วแต่กรณีค่ะ และที่สำคัญหว่านั้นอีกก็คือ คอนเสิร์ตไม่ได้มีทุกวัน ดังนั้นอย่าว่าเราเลยค่ะ
ด้วยความว่าอยู้คนละประเทศ ดังนั้นการที่วงที่เราชอบจะมาจัดคอนเสิร์ตนั้น จึงเป็นเรื่องที่ทำบ่อยไม่ได้ ปีละครั้ง สองปีครั้ง สามปีครั้ง สี่ปีครั้ง หรือห้าปีครั้งก็ยังมีเลยค่ะ บอกเลย นี่กป็นอีกส่งหนึ่งที่สอนเราค่ะ คือ สอนให้เรารู้จักการรอคอย และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มีผู้คนทั่วทั้งประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านมารวมตัวกันเพื่อไปเจอศิลปินที่เราชื่นชอบค่ะ ทุกคนอาจจะมองว่าเห็นมีทุกวัน คนเยอะตลอดๆ ขอบอกเลยนะคะว่า มีทุกวันแต่คนละวงค่ะ เราชอบวงนี้ เราก็ตามวงนี้ อีกคนชอบวงนึงก็ตามของเขาไป พอวงนั้นมา วงนี้มา วงนู้นมา สลับกันไปก็ทำให้ดูเหมือนว่าแฟนคลับเกาหลีตามศิลปินตลอด ตามทุกวัน ตามทีละเยอะๆ แต่จริงๆ แล้ง เราไปตามวงเราวันเดียวค่ะ อีกวัน คือ อีกวง คือ อีกกลุ่มศิลปิน ที่เขาอาจจะไม่ได้มามาสองปีแล้ว แต่มาวันนี้ เราก็ต้องไปตามสิค่ะ
.ซึ่งตรงนี้ คหสต. คิดว่า คือ สิ่งที่ แฟนคลับศิลปินเกาหลีและแฟนคลับศิลปินไทยต่างกันค่ะ เนื่องจากเรายู่ประเทศไทย ศิลปินไทยก็รับงานอีเว้นท์บ่ยและมีการทัวร์ต่างจังหวัด ดังนั้น เวลามีงานในแต่ละที่จึงมีแฟนคลับจำนวนไม่ได้มากเท่ากับศิลปินเกาหลีมาทีเดียว เพราะเขามาครั้งเดียว มาที่เดียวคือ กทม. เราเจอเขาได้แค่ที่นั่น ปีละครั้ง สองปีครั้ง สามปีครั้ง สี่ปีครั้ง เราจึงต้องไปไงค่ะ ช่วยเข้าใจตรงนี้ด้วย เราไม่ได้ว่าแฟนคลับของศิลปินไทยมีน้อยนะคะ แต่เรามองว่าเขามีการกระจายตัวกันไปในแต่ละจังหวัด ซึ่นี่ด็เป็นสิ่งที่น่ารักอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ศิลปินมีกำลังใจในการทำงานไม่ว่าจะที่ไหน เพราะทุกที่มีคนที่เขารักอยู่
จนทำให้เราคิดว่าถ้าผู้จัดมีการกระจายงานไปตามจังหวัดอื่นๆบ้าง อย่าง เชียงใหม่ ขอนแก่น กทม. สงขลา ปัญหาที่คนแออัด หนาแน่นจนทำให้การจราจรติดขัดอาจจะลดน้อยลงก็เป็นได้ เพราะทุกคนก็อยากจะดูคนที่เรารักทั้งนั้น แล้วถ้าคนที่เรารักมาหาเราใกล้ๆ บ้าน มีหรอคะ ที่เราจะดั้นด้นไปในกทม. ดีซะอีกจะได้ประหยัดค่ารถ
ยาวมากเลย ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็ขอบคุณมากนะคะ แล้วก็หวังว่าหลายๆคนจะเข้าใจแฟนคลับศิลปินเกาหลีมากขึ้นกว่าเดิม และมองพวกเราในแง่มุมใหม่ๆ บางคนอาจจะทำผิดจริง ทำไม่ดีจริง แต่ก็ไม่ทุกคนหรอกค่ะ และคนส่วนใหญ่เขาก็พยายามห้ามปรามและตักเตือนกันไปบ้างแล้ว แต่ก็อาจจะไม่ได้ผลทั้งหมด ส่วนแฟนคลับศิลปินเกาหลีด้วยกันก็สามารถบอกเหตุผลที่ตัวเองชื่นชอบศิลปินกันมาได้เลยนะคะ เพราะเราเชื่อว่าเรื่องราวดีๆ ของอปป้าจะทำให้คนอีกหลายๆ คนเข้าใจพวกเราเหล่าแฟนคลับกันมากขึ้นค่ะ 😀😀😀😀😀