** ขอไว้อาลัยแด่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การตั้งชื่อกระทู้ผิดเมื่อวานครับ

และขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน
ครบรอบ108ปีของการเสียดินแดน ตอน ตำนานแรงศรัทธาแห่งตากใบ
http://pantip.com/topic/34889865
....................
ขอตัดกลับมาถึงสถานการณ์ประเทศไทยในช่วงเดียวกัน
เพราะมีเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวกับวันนี้เมื่อ 100 ปีก่อน วันที่ 10 มีนาคม 2451
บรรยากาศแห่งอันตรายได้แผ่ปกคลุมชัดเจนอย่างมาก
ตั้งแต่ พ.ศ. 2300 – 2399 อังกฤษกับฝรั่งเศสเข้ายึดประเทศ อินเดีย พม่า เวียดนาม ได้เกือบทั้งหมด
ส่วนประเทศไทย
พ.ศ. 2353-2450 (รัชกาลที่ 2-รัชกาลที่ 5) ก็ทยอยเสียแผ่นดินให้เฉพาะอังกฤษกับฝรั่งเศส รวม 9 ครั้ง
ที่หนักสุดคือตอนที่ฝรั่งเศสบุกยึดจังหวัดตราด
ปู่เจียร จินตกานนท์ คือผู้ที่ทันเหตุการณ์ได้เล่าว่า
" เมื่อครั้งที่ฝรั่งเศสเข้ายึดเมืองตราด เราถูกบังคับใช้เชิญธงช้างลง ชาวบ้านน้ำตาไหล
ยกชายผ้าถุง ชายผ้าขาวม้าขึ้นซับน้ำตา เพราะธงชาติไทยนั้นหมายถึง ความเป็นคนไทย
เราไม่รู้ว่า จะมีวันที่ได้กลับมาเป็นคนไทย และได้เชิญธงไทยขึ้นอีกหรือไม่”
จนกระทั่งใน ปี 2449 ไทยต้องเอามลฑลบูรพา(พระตะบอง,เสียมราฐ,ศรีโสภณ) ไปแลก จ.ตราด ชาวบ้านเล่าให้ฟังอีกว่า
“ในวันที่ชาวเมืองตราดได้เห็น ธงช้าง เชิญสู่ยอดเสาอีกครั้ง ลูกเด็กเล็กแดง คนเฒ่าคนแก่ ร้องไห้ ก้มลงกราบ ธงชาติไทย”
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับวัดชื่อแปลกๆเหมือนหนังสงคราม ?
** ที่เกี่ยวข้องคือ ....ยังมีสัญญาสำคัญไทยถูกมัดมือชกอีกอันหนึ่งคือ
ปฏิญญาลับระหว่างสยาม - อังกฤษ ค.ศ. พ.ศ. 2440
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ที่สยามประเทศยอมให้อังกฤษ มีสิทธิ์เหนือดินแดนภาคใต้
ตั้งแต่ตำบลบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ลงไปจดสุดแหลมมลายู
โดยสรุปย่อๆเป็นคำกล่าวว่า
“กฎหมายสยามไม่สามารถเอาผิดกับคนอังกฤษและคนที่อยู่ในความดูแลของอังกฤษที่เข้ามาทำผิดกฎหมายในเมืองสยามได้”
ซึ่งถ้าพิจารณาในเชิงปฏิบัติ.....ก็เปรียบเสมือนว่าเราได้สูญเสียเอกราชทางภาคใต้ไปทั้งหมดตั้งแต่ปี พ.ศ.2440

เรียกได้ว่าเหมือนมีดาบมาจ่อที่คอหอยตลอดเวลา
เพื่อแก้สัญญาฉบับนั้น ใน
วันที่ 10 มีนาคม 2451
ประเทศไทยจึงต้องยอมแลก
รัฐกลันตัน,ตรังกานู,ไทรบุรี, ปริส ทั้งหมดให้กับอังกฤษการยกเลิกปฏิญญาลับปี 2440
ดูแผนที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งพื้นที่รัฐกลันตัน ในตอนนั้นครอบคลุมพื้นที่ ใน จ.นราธิวาส ในปัจจุบัน
แล้วทำไมปัจจุบันผ่านมา 108 ปียังมี จ.นราธิวาส อยู่ในแผนที่ประเทศไทย ... ?
วัดเจ๊ะเห ? วัดชลธาราสิงเห ? วัดท่าพรุ ?
.......................
คำตอบคือ
"หลักฐานของชาวสยาม"
เมื่อ พ.ศ. 2452 มีเหตุการณ์สำคัญตอนปักเขต เพื่อแยกรัฐมลายูในการปกครองของอังกฤษ
แต่เขตแดนรัฐกลันตันในสมัยนั้นอยู่ที่บ้านสะปอม (เขตอำเภอเมือง อำเภอตากใบ)
เป็นจุดที่อังกฤษใช้ลากเส้นเขตแดน โดยใช้สันเขา และแม่น้ำเป็นแนวตามหลักสากล
ซึ่งจะพ่วง
อำเภอตากใบ, อำเภอแว้ง, อำเภอสุไหงปาดี, อำเภอสุไหงโก-ลก เข้าไปด้วย
นับว่าไทยเราเสียเปรียบ เนื่องจากจะถูกกินเขตแดนในส่วนอื่นเข้ามามาก
ทางทีมสำรวจและกฎหมายอยู่ในภาวะกดดัน แต่ยังไม่มีข้อที่โต้แย้งได้
คงจะมีบางสิ่งมาดลใจ เมื่อคณะสำรวจได้เข้ามายังพื้นที่พบว่า
อ.ตากใบ มีวัดอยู่หลายแห่ง โดยไม่ได้มีบรรยากาศเหมือนเมืองมุสลิมในรัฐกลันตัน
ในที่สุด ทีมงานเอาเรื่อง
พระพุทธศาสนาขึ้นมาชี้แจงเป็นเหตุผล
โดยบอกอังกฤษว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ "วัดชลธาราสิงเห เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวอำเภอตากใบ
มีอาคารสถานที่และถาวรวัตถุเป็นแบบไทย ที่สร้างมาอย่างวิจิตรพิสดารทรงคุณค่าในเชิงศิลป์
ประกอบกับท้องที่อำเภอตากใบมีวัด และคนไทยพุทธอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก"
ผลปรากฏว่า อังกฤษยอมรับในเหตุผล 
แล้วยอมปรับหลักเขตแดนมาอยู่แนวแม่น้ำโก-ลก
จึงมีการลงนามในสัญญาแบ่งเขตแดนที่เรียกว่า
สัญญาตาบา
นับว่า วัดชลธาราสิงเห ที่ช่วยพิทักษ์แผ่นดิน 4 อำเภอชายแดนไทยเอาไว้
หลังจากนั้นมีการตั้งชื่อวัดไว้อีกชื่อหนึ่งว่า
** วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย **
ในวันนี้วัดพิทักษ์แผ่นดินไทยจะมีอายุ 150 กว่าปี
สถานการณ์ความวุ่นวายในภาคใต้ยังคงมีความไม่สงบเกิดขึ้นตลอดเวลา
พระไพศาลประชานาถ เจ้าอาวาส และเจ้าคณะอำเภอตากใบ
หลวงพ่อเจ้าอาวาส รุ่นที่ 9 ของวัดชลธาราสิงเห ได้พูดไว้ว่า
“ เวลาที่พระออกบิณฑบาต จะต้องมีทหารติดตาม โดยสะพายย่าม สะพายปืนเหมือน ศิษย์วัดเดินคุ้มครอง
มีทั้งทางซ้ายทางขวา เพื่ออะไรก็เพื่อความปลอดภัย ดูแล้วมันพูดไม่ออก เศร้าใจ
ทุกๆรูปที่อยู่กันทุกวันนี้ มีรูป สองรูปที่เฝ้าวัด ตายก็ขอตายตรงนี้
ญาติโยมก็มีอยู่ ถ้าเราไปเสียเท่ากับเราทิ้งเขา
ดังนั้นถ้าเราอยู่ วัดไหนก็อยู่กันไป สิ่งไหนที่ช่วยกันได้ เราก็ช่วยกันไป
แต่จะให้สมภารหนีวัดเนี๊ย ไม่หนี”
แม้ปัจจุบันความอันตรายได้แผ่เข้ากลับมาปกคลุมพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้มาตลอดสิบกว่าปี
แต่เมื่อได้ฟังหลวงพ่อเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันพูด
ทำให้รู้สึกถึงปณิธานในการสร้างวัดเมื่อ150ปีก่อน
ยังคงก้องดังในใจตลอดเวลาว่า
“เมื่อคนอยู่ที่นี่ ก็จะสร้างวัดที่นี่ ให้เป็นที่รวมใจและสืบทอดอายุพระศาสนา”
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาโดยตลอด
*** ขอความสงบสุขจงมีแด่4จังหวัดชายแดนภาคใต้ ***
credit
http://www.kalyanamitra.org/u-ni-boon/Sep48/c55.htm
http://nwt.onab.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=136:2009-07-06-10-29-15&catid=49:2008-10-29-14-45-26&Itemid=83
http://m.pantip.com/topic/34488801
http://www.rungnapa-astro.com/Saranaru-ok/ThaiTerritory-Lost.htm
https://sasina1998.wordpress.com/2012/08/07/วิกฤตการณ์-ร-ศ-112/
ครบรอบ108ปีของการเสียดินแดน ตอนจบ - วัดแห่งนี้เปลี่ยนแผนที่ประเทศไทย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอตัดกลับมาถึงสถานการณ์ประเทศไทยในช่วงเดียวกัน
เพราะมีเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวกับวันนี้เมื่อ 100 ปีก่อน วันที่ 10 มีนาคม 2451
บรรยากาศแห่งอันตรายได้แผ่ปกคลุมชัดเจนอย่างมาก
ตั้งแต่ พ.ศ. 2300 – 2399 อังกฤษกับฝรั่งเศสเข้ายึดประเทศ อินเดีย พม่า เวียดนาม ได้เกือบทั้งหมด
ส่วนประเทศไทย
พ.ศ. 2353-2450 (รัชกาลที่ 2-รัชกาลที่ 5) ก็ทยอยเสียแผ่นดินให้เฉพาะอังกฤษกับฝรั่งเศส รวม 9 ครั้ง
ที่หนักสุดคือตอนที่ฝรั่งเศสบุกยึดจังหวัดตราด
ปู่เจียร จินตกานนท์ คือผู้ที่ทันเหตุการณ์ได้เล่าว่า
" เมื่อครั้งที่ฝรั่งเศสเข้ายึดเมืองตราด เราถูกบังคับใช้เชิญธงช้างลง ชาวบ้านน้ำตาไหล
ยกชายผ้าถุง ชายผ้าขาวม้าขึ้นซับน้ำตา เพราะธงชาติไทยนั้นหมายถึง ความเป็นคนไทย
เราไม่รู้ว่า จะมีวันที่ได้กลับมาเป็นคนไทย และได้เชิญธงไทยขึ้นอีกหรือไม่”
จนกระทั่งใน ปี 2449 ไทยต้องเอามลฑลบูรพา(พระตะบอง,เสียมราฐ,ศรีโสภณ) ไปแลก จ.ตราด ชาวบ้านเล่าให้ฟังอีกว่า
“ในวันที่ชาวเมืองตราดได้เห็น ธงช้าง เชิญสู่ยอดเสาอีกครั้ง ลูกเด็กเล็กแดง คนเฒ่าคนแก่ ร้องไห้ ก้มลงกราบ ธงชาติไทย”
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับวัดชื่อแปลกๆเหมือนหนังสงคราม ?
** ที่เกี่ยวข้องคือ ....ยังมีสัญญาสำคัญไทยถูกมัดมือชกอีกอันหนึ่งคือ
ปฏิญญาลับระหว่างสยาม - อังกฤษ ค.ศ. พ.ศ. 2440
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพื่อแก้สัญญาฉบับนั้น ในวันที่ 10 มีนาคม 2451
ประเทศไทยจึงต้องยอมแลก รัฐกลันตัน,ตรังกานู,ไทรบุรี, ปริส ทั้งหมดให้กับอังกฤษการยกเลิกปฏิญญาลับปี 2440
ดูแผนที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งพื้นที่รัฐกลันตัน ในตอนนั้นครอบคลุมพื้นที่ ใน จ.นราธิวาส ในปัจจุบัน
แล้วทำไมปัจจุบันผ่านมา 108 ปียังมี จ.นราธิวาส อยู่ในแผนที่ประเทศไทย ... ?
วัดเจ๊ะเห ? วัดชลธาราสิงเห ? วัดท่าพรุ ?
คำตอบคือ
"หลักฐานของชาวสยาม"
เมื่อ พ.ศ. 2452 มีเหตุการณ์สำคัญตอนปักเขต เพื่อแยกรัฐมลายูในการปกครองของอังกฤษ
แต่เขตแดนรัฐกลันตันในสมัยนั้นอยู่ที่บ้านสะปอม (เขตอำเภอเมือง อำเภอตากใบ)
เป็นจุดที่อังกฤษใช้ลากเส้นเขตแดน โดยใช้สันเขา และแม่น้ำเป็นแนวตามหลักสากล
ซึ่งจะพ่วง อำเภอตากใบ, อำเภอแว้ง, อำเภอสุไหงปาดี, อำเภอสุไหงโก-ลก เข้าไปด้วย
นับว่าไทยเราเสียเปรียบ เนื่องจากจะถูกกินเขตแดนในส่วนอื่นเข้ามามาก
ทางทีมสำรวจและกฎหมายอยู่ในภาวะกดดัน แต่ยังไม่มีข้อที่โต้แย้งได้
คงจะมีบางสิ่งมาดลใจ เมื่อคณะสำรวจได้เข้ามายังพื้นที่พบว่า
อ.ตากใบ มีวัดอยู่หลายแห่ง โดยไม่ได้มีบรรยากาศเหมือนเมืองมุสลิมในรัฐกลันตัน
ในที่สุด ทีมงานเอาเรื่องพระพุทธศาสนาขึ้นมาชี้แจงเป็นเหตุผล
โดยบอกอังกฤษว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จึงมีการลงนามในสัญญาแบ่งเขตแดนที่เรียกว่า สัญญาตาบา
นับว่า วัดชลธาราสิงเห ที่ช่วยพิทักษ์แผ่นดิน 4 อำเภอชายแดนไทยเอาไว้
หลังจากนั้นมีการตั้งชื่อวัดไว้อีกชื่อหนึ่งว่า
** วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย **
ในวันนี้วัดพิทักษ์แผ่นดินไทยจะมีอายุ 150 กว่าปี
สถานการณ์ความวุ่นวายในภาคใต้ยังคงมีความไม่สงบเกิดขึ้นตลอดเวลา
พระไพศาลประชานาถ เจ้าอาวาส และเจ้าคณะอำเภอตากใบ
หลวงพ่อเจ้าอาวาส รุ่นที่ 9 ของวัดชลธาราสิงเห ได้พูดไว้ว่า
“ เวลาที่พระออกบิณฑบาต จะต้องมีทหารติดตาม โดยสะพายย่าม สะพายปืนเหมือน ศิษย์วัดเดินคุ้มครอง
มีทั้งทางซ้ายทางขวา เพื่ออะไรก็เพื่อความปลอดภัย ดูแล้วมันพูดไม่ออก เศร้าใจ
ทุกๆรูปที่อยู่กันทุกวันนี้ มีรูป สองรูปที่เฝ้าวัด ตายก็ขอตายตรงนี้
ญาติโยมก็มีอยู่ ถ้าเราไปเสียเท่ากับเราทิ้งเขา
ดังนั้นถ้าเราอยู่ วัดไหนก็อยู่กันไป สิ่งไหนที่ช่วยกันได้ เราก็ช่วยกันไป
แต่จะให้สมภารหนีวัดเนี๊ย ไม่หนี”
แม้ปัจจุบันความอันตรายได้แผ่เข้ากลับมาปกคลุมพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้มาตลอดสิบกว่าปี
แต่เมื่อได้ฟังหลวงพ่อเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันพูด
ทำให้รู้สึกถึงปณิธานในการสร้างวัดเมื่อ150ปีก่อน
ยังคงก้องดังในใจตลอดเวลาว่า
“เมื่อคนอยู่ที่นี่ ก็จะสร้างวัดที่นี่ ให้เป็นที่รวมใจและสืบทอดอายุพระศาสนา”
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาโดยตลอด
*** ขอความสงบสุขจงมีแด่4จังหวัดชายแดนภาคใต้ ***
credit
http://www.kalyanamitra.org/u-ni-boon/Sep48/c55.htm
http://nwt.onab.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=136:2009-07-06-10-29-15&catid=49:2008-10-29-14-45-26&Itemid=83
http://m.pantip.com/topic/34488801
http://www.rungnapa-astro.com/Saranaru-ok/ThaiTerritory-Lost.htm
https://sasina1998.wordpress.com/2012/08/07/วิกฤตการณ์-ร-ศ-112/