ตามรอยพระพุทธบาทพลวง ณ เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี...สักครั้งในชีวิตต้องมี

สุดท้ายผมก็ได้ไปมาจนได้ กับการนมัสการะรอยพระพุทธบาทพลวง ณ เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี ผมได้ยินและอยากไปมานานมาก
ปีนี้ผมตั้งหลักมาตั้งแต่ต้นปีรอฟังข่าวการเปิดเขา รอบแรกได้ยินว่าเปิดช่วงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ผมนัดเพื่อนเพื่อนไว้เรียบร้อย แต่เก้อ 555
และกระแสข่าวอีกรอบบอกว่าเปิด 16 กุมภาพันธ์ - 7 เมษายน 2559 ผมเลยรองให้เพื่อนๆที่มีญาติอยู่จันทบุรีไปเช็คที่วัดพลวงเลยครับ
รอบนี้ไม่พลาด ทางญาติเพื่อนผมคอนเฟิร์ม ผมกับเพื่อนไม่รอเลยรู้ว่าเปิด 16 กุมภาพันธ์ผมนี่นัดกันไปตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์เลยครับ

ผมได้ศึกษาไปนิดหน่อยว่ามีรถขึ้นเขาอยู่ที่วัดพลวงและวัดกระทิง แต่ญาติเพื่อนบอกว่าให้ขึ้นอยู่ที่วัดพลวงใกล้ ผมเลยมุ่งตรงไปวัดพลวง
ผมไปถึงวันที่ 15 ช่วงบ่ายๆ คนยังดูเงียบๆ จะมีก็แต่รถวิ่งขึ้นเขาวิ่งกันอยู่บ้าง และถามคนแถวนั้นก็ไม่มีใครคอนเฟิร์มว่าขึ้นเมื่อไหร่
ผมและเพื่อนๆ เลยไปหาที่พักก่อน ได้เป็นที่ บ้านสวนบุญฤทธิ์ เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ สไตล์ไม้สวยงามครับ เงียบเป็นส่วนตัวมาก ๆ
พอเข้าที่พักผมก็นอนรอฟังข่าว บางกระแสยืนยันต์ว่าเปิดวันที่ 16 กุมภาพันธ์เหมือนเดิม แต่อยู่ดีๆ ก็มีว่าขึ้นกันแล้วตอน 6 โมงเย็นวันนั้น
แต่เพื่อความชัวร์ผมเลยรอเช้านอนพักเอาแรงก่อน และตื่นกันมาประมาณตี 3 (เพื่อนบางคนที่เคยมาบอกว่ามึด ๆ อากาศเย็นสบาย)

และก็มาถึงวันที่รอคอย ตอนถึงวัดพลวงบอกตรงๆ ตื่นเต้นมากๆ วันนั้นคนยังไม่เยอะเหมือนที่คนอื่นเคยบอกมา อาจเพราะว่าเป็นวันแรก
ในใจผมนึกถึงภาพของหินที่ยอดเขาที่เห็นตามสื่อต่าง ๆ ความมันส์ของการนั่งรถขึ้นเขา และความท้าทายที่ต้องอดทนเดินขึ้นไปอีก
(ทั้งหมดที่คิดเป็นจิตนาการ จากคำบอกต่อของคนที่เคยมา 555++) แค่คิดยังตื่นเต้นเลย


นี่แหละคืนจุดที่ผมอยากเห็นที่สุด ณ ตอนนั้น


และนี่คือจุดแรกที่ผมเห็นแล้วรู้สึกตื่นเต้น คิดไปต่างๆ นาๆ 555


แซมนิดครับกองทับต้องเดินด้วยท้อง ฝั่งตรงข้ามทางขึ้นรถมีร้านข้าวขาหมู หมูกรอบ ข้าวหน้าเป็ดอร่อย 2 ร้านครับ


ลืมบอกไปครับก่อนขึ้นรถต้องมาซื้อตั๋วก่อนครับ เดินกลับมาจากตรงที่ขึ้นรถนิดนึงครับ คนละ 50 บาท 2 ชั้นครับ


เช้ามึดมีพระมาบิณฑบาต ใครอยากทำบูญก่อนขึ้นจัดได้เลยครับ


ขึ้นมาต่อรถกันอีกชั้นครับ บอกเลยตอนนั่งรถมันและลุ้นทุกโค้งเลยครับ


นอกจากผมลุ้นแล้ว ผมคิดว่าคนอื่นก็ลุ้น และมันเหมือนผมทุกคัน 555 (เห็นแว็บๆ มีคนเดินขึ้นด้วย)


ตรงนี้เป็นจุดจอดรถชั้นบนครับ หลังจากนี้เดินล้วนๆ ครับรู้แค่นั้นผมก็คิดว่าแค่เดินขึ้นสบายยยยย


จุดนี้เป็นจุดแรกที่เป็นเหมือนประตูของการเดินขึ้นเขา ใครมาถึงก็ถ่ายรูปกันก่อนเลย








บรรยากาศการเดินขึ้นเขา สวยงามร่มรื่น เป็นธรรมชาติ อากาศเย็นสบาย (ตามรูป)
แต่เบื่องหลังของความสวยงาม บอกเลยว่า สุดๆ เหนื่อยสุด เมื่อยสุด ชันสุด 555
บอกเลยว่าภาพพวกนี้คือเดินไม่ไหวยืนพักแล้วถ่ายกันเลยที่เดียว



สำหรับคนที่ไม่ไหว หรืออาจมีปัญหาเรื่องสุขภาพนี่ก็เป็นอีกทางเลือกครับ ราคาได้ยินว่า 5-6 ร้อยครับ


สุดท้ายก็ถึงครับ ภาพแรกที่คิด และภาพที่มาถึงเดียวกันแป๊ะ สวยเหมือนที่เคยเห็นตามสื่อเลย





และอีกภาพความประทับใจครับ ภาพแรงศรัทธาที่ทำให้เรารู้สึกว่าสงบ ร่มเย็น หายเหนื่อย
เราวัยรุ่นขึ้นมาบ่นกันทุกคนว่าเหนื่อยมากๆ แต่ขึ้นมาเห็นป้าๆ ลุงๆ หรือบางท่านเรียกว่าย่า ยายได้เลย
ท่านขึ้นมาจนถึงจุดนี้ผมต้องบอกเลยว่านับถือใจ และแรงศรัทธาท่านทุกคนมาก ๆ


และแล้วก็มีเรื่องที่ทำให้ผม "ช๊อค" อีกครั้ง เมื่อได้ยินมาตรงนี้ยังไม่สุด ต้องไปให้ถึงผ้าแดงนะ
และบอกอีกว่าระยะทางไกลกว่า ชันกว่าที่เดินขึ้นมาอีก แต่ถ้าไม่ไปถือว่ามาไม่ถึงเลยนะ
มันเป็นจุดที่มองตรงไปจากภาพนี้ครับ...แล้วผมก็เดินหน้าต่อในเมื่อมาถึงกันแล้วต้องสุดครับ
ผมบอกได้แค่ว่าไป-กลับจากจุดนี้ถึงจุดนี้อีกรอบใช้เวลา มากกว่า 2 ชั่วโมง นาทีนั้นผมเลิกดูเวลาเลย
***ขออภัยด้วยครับที่รูปหลังจากนี้ไม่มี เนื่องจากเหนื่อยมากจนลืมถ่ายภาพเก็บไว้เลยครับ 5555



และยังไม่จบครับกับที่เหนื่อยกันมาขาขึ้น ขาลงไม่เหนื่อยมาก แต่ล้ามันทำให้ขานี่สั่นตลอดเลยครับ






ผมว่าไฮไลท์ของผมจุดนึงที่ผมชอบมากๆ ในการมาครั้งนี้คืนตอนนั่งรถขึ้น-ลงเขา มันส์จริงๆ
มีคนบอกผมว่าถ้ามาช่วงที่คนเยอะๆ รถจะทำรอบและวิ่งกันเยอะ จะมันกว่านี้อีก...








ยังไม่หมดกับเรื่องราวที่ได้รู้ได้เห็นใหม่ๆ ยังมีเรื่องที่ทำให้ต้องประหลาดใจอีกเรื่องก็คือ...
ผมสังเกตุตั้งแต่ก่อนขึ้นเขาว่ารถที่ขึ้นเขาส่วนใหญ่ ใช้ล้อแม็กซ์ยี่ห้อ LENSO และยาง MAXIS
ผมดูๆ ไปตลอดทางทั้งขาขึ้นและขาลง รถที่ใช้ล้อ LENSO ถึงประมาณ 80% เลย
ซึ่งที่สังเกตุเห็นก็เพราะว่าผมก็ใช้ของ LENSO และมาเห็นที่นี่ใส่กันเยอะจนตกใจ
ผมนี่อดสงสัยไม่ได้เลยต้องถามคนขับหลายๆ คนที่ใส่ครับ ส่วนใหญ่พูดถึงความทน ความสวย

สุดท้ายการมาครั้งนี้ผมได้อะไรกลับมาหลายอย่างเลย ทั้งประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเดินทาง
ความอดทน คำว่าเพื่อน (มีเพื่อนในกลุ่มไม่ไหวตอนไปผ้าแดง เราก็รอกัน ให้กำลังใจไม่ทิ้งกัน)
ได้รู้ว่าเราออกกำลังกายในชีวิตประจำวันน้อยไป (พักบ่อยมาก เด๋วๆ ก็เหนื่อยแล้ว 555)
ได้เห็นแรงศรัทธา เหมือนได้ฝึกสมาธิด้วยในใจตอนนั้นมุ่งมั้นมาก ๆ ดีครับ

ซักครั้งในชีวิตหาโอกาศไปให้ได้นะครับ พาเพื่อน ครอบครัว พ่อแม่ไป ท่านชอบแน่ๆ เชื่อผมดิ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่