สวัสดีคะ หนูอายุ 16 คะ ส่วนตัวเป็นคนขยันทำการบ้าน ตั้งในเรียน กำลังศึกษาอยู่ม.ปลายค่ะ เกรดที่ออกมาได้็อยู่ในระดับดีน่ะคะ (ไม่ต่ำกว่า 3.00) หนูเป็นคนที่ชอบเที่ยวน่ะคะ กับเพื่อนบ้างกับแฟนบ้าง ส่วนใหญ่จะชอบไปดูหนังที่บิ้กซีใกล้ๆบ้านค่ะ (ห่างจากบ้านไม่ถึง 5 กม.) หนูมีแฟนอยู่คนนึงคะ อยู่ห้องเดียวกันค่ะ แฟนหนูเป็นคนดีค่ะ เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ เรียนดีค่ะ แต่ขี้เกียจนิดๆ หนูแค่ไปเที่ยวกับแฟนที่บิ้กซี ไปดูหนังกันค่ะ แม่หนูบอกว่าเป็นห่วง เลยกักบริเวณ ไม่ให้เจอกันตลอด 3 เดือน ค่ะ หนูก้เข้าใจว่าเป็นห่วง แต่หนูคิดว่าแม่ทำเกินไปมั้ย หนูเห็นคนอื่นๆไม่เห็นโดนบ่นโดนว่าเหมือนหนูเลย เงินที่ใช้หนูก็หาเอง เดือนนึงจะเที่ยวครั้งนึง แล้วประมาน2-3 อาทิตเเฟนจะมาที่บ้านทีนึง มาหาก็คุยกันที่แจ้งค่ะ นอกบ้านคะ เพราะรู้ว่าไม่เหมาะสม แล้วแม่หนูก็ไม่ได้ว่าน่ะคะที่มีแฟน
หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะคะ ว่าทำไมถึงไม่ปล่อยให้เด็กได้คิดเองบ้าง หนูเคยขอแม่ว่าขอเที่ยวได้มั้ย แม่บอกว่า งั้นเที่ยวห้ามมีแฟนน่ะ แต่พอจะไปจริงๆก็ไม่ให้ไปค่ะ แล้วก็เลยมีแฟนค่ะ พอมี ผู้ชายก็โดนพ่อแม่หนูกดดัน หนูก็โดนทิ้งไปหมด ที่มีแฟนมาคบแต่คนดีๆค่ะ มีที่ไม่ดีบ้างก้ยอมเลิกค่ะ เพื่อความสบายใจของพ่อแม่ แล้ววันไหนมีงานคอมเสิตตอนกลางคืน ก็ขอแม่พ่อไปเที่ยว อยากดูคอนเสิต พ่อกับแม่ก้ไม่ให้ไป พอขอให้พาไปก็ไม่พาไป บางทีหนูเห็นรุ่นน้อง อายุแค่ 12-14 ไปดูกันไปกับเพื่อน ไปกับแฟน หนูก็สงสัยน่ะคะ ตัวหนูก็ไม่ได้ถเลไถลค่ะ.หนูรู้ตัวเองดีว่าอะไรควรไม่ควร แต่พ่อกับแม่ไม่ให้ไปค่ะ บอกว่าเป็นห่วง แต่พี่หนูก็ไปน่ะคะ พ่อกับแม่ก็ไม่ให้ไป ไม่รู้ว่าเป็นที่ตัวหนูไม่ดีรึว่าพ่อแม่หนูคิดมากกันแน่ หนูกลายเป็นเด็กเก็บกดไปเฉยเลย
สมัยนี้กับสมัยก่อนมันต่างกันน่ะหนูว่า พ่อแม่บางคนเข้าใจลูก บางคนก็ตั้งกฏเกณฑ์มากมายน่าลำคาญ ตีกรอบให้เด็ก ไม่ปล่อยให้เด็กคิดเอง ถ้าทำอะไรไม่ดีก็ค่อยว่ากล่าวตักเตือน หนูว่าเด็กแบบนี้ดีกว่าเยอะเลยค่ะ ได้เป็นอิสระ ได้ทำอะไรหลายๆอย่างด้วยตนเอง ได้คิดเองว่าอันไหนควรไม่ควร ฝึกฝนการเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต กีกว่าพวกตีกรอบค่ะ เหมือนกบในกะลา พ่อแม่บอกทุกอย่างให้ลูกทำตาม ห้ามสิ่งที่ลูกอยากทำ แล้วบอกให้ลูกคิด แต่ไม่ปล่อยให้ลงมือทำในสิ่งที่คิด พอลูกโต เข้ามหาลัยก้ใช้ชีวิตแบบแขวนอยู่บนเส้นด้ายไม่มีใครประคอง พวกที่ไม่ตีกรอบให้ลูกก้เหมือนเดินข้ามลำธารเล็กๆ ถึงจะไม่มีใครประคองแต่ก็มีประสบการณ์เยอะ เพราะที่ผ่านมาเป็นบทเรียน
แต่หนูก้ไม่เข้าใจพ่อแม่ตัวเองอยู่ดีค่ะ ควรเปลี่ยนทัศนคติน่ะหนูว่า หนูอยากปลดปล่อย อยากไปเที่ยวบ้าง เหนื่อยจากการเรียนแล้วต้องมานั่งเครียดเรื่องครอบครัว
เพื่อนทั้งกลุ่มออกได้ยกเว้นเรา บางทีมันก้น้อยใจน่ะคะ อิจฉาคนอื่นๆเขา พ่อแม่เขาเข้าใจ ขนาาดหนูจะไปเล่นกีฬาที่รร.แถวบ้านก้ไปไม่ได้ค่ะ เพราะ พ่อกลัวคนอื่นมาแซวหนู แต่วัยรุ่นแถวบ้านก็รู้จักกันทั้งนั้นค่ะ เหมือนพ่อหวงเกินไปไหม จะเล่นกีฬาทีนึงขับรถประมาณ 7-8 กม. เพื่อไปเล่นอีกโรงเรียน บำบากค่ะ คิดว่าถ้าเที่ยวจะง่ายกว่าเยอะ
อยากเถียงบางเรื่องเหมือนกัน แต่ก้คิดค่ะว่าต้องบาปแน่นอน
ทุกวันนี้ก้ได้แต่คิดสิ่งที่อยากทำ แต่ไม่มีโอกาสที่จะได้ทำมันค่ะ เสียดายค่ะ
ปล. ความรู้สึกล้วนๆค่ะ พิมไปร้องไห้ไปคะ 555555 เก็บกดเนาะ หลายๆคนคงเข้าใจ ขอบคุณค่ะ
เพื่อนๆ คนอื่นเที่ยวได้ แต่ทำไมพ่อ-แม่เราเหมือนไม่เข้าใจเลย แบบนี้เป็นที่เราหรือพ่อ-แม่ ค่ะ ?
หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะคะ ว่าทำไมถึงไม่ปล่อยให้เด็กได้คิดเองบ้าง หนูเคยขอแม่ว่าขอเที่ยวได้มั้ย แม่บอกว่า งั้นเที่ยวห้ามมีแฟนน่ะ แต่พอจะไปจริงๆก็ไม่ให้ไปค่ะ แล้วก็เลยมีแฟนค่ะ พอมี ผู้ชายก็โดนพ่อแม่หนูกดดัน หนูก็โดนทิ้งไปหมด ที่มีแฟนมาคบแต่คนดีๆค่ะ มีที่ไม่ดีบ้างก้ยอมเลิกค่ะ เพื่อความสบายใจของพ่อแม่ แล้ววันไหนมีงานคอมเสิตตอนกลางคืน ก็ขอแม่พ่อไปเที่ยว อยากดูคอนเสิต พ่อกับแม่ก้ไม่ให้ไป พอขอให้พาไปก็ไม่พาไป บางทีหนูเห็นรุ่นน้อง อายุแค่ 12-14 ไปดูกันไปกับเพื่อน ไปกับแฟน หนูก็สงสัยน่ะคะ ตัวหนูก็ไม่ได้ถเลไถลค่ะ.หนูรู้ตัวเองดีว่าอะไรควรไม่ควร แต่พ่อกับแม่ไม่ให้ไปค่ะ บอกว่าเป็นห่วง แต่พี่หนูก็ไปน่ะคะ พ่อกับแม่ก็ไม่ให้ไป ไม่รู้ว่าเป็นที่ตัวหนูไม่ดีรึว่าพ่อแม่หนูคิดมากกันแน่ หนูกลายเป็นเด็กเก็บกดไปเฉยเลย
สมัยนี้กับสมัยก่อนมันต่างกันน่ะหนูว่า พ่อแม่บางคนเข้าใจลูก บางคนก็ตั้งกฏเกณฑ์มากมายน่าลำคาญ ตีกรอบให้เด็ก ไม่ปล่อยให้เด็กคิดเอง ถ้าทำอะไรไม่ดีก็ค่อยว่ากล่าวตักเตือน หนูว่าเด็กแบบนี้ดีกว่าเยอะเลยค่ะ ได้เป็นอิสระ ได้ทำอะไรหลายๆอย่างด้วยตนเอง ได้คิดเองว่าอันไหนควรไม่ควร ฝึกฝนการเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต กีกว่าพวกตีกรอบค่ะ เหมือนกบในกะลา พ่อแม่บอกทุกอย่างให้ลูกทำตาม ห้ามสิ่งที่ลูกอยากทำ แล้วบอกให้ลูกคิด แต่ไม่ปล่อยให้ลงมือทำในสิ่งที่คิด พอลูกโต เข้ามหาลัยก้ใช้ชีวิตแบบแขวนอยู่บนเส้นด้ายไม่มีใครประคอง พวกที่ไม่ตีกรอบให้ลูกก้เหมือนเดินข้ามลำธารเล็กๆ ถึงจะไม่มีใครประคองแต่ก็มีประสบการณ์เยอะ เพราะที่ผ่านมาเป็นบทเรียน
แต่หนูก้ไม่เข้าใจพ่อแม่ตัวเองอยู่ดีค่ะ ควรเปลี่ยนทัศนคติน่ะหนูว่า หนูอยากปลดปล่อย อยากไปเที่ยวบ้าง เหนื่อยจากการเรียนแล้วต้องมานั่งเครียดเรื่องครอบครัว
เพื่อนทั้งกลุ่มออกได้ยกเว้นเรา บางทีมันก้น้อยใจน่ะคะ อิจฉาคนอื่นๆเขา พ่อแม่เขาเข้าใจ ขนาาดหนูจะไปเล่นกีฬาที่รร.แถวบ้านก้ไปไม่ได้ค่ะ เพราะ พ่อกลัวคนอื่นมาแซวหนู แต่วัยรุ่นแถวบ้านก็รู้จักกันทั้งนั้นค่ะ เหมือนพ่อหวงเกินไปไหม จะเล่นกีฬาทีนึงขับรถประมาณ 7-8 กม. เพื่อไปเล่นอีกโรงเรียน บำบากค่ะ คิดว่าถ้าเที่ยวจะง่ายกว่าเยอะ
อยากเถียงบางเรื่องเหมือนกัน แต่ก้คิดค่ะว่าต้องบาปแน่นอน
ทุกวันนี้ก้ได้แต่คิดสิ่งที่อยากทำ แต่ไม่มีโอกาสที่จะได้ทำมันค่ะ เสียดายค่ะ
ปล. ความรู้สึกล้วนๆค่ะ พิมไปร้องไห้ไปคะ 555555 เก็บกดเนาะ หลายๆคนคงเข้าใจ ขอบคุณค่ะ