“ถ้าเมืองจีนมีเว็บ Alibaba...เมืองไทยเราก็มีเว็บ Thaitrade.com เช่นกัน”
ซึ่งเว็บ Thaitrade.com ก็เปรียบเสมือนตลาดขายส่งสินค้าไทยผ่านระบบออนไลน์ หรืออีมาร์เก็ตเพลส ที่ควบคุมดูแลโดยรัฐบาลเพราะสมัยนี้ SME เจ้าไหนไม่รู้จักปรับตัวขายในโลกออนไลน์ ต้องถือว่าเสียโอกาสอย่างมหาศาล เพราะจากลูกค้า 70 ล้านคนในเมืองไทย จะกลายเป็นลูกค้าหลายร้อยล้านคนทั่วโลก ตลาดใหญ่ขึ้น โอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้น และแน่นอนว่าจะนำซึ่งผลกำไรที่มากขึ้นตามไปด้วย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้ช่วยผลักดันให้ SME ไทยมีความเข้มแข็งในการแข่งขันมากขึ้น โดยริเริ่มโครงการเว็บไซต์ตลาดกลางพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ Thaitrade.com มาตั้งแต่ปี 2554 เพื่อเป็นช่องทางให้กับผู้ประกอบการไทย ในการนำเสนอสินค้าให้กับผู้ซื้อทั่วโลกผ่านระบบออนไลน์ อีกทั้งยังการันตีความปลอดภัยให้กับผู้ซื้อด้วยการตรวจสอบสมาชิกผู้ขายโดยภาครัฐอีกด้วย
โดยThaitrade.com จะเน้นการขายในลักษณะ B2B(Business to Business) ออเดอร์กันเป็นล็อตใหญ่ มูลค่าการซื้อขายต่อหนึ่งคำสั่งซื้อค่อนข้างสูง ตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2554 จนถึง 31 ม.ค.2559 มีมูลค่าคาดการณ์(Buying Request)ทั้งสิ้นกว่า 56,000 ล้านบาท จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 113,492 ราย สมาชิกผู้ขายจำนวน 18,258 ร้านค้า สมาชิกผู้ซื้อจากทั่วโลก 95,234 ราย และมีผู้ใช้บริการจากทั่วโลกมาค้นหาสินค้า 3,479,109 ราย เข้าชมสินค้า 17,413,680 Page Views จาก 237 ประเทศทั่วโลก จำนวนสินค้าบนเว็บไซต์ 239,021 รายการ สินค้าที่ได้รับความสนใจสูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่อาหารและเครื่องดื่ม เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย สินค้าสุขภาพและความงาม สินค้าเกษตร และสินค้าแฟชั่น
(ข้อมูล ณ.วันที่ 1 ม.ค. 59) เรียกได้ว่าเป็นก้าวแรกที่ได้รับการตอบรับจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขายทั่วโลกเป็นอย่างดี
แล้วถ้าเป็นแค่ SME รายย่อยล่ะ จะส่งออกได้มั้ย?
เพื่อเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SME รายย่อยซึ่งมีอยู่กว่าร้อยละ 90 ของผู้ประกอบการทั้งประเทศอีกทั้งยังตอบสนองพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มเปลี่ยนจากการสั่งซื้อในปริมาณมาก มาเป็นสั่งซื้อในปริมาณน้อยลง (Small Order) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จึงขยายบริการเพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมไปถึงการขายในปริมาณที่น้อยลงหรือการขายปลีกด้วย โดยจะเปิดตัว เว็บไซต์Thaitrade.com Small Order OK หรือ Thaitrade.com SOOK ขึ้นมาเพิ่มเติม ในเดือนพ.ค. 2559
เป็นการต่อยอดจากเว็ปไซต์ Thaitrade.com ซึ่งดำเนินการแบบ B2B(Business to Business) มาเป็น B2B2C (Business to Business to Customer) ซึ่งเน้นการค้าแบบขายปลีก สามารถสั่งซื้อสินค้าในจำนวนไม่มากและมูลค่าการซื้อ-ขายในแต่ละครั้งไม่สูงมาก เหมาะสำหรับการขายสินค้าในปริมาณไม่มากนัก(ปลีก) หรือการขายสินค้าตัวอย่าง อีกทั้งสามารถดำเนินการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าในต่างประเทศได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ทันสมัย ปลอดภัย ครบวงจร
ทั้งนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับธนาคารกรุงเทพ ให้พัฒนาระบบรับชำระเงินออนไลน์ (Small Lot Order with e-Payment) เพื่ออำนวยความสะดวกให้สมาชิกผู้ซื้อสินค้าสามารถชำระเงินผ่านวิธีการอันหลากหลายแบบออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย
ในส่วนของระบบผู้ให้บริการขนส่ง ได้มีการเชื่อมโยงระบบการตรวจสอบการขนส่งสินค้ากับองค์กรพันธมิตร อาทิ ไปรษณีย์ไทย DHL express เป็นต้น พร้อมด้วยสิทธิประโยชน์พิเศษมากมายสำหรับผู้ค้าบนเว็บ Thaitrade.com SOOK (สิทธิพิเศษเฉพาะ 100 รายแรก) อาทิ ส่วนลดอัตราพิเศษจากบริษัท ดีเอชแอลฯ สำหรับการขนส่งสินค้าทางอากาศแบบเร่งด่วนระหว่างประเทศ ที่ทำการลงทะเบียนขนส่งสินค้าผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการที่มีสินค้าดีอยู่ในมือและกำลังมองหาช่องทางการส่งออกสินค้าไปสู่ตลาดโลก Thaitrade.com SOOK คือโอกาสก้าวสำคัญของคุณ เพราะสามารถซื้อขายได้ตลอดทุกที่ทุกเวลา อีกทั้งยังสามารถโพสต์สินค้าได้ไม่จำกัดจำนวน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ (มีเพียงค่า Transaction fee ให้กับธนาคารกรุงเทพ และค่าขนส่งกับผู้ประกอบการขนส่ง ซึ่งผู้ซื้อเป็นคนจ่าย เหมือนกับการขายสินค้าออนไลน์ในเว็บชั้นนำระดับโลกอื่นๆ) ดำเนินการโดยกระทรวงพาณิชย์ ตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ต้องการช่วยเหลือและสนับสนุน SME ไทยเพิ่มช่องทางการค้า
Thaitrade.com SOOK มีกำหนดเปิดตัวและให้บริการอย่างครบวงจรในเดือน พ.ค.2559 นี้
แต่เชิญคลิ๊กอ่านรายละเอียดล่วงหน้าได้ที่
http://www.thaitrade.com/
เพราะได้ข่าวว่าตอนนี้เริ่มมีการรับสมัครผู้ขายแล้ว
(รายละเอียดสำหรับเว็บไซต์Thaitrade.com SOOK น่าจะแล้วเสร็จในประมาณสัปดาห์ที่สองของเดือนมีนาคมนี้)
เมื่อSMEไทยเข้มแข็ง เศรษฐกิจไทยก็จะเข้มแข็ง
วันนี้ธุรกิจของคุณพร้อมก้าวไปสู่ยุค Digital Economy ด้วยกันหรือยัง
มาทำความรู้จัก Thaitrade.com SOOK เว็ปไซต์ ตลาดค้าส่งออนไลน์ของไทยกันเถอะ
ซึ่งเว็บ Thaitrade.com ก็เปรียบเสมือนตลาดขายส่งสินค้าไทยผ่านระบบออนไลน์ หรืออีมาร์เก็ตเพลส ที่ควบคุมดูแลโดยรัฐบาลเพราะสมัยนี้ SME เจ้าไหนไม่รู้จักปรับตัวขายในโลกออนไลน์ ต้องถือว่าเสียโอกาสอย่างมหาศาล เพราะจากลูกค้า 70 ล้านคนในเมืองไทย จะกลายเป็นลูกค้าหลายร้อยล้านคนทั่วโลก ตลาดใหญ่ขึ้น โอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้น และแน่นอนว่าจะนำซึ่งผลกำไรที่มากขึ้นตามไปด้วย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้ช่วยผลักดันให้ SME ไทยมีความเข้มแข็งในการแข่งขันมากขึ้น โดยริเริ่มโครงการเว็บไซต์ตลาดกลางพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ Thaitrade.com มาตั้งแต่ปี 2554 เพื่อเป็นช่องทางให้กับผู้ประกอบการไทย ในการนำเสนอสินค้าให้กับผู้ซื้อทั่วโลกผ่านระบบออนไลน์ อีกทั้งยังการันตีความปลอดภัยให้กับผู้ซื้อด้วยการตรวจสอบสมาชิกผู้ขายโดยภาครัฐอีกด้วย
โดยThaitrade.com จะเน้นการขายในลักษณะ B2B(Business to Business) ออเดอร์กันเป็นล็อตใหญ่ มูลค่าการซื้อขายต่อหนึ่งคำสั่งซื้อค่อนข้างสูง ตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2554 จนถึง 31 ม.ค.2559 มีมูลค่าคาดการณ์(Buying Request)ทั้งสิ้นกว่า 56,000 ล้านบาท จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 113,492 ราย สมาชิกผู้ขายจำนวน 18,258 ร้านค้า สมาชิกผู้ซื้อจากทั่วโลก 95,234 ราย และมีผู้ใช้บริการจากทั่วโลกมาค้นหาสินค้า 3,479,109 ราย เข้าชมสินค้า 17,413,680 Page Views จาก 237 ประเทศทั่วโลก จำนวนสินค้าบนเว็บไซต์ 239,021 รายการ สินค้าที่ได้รับความสนใจสูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่อาหารและเครื่องดื่ม เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย สินค้าสุขภาพและความงาม สินค้าเกษตร และสินค้าแฟชั่น
(ข้อมูล ณ.วันที่ 1 ม.ค. 59) เรียกได้ว่าเป็นก้าวแรกที่ได้รับการตอบรับจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขายทั่วโลกเป็นอย่างดี
แล้วถ้าเป็นแค่ SME รายย่อยล่ะ จะส่งออกได้มั้ย?
เพื่อเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SME รายย่อยซึ่งมีอยู่กว่าร้อยละ 90 ของผู้ประกอบการทั้งประเทศอีกทั้งยังตอบสนองพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มเปลี่ยนจากการสั่งซื้อในปริมาณมาก มาเป็นสั่งซื้อในปริมาณน้อยลง (Small Order) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จึงขยายบริการเพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมไปถึงการขายในปริมาณที่น้อยลงหรือการขายปลีกด้วย โดยจะเปิดตัว เว็บไซต์Thaitrade.com Small Order OK หรือ Thaitrade.com SOOK ขึ้นมาเพิ่มเติม ในเดือนพ.ค. 2559
เป็นการต่อยอดจากเว็ปไซต์ Thaitrade.com ซึ่งดำเนินการแบบ B2B(Business to Business) มาเป็น B2B2C (Business to Business to Customer) ซึ่งเน้นการค้าแบบขายปลีก สามารถสั่งซื้อสินค้าในจำนวนไม่มากและมูลค่าการซื้อ-ขายในแต่ละครั้งไม่สูงมาก เหมาะสำหรับการขายสินค้าในปริมาณไม่มากนัก(ปลีก) หรือการขายสินค้าตัวอย่าง อีกทั้งสามารถดำเนินการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าในต่างประเทศได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ทันสมัย ปลอดภัย ครบวงจร
ทั้งนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับธนาคารกรุงเทพ ให้พัฒนาระบบรับชำระเงินออนไลน์ (Small Lot Order with e-Payment) เพื่ออำนวยความสะดวกให้สมาชิกผู้ซื้อสินค้าสามารถชำระเงินผ่านวิธีการอันหลากหลายแบบออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย
ในส่วนของระบบผู้ให้บริการขนส่ง ได้มีการเชื่อมโยงระบบการตรวจสอบการขนส่งสินค้ากับองค์กรพันธมิตร อาทิ ไปรษณีย์ไทย DHL express เป็นต้น พร้อมด้วยสิทธิประโยชน์พิเศษมากมายสำหรับผู้ค้าบนเว็บ Thaitrade.com SOOK (สิทธิพิเศษเฉพาะ 100 รายแรก) อาทิ ส่วนลดอัตราพิเศษจากบริษัท ดีเอชแอลฯ สำหรับการขนส่งสินค้าทางอากาศแบบเร่งด่วนระหว่างประเทศ ที่ทำการลงทะเบียนขนส่งสินค้าผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการที่มีสินค้าดีอยู่ในมือและกำลังมองหาช่องทางการส่งออกสินค้าไปสู่ตลาดโลก Thaitrade.com SOOK คือโอกาสก้าวสำคัญของคุณ เพราะสามารถซื้อขายได้ตลอดทุกที่ทุกเวลา อีกทั้งยังสามารถโพสต์สินค้าได้ไม่จำกัดจำนวน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ (มีเพียงค่า Transaction fee ให้กับธนาคารกรุงเทพ และค่าขนส่งกับผู้ประกอบการขนส่ง ซึ่งผู้ซื้อเป็นคนจ่าย เหมือนกับการขายสินค้าออนไลน์ในเว็บชั้นนำระดับโลกอื่นๆ) ดำเนินการโดยกระทรวงพาณิชย์ ตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ต้องการช่วยเหลือและสนับสนุน SME ไทยเพิ่มช่องทางการค้า
Thaitrade.com SOOK มีกำหนดเปิดตัวและให้บริการอย่างครบวงจรในเดือน พ.ค.2559 นี้
แต่เชิญคลิ๊กอ่านรายละเอียดล่วงหน้าได้ที่ http://www.thaitrade.com/
เพราะได้ข่าวว่าตอนนี้เริ่มมีการรับสมัครผู้ขายแล้ว
(รายละเอียดสำหรับเว็บไซต์Thaitrade.com SOOK น่าจะแล้วเสร็จในประมาณสัปดาห์ที่สองของเดือนมีนาคมนี้)
เมื่อSMEไทยเข้มแข็ง เศรษฐกิจไทยก็จะเข้มแข็ง
วันนี้ธุรกิจของคุณพร้อมก้าวไปสู่ยุค Digital Economy ด้วยกันหรือยัง