สยามสปอดขู่ฟ้องสมาคมฟุตบอล765ล้านบาท หากยกเลิกสัญญา

กระทู้สนทนา
สยามสปอร์ต เตรียมหารือสมาคมฟุตบอลฯ อีกครั้ง เพราะยังไม่มีจดหมายแจ้งยกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการ หวั่นเป็นมือที่สามตั้งใจสร้างความแตกแยก ย้ำให้รักษาสัญญากับสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุน ไม่เช่นนั้นอาจเสียหายมูลค่ากว่า 765 ล้านบาท
       
       เมื่อวันอังคารที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ สตูดิโอสยามสปอร์ต รามอินทรา 40 นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล ประธานกรรมการบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) ได้เป็นประธานแถลงข่าวกรณีที่ทาง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้ให้ข่าวว่า สมาคมฟุตบอลจะยกเลิกสัญญาบริหารสิทธิประโยชน์กับบริษัทสยามสปอร์ตฯ โดยอ้างว่าเป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับสมาคม และกล่าวว่าเป็นสัญญาผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีการกำหนดค่าตอบแทนให้แก่สมาคมนั้น
       
       โดย นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล เปิดเผยว่า "ทางสยามสปอร์ตฯ ขอยืนยันว่าในข้อกล่าวหา 4 กรณีที่ถูกกล่าวหา เรื่องเราทำสัญญาไม่เป็นธรรมกับสมาคมนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะเมื่อ 10 ปีก่อน สมาคมฟุตบอลฯ ได้ข้อร้องให้บริษัทฯ ช่วยทำให้กีฬาฟุตบอล ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ซึ่งต้องล้มลุกคลุกคลานอยู่นานจนประสบความสำเร็จ และได้ทรูวิชั่นเข้ามาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และทำให้มูลค่าการตลาดเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งมีการตรวจสอบได้
       
       กรณีที่สองคือไม่มีการกำหนดค่าตอบแทนให้สมาคมฯ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะสมาคมฯ เป็นผู้แต่งตั้งบริษัทสยามสปอร์ตฯ ให้ทำหน้าที่หารายได้ และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะน้อยกว่ารายได้ที่ได้รับก็ตาม ซึ่งสมาคมฯ จะไม่แบกรับค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยรายละเอียดทั้งหมดได้กำหนดอยู่ในสัญญาที่บริษัทฯ ได้รับ นอกจากนี้กรณีที่สามกล่าวว่า สมาคมฯ ไม่มีอิสระในการบริหารงาน ทั้งที่สมาคมฯ ได้กำหนดฝ่ายที่ทำหน้าที่ต่างๆ 3 ฝ่ายด้วยกัน ได้แก่ สมาคมฟุตบอลฯ, บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก และ บริษัท สยามสปอร์ตฯ โดยมอบหมายให้ดูแลสิทธิประโยชน์ ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจน
       
       และกรณีที่สี่ สมาคมฯ ไม่สามารถวางแผนงบประมาณด้วยตนเองนั้น ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในแต่ละปีสมาคมฯจะทราบดีว่าจะได้รับเงินมาจากส่วนไหนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นจาก ฟีฟ่า, การหาสปอนเซอร์เข้าทีมชาติ หรือ ส่วนแบ่งจากการบริหารสิทธิประโยชน์" นายอดิศัย กล่าว
       
       นอกจากนี้ ประธานกรรมการบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) ยังกล่าวอีกว่าไม่ต้องการตอบโต้ใดๆ กับสมาคมฟุตบอลฯ เพราะเคารพในมติสภากรรมการ และยังหวังจะเข้าไปพูดคุยกับสมาคมฯ อีกครั้งเพราะยังไม่มีจดหมายแจ้งยกเลิกสัญญากับบริษัทฯ แต่เราอยากให้รักษาสัญญาของสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุน อาทิ ทรูวิชั่น, ไทยเบฟ, โตโยต้า, ยามาฮ่า หรือ เอไอเอส ที่จะหมดสัญญาลงในปีนี้ มิเช่นนั้นอาจจะมีค่าเสียหายกว่า 765 ล้านบาท ถ้ายกเลิกสัญญากับสปอนเซอร์ก่อนกำหนด"
       
       โดยหลังจากที่ทางผู้บริหารสมาคมฟุตบอลชุดใหม่ของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วงเข้ามาบริหารงาน ทางสยามสปอร์ตฯ ได้ส่ง นายศรายุทธ มหวลีรัตน์ เป็นตัวแทนเข้าไปร่วมประชุมชี้แจงรายละเอียดการบริหารงานสิทธิประโยชน์กับสมาคม ทั้งรายรับ รายจ่าย พร้อมเอกสารสัญญาที่ทำไว้กับสมาคมฟุตบอลอย่างชัดเจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ปี 2557 จะเห็นได้ชัดว่าสยามสปอร์ตฯ ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อย กระทั่งช่วง 2-3 ปีนี้เองที่เกิดกระแสฟุตบอลไทยคึกคัก สร้างมูลค่าให้กับวงการฟุตบอลอย่างมหาศาล แฟนบอลแห่เข้าชมจำนวนมาก ก่อให้เกิดรายได้ในทุกส่วน ลิขสิทธิ์จากการบริหารสิทธิประโยชน์ ที่มีผู้ซื้อสิทธิ์การถ่ายทอดสดมีมูลค่าสูงขึ้นทุกปี และมีการนำไปแบ่งจ่ายให้กับแต่ละสโมสรจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในทุกลีกตามที่เป็นข่าว
       
       "ทั้งนี้เราจะเจรจากับผู้บริหารชุดใหม่ดูอีกครั้ง เพราะเชื่อว่ายังไม่ได้ศึกษาผลงานที่ผ่านมาของสยามสปอร์ต แต่อาจจะมีบางคนที่เจตนาไม่ดีรายงายข้อมูลเท็จให้ พล.ต.อ.สมยศ ทราบ เพราะต้องการให้เกิดความแตกแยก แต่ถึงกระนั้นหากมีการยกเลิกสัญญากับบริษัทฯจริง เราก็ยังคงเดินหน้าสนับสนุนกีฬาชนิดอื่นต่อไป เพราะสยามสปอร์ตต้องทำงานภายใต้วงการกีฬาไทยอยู่แล้ว นายพิศัย กล่าวทิ้งท้าย"
       

ที่มา http://www.manager.co.th/home/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่