ล็อคเป้าเล็งสังหาร

พิษมรณะที่จะฆ่าทุกอย่าง

ทั้งไฟฟ้ากัดกร่อนถึงวิญญาน
พันธนาการใว้ในความมืดมน
10 สัตว์ที่มีอาวุธโหด
10.common vampire bat

ค้างคาวแห่งหายนะ จอมดูดเลือดแห่งอเมริกาใต้ ใหญ่และโหดไม่น้อยในตระกูลไมโครแบท
กินเลือดเป็นอาหาร บางครั้งอาจนำพาความตายมาสู่สัตว์เล็ก
ทำไมถึงติดอันดับ:คีย์เวิร์ดคือเทคโนโลยีโซนาร์ และสารเคมีที่ทำให้เลือดหยุดไหล
ปีศาจดูดเลือดที่มีระบบการล่าเหยื่อ ถ้าใครโดนกัดเข้าไปคงไม่สนุกแน่ๆ
9.Bombardier beetles


แม้จะมีความยาวเพียงสองเซนติเมตร แต่ความสามารถในการใช้อาวุธเคมี
ของแมลงตดนั้นไม่เป็นสองรองใคร แก้สพิษร้ายแรง
ความร้อนเกินกว่า 100 องศา จะแผดเผาร่างของเหยื่อจนกว่าจะถึงแก่
สิ้นสุด มันใช้การผสมสารเคมีสองชนิดในช่องท้อง
สร้างคลื่นพิษที่อาจมีพลังทำลายเพียงพอสังหาร
สัตว์นักล่าหลายชนิด ให้ถึงแก่ความตายได้
แมลงตดบางชนิด ในแอฟริกา อาจปล่อยสารพิษ
ที่ถึงตายด้วยความร้อนสูงกว่า 270 องศา
มันอาจยิงได้ด้วยปริมาณ 500 เฟสต่อวินาที
benzoquinone คือชื่อของพิษนั้น
8.Spitting cobra

พลปืนพิษผู้โหดเหี้ยมที่สุดแห่งแอฟริกาและเอเชีย มักลังเลที่จะเหนี่ยวไกยิง
แต่ถ้ามันตัดสินใจยิงออกไปแล้ว มักจะมีความตายตามมา สปีชีส์ที่ใหญ่ที่สุดอาจมีความยาวถึง
2.7 เมตร และถ้าพิษของพวกมันเข้าตา ก็อาจทำให้ตาบอดได้ในทันที จึงนับเป็น
ฝันร้ายในธรรมชาติ ตระกูลโหดของงูพิษพวกนี้ มีจำนวนมากกว่า 20 สปีชีส์
และที่น่าสยดสยอง คือในไทยก็เจอได้ 2 ชนิดงูเห่าพ่นพิษสีทอง และงูเห่าพ่นพิษสยาม
7.komodo dragon

ไอ้นี่ก็โหดไม่แพ้ใคร กิ้งก่าที่คิดจะครองบัลลังก์ของฟลอเรส
และรินกาเอาใว้ใต้ฝ่าเท้า ผู้นำพาความตายจากแดนใต้ มังกรโคโมโด
ด้วยความยาวถึง 3.6 เมตร และหนักได้มากกว่า
150 กืโลกรัม แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่โคโมโดติดอันดับสัตว์ร้ายในครั้งนี้
แต่ความจริงไอ้ที่ทำให้มังกรโหดแห่งเกาะรินกา
เป็นที่หวาดกลัวของคนทั้งโลก ก็เพราะว่าน้ำลายของร้ายโหดบรมโหดตัวนี้ เล่น
มีทั้งพิษชีวภาพจากแบคทีเรีย พิษที่เป็นเคมีจริงๆ ใหนจะความตายที่ซ่อนอยู่ใต้คมเขี้ยวที่พับได้นั่นอีก
6.snapping shrimp

มีชื่อไทยว่ากุ้งดีดขัน สามารถดีดก้ามเพื่อสร้างคลื่นเสียง
มหาบรรลัยหู ความดังหลายร้อยเดซิเบล(ความดังจริงๆ อยู่ที่ 218 เดซิเบล) ในระยะ 4 เซนติเมตร
และสามารถสร้างคลื่นกระแทกกเทียบเท่าคลื่นเสียง 180-190 เดซิเบล ได้ในระยะ 1 เมตร
นอกจากนั้นกุ้งโคตรโกงอย่างกุ้งดีดขัน ยังสามารถสร้างคลื่นความร้อน
มหาศาลด้วย Sonoluminescence ใช้คลื่นฟองอากาศ สร้างความเสียหายรุนแรง
ให้กับเหยี่อขนาดเล็ก ความร้อนของฟองอากาศที่ทลายตัว อาจร้อนได้เกือบเท่าพึ้นผิวของดวงอาทิตย์
แต่มีขนาดที่เล็กเอามาก จึงแผ่ความร้อนได้แคบ
5.mantis shrimps

เพิ่มขนาดและความน่ากลัว กับนักล่าที่เกือบจะครอบครองท้องทะเล
ใว้ใต้ความมืดดำ กั้งตักแตนเป็นสัตว์ที่สามารถต่อยได้ด้วยหมัดที่สร้างความเร่งได้ยิ่ง
กว่ากระสุนปืน บางรายงานบอกว่ามันสามารถซัดกระจกแตกได้
ง่ายๆ จึงได้ชื่อว่าเป็นจอมหมัดที่ว่องใวที่สุดในโลก
4.black mamba



ถึงจะไม่มีพิษพ่นระยะใกลแบบตระกูลงูเห่าพ่นพิษ คุณก็ไม่ควร
ประมาทราชันย์แห่งแอฟริกาให้มากไป จอมโหดตัวนี้มีความเร็วปกติอยู่ที่
12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจเร่งได้เร็วถึง 24 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทำให้ใครๆ ก็หวาดกลัวด้วยความเร็ว ที่มากกว่ามนุษย์ส่วนมากบนโลกใบนี้
มีพิษนิวโตรท็อกซิน และคาร์ดีโอท็อกซิน
ในกรณีที่ไม่ได้รับการรักษา อัตราการตายเพราะพิษของแบล็กแมมบ้าแทบจะ 100% ที่เดียว เคยมีรายงาน สุนัข 7 ตัว ช่วยกันรุมจอมโหดแห่งแอฟริกา แต่พวกมันถูกฆ่าจนหมด โดยที่งูโหดได้รับการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แบล็กแมมบ้ามีอายุยืนได้ถึง 11 ปีในป่า และ 20 ปี ในที่กักกัน
พิษ 10-15 กรัมฆ่ามนุษย์ผู้ใหญ่ได้ แต่ราชันย์แห่งงูอาจปล่อยพิษได้ร่วม 120 กรัมในการกัดปกติ และ 400 กรัม
ในการกัดแบบจมเขี้ยว สามารถชูคอจากพึ้นได้สูง 4 ฟุต และเป็นนักฆ่านกและสัตว์เลี้ยงสูงด้วยนม
บางครั้งมันแพร่พิษเพื่อฆ่าตัวไฮแรกซ์ เหยื่อของแบล็กแมมบ้า
หลายตัว มักจะตายด้วยการกัดติดต่อกันหลายครั้ง แพร่สารพิษจำนวนมากเข้าทำลาย
อวัยวะต่างๆ ของเหยื่อ เขี้ยวพิษของแบล็กแมมบ้าอาจยาวได้ถึง 22 มิลลิเมตร
เหยื่อที่ถูกกัดจะมีอาการใข้สูง ทำลายระบบทางเดือนหายใจ ภาวะโรคหัวใจและหลอดเลือดอย่างกระทันหัน อาการบาดเจ็บที่ระบบประสาท จะทำร้ายเหยื่อที่ถูกพิษรุนแรง ในเวลาไม่ถึง 10 นาที
ไอหรือหายใจลำบาก ง่วงนอน ปวดหัว รวมถึงไตวายในบางเคส ด้วยความจริงที่ว่างูแบล็กแมมบ้า
มักจะแพร่พิษปริมาณมากถึง 100-400 มิลลิกรัมในการกัดแต่ละครั้ง
รวามถึงการกัดแบบต่อเนื่อง ด้วยพิษร้ายแรง จึงทำให้ต้องใช้ยาแก้พิษปริมาณ 10-30 ขวด
ต่อให้มียาแก้พิษแล้ว โอการตายมีมากถึง 14% อยู่ดี หรือมากกว่าอัตราการตายเพราะไข้เลือดออกถึง 140 เท่า
3. mako shark


ต่อให้มีอาวุธน่ากลัวแค่ใหน ถ้าคุณซัดเหยื่อไม่โดน ก็ไม่มีประโยชน์ไม่ใช่เรอะ
หรือถ้าหาตำแหน่งเหยื่อไม่เจอก็แย่ แต่คราวนี้เราไม่มีปัญหาเรื่องนั้น
ยินดีต้อนรับ ยานเกราะสังหารความเร็วสูงแห่งท้องทะเล ฉลามมาโก จอมเขมือบสยองโลก
มันจะฆ่าเหยื่อด้วยฟันคมและความเร็ว ฉลามมาโกสามารถว่ายน้ำด้วยความเร็ว 50 กิโล
เมตรต่อชั่วโมง เป็นระยะทางใกลๆ เส้นข้างลำตัวที่ตรวจจับการสั่นสะเทือนได้ในระยะหลายร้อยเมตร
ได้กลิ่นเลือดใกลกว่าห้าร้อยเมตร และตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้
เดินทางได้ใกลถึงสองพันกิโลเมตร พลังงานจากการพุ่งชนของฉลามมาโก อาจรุนแรงได้พอๆ
กับระเบิด TNT นับร้อยๆ กิโลกรัมที่เดียว นั่นหมายถึงพลังระดับชนเรือแตก
2.electric eel

ยินดีต้อนรับ ราชาแห่งปลาผู้มีอาวุธล้ำยุค ยินดีต้อนรับ ปลาไหลไฟฟ้า Electrophorus electricus
เป็นสัตว์ที่ใหญ่และทรงพลังที่สุดในตระกูลปลาไฟฟ้าทุกสายพันธ์ มีรายงานการพบขนาดยาวกว่า 2 เมตร
และหนักกว่า 20 กิโลกรัม สำหรับปลาไหลไฟฟ้าตัวโตเต็มวัย มันสามารถช็อตได้แรงกว่า 500 โวลต์
และปล่อยได้มากกว่า 1 แอมแปร์ เป็นปกติร่างกาย(เคยมีรายงานการช็อตรุนแรงกว่า 800 โวลต์)
ซึ่งเจ้าตัวนี้ยาวได้สูงสุดถึง 2.4 เมตร ใช้ไฟฟ้าในรูปแบบ teaser ใช้ฆ่าเหยื่อและไล่ศัตรู ตอนเป็นตัวอ่อนมันจะกินสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
ตอนโตเต็มวัยนั้น มันจะล่าปลาต่างๆ ปลาใหลไฟฟ้ามีอวัยวะที่เป็นกล้ามเนึ้อคล้ายเซลล์เรียกว่า electrolocation หนึ่งเซลลให้พลัง 0.15
โวลต์ มันจะใช้พลังเพียงเล็กน้อยในการค้นหา แต่พลังเต็มที่จะใช้ในการสังหาร
กล้ามเนึ้อของปลาไหลไฟฟ้า สามารถตรวจจับแรงกระเพื่อมของน้ำได้ดีเยี่ยม
และสามารถปล่อยไฟฟ้าออกไปหยุดยั้งการเคลื่อนใหวของเหยื่อในน้ำได้ในเวลา 10-15 มิลลิวินาที!หลังจากการตรวจจับ
เครื่องช็อตไฟฟ้าจะปล่อยได้ราว 19+ ครั้งของการช็อตต่อวิ แต่เจ้าปลาใหลของเราปล่อยได้ 400+ ครั้งของการช็อตต่อวินาที
นั่นหมายความว่าเจ้าปลาใหลไฟฟ้าอาจสั่งการกล้ามเนึ้อหลายส่วนในร่างกายให้ทำงานได้ในแทบจะขณะเดียวกัน
นี่คือความลับของหนึ่งการโจมตีที่น่ากลัวที่สุดในโลกธรรมชาติ ความเร็วที่เหนือกว่าประสาทสั่งการของผู้ถูกจู่โจม!(จะบอกว่าโจมตีเร็วกว่าความคิดก็ได้)
การโจมตีด้วยไฟฟ้าจะตัดประสาทสัมผัสของเหยื่อในทันที และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมมันอันตราย เพราะกว่าคุณจะรับรู้ เจ้านักล่าก็ช็อตคุณให้เป็นอัมพาตไปแล้ว........... นอกจากนั้นไฟฟ้าของมันยังเป็นเรดาร์ธรรมชาติให้กับนักล่าจอมโหด ในน้ำที่แสนขุ่นมั่ว
ในสภาพออกซิเจนต่ำ บางครั้งเจ้าสุดยอดนักล่าเอง ก็จะขึ้นมาที่ผิวน้ำ เพื่อรับออกซิเจนเพิ่มเติม
แม้แต่จระเข้ยังไม่อยากยุ่งกับราชันย์นักล่าตนนี้ เพราะโอกาสแลกชีวิตไปด้วยกันมีสูงมาก
ไฟฟ้า 800 โวลต์ แม้แต่ม้าเทศตัวใหญ่ๆ อาจถูกฆ่าง่ายดาย
1orca

.มีอีกชื่อว่า killer whale ยาวได้ถึง 9.8 เมตร หนักได้ 9 ตัน
มันสามารถเอาชนะฉลามขาวยักษ์ หั่นวาฬสีเทา สังหารวาฬสเปิร์ม หรือแม้แต่ฆ่าวาฬสีน้ำเงิน
ออร์ก้าสังหารเหยื่อด้วยการสร้างวงล้อมมรณะ และการล็อคเป้าด้วยโซนาร์ มันสามารถสื่อสารกันด้วยภาษาที่ซับซ้อน สามารถขึ้นมาสังหารสิงโตทะเลบนชายหาด ด้วยการรอเวลาน้ำขึ้น ฝูงขนาดใหญ่ของออร์ก้า อาจรวมฝูงได้ 40-50 ตัว มันอาจมีอายุยืนถึง 90 ปี
มีคริบหลังขนาดยักษ์ สูง 1.8 เมตร และเดินทางไปมาในทะเลทั่วโลก
กรามของออร์ก้าทรงพลังยิ่งกว่าของเกรทไวท์! บางครั้งมีรายงานว่ามันห้ำหั่นวาฬสเปิร์มด้วยซ้ำ
ออร์ก้าเป็นนักล่าที่น่ากลัวที่สุดเพราะแม้สิ่งโตทะเลที่อยู่บนฝั่ง
หรือหลบอยู่บนแผ่นน้ำแข็ง มันก็ยังวางกลยุทธ์ล่าได้ ว่ายน้ำได้เร็วกว่า 50
กิโลเมตรต่อชั่วโมง กรามทรงพลังที่ห้ำหั่นได้แม้วาฬสีน้ำเงิน ทำให้มันขึ้นชื่อว่าเป็นนักล่าที่โหดที่สุด
บนดาวดวงนี้ เพราะโค่นได้ทั้งฉลามขาวยักษ์และจระเข้น้ำเค็ม
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://science.sciencemag.org/content/248/4960/1219
https://en.wikipedia.org/wiki/Bombardier_beetle
http://www.gizmag.com/bombardier-beetle-defensive-jet/37465/
http://reptile-database.reptarium.cz/species?genus=Naja&species=ashei
http://animals.nationalgeographic.com/animals/reptiles/komodo-dragon/
http://www.arkive.org/komodo-dragon/varanus-komodoensis/
http://www.livescience.com/27402-komodo-dragons.html
https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_dangerous_snakes
http://www.sciencedaily.com/releases/2014/12/141204140610.htm
http://carnivoraforum.com/topic/9486465/1/
https://en.wikipedia.org/wiki/Shortfin_mako_shark
http://www.livescience.com/43559-black-mamba.html
http://animals.nationalgeographic.com/animals/reptiles/black-mamba/
https://www.flmnh.ufl.edu/fish/discover/species-profiles/isurus-oxyrinchus
http://marinebio.org/species.asp?id=36
http://www.arkive.org/black-mamba/dendroaspis-polylepis/
http://www.blueplanetbiomes.org/black_mamba.htm
http://animals.nationalgeographic.com/animals/mammals/killer-whale/
10 สัตว์นักล่าติดอาวุธโหด
พิษมรณะที่จะฆ่าทุกอย่าง
ทั้งไฟฟ้ากัดกร่อนถึงวิญญาน
พันธนาการใว้ในความมืดมน
10 สัตว์ที่มีอาวุธโหด
10.common vampire bat
ค้างคาวแห่งหายนะ จอมดูดเลือดแห่งอเมริกาใต้ ใหญ่และโหดไม่น้อยในตระกูลไมโครแบท
กินเลือดเป็นอาหาร บางครั้งอาจนำพาความตายมาสู่สัตว์เล็ก
ทำไมถึงติดอันดับ:คีย์เวิร์ดคือเทคโนโลยีโซนาร์ และสารเคมีที่ทำให้เลือดหยุดไหล
ปีศาจดูดเลือดที่มีระบบการล่าเหยื่อ ถ้าใครโดนกัดเข้าไปคงไม่สนุกแน่ๆ
9.Bombardier beetles
แม้จะมีความยาวเพียงสองเซนติเมตร แต่ความสามารถในการใช้อาวุธเคมี
ของแมลงตดนั้นไม่เป็นสองรองใคร แก้สพิษร้ายแรง
ความร้อนเกินกว่า 100 องศา จะแผดเผาร่างของเหยื่อจนกว่าจะถึงแก่
สิ้นสุด มันใช้การผสมสารเคมีสองชนิดในช่องท้อง
สร้างคลื่นพิษที่อาจมีพลังทำลายเพียงพอสังหาร
สัตว์นักล่าหลายชนิด ให้ถึงแก่ความตายได้
แมลงตดบางชนิด ในแอฟริกา อาจปล่อยสารพิษ
ที่ถึงตายด้วยความร้อนสูงกว่า 270 องศา
มันอาจยิงได้ด้วยปริมาณ 500 เฟสต่อวินาที
benzoquinone คือชื่อของพิษนั้น
8.Spitting cobra
พลปืนพิษผู้โหดเหี้ยมที่สุดแห่งแอฟริกาและเอเชีย มักลังเลที่จะเหนี่ยวไกยิง
แต่ถ้ามันตัดสินใจยิงออกไปแล้ว มักจะมีความตายตามมา สปีชีส์ที่ใหญ่ที่สุดอาจมีความยาวถึง
2.7 เมตร และถ้าพิษของพวกมันเข้าตา ก็อาจทำให้ตาบอดได้ในทันที จึงนับเป็น
ฝันร้ายในธรรมชาติ ตระกูลโหดของงูพิษพวกนี้ มีจำนวนมากกว่า 20 สปีชีส์
และที่น่าสยดสยอง คือในไทยก็เจอได้ 2 ชนิดงูเห่าพ่นพิษสีทอง และงูเห่าพ่นพิษสยาม
7.komodo dragon
ไอ้นี่ก็โหดไม่แพ้ใคร กิ้งก่าที่คิดจะครองบัลลังก์ของฟลอเรส
และรินกาเอาใว้ใต้ฝ่าเท้า ผู้นำพาความตายจากแดนใต้ มังกรโคโมโด
ด้วยความยาวถึง 3.6 เมตร และหนักได้มากกว่า
150 กืโลกรัม แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่โคโมโดติดอันดับสัตว์ร้ายในครั้งนี้
แต่ความจริงไอ้ที่ทำให้มังกรโหดแห่งเกาะรินกา
เป็นที่หวาดกลัวของคนทั้งโลก ก็เพราะว่าน้ำลายของร้ายโหดบรมโหดตัวนี้ เล่น
มีทั้งพิษชีวภาพจากแบคทีเรีย พิษที่เป็นเคมีจริงๆ ใหนจะความตายที่ซ่อนอยู่ใต้คมเขี้ยวที่พับได้นั่นอีก
6.snapping shrimp
มีชื่อไทยว่ากุ้งดีดขัน สามารถดีดก้ามเพื่อสร้างคลื่นเสียง
มหาบรรลัยหู ความดังหลายร้อยเดซิเบล(ความดังจริงๆ อยู่ที่ 218 เดซิเบล) ในระยะ 4 เซนติเมตร
และสามารถสร้างคลื่นกระแทกกเทียบเท่าคลื่นเสียง 180-190 เดซิเบล ได้ในระยะ 1 เมตร
นอกจากนั้นกุ้งโคตรโกงอย่างกุ้งดีดขัน ยังสามารถสร้างคลื่นความร้อน
มหาศาลด้วย Sonoluminescence ใช้คลื่นฟองอากาศ สร้างความเสียหายรุนแรง
ให้กับเหยี่อขนาดเล็ก ความร้อนของฟองอากาศที่ทลายตัว อาจร้อนได้เกือบเท่าพึ้นผิวของดวงอาทิตย์
แต่มีขนาดที่เล็กเอามาก จึงแผ่ความร้อนได้แคบ
5.mantis shrimps
เพิ่มขนาดและความน่ากลัว กับนักล่าที่เกือบจะครอบครองท้องทะเล
ใว้ใต้ความมืดดำ กั้งตักแตนเป็นสัตว์ที่สามารถต่อยได้ด้วยหมัดที่สร้างความเร่งได้ยิ่ง
กว่ากระสุนปืน บางรายงานบอกว่ามันสามารถซัดกระจกแตกได้
ง่ายๆ จึงได้ชื่อว่าเป็นจอมหมัดที่ว่องใวที่สุดในโลก
4.black mamba
ถึงจะไม่มีพิษพ่นระยะใกลแบบตระกูลงูเห่าพ่นพิษ คุณก็ไม่ควร
ประมาทราชันย์แห่งแอฟริกาให้มากไป จอมโหดตัวนี้มีความเร็วปกติอยู่ที่
12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจเร่งได้เร็วถึง 24 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทำให้ใครๆ ก็หวาดกลัวด้วยความเร็ว ที่มากกว่ามนุษย์ส่วนมากบนโลกใบนี้
มีพิษนิวโตรท็อกซิน และคาร์ดีโอท็อกซิน
ในกรณีที่ไม่ได้รับการรักษา อัตราการตายเพราะพิษของแบล็กแมมบ้าแทบจะ 100% ที่เดียว เคยมีรายงาน สุนัข 7 ตัว ช่วยกันรุมจอมโหดแห่งแอฟริกา แต่พวกมันถูกฆ่าจนหมด โดยที่งูโหดได้รับการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แบล็กแมมบ้ามีอายุยืนได้ถึง 11 ปีในป่า และ 20 ปี ในที่กักกัน
พิษ 10-15 กรัมฆ่ามนุษย์ผู้ใหญ่ได้ แต่ราชันย์แห่งงูอาจปล่อยพิษได้ร่วม 120 กรัมในการกัดปกติ และ 400 กรัม
ในการกัดแบบจมเขี้ยว สามารถชูคอจากพึ้นได้สูง 4 ฟุต และเป็นนักฆ่านกและสัตว์เลี้ยงสูงด้วยนม
บางครั้งมันแพร่พิษเพื่อฆ่าตัวไฮแรกซ์ เหยื่อของแบล็กแมมบ้า
หลายตัว มักจะตายด้วยการกัดติดต่อกันหลายครั้ง แพร่สารพิษจำนวนมากเข้าทำลาย
อวัยวะต่างๆ ของเหยื่อ เขี้ยวพิษของแบล็กแมมบ้าอาจยาวได้ถึง 22 มิลลิเมตร
เหยื่อที่ถูกกัดจะมีอาการใข้สูง ทำลายระบบทางเดือนหายใจ ภาวะโรคหัวใจและหลอดเลือดอย่างกระทันหัน อาการบาดเจ็บที่ระบบประสาท จะทำร้ายเหยื่อที่ถูกพิษรุนแรง ในเวลาไม่ถึง 10 นาที
ไอหรือหายใจลำบาก ง่วงนอน ปวดหัว รวมถึงไตวายในบางเคส ด้วยความจริงที่ว่างูแบล็กแมมบ้า
มักจะแพร่พิษปริมาณมากถึง 100-400 มิลลิกรัมในการกัดแต่ละครั้ง
รวามถึงการกัดแบบต่อเนื่อง ด้วยพิษร้ายแรง จึงทำให้ต้องใช้ยาแก้พิษปริมาณ 10-30 ขวด
ต่อให้มียาแก้พิษแล้ว โอการตายมีมากถึง 14% อยู่ดี หรือมากกว่าอัตราการตายเพราะไข้เลือดออกถึง 140 เท่า
3. mako shark
ต่อให้มีอาวุธน่ากลัวแค่ใหน ถ้าคุณซัดเหยื่อไม่โดน ก็ไม่มีประโยชน์ไม่ใช่เรอะ
หรือถ้าหาตำแหน่งเหยื่อไม่เจอก็แย่ แต่คราวนี้เราไม่มีปัญหาเรื่องนั้น
ยินดีต้อนรับ ยานเกราะสังหารความเร็วสูงแห่งท้องทะเล ฉลามมาโก จอมเขมือบสยองโลก
มันจะฆ่าเหยื่อด้วยฟันคมและความเร็ว ฉลามมาโกสามารถว่ายน้ำด้วยความเร็ว 50 กิโล
เมตรต่อชั่วโมง เป็นระยะทางใกลๆ เส้นข้างลำตัวที่ตรวจจับการสั่นสะเทือนได้ในระยะหลายร้อยเมตร
ได้กลิ่นเลือดใกลกว่าห้าร้อยเมตร และตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้
เดินทางได้ใกลถึงสองพันกิโลเมตร พลังงานจากการพุ่งชนของฉลามมาโก อาจรุนแรงได้พอๆ
กับระเบิด TNT นับร้อยๆ กิโลกรัมที่เดียว นั่นหมายถึงพลังระดับชนเรือแตก
2.electric eel
ยินดีต้อนรับ ราชาแห่งปลาผู้มีอาวุธล้ำยุค ยินดีต้อนรับ ปลาไหลไฟฟ้า Electrophorus electricus
เป็นสัตว์ที่ใหญ่และทรงพลังที่สุดในตระกูลปลาไฟฟ้าทุกสายพันธ์ มีรายงานการพบขนาดยาวกว่า 2 เมตร
และหนักกว่า 20 กิโลกรัม สำหรับปลาไหลไฟฟ้าตัวโตเต็มวัย มันสามารถช็อตได้แรงกว่า 500 โวลต์
และปล่อยได้มากกว่า 1 แอมแปร์ เป็นปกติร่างกาย(เคยมีรายงานการช็อตรุนแรงกว่า 800 โวลต์)
ซึ่งเจ้าตัวนี้ยาวได้สูงสุดถึง 2.4 เมตร ใช้ไฟฟ้าในรูปแบบ teaser ใช้ฆ่าเหยื่อและไล่ศัตรู ตอนเป็นตัวอ่อนมันจะกินสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
ตอนโตเต็มวัยนั้น มันจะล่าปลาต่างๆ ปลาใหลไฟฟ้ามีอวัยวะที่เป็นกล้ามเนึ้อคล้ายเซลล์เรียกว่า electrolocation หนึ่งเซลลให้พลัง 0.15
โวลต์ มันจะใช้พลังเพียงเล็กน้อยในการค้นหา แต่พลังเต็มที่จะใช้ในการสังหาร
กล้ามเนึ้อของปลาไหลไฟฟ้า สามารถตรวจจับแรงกระเพื่อมของน้ำได้ดีเยี่ยม
และสามารถปล่อยไฟฟ้าออกไปหยุดยั้งการเคลื่อนใหวของเหยื่อในน้ำได้ในเวลา 10-15 มิลลิวินาที!หลังจากการตรวจจับ
เครื่องช็อตไฟฟ้าจะปล่อยได้ราว 19+ ครั้งของการช็อตต่อวิ แต่เจ้าปลาใหลของเราปล่อยได้ 400+ ครั้งของการช็อตต่อวินาที
นั่นหมายความว่าเจ้าปลาใหลไฟฟ้าอาจสั่งการกล้ามเนึ้อหลายส่วนในร่างกายให้ทำงานได้ในแทบจะขณะเดียวกัน
นี่คือความลับของหนึ่งการโจมตีที่น่ากลัวที่สุดในโลกธรรมชาติ ความเร็วที่เหนือกว่าประสาทสั่งการของผู้ถูกจู่โจม!(จะบอกว่าโจมตีเร็วกว่าความคิดก็ได้)
การโจมตีด้วยไฟฟ้าจะตัดประสาทสัมผัสของเหยื่อในทันที และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมมันอันตราย เพราะกว่าคุณจะรับรู้ เจ้านักล่าก็ช็อตคุณให้เป็นอัมพาตไปแล้ว........... นอกจากนั้นไฟฟ้าของมันยังเป็นเรดาร์ธรรมชาติให้กับนักล่าจอมโหด ในน้ำที่แสนขุ่นมั่ว
ในสภาพออกซิเจนต่ำ บางครั้งเจ้าสุดยอดนักล่าเอง ก็จะขึ้นมาที่ผิวน้ำ เพื่อรับออกซิเจนเพิ่มเติม
แม้แต่จระเข้ยังไม่อยากยุ่งกับราชันย์นักล่าตนนี้ เพราะโอกาสแลกชีวิตไปด้วยกันมีสูงมาก
ไฟฟ้า 800 โวลต์ แม้แต่ม้าเทศตัวใหญ่ๆ อาจถูกฆ่าง่ายดาย
1orca
.มีอีกชื่อว่า killer whale ยาวได้ถึง 9.8 เมตร หนักได้ 9 ตัน
มันสามารถเอาชนะฉลามขาวยักษ์ หั่นวาฬสีเทา สังหารวาฬสเปิร์ม หรือแม้แต่ฆ่าวาฬสีน้ำเงิน
ออร์ก้าสังหารเหยื่อด้วยการสร้างวงล้อมมรณะ และการล็อคเป้าด้วยโซนาร์ มันสามารถสื่อสารกันด้วยภาษาที่ซับซ้อน สามารถขึ้นมาสังหารสิงโตทะเลบนชายหาด ด้วยการรอเวลาน้ำขึ้น ฝูงขนาดใหญ่ของออร์ก้า อาจรวมฝูงได้ 40-50 ตัว มันอาจมีอายุยืนถึง 90 ปี
มีคริบหลังขนาดยักษ์ สูง 1.8 เมตร และเดินทางไปมาในทะเลทั่วโลก
กรามของออร์ก้าทรงพลังยิ่งกว่าของเกรทไวท์! บางครั้งมีรายงานว่ามันห้ำหั่นวาฬสเปิร์มด้วยซ้ำ
ออร์ก้าเป็นนักล่าที่น่ากลัวที่สุดเพราะแม้สิ่งโตทะเลที่อยู่บนฝั่ง
หรือหลบอยู่บนแผ่นน้ำแข็ง มันก็ยังวางกลยุทธ์ล่าได้ ว่ายน้ำได้เร็วกว่า 50
กิโลเมตรต่อชั่วโมง กรามทรงพลังที่ห้ำหั่นได้แม้วาฬสีน้ำเงิน ทำให้มันขึ้นชื่อว่าเป็นนักล่าที่โหดที่สุด
บนดาวดวงนี้ เพราะโค่นได้ทั้งฉลามขาวยักษ์และจระเข้น้ำเค็ม
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://science.sciencemag.org/content/248/4960/1219
https://en.wikipedia.org/wiki/Bombardier_beetle
http://www.gizmag.com/bombardier-beetle-defensive-jet/37465/
http://reptile-database.reptarium.cz/species?genus=Naja&species=ashei
http://animals.nationalgeographic.com/animals/reptiles/komodo-dragon/
http://www.arkive.org/komodo-dragon/varanus-komodoensis/
http://www.livescience.com/27402-komodo-dragons.html
https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_dangerous_snakes
http://www.sciencedaily.com/releases/2014/12/141204140610.htm
http://carnivoraforum.com/topic/9486465/1/
https://en.wikipedia.org/wiki/Shortfin_mako_shark
http://www.livescience.com/43559-black-mamba.html
http://animals.nationalgeographic.com/animals/reptiles/black-mamba/
https://www.flmnh.ufl.edu/fish/discover/species-profiles/isurus-oxyrinchus
http://marinebio.org/species.asp?id=36
http://www.arkive.org/black-mamba/dendroaspis-polylepis/
http://www.blueplanetbiomes.org/black_mamba.htm
http://animals.nationalgeographic.com/animals/mammals/killer-whale/