สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ก็เป็นกระทู้ที่สองที่ถามสำหรับเรื่องการเรียนต่อของเรานะค่ะ คือว่าตอนนี้เรากำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ ถ้าเทอมหน้ามาเราก็จะอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ห้า เรายังคิดอยู่เลยว่า เอ๊ะ....เราทำตัวรีบร้อนไปหรือเปล่านะ ที่จะเลือกเรียน มอหกยังอีกยาวไกล แต่จริงๆมันก็คงแปปๆแหละค่ะ จริงไหมล่ะ รุ่นพี่มอหกหลายๆคนเขาก็เริ่มตั้งใจอ่านหนังสือกันแล้ว ไหนจะสอบแข่งต่างๆนาๆ เราอยากทำอนาคตให้ดีบ้าง แต่ก็ยังไม่มีเป้าหมายเป้นของตัวเองเลย
อย่างแรกเลยนะค่ะ คือที่บ้านฐานะไม่ค่อยดี ปัญหาก็เยอะมาก เราเลยอยากทำงานอยากมีอาชีพดีดีที่จะมาเลี้ยงแม่เราได้ ไม่ต้องลำบากแบบนี้ คือทุกอย่างที่เป็นเงิน ทำอะไรได้แม่ก็จะทำเพื่อส่งให้เราไปเรียน ท่านดูคาดหวังกับเรามาก เพราะเป็นลูกคนเดียวแล้วด้วยความที่เราเองก็ตั้งใจเรียนมาตลอด ทำให้เชื่อว่าสักวันหนึ่งเราจะทำงานมีเงินเยอะๆแล้วกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวได้ ความฝันคืออยากพาแม่ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ที่ได้อยู่ด้วยกัน ทุกวันนี้แทบจะไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเลยค่ะ ท่านจะทำกับข้าวให้เราทุกมื้อ ตอนกลางวันก็จะให้พกไปกินที่โรงเรียน ตอนเย็นก็กลับมาทานที่บ้าน เราเจอหน้าท่านก็แค่ก่อนออกไปโรงเรียนช่วงเวลาเดียวเท่านั้น ไม่ถึง 30 นาทีเลยด้วยว่าได้ เพราะเราต้องตื่นทำภารกิจส่วนตัวแล้ว รีบไปเรียน ตอนเย็นก็กลับมาไม่เคยตรงกัน ถ้าวันไหนเรานอนดึก จะรู้เลยว่าแม่จะเข้าบ้านไม่เที่ยงคืนก็ตีหนึ่งกว่าๆ เพราะทำงานนี่แหละค่ะ
เราเรียนอยู่สายวิทย์-คณิต กิฟต์อิ้งค์นะค่ะ คือก็อันนี้ทางบ้านขอให้ลง จริงๆเราอยากลองลงภาษาเกาหลีอะไรงี้มากกว่าเพราะเราเป็นติ่ง (YGstan) อิอิ
แต่ทางบ้านก็ไม่ให้เพราะบอกว่าภาษาเกาหลีมันไม่ค่อยกว้างเท่าไหร่ แล้วถ้าจะเรียนภาษาในเอเชียก็ภาษาจีนดีกว่า ถ้าจีนได้ เดี๋ยวเกาหลีกับญี่ปุ่นก็ตามมาเอง คือร้องไห้เยอะแยะเลยก่อนเข้ามอสี่ทะเลาะกันเพราะแบบนี้ น้าเราจบบัญชี อาเราจบด้านคอมพิวเตอร์ พ่อเราจบนิติ นอกนั้นก็จบต่ำกว่านี้ ที่บ้านเขาก็ให้เลือกเอา ศิลป์จีน กับ วิทย์คณิตเอาอะไร เราก็เลยปักใจลงวิทย์คณิตไป เพราะตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไร (จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลย -*-) แล้วก็เขาก็เป่าๆหูกันาว่าทางเลือกสายวิทย์เยอะกว่า เป็นหมอ พยาบาล วิศวะอะไรงี้ก็ได้ แต่คือเราไม่ได้ชอบทางนั้นเลย
ตามที่ได้กล่าวมาตามหัวข้อกระทู้นะค่ะ คือเราก็ลองไปค้นหาข้อมูลมาดูแล้วทำตามคำแนะนำ
1.ลองไปหยิบใบเกรดมานั่งดู
คือ ถ้าดูจากเกรดนะค่ะ ในความคิดเราคือมันก็แค่คะแนน ไม่ได้มีส่วนในความบอกความถนัดอะไรเลย เพราะก็ตั้งใจเรียนในทุกๆวิชาอยู่แล้ว คะแนนที่ได้ก็ออกมาค่อนข้างดี ไม่เคยติด 0 ร หรือสอบตกเลย จะมีก็แต่ผ่านแบบเฉียดตาย เกรดเราเลยอยู่ประมาณแบบไม่สูงกว่า 3.95 และไม่ต่ำกว่า 3.88 ล่าสุดเกรดของ ม.4 ที่ได้ไปคือ 3.94 ก็ค่อนข้างเยอะพอสมควร แต่มันคงเป็นเพราะคะแนนเก็บ แล้วก็ความประพฤติอะไรแบบนี้ด้วย เราได้ 4 หมดทุกวิชายกเว้น ฟิสิกส์
2.ถามตัวเองว่าถนัดหรือชอบวิชาอะไร
จากการเรียงลำดับมาก>>>>น้อยนะค่ะ
ศิลปะ>ภาษาอังกฤษ>ภาษาจีน(วิชาเสริม)>ชีวะวิทยา>ฟิสิกส์>เคมี>ประวัติศาสตร์>สังคม>คณิตศาสตร์และภาษาไทย
เราชอบศิลปะเพราะชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กค่ะ วาดไม่ค่อยสวย ไม่ได้วาดบ่อยด้วย แต่พอได้ทำแล้วเพลินดีถ้าเทียบกับวิชาอื่น
เราชอบภาษาอังกฤษกับภภาษาจีนเพราะอยากไปต่างประเทศ อยากพาแม่ไปเที่ยวหรือทำงานแล้วได้เงินเยอะๆ รายได้คงตัว
เราชอบชีวะวิทยา เพราะชอบเรื่องแบบว่าข้างใน? (กายวิภาค) 5555555 มันดูแบบว่าทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น
ชอบฟิสิกส์ เพราะมันดูยากแล้วก็ง่ายในเวลาเดียวกันถ้าทำโจทย์แนวเดิมๆ ซ้ำๆเดิม (แต่เราเกลียดคณิต)
เคมีก็ดูเหมือนจะสนุกดีตอนทดลอง
ประวัติกับสังคมนี่ถ้าจำได้ก็พอแล้ว ไม่มีไรเลย ไม่ได้ชอบเพระาเนื้อหา แต่มันดูเข้าใจง่ายเพราะเป็นเรื่องในปัจจุบันแล้วก็สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตซึ่งมันจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ คงที่อยู่แบบนั้น จำได้แล้วครั้งนึงก็ใช้ไปบ่อยๆเลย เพระามันไม่มีอะไรจะเปลื่ยนแล้ว
คณิตกับไทยนี่ ไม่ชอบเพราะเราไม่เคยทำคะแนนออกมาดีเลยค่ะ มันแบบว่าเหมือนยื่นโจทย์มาให้ก็ขอโยนทิ้ง ยิ่งวิเคราะห์นี้หัวไม่ไปเลย
3.ชอบหรืออยากเป็นอะไร
อาชีพที่เราอยากลองทำเยอะแยะเลย แต่แบบว่าัมนดูไม่ลงตัว
- นักเขียน คือเราชอบดูหนังดูการ์ตูนอะไรแบบนี้อ่าค่ะ ก็เลยเหมือนสนใจ จริงๆก็ตั้งแต่เด็กๆแล้ว เคยวาดการ์ตูนแบบว่าใช้สีคลอรีนระบายลงเอสี่เลยนะ ตอนนี้มี 48 แผ่นกะจะให้มันเป้นการ์ตูนเรื่องนึง แต่ว่ามันก็ไม่สำเร็จเพระารู้สึกเหนื่อยที่ต้องมาวาดรูปเต็มแผ่นแล้วระบายสีอีก คือเราทำช่องแบบคอมมิคไม่เป็นตอนนั้นอยู่ปอสี่มั้งนะ แล้วคือก็เลยวาดเต็มๆแผ่นเลย คือฉากๆนึงก็หน้านึงเลย มันเลยไม่สำเร็จ
ต่อมาก็เริ่มมีเขียนนิยายเป็นหน้าๆ เรื่องสั้นก็โอเคบ้างไม่โอเคบ้างแต่งจบแต่ลองให้ป้าที่เป็นบรรนาธิการหนังสืออ่าน ป้าก็บอกว่ามันไม่ชัดเจน ดูไม่รู้เรื่อง เรื่องยาวก็มี แต่ไม่จบเพราะรู้สึกอลังเกินแล้วคิดต่อไม่ไหว ต่อมาก็มีฟิคที่ดูจะประสบความสำเร็จสุด แต่งเราก็แต่งต่อไม่จบ เพระาเคยมีตอนนั้นแต่งทิ้งไว้ 4 ตอนแล้วเผลอลบทิ้ง คือพัง แล้วก็ท้อ งานเขียนบางครั้งมันออกมาจากอารมร์ความรู้สึก ก็เลยเลิกเขียนไปเลย
- นางแบบ เราไม่ใช่คนหุ่นดีอะไรมาก แต่ก็สูงเกือบ 170 หน้าเราก็คมๆนิดๆ คือก็ไม่เคยมีใครชวนไปถ่ายรูปหรือลองไปประกวดที่ไหนเลยสักนิด มีคนสนับสนุนแต่ดูเหมือนจะพลาด (มันอารมร์แบบว่า วันนี้มีงานประกวดที่นี่นะ.....เงินไม่มี ต้องบินไกล..วันแข่งอะไรไม่ว่างสักอย่าง)
- วิชัวเอฟเฟก คือเราก็ไม่ได้เก่งโปรแกรมแต่เราชอบแบบว่า เห็นเวลาเขาทำ อย่างเช่นพวกมือปลอม อะไรปลอมแล้วใช้ในหนัง คือถ้าจะเอาดีด้านนนี้ต้องเก่งจริงๆถึงจะใต่เต้าไปวงการดังๆได้ เช่นพวกฮอลิวู้ดหรืออะไร อีกอย่างเดี่ยวนี้ซีจีก็พัฒนาไปไกลแล้ว อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ของพวกนี้ช่วย
- ล่าม/ทูต อันนี้ก็มีคนคอยสนับสนุนเราเยอะอยู่เหมือนกัน ครูเราก็ช่วยอัดๆภาาาอังกฤษให้ อย่างเรื่องของแกรมม่าหรือคำศัพท์ เวลามีแข่งขันอะไรครูก็จะจับลงไปเลยตลอด เราก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร เพราะมันช่วยให้ฝึกตัวเองทางอ้อม แต่เราก็คงจะต้องเรียนภาษาเพิ่มเยอะๆ เพราะมันจำเป็นต้องใช้ในต่างประเทศ
คือที่พูดๆมานี่ไม่ได้ชอบนะค่ะ มันอธิบายไม่ได้ เหมือนก็งั้นๆ แต่ดูเหมือนว่าเราไม่มีเป้าหมายอะไรมากกว่านี้แล้ว เพื่อนเราก็เริ่มรู้ว่าตัวเองอยากเป้นอะไร เช่น เชฟ สถาปัตย์ เมคอัพอะไรทำนองนี้ เขาก็เริ่มหาข้อมูลเริ่มลงเรียน จัดการตัวเองไปแล้ว แต่เรายังไม่รู้เลยยยย
4.เวลาว่าง
ก็เวลาว่างของเรานะค่ะ ถ้าไม่มีอะไรให้ทำเลย เราก็จะนั่งดูหนังอะไรแบบนี้ ยิ่งหนังภาษาอังกฤษยิ่งชอบดู ฟังไม่รู้เรื่องแต่ก็ยังพยายามดูอ่าค่ะ แต่ถ้าฝนตกหรือเหงาๆ โมโหอะไรนี้เราจะขีดๆกระดาษ ถ้าไม่วาดรูปก็ขีดๆระบายอารมณ์เฉยๆ ถ้ามีนิยายที่แบบซื้อไว้เราก็จะนั่งอ่าน แบบว่านอนอ่านทั้งวันก็ยังได้ ติดมาก เป้ฯนิยายจำพวกวรรณกรรมแปลอ่าค่ะ ไม่ใช่วัยรุ่นแจ่มใสอะไรงี้ อันนั้นไม่เคยอ่านแล้วที่บ้านก็ไม่เคยซื้อให้ เราก็ไม่เคยแตะ ฟังเพลงก็มีเป็นพักๆเช่นแบบนั่งทำงานที่ไม่ต้องใช้หัวสมองเช่น ระบายสีมายแมพ หรือไปรีดผ้า ซักผ้า
5.เขาบอกว่าบุคลิกบอกอาชีพ
คือจากคำแนะนำนะค่ะ บุคลิกของเราเลยคือเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่ถ้าได้ด่าหรือโมโหก็ยับเหมือนกัน อารมร์ร้อน ขี้น้อยใจแล้วก็ขี้เหงา เป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองพอประมาณ ถ้าได้พูดอะไรไว้แล้วจะต้องทำ ถ้าไม่ทำมันรู้สึกเหมือนโกหกตัวเองอ่าค่ะ เป็นพวกสตรองมากถ้ามองจากภายนอก อาจจะเพระารูปลักษณะด้วย แต่จริงๆก็มีมุมอ่อนแอเหมือนๆคนทั่วไป
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวคราวๆของเรานะค่ะ คือเราไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรยังไงดี มันเหมือนไม่มีอะไรบอกได้เลย คณะที่จะเรียนก็ดูไม่ใช่ไปซะหมด ไม่รู้ชอบอะไรยังไง เพระาทุกอย่างก็ทำออกมาได้ดีพอๆกัน แล้วในบางครั้งความชอบก็มักมีความเกลียดปนๆอยู่ อย่างภาษาาอังกฤษเงี้ยะ เราชอบนะ ชอบหมดเว้นพาร์ทของแกรมม่า อันนี้ลาตายเลย จนทุกวันนี้เรายังไม่เข้าใจเลย เวลาพูดก็ใส่ไปเลย ไม่สนใจอะไร
ยังไงก็ขอคำแนะนำทีนะค่ะ ขอบคุณค่ะ T^T
ไม่รู้จะเรียนคณะอะไรดี จะมอหกแล้ว
อย่างแรกเลยนะค่ะ คือที่บ้านฐานะไม่ค่อยดี ปัญหาก็เยอะมาก เราเลยอยากทำงานอยากมีอาชีพดีดีที่จะมาเลี้ยงแม่เราได้ ไม่ต้องลำบากแบบนี้ คือทุกอย่างที่เป็นเงิน ทำอะไรได้แม่ก็จะทำเพื่อส่งให้เราไปเรียน ท่านดูคาดหวังกับเรามาก เพราะเป็นลูกคนเดียวแล้วด้วยความที่เราเองก็ตั้งใจเรียนมาตลอด ทำให้เชื่อว่าสักวันหนึ่งเราจะทำงานมีเงินเยอะๆแล้วกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวได้ ความฝันคืออยากพาแม่ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ที่ได้อยู่ด้วยกัน ทุกวันนี้แทบจะไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเลยค่ะ ท่านจะทำกับข้าวให้เราทุกมื้อ ตอนกลางวันก็จะให้พกไปกินที่โรงเรียน ตอนเย็นก็กลับมาทานที่บ้าน เราเจอหน้าท่านก็แค่ก่อนออกไปโรงเรียนช่วงเวลาเดียวเท่านั้น ไม่ถึง 30 นาทีเลยด้วยว่าได้ เพราะเราต้องตื่นทำภารกิจส่วนตัวแล้ว รีบไปเรียน ตอนเย็นก็กลับมาไม่เคยตรงกัน ถ้าวันไหนเรานอนดึก จะรู้เลยว่าแม่จะเข้าบ้านไม่เที่ยงคืนก็ตีหนึ่งกว่าๆ เพราะทำงานนี่แหละค่ะ
เราเรียนอยู่สายวิทย์-คณิต กิฟต์อิ้งค์นะค่ะ คือก็อันนี้ทางบ้านขอให้ลง จริงๆเราอยากลองลงภาษาเกาหลีอะไรงี้มากกว่าเพราะเราเป็นติ่ง (YGstan) อิอิ
แต่ทางบ้านก็ไม่ให้เพราะบอกว่าภาษาเกาหลีมันไม่ค่อยกว้างเท่าไหร่ แล้วถ้าจะเรียนภาษาในเอเชียก็ภาษาจีนดีกว่า ถ้าจีนได้ เดี๋ยวเกาหลีกับญี่ปุ่นก็ตามมาเอง คือร้องไห้เยอะแยะเลยก่อนเข้ามอสี่ทะเลาะกันเพราะแบบนี้ น้าเราจบบัญชี อาเราจบด้านคอมพิวเตอร์ พ่อเราจบนิติ นอกนั้นก็จบต่ำกว่านี้ ที่บ้านเขาก็ให้เลือกเอา ศิลป์จีน กับ วิทย์คณิตเอาอะไร เราก็เลยปักใจลงวิทย์คณิตไป เพราะตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไร (จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลย -*-) แล้วก็เขาก็เป่าๆหูกันาว่าทางเลือกสายวิทย์เยอะกว่า เป็นหมอ พยาบาล วิศวะอะไรงี้ก็ได้ แต่คือเราไม่ได้ชอบทางนั้นเลย
ตามที่ได้กล่าวมาตามหัวข้อกระทู้นะค่ะ คือเราก็ลองไปค้นหาข้อมูลมาดูแล้วทำตามคำแนะนำ
1.ลองไปหยิบใบเกรดมานั่งดู
คือ ถ้าดูจากเกรดนะค่ะ ในความคิดเราคือมันก็แค่คะแนน ไม่ได้มีส่วนในความบอกความถนัดอะไรเลย เพราะก็ตั้งใจเรียนในทุกๆวิชาอยู่แล้ว คะแนนที่ได้ก็ออกมาค่อนข้างดี ไม่เคยติด 0 ร หรือสอบตกเลย จะมีก็แต่ผ่านแบบเฉียดตาย เกรดเราเลยอยู่ประมาณแบบไม่สูงกว่า 3.95 และไม่ต่ำกว่า 3.88 ล่าสุดเกรดของ ม.4 ที่ได้ไปคือ 3.94 ก็ค่อนข้างเยอะพอสมควร แต่มันคงเป็นเพราะคะแนนเก็บ แล้วก็ความประพฤติอะไรแบบนี้ด้วย เราได้ 4 หมดทุกวิชายกเว้น ฟิสิกส์
2.ถามตัวเองว่าถนัดหรือชอบวิชาอะไร
จากการเรียงลำดับมาก>>>>น้อยนะค่ะ
ศิลปะ>ภาษาอังกฤษ>ภาษาจีน(วิชาเสริม)>ชีวะวิทยา>ฟิสิกส์>เคมี>ประวัติศาสตร์>สังคม>คณิตศาสตร์และภาษาไทย
เราชอบศิลปะเพราะชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กค่ะ วาดไม่ค่อยสวย ไม่ได้วาดบ่อยด้วย แต่พอได้ทำแล้วเพลินดีถ้าเทียบกับวิชาอื่น
เราชอบภาษาอังกฤษกับภภาษาจีนเพราะอยากไปต่างประเทศ อยากพาแม่ไปเที่ยวหรือทำงานแล้วได้เงินเยอะๆ รายได้คงตัว
เราชอบชีวะวิทยา เพราะชอบเรื่องแบบว่าข้างใน? (กายวิภาค) 5555555 มันดูแบบว่าทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น
ชอบฟิสิกส์ เพราะมันดูยากแล้วก็ง่ายในเวลาเดียวกันถ้าทำโจทย์แนวเดิมๆ ซ้ำๆเดิม (แต่เราเกลียดคณิต)
เคมีก็ดูเหมือนจะสนุกดีตอนทดลอง
ประวัติกับสังคมนี่ถ้าจำได้ก็พอแล้ว ไม่มีไรเลย ไม่ได้ชอบเพระาเนื้อหา แต่มันดูเข้าใจง่ายเพราะเป็นเรื่องในปัจจุบันแล้วก็สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตซึ่งมันจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ คงที่อยู่แบบนั้น จำได้แล้วครั้งนึงก็ใช้ไปบ่อยๆเลย เพระามันไม่มีอะไรจะเปลื่ยนแล้ว
คณิตกับไทยนี่ ไม่ชอบเพราะเราไม่เคยทำคะแนนออกมาดีเลยค่ะ มันแบบว่าเหมือนยื่นโจทย์มาให้ก็ขอโยนทิ้ง ยิ่งวิเคราะห์นี้หัวไม่ไปเลย
3.ชอบหรืออยากเป็นอะไร
อาชีพที่เราอยากลองทำเยอะแยะเลย แต่แบบว่าัมนดูไม่ลงตัว
- นักเขียน คือเราชอบดูหนังดูการ์ตูนอะไรแบบนี้อ่าค่ะ ก็เลยเหมือนสนใจ จริงๆก็ตั้งแต่เด็กๆแล้ว เคยวาดการ์ตูนแบบว่าใช้สีคลอรีนระบายลงเอสี่เลยนะ ตอนนี้มี 48 แผ่นกะจะให้มันเป้นการ์ตูนเรื่องนึง แต่ว่ามันก็ไม่สำเร็จเพระารู้สึกเหนื่อยที่ต้องมาวาดรูปเต็มแผ่นแล้วระบายสีอีก คือเราทำช่องแบบคอมมิคไม่เป็นตอนนั้นอยู่ปอสี่มั้งนะ แล้วคือก็เลยวาดเต็มๆแผ่นเลย คือฉากๆนึงก็หน้านึงเลย มันเลยไม่สำเร็จ
ต่อมาก็เริ่มมีเขียนนิยายเป็นหน้าๆ เรื่องสั้นก็โอเคบ้างไม่โอเคบ้างแต่งจบแต่ลองให้ป้าที่เป็นบรรนาธิการหนังสืออ่าน ป้าก็บอกว่ามันไม่ชัดเจน ดูไม่รู้เรื่อง เรื่องยาวก็มี แต่ไม่จบเพราะรู้สึกอลังเกินแล้วคิดต่อไม่ไหว ต่อมาก็มีฟิคที่ดูจะประสบความสำเร็จสุด แต่งเราก็แต่งต่อไม่จบ เพระาเคยมีตอนนั้นแต่งทิ้งไว้ 4 ตอนแล้วเผลอลบทิ้ง คือพัง แล้วก็ท้อ งานเขียนบางครั้งมันออกมาจากอารมร์ความรู้สึก ก็เลยเลิกเขียนไปเลย
- นางแบบ เราไม่ใช่คนหุ่นดีอะไรมาก แต่ก็สูงเกือบ 170 หน้าเราก็คมๆนิดๆ คือก็ไม่เคยมีใครชวนไปถ่ายรูปหรือลองไปประกวดที่ไหนเลยสักนิด มีคนสนับสนุนแต่ดูเหมือนจะพลาด (มันอารมร์แบบว่า วันนี้มีงานประกวดที่นี่นะ.....เงินไม่มี ต้องบินไกล..วันแข่งอะไรไม่ว่างสักอย่าง)
- วิชัวเอฟเฟก คือเราก็ไม่ได้เก่งโปรแกรมแต่เราชอบแบบว่า เห็นเวลาเขาทำ อย่างเช่นพวกมือปลอม อะไรปลอมแล้วใช้ในหนัง คือถ้าจะเอาดีด้านนนี้ต้องเก่งจริงๆถึงจะใต่เต้าไปวงการดังๆได้ เช่นพวกฮอลิวู้ดหรืออะไร อีกอย่างเดี่ยวนี้ซีจีก็พัฒนาไปไกลแล้ว อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ของพวกนี้ช่วย
- ล่าม/ทูต อันนี้ก็มีคนคอยสนับสนุนเราเยอะอยู่เหมือนกัน ครูเราก็ช่วยอัดๆภาาาอังกฤษให้ อย่างเรื่องของแกรมม่าหรือคำศัพท์ เวลามีแข่งขันอะไรครูก็จะจับลงไปเลยตลอด เราก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร เพราะมันช่วยให้ฝึกตัวเองทางอ้อม แต่เราก็คงจะต้องเรียนภาษาเพิ่มเยอะๆ เพราะมันจำเป็นต้องใช้ในต่างประเทศ
คือที่พูดๆมานี่ไม่ได้ชอบนะค่ะ มันอธิบายไม่ได้ เหมือนก็งั้นๆ แต่ดูเหมือนว่าเราไม่มีเป้าหมายอะไรมากกว่านี้แล้ว เพื่อนเราก็เริ่มรู้ว่าตัวเองอยากเป้นอะไร เช่น เชฟ สถาปัตย์ เมคอัพอะไรทำนองนี้ เขาก็เริ่มหาข้อมูลเริ่มลงเรียน จัดการตัวเองไปแล้ว แต่เรายังไม่รู้เลยยยย
4.เวลาว่าง
ก็เวลาว่างของเรานะค่ะ ถ้าไม่มีอะไรให้ทำเลย เราก็จะนั่งดูหนังอะไรแบบนี้ ยิ่งหนังภาษาอังกฤษยิ่งชอบดู ฟังไม่รู้เรื่องแต่ก็ยังพยายามดูอ่าค่ะ แต่ถ้าฝนตกหรือเหงาๆ โมโหอะไรนี้เราจะขีดๆกระดาษ ถ้าไม่วาดรูปก็ขีดๆระบายอารมณ์เฉยๆ ถ้ามีนิยายที่แบบซื้อไว้เราก็จะนั่งอ่าน แบบว่านอนอ่านทั้งวันก็ยังได้ ติดมาก เป้ฯนิยายจำพวกวรรณกรรมแปลอ่าค่ะ ไม่ใช่วัยรุ่นแจ่มใสอะไรงี้ อันนั้นไม่เคยอ่านแล้วที่บ้านก็ไม่เคยซื้อให้ เราก็ไม่เคยแตะ ฟังเพลงก็มีเป็นพักๆเช่นแบบนั่งทำงานที่ไม่ต้องใช้หัวสมองเช่น ระบายสีมายแมพ หรือไปรีดผ้า ซักผ้า
5.เขาบอกว่าบุคลิกบอกอาชีพ
คือจากคำแนะนำนะค่ะ บุคลิกของเราเลยคือเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่ถ้าได้ด่าหรือโมโหก็ยับเหมือนกัน อารมร์ร้อน ขี้น้อยใจแล้วก็ขี้เหงา เป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองพอประมาณ ถ้าได้พูดอะไรไว้แล้วจะต้องทำ ถ้าไม่ทำมันรู้สึกเหมือนโกหกตัวเองอ่าค่ะ เป็นพวกสตรองมากถ้ามองจากภายนอก อาจจะเพระารูปลักษณะด้วย แต่จริงๆก็มีมุมอ่อนแอเหมือนๆคนทั่วไป
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวคราวๆของเรานะค่ะ คือเราไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรยังไงดี มันเหมือนไม่มีอะไรบอกได้เลย คณะที่จะเรียนก็ดูไม่ใช่ไปซะหมด ไม่รู้ชอบอะไรยังไง เพระาทุกอย่างก็ทำออกมาได้ดีพอๆกัน แล้วในบางครั้งความชอบก็มักมีความเกลียดปนๆอยู่ อย่างภาษาาอังกฤษเงี้ยะ เราชอบนะ ชอบหมดเว้นพาร์ทของแกรมม่า อันนี้ลาตายเลย จนทุกวันนี้เรายังไม่เข้าใจเลย เวลาพูดก็ใส่ไปเลย ไม่สนใจอะไร
ยังไงก็ขอคำแนะนำทีนะค่ะ ขอบคุณค่ะ T^T