ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันโลกเรามีระบบการปกครองมาแล้วมากมาย
ตั้งแต่ หัวหน้าเผ่า จักรพรรดิ์ ฟาสซิส คอมมิวนิสต์ จนมาถึง ประชาธิปไตย
ทุกระบบที่ว่านี้ไม่ได้กำเนิดขึ้นพร้อมๆกันในช่วงเวลาเดียวกัน
แต่มันเปลี่ยนแปลงและทยอยเกิดขึ้นมาเรื่อยๆตามกาลเวลา และวิวัฒนาการของสังคมในขณะนั้นๆ
แต่มีสิ่งนึงที่ทั้งหมดนี้เชื่อมโยงถึงกัน นั้นคือต่างก็เป็นระบบที่ได้รับการยอมรับและนิยมมากสุดในแต่ละยุคสมัยเท่าที่มนุษย์จะคิดได้
อย่างเช่น ระบบหัวหน้าเผ่าในสมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์
ซึ่งก่อนจะรวมตัวกันเป็นชนเผ่า ก็อาจมีรวมกันเป็นแก๊งไม่กี่คนบ้าง เป็นครอบครัวใครครอบครัวมันบ้าง ฉายเดี่ยวบ้าง
แต่ท้ายสุดเมื่อพบว่าไม่เวิร์ค จึงค่อยๆสูญและแยกย่อยไปตามกาลเวลา
ระบบหัวหน้าเผ่าจึงมีเสียงตอบรับสูงสุด และเข้ากะยุคสมัยมากสุดในสังคมสมัยนั้นที่ยังคงความป่าเถื่อนไร้อารยะ
ระบบอื่นใดในโลกก็ล้วนเป็นเช่นนี้ เกิดมาและสูญไป แยกย่อยไป ลดระดับความสำคัญลงไป
เมื่อมนุษย์ค้นพบวิธีใหม่ๆที่ตอบโจทย์มากกว่า และเข้ากับสภาพสังคม+ยุคสมัยมากกว่า
และในยุคใหม่นี้เองก็เป็นการขับเคี่ยวกันของ ฟาสซิส คอมมิวนิสต์ เสรีประชาธิปไตย
สุดท้าย ฟาสซิสเจ๊งบ๊งหลังสงครามโลก และหลังสงครามเย็นคอมมิวนิสต์ก็ล่มสลาย...(เรียกว่าเสื่อมความนิยมละกันเพราะจีนก็ยังเป็นคอมอยู่ อิอิ)
ท้ายสุดก็เหลือแค่เสรีประชาธิปไตยที่ได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลามทั่วโลก
เฉกเช่นที่สตีฟจ๊อบเคยกล่าวไว้(ในหนัง) "สงครามพีซีมันจบนานแล้ว และไมโครซอฟท์คือผู้ชนะ”
สงครามของระบบการปกครอง(ในยุคนี้)มันก็จบแล้วเช่นกัน และเสรีประชาธิปไตยก็คือผู้ชนะ
แต่แน่นอนว่า ประชาธิปไตย ไม่ใช่ระบบที่ดีสุดในโลก มันแค่ได้รับความนิยมและตอบโจทย์มากสุดเท่าที่คิดได้ในยุคสมัยนี้เท่านั้นเอง
หากในอนาคตมีตัวเลือกใหม่ที่ดีกว่านี้เราก็จะเลือกมันแน่ๆ
เพราะประวัติศาสตร์พิสูจน์แล้วว่ามนุษย์มีวิวัฒนาการและไม่ใช่พวกที่ยึดติดกับอะไรเดิมๆได้ตลอดไป
แต่นั้นมันเรื่องของอนาคตจึงขอละไว้ก่อน ทีนี้ลองย้อนมาดูบ้านเราบ้างดีกว่า
บ้านเราเองก็เป็น 1 ในประเทศที่ใช้ระบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างเสรีประชาธิปไตย ซึ่งก็เป็นมากว่า 80 ปีแระ ก็มีล้มลุกคลุกคลานกันมาบ้าง
จนมาถึงยุคนี้ก็น่าจะเข้าใจ น่าจะยอมรับกันได้แล้วนะฮะว่ามันเข้ากะยุคสมัยและเหมาะกะบ้านเราที่สุด
(เพราะเป็นมานานแล้วและเคยมีคนลองผิดลองถูกมามากมายสุดท้ายก็ไม่พบคำตอบที่ดีไปกว่านี้)
ดังนั้นเราจึง ไม่ได้บ้าเลือกตั้ง ไม่ได้คลั่งประชาธิปไตย แต่เราเลือกเพราะมันตอบโจทย์ที่สุด เข้ากะสภาพสังคมเรา สังคมโลกมากที่สุด(ในยุคสมัยนี้)
แต่ในวันนี้กลับมีความคิดพิเรนๆ(จากคนกลุ่มนิดนึง)ทำนองว่า
"เลิกเหอะ" "ไม่เอาแระ มันโกงมันกินมันเกียนแระจะไปเลือกมันทำเขือไร" "แช่แข็งเหอะ อยู่ยาวๆไปเรย"
และที่ดัดจริตกว่านั้น
"คนไทยไม่เข้าใจปชตนึกว่าไปแค่เลือกตั้งก็จบ งั้นก็อย่าไปมีมันเรย" "เลือกแระก็ได้คนโกงมาอีกจะเลือกไม?"
จากคำพูดพวกนี้ที่ได้ยินบ่อยๆ ผมคิดว่าพวกพี่กำลังหลงประเด็น
คำถามคือหากเลิกขบวนการพวกนี้ ระบบพวกนี้ไปจิงๆ พี่มีวิธีการมาตรการรองรับที่ดีกว่านี้มั้ย? ตอบโจทย์กว่านี้มั้ย? เข้ากะยุคสมัยสภาพสังคมกว่านี้มั้ย?
มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้มั้ยแบบไม่ย้อนยุคถอยหลังลงคลอง?
ถ้าคิดไม่ออกนึกไม่ถูก ได้แค่ตะแบงเพราะความเกลียดชังไปวันๆ ทำไมถึงไม่ลดอคติตัวเอง ไม่ปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากะระบบและไปกันได้กับยุคสมัย
แทนที่จะมางอแงว่าไอนั้นไม่ดีไอนี่ไม่โดน ทั้งที่สังคมโลกสมัยใหม่เขาส่ายหน้าระอากะพวกมนุดถ้ำที่อยากย้อนยุคแบบพวกคุณ
ไม่ได้บ้าเลือกตั้ง ไม่ได้คลั่งประชาธิปไตย แต่เราเลือกเพราะมันตอบโจทย์ที่สุด(ในยุคสมัยนี้)
ตั้งแต่ หัวหน้าเผ่า จักรพรรดิ์ ฟาสซิส คอมมิวนิสต์ จนมาถึง ประชาธิปไตย
ทุกระบบที่ว่านี้ไม่ได้กำเนิดขึ้นพร้อมๆกันในช่วงเวลาเดียวกัน
แต่มันเปลี่ยนแปลงและทยอยเกิดขึ้นมาเรื่อยๆตามกาลเวลา และวิวัฒนาการของสังคมในขณะนั้นๆ
แต่มีสิ่งนึงที่ทั้งหมดนี้เชื่อมโยงถึงกัน นั้นคือต่างก็เป็นระบบที่ได้รับการยอมรับและนิยมมากสุดในแต่ละยุคสมัยเท่าที่มนุษย์จะคิดได้
อย่างเช่น ระบบหัวหน้าเผ่าในสมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์
ซึ่งก่อนจะรวมตัวกันเป็นชนเผ่า ก็อาจมีรวมกันเป็นแก๊งไม่กี่คนบ้าง เป็นครอบครัวใครครอบครัวมันบ้าง ฉายเดี่ยวบ้าง
แต่ท้ายสุดเมื่อพบว่าไม่เวิร์ค จึงค่อยๆสูญและแยกย่อยไปตามกาลเวลา
ระบบหัวหน้าเผ่าจึงมีเสียงตอบรับสูงสุด และเข้ากะยุคสมัยมากสุดในสังคมสมัยนั้นที่ยังคงความป่าเถื่อนไร้อารยะ
ระบบอื่นใดในโลกก็ล้วนเป็นเช่นนี้ เกิดมาและสูญไป แยกย่อยไป ลดระดับความสำคัญลงไป
เมื่อมนุษย์ค้นพบวิธีใหม่ๆที่ตอบโจทย์มากกว่า และเข้ากับสภาพสังคม+ยุคสมัยมากกว่า
และในยุคใหม่นี้เองก็เป็นการขับเคี่ยวกันของ ฟาสซิส คอมมิวนิสต์ เสรีประชาธิปไตย
สุดท้าย ฟาสซิสเจ๊งบ๊งหลังสงครามโลก และหลังสงครามเย็นคอมมิวนิสต์ก็ล่มสลาย...(เรียกว่าเสื่อมความนิยมละกันเพราะจีนก็ยังเป็นคอมอยู่ อิอิ)
ท้ายสุดก็เหลือแค่เสรีประชาธิปไตยที่ได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลามทั่วโลก
เฉกเช่นที่สตีฟจ๊อบเคยกล่าวไว้(ในหนัง) "สงครามพีซีมันจบนานแล้ว และไมโครซอฟท์คือผู้ชนะ”
สงครามของระบบการปกครอง(ในยุคนี้)มันก็จบแล้วเช่นกัน และเสรีประชาธิปไตยก็คือผู้ชนะ
แต่แน่นอนว่า ประชาธิปไตย ไม่ใช่ระบบที่ดีสุดในโลก มันแค่ได้รับความนิยมและตอบโจทย์มากสุดเท่าที่คิดได้ในยุคสมัยนี้เท่านั้นเอง
หากในอนาคตมีตัวเลือกใหม่ที่ดีกว่านี้เราก็จะเลือกมันแน่ๆ
เพราะประวัติศาสตร์พิสูจน์แล้วว่ามนุษย์มีวิวัฒนาการและไม่ใช่พวกที่ยึดติดกับอะไรเดิมๆได้ตลอดไป
แต่นั้นมันเรื่องของอนาคตจึงขอละไว้ก่อน ทีนี้ลองย้อนมาดูบ้านเราบ้างดีกว่า
บ้านเราเองก็เป็น 1 ในประเทศที่ใช้ระบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างเสรีประชาธิปไตย ซึ่งก็เป็นมากว่า 80 ปีแระ ก็มีล้มลุกคลุกคลานกันมาบ้าง
จนมาถึงยุคนี้ก็น่าจะเข้าใจ น่าจะยอมรับกันได้แล้วนะฮะว่ามันเข้ากะยุคสมัยและเหมาะกะบ้านเราที่สุด
(เพราะเป็นมานานแล้วและเคยมีคนลองผิดลองถูกมามากมายสุดท้ายก็ไม่พบคำตอบที่ดีไปกว่านี้)
ดังนั้นเราจึง ไม่ได้บ้าเลือกตั้ง ไม่ได้คลั่งประชาธิปไตย แต่เราเลือกเพราะมันตอบโจทย์ที่สุด เข้ากะสภาพสังคมเรา สังคมโลกมากที่สุด(ในยุคสมัยนี้)
แต่ในวันนี้กลับมีความคิดพิเรนๆ(จากคนกลุ่มนิดนึง)ทำนองว่า
"เลิกเหอะ" "ไม่เอาแระ มันโกงมันกินมันเกียนแระจะไปเลือกมันทำเขือไร" "แช่แข็งเหอะ อยู่ยาวๆไปเรย"
และที่ดัดจริตกว่านั้น
"คนไทยไม่เข้าใจปชตนึกว่าไปแค่เลือกตั้งก็จบ งั้นก็อย่าไปมีมันเรย" "เลือกแระก็ได้คนโกงมาอีกจะเลือกไม?"
จากคำพูดพวกนี้ที่ได้ยินบ่อยๆ ผมคิดว่าพวกพี่กำลังหลงประเด็น
คำถามคือหากเลิกขบวนการพวกนี้ ระบบพวกนี้ไปจิงๆ พี่มีวิธีการมาตรการรองรับที่ดีกว่านี้มั้ย? ตอบโจทย์กว่านี้มั้ย? เข้ากะยุคสมัยสภาพสังคมกว่านี้มั้ย?
มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้มั้ยแบบไม่ย้อนยุคถอยหลังลงคลอง?
ถ้าคิดไม่ออกนึกไม่ถูก ได้แค่ตะแบงเพราะความเกลียดชังไปวันๆ ทำไมถึงไม่ลดอคติตัวเอง ไม่ปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากะระบบและไปกันได้กับยุคสมัย
แทนที่จะมางอแงว่าไอนั้นไม่ดีไอนี่ไม่โดน ทั้งที่สังคมโลกสมัยใหม่เขาส่ายหน้าระอากะพวกมนุดถ้ำที่อยากย้อนยุคแบบพวกคุณ