"ดีแทค แอคเซอเลอเรท" โชว์ความสำเร็จ "สตาร์ทอัพไทย" โกอินเตอร์ ขยับเปิดตัวซีซั่น 4 หนุนครบวงจร
นายแอนดริว กวาลเซท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม Strategy และ Innovation บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด มหาชน หรือดีแทค กล่าวว่า ธุรกิจสตาร์ทอัพมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยมีสถิติที่น่าสนใจเกิดขึ้นในปี 2558 มีการลงทุนในกลุ่มสตาร์ทอัพไทย 35–40 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,260–1,440 ล้านบาท มีดีลร่วมลงทุนในธุรกิจกว่า 20 ดีล และมีอีกหลายดีลที่ไม่เปิดเผย คาดว่ามูลค่าในการลงทุนจะอยู่ที่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,800 ล้านบาท ซึ่งดีแทคเห็นถึงการเติบโตในธุรกิจสตาร์ทอัพ จึงให้ความสำคัญและทุ่มเทใน Startup Ecosystem ด้วยการก่อตั้งโครงการดีแทค แอคเซอเลอเรท เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา
และในปี 2559 นี้ตั้งเป้าหมายยกระดับ "ดีแทค แอคเซอเลอเรท"สู่เวทีสตาร์ทอัพโลก โดยเฉพาะในตลาดอาเซียน (เออีซี) โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้สร้างธุรกิจแบบโตเร็วให้ทีมที่เข้าร่วมโครงการ 11 ทีม จนขยายสเกลสู่ตลาดต่างประเทศ และในปีที่ผ่านมา สตาร์ทอัพภายใต้โครงการดีแทค แอคเซอเลอเรท โตขึ้น 3-15 เท่า ด้วยมูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท และ 70% ได้รับเงินลงทุน ขณะที่สตาร์ทอัพในตลาดได้รับเงินลงทุนเฉลี่ย 20% นอกจากนี้ 3 ใน 6 ทีม ได้รับการลงทุนจาก VC ในช่วงการเข้าร่วมบูธแคมป์ตั้งแต่ 4 เดือนแรกที่ร่วมโครงการ และ4 - 5 ทีม ติดอันดับท็อปเทนจากการจัดอันดับสตาร์ทอัพที่มีชื่อเสียงในเมืองไทย
ขณะเดียวกัน 500 TukTuks ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในระดับโลก และมีความเคลื่อนไหวมากที่สุด มีพอร์ตการลงทุน 50 % ในครอบครัวดีแทค แอคเซลเลอเรท
"เคลมดิ ซอฟต์แวร์ที่ปฏิวัติวงการประกันภัยระดับโลก สามารถระดมทุนจากนักลงทุนระดับโลก ในรอบซีรียส์เอ เป็นเงิน 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทสูงถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ โตขึ้น 15 เท่าภายในเวลาแค่ 12 เดือน หลังจบโครงการไป ถือเป็นการลงทุนในระดับซีรียส์เอที่สูงที่สุดในวงการสตาร์ทอัพไทย ที่เป็นของคนไทย 100% และจดทะเบียนในไทยที่มีการระดมทุนสร้างมูลค่าบริษัทที่สูงที่สุด ล่าสุดได้รับการจัดอันดับให้ติด Top 10 ของโลกด้าน Startup ในสายธุรกิจ Insurance หรือ Top10 InsureTech"
ด้านนายสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมธุรกิจ และดีแทค แอคเซอเลอเรท กล่าวว่า กำลังมองเห็นแนวโน้มแอปพลิเคชั่นดาวรุ่งปีนี้และในอีก 2-3 ปีข้างหน้า อย่าง FINTECH ขณะที่ HealthTech ก็กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก เนื่องมาจากโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และมีอุปกรณ์และซอฟแวร์ ที่ฉลาดเข้ามาเสริม ขณะที่ EdTech เป็น
แอปที่จะช่วยพัฒนาการศึกษาให้ทุกคนได้เข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การขยายโครงข่าย 4G ให้ครอบคลุมพื้นที่การใช้งาน ทำให้ความนิยมในการเข้าไปดูวิดีโอ สตรีมมิ่งมากขึ้นทั้งในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ส่วน VR Technology หรือเทคโนโลยีเสมือนจริงก็กำลังนำมาทำในเชิงพาณิชย์มากขึ้นนับจากปีนี้ และปีต่อไป สำหรับ IOT หรือ Internet of Thing และอุปกรณ์เครื่องจักร เครื่องยนต์ต่าง ๆ ก็เรียนรู้ไปพร้อมกับ AgriTech ที่กำลังเป็นแนวโน้มในอนาคต
สำหรับดีแทค แอคเซอเลอเรท batch 4 เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.–17 เม.ย.2559 โดยจะมีการคัดเลือกผลงาน 20 ทีมที่ผ่านรอบแรกวันที่ 22 เม.ย. จากนั้นจัดนำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการเพื่อคัดทีมที่ได้เข้าสู่ Intensive Bootcamp (Pitch day) ในวันที่ 27 เม.ย. และจะเริ่มคอร์สอบรม Intensive Bootcamp ตั้งแต่เดือนพ.ค.–ส.ค.2559 และนำเสนอผลงานรอบสุดท้ายประกาศผลในวัน Demo day ในส.ค.นี้
แหล่งข่าว
เว็ปไซต์ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1457070058#
"ดีแทค แอคเซอเลอเรท" โชว์ความสำเร็จ "สตาร์ทอัพไทย" โกอินเตอร์ ขยับเปิดตัวซีซั่น 4 หนุนครบวงจร
"ดีแทค แอคเซอเลอเรท" โชว์ความสำเร็จ "สตาร์ทอัพไทย" โกอินเตอร์ ขยับเปิดตัวซีซั่น 4 หนุนครบวงจร
นายแอนดริว กวาลเซท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม Strategy และ Innovation บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด มหาชน หรือดีแทค กล่าวว่า ธุรกิจสตาร์ทอัพมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยมีสถิติที่น่าสนใจเกิดขึ้นในปี 2558 มีการลงทุนในกลุ่มสตาร์ทอัพไทย 35–40 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,260–1,440 ล้านบาท มีดีลร่วมลงทุนในธุรกิจกว่า 20 ดีล และมีอีกหลายดีลที่ไม่เปิดเผย คาดว่ามูลค่าในการลงทุนจะอยู่ที่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,800 ล้านบาท ซึ่งดีแทคเห็นถึงการเติบโตในธุรกิจสตาร์ทอัพ จึงให้ความสำคัญและทุ่มเทใน Startup Ecosystem ด้วยการก่อตั้งโครงการดีแทค แอคเซอเลอเรท เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา
และในปี 2559 นี้ตั้งเป้าหมายยกระดับ "ดีแทค แอคเซอเลอเรท"สู่เวทีสตาร์ทอัพโลก โดยเฉพาะในตลาดอาเซียน (เออีซี) โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้สร้างธุรกิจแบบโตเร็วให้ทีมที่เข้าร่วมโครงการ 11 ทีม จนขยายสเกลสู่ตลาดต่างประเทศ และในปีที่ผ่านมา สตาร์ทอัพภายใต้โครงการดีแทค แอคเซอเลอเรท โตขึ้น 3-15 เท่า ด้วยมูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท และ 70% ได้รับเงินลงทุน ขณะที่สตาร์ทอัพในตลาดได้รับเงินลงทุนเฉลี่ย 20% นอกจากนี้ 3 ใน 6 ทีม ได้รับการลงทุนจาก VC ในช่วงการเข้าร่วมบูธแคมป์ตั้งแต่ 4 เดือนแรกที่ร่วมโครงการ และ4 - 5 ทีม ติดอันดับท็อปเทนจากการจัดอันดับสตาร์ทอัพที่มีชื่อเสียงในเมืองไทย
ขณะเดียวกัน 500 TukTuks ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในระดับโลก และมีความเคลื่อนไหวมากที่สุด มีพอร์ตการลงทุน 50 % ในครอบครัวดีแทค แอคเซลเลอเรท
"เคลมดิ ซอฟต์แวร์ที่ปฏิวัติวงการประกันภัยระดับโลก สามารถระดมทุนจากนักลงทุนระดับโลก ในรอบซีรียส์เอ เป็นเงิน 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทสูงถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ โตขึ้น 15 เท่าภายในเวลาแค่ 12 เดือน หลังจบโครงการไป ถือเป็นการลงทุนในระดับซีรียส์เอที่สูงที่สุดในวงการสตาร์ทอัพไทย ที่เป็นของคนไทย 100% และจดทะเบียนในไทยที่มีการระดมทุนสร้างมูลค่าบริษัทที่สูงที่สุด ล่าสุดได้รับการจัดอันดับให้ติด Top 10 ของโลกด้าน Startup ในสายธุรกิจ Insurance หรือ Top10 InsureTech"
ด้านนายสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมธุรกิจ และดีแทค แอคเซอเลอเรท กล่าวว่า กำลังมองเห็นแนวโน้มแอปพลิเคชั่นดาวรุ่งปีนี้และในอีก 2-3 ปีข้างหน้า อย่าง FINTECH ขณะที่ HealthTech ก็กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก เนื่องมาจากโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และมีอุปกรณ์และซอฟแวร์ ที่ฉลาดเข้ามาเสริม ขณะที่ EdTech เป็น
แอปที่จะช่วยพัฒนาการศึกษาให้ทุกคนได้เข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การขยายโครงข่าย 4G ให้ครอบคลุมพื้นที่การใช้งาน ทำให้ความนิยมในการเข้าไปดูวิดีโอ สตรีมมิ่งมากขึ้นทั้งในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ส่วน VR Technology หรือเทคโนโลยีเสมือนจริงก็กำลังนำมาทำในเชิงพาณิชย์มากขึ้นนับจากปีนี้ และปีต่อไป สำหรับ IOT หรือ Internet of Thing และอุปกรณ์เครื่องจักร เครื่องยนต์ต่าง ๆ ก็เรียนรู้ไปพร้อมกับ AgriTech ที่กำลังเป็นแนวโน้มในอนาคต
สำหรับดีแทค แอคเซอเลอเรท batch 4 เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.–17 เม.ย.2559 โดยจะมีการคัดเลือกผลงาน 20 ทีมที่ผ่านรอบแรกวันที่ 22 เม.ย. จากนั้นจัดนำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการเพื่อคัดทีมที่ได้เข้าสู่ Intensive Bootcamp (Pitch day) ในวันที่ 27 เม.ย. และจะเริ่มคอร์สอบรม Intensive Bootcamp ตั้งแต่เดือนพ.ค.–ส.ค.2559 และนำเสนอผลงานรอบสุดท้ายประกาศผลในวัน Demo day ในส.ค.นี้
แหล่งข่าว
เว็ปไซต์ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1457070058#