วันนี้มานำเสนอของเล่นใหม่ จากงานไทเปไบค์โชว์ ที่เพิ่งจบไปเมื่อวานนี้เอง
เรียกได้ว่าใหม่ แต่ไม่ใช่เจ้าแรก เพราะมีอย่างน้อยสองเจ้าที่เริ่มวางขาย และรับพรีออเดอร์แล้ว
ผลิตภัณฑ์นี้ชื่อ Continel wheelผมขอเรียกว่า ล้อ All in One
เพราะเพียงแค่นำล้อนี้ใส่กับจักรยานธรรมดา ก็กลายเป็นจักรยานไฟฟ้าทันที
จากการสอบถาม อีตา Harold โอปป้าเกาหลี(ที่มาพร้อมเพื่อนสาวน่ารักอีกสามคน)
แกได้พัฒนาล้อนี้มาห้าปีแล้ว สเปคของมันคือ มอเตอร์บรัชเลสสองตัวๆละ 180W ทำงานร่วมกัน
ใช้แบต 24V 8Ah แต่ด้วยการทำงานร่วมกันของ ทอร์คเซนเซอร์ และ คอนโทรลเลอร์แสนรู้
แกว่าวิ่งได้ 50-60km เลยทีเดียว
ส่วนการชาร์จไฟก็ทำได้โดยถอดแบตออกมาชาร์จภายนอกครับ
ล้อตัวนี้สามารถทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ครับ และถ้าไม่อยากปั่น ก็สามารถใช้คันเร่งไร้สายได้ด้วย
โอปป้า ได้ให้ผมลองขี่ด้วยครับ โดยมีน้องสาวเกาหลีคอยให้กำลังใจผมอยู่ใกล้ๆอย่างห่วง(คงกลัวผมทำพัง)
การใช้งานสั้นๆ ยังไม่ค่อยน่าประทับใจ โดยเฉพาะฟังก์ชันอย่างทอร์คเซนเซอร์ที่ถูกล็อคไว้ เลยใช้ได้แต่คันเร่งไร้สาย
หลังจากเทสไดรฟ์ ก็ได้คุยต่ออีกหน่อย หวังว่าปีหน้าจะได้ทดลองเวอร์ชันพัฒนาแล้ว
ผมดูแล้วยังต้องพัฒนาอีกเยอะ ยังมีปัญหาทางเทคนิคหลายอย่าง
แต่ผมให้กำลังใจโอปป้าและน้องสาวเกาหลีเสมอ

ราคาที่คาดว่าจะวางขาย คาดว่าจะอยู่ที่ 600 USD หรือราวๆสองหมื่นต้นๆ นะจ้ะ
ชมวีดีโอโดยนางแบบงามๆได้ที่นี่ครับ
ล้อจักรยาน All in One จากงาน Taipei cycle Expo
เรียกได้ว่าใหม่ แต่ไม่ใช่เจ้าแรก เพราะมีอย่างน้อยสองเจ้าที่เริ่มวางขาย และรับพรีออเดอร์แล้ว
ผลิตภัณฑ์นี้ชื่อ Continel wheelผมขอเรียกว่า ล้อ All in One
เพราะเพียงแค่นำล้อนี้ใส่กับจักรยานธรรมดา ก็กลายเป็นจักรยานไฟฟ้าทันที
จากการสอบถาม อีตา Harold โอปป้าเกาหลี(ที่มาพร้อมเพื่อนสาวน่ารักอีกสามคน)
แกได้พัฒนาล้อนี้มาห้าปีแล้ว สเปคของมันคือ มอเตอร์บรัชเลสสองตัวๆละ 180W ทำงานร่วมกัน
ใช้แบต 24V 8Ah แต่ด้วยการทำงานร่วมกันของ ทอร์คเซนเซอร์ และ คอนโทรลเลอร์แสนรู้
แกว่าวิ่งได้ 50-60km เลยทีเดียว
ส่วนการชาร์จไฟก็ทำได้โดยถอดแบตออกมาชาร์จภายนอกครับ
ล้อตัวนี้สามารถทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ครับ และถ้าไม่อยากปั่น ก็สามารถใช้คันเร่งไร้สายได้ด้วย
โอปป้า ได้ให้ผมลองขี่ด้วยครับ โดยมีน้องสาวเกาหลีคอยให้กำลังใจผมอยู่ใกล้ๆอย่างห่วง(คงกลัวผมทำพัง)
การใช้งานสั้นๆ ยังไม่ค่อยน่าประทับใจ โดยเฉพาะฟังก์ชันอย่างทอร์คเซนเซอร์ที่ถูกล็อคไว้ เลยใช้ได้แต่คันเร่งไร้สาย
หลังจากเทสไดรฟ์ ก็ได้คุยต่ออีกหน่อย หวังว่าปีหน้าจะได้ทดลองเวอร์ชันพัฒนาแล้ว
ผมดูแล้วยังต้องพัฒนาอีกเยอะ ยังมีปัญหาทางเทคนิคหลายอย่าง
แต่ผมให้กำลังใจโอปป้าและน้องสาวเกาหลีเสมอ
ราคาที่คาดว่าจะวางขาย คาดว่าจะอยู่ที่ 600 USD หรือราวๆสองหมื่นต้นๆ นะจ้ะ
ชมวีดีโอโดยนางแบบงามๆได้ที่นี่ครับ