จขกท. ตื่นเต้นมากที่จะได้ไปเชียงใหม่ ไอ้ที่ตื่นเต้นเนี่ยไม่ใช่เพราะไม่เคยไปหรอกนะคะ แต่เป็นเพราะมีนัดสำคัญ
กับคนพิเศษไว้ต่างหาก และอีกอย่างหนึ่งก็เพราะไม่ได้ไปมาแล้วหลายปี น่าจะซักประมาณเกือบ 4 ปีแล้วมั๊ง
ไม่รู้ว่าเชียงใหม่จะเปลี่ยนแปลงไปมากซักแค่ไหนหนอ ?
จากที่พักมาสนามบินนั้นไกลมากๆ ถ้าจะเรียกใช้บริการแท็กซี่ทั่วไปค่าบริการจะตกประมาณ 800 บาท จขกท. จึงขอให้
คนที่พอจะเคยรู้จักพูดคุยกันแถวๆอพาร์ทเม้นท์ไปส่ง เค้าคิดค่าน้ำมัน 500 บาทค่ะ ประหยัดได้ตั้ง 300 บาทแน่ะ
( เห็นมั๊ยฉลาดมั่กๆ ) ระหว่างทางก็ได้คุยกันสัพเพเหระไปเรื่อย และก็อดไม่ได้ที่จะต้องพูดถึงเรื่องการทำมาหากิน
เรื่องปากท้อง
พี่คนนี้เค้าออกสไตล์ทอมบอยขายลูกชิ้นทอดที่ตลาดใกล้ๆอพาร์ทเม้นท์นั่นล่ะค่ะ พี่เค้าเล่าให้ฟังว่าช่วงนี้ของปีนี้ยอดขาย
ลดลงกว่าปีที่แล้วเยอะมาก จะต้องยืดเวลาขายเกือบทั้งวันกว่าจะได้ยอดขายเท่ากับปีที่แล้วที่ขายแค่ 5-6 ชั่วโมง ฟังแล้วก็
นึกภาพออกเลย ถามพี่เค้าว่าแล้วคนอื่นๆล่ะเป็นยังไงบ้าง พี่เค้าก็บอกว่าเหมือนๆกัน บ่นกันไปก็บ่นกันมา แต่ก็ต้องทำ
เพราะยังไงมันก็พออยู่ได้ ยังดีกว่ากลับไปกรีดยางกับปลูกสับปะรดที่พัทลุงบ้านเกิด เพราะราคาตกต่ำเหลือเกิน ไม่คุ้ม
อ้าว !แย่แล้วสิตรู !! นี่ที่จะไปเชียงใหม่นี่ ก็กำลังจะไปหาเพื่อนที่ปลูกสับปะรดอยู่ที่เชียงรายนะเนี่ย กะจะไปปรึกษาหารือเค้า
เรื่องจะเอาสับปะรดไปปลูกที่บ้าน ไง๋พี่ทอมมาพูดดักนู๋แบบนี้ล่ะ
อ่ะ พักเรื่องสับปะรดไว้ก่อน กลับมาคุยกับพี่ทอมต่อ ใกล้จะถึงสนามบินละ ช่วงนี้ จขกท. ท็อคกาถีบ นิดนุง คริ คริ
พี่เค้าก็บ่นเพ้อเปรียบเทียบลามไปถึงเศรษฐกิจปากท้องสมัยลุงทักษิณอีกจนได้ เห็นมะ ใครๆก็ไม่ลื๊ม ! แกบอกว่าตอนนั้นนี่
ที่บ้านแกเข้าขั้นร่ำรวย ไหนจะขายยางได้ไหนจะขายสับปะรดได้ สับปะรดก็สับปะรดแก้ว หวานกรอบไม่กัดลิ้นเหมือน
สับปะรดภูเก็ต แน่ะ มีแขวะเค้าอีกอ่า พ่อค้านี่ไปรับถึงสวน เก็บเองอีกต่างหาก แถมพูดคำไหนก็คำนั้นไม่ต่อราคาซ๊ากคำ
ซื้อง่ายขายคล่องเพราะคนมีเงิน ชาวบ้านเสร็จจากขายยาง ขายสับปะรดแล้ว ก็เข้ากลุ่มผลิตสินค้าโอท็อปออกขายอีก
แหม...เสียดาย กำลังฟังพี่เค้าคุยอย่างออกรสก็ถึงสนามบินซะก่อน ก็เลยต้องรีบตาเหลือกไปเช็คอินซะก่อน เด๋วตกเครื่อง
ถึงเชียงใหม่เอาตอนเที่ยงกว่าๆ น้องเอารถมารับออกจากสนามบินไปส่งที่โรงแรมแถวๆอาเขต น้องทิ้งรถไว้ให้ใช้แล้ว He
ก็หายศีรษะกลับสวนป่าที่ลำพูน (น้องทำงานป่าไม้) บอกตอนกลับให้ฝากกุญแจรถไว้ที่แฟน ... จขกท. นั้นแสนจะลั้ลลา
เพราะได้นัดเจอบุคคลสำคัญที่ฝันอยากเจอไว้นานแล้ว และเย็นนี้เราจะได้เจอกัน เข้าห้องพักปั๊บก็โทรหาทันที
เรานัดเจอกันที่สตาร์ อเวนิว หน้าอาเขตก่อนตอน 4 โมงเย็น ก่อนจะย้ายไปหาอะไรทานกันที่ห้างเซ็นทรัล กาดสวนแก้ว
ด้วยความที่ตอนแรกเจอกันนั้น เราต่างตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอกันเป็นครั้งแรก ทั้งๆที่รู้จักกันในเว็บบอร์ดมา 6 ปีแล้ว
ต่างทักทายกันอย่างสนิทสนมและคุ้นเคย ทำให้กว่าจะออกเดินทางไปห้วยแก้วได้นั้น ก็เล่นเอามืดค่ำ รถติดเบย ฉ๋ม
เชียงใหม่ในวันนี้ เปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก สิ่งก่อสร้าง ห้างร้าน ถนนหนทาง รถรา ผู้คน ความเจริญทางวัตถุเข้ามาขยาย
ตัวเมืองออกไปทุกทิศทุกทาง ถนนซูเปอร์ไฮเวย์รอบตัวเมือง ตั้งแต่สนามบินออกไปทางอำเภอหางดง สารภี สันกำแพง
ดอยสะเก็ด แม่โจ้ แม่ริม จนแยกไม่ออกว่า อันไหนคือตัวจังหวัด อันไหนคืออำเภอ ถนนเส้นซูปเปอร์ไฮเวย์ ขยายออกไป
เป็น 16 เลนแล้วก็ยังไม่พอรองรับการจราจรขนส่งที่หลั่งไหลเข้ามายังตัวเมืองเชียงใหม่ จนต้องก่อสร้างขยายถนนและ
อุโมงค์ลอดทางแยกเพิ่มอีกแทบทุกแยกบนเส้นทางนี้ แน่นอน นั่นหมายความว่าสิ่งเหล่านี้ เป็นตัวชี้วัดความเจริญเติบโต
ทางด้านเศรษฐกิจของจังหวัดนี้ในแต่ละปีไปด้วย
..... เย็นนั้น พวกเราตั้งใจไปทานสุกี้ร้านดังที่ห้าง แต่ปรากฏว่า สุกี้ร้านดังที่นั่น ปิดตัวไปแล้วววว ฮ๊า เป็นไปได้ไง ? ?
และภายในห้างฯ ก็เงียบเหงาโหวงเหวงมาก คนเดินน้อยฝุดๆ ทั้งๆที่เป็นเวลาเลิกงานนานแล้ว งานนี้ถ้าเกี๊ยกมาสำรวจ
เศรษฐกิจแถวนี้ คำว่า เศรษฐกิจ ดี๊ดี อาจจะต้องถูกกลืนกลับเข้าไปในท้อง ... แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า เศรษฐกิจของ
เชียงใหม่ไม่ดีนะ เด๋วค่อยกลับมาวิเคราะห์กันเล่นๆดู
วันต่อมา จขกท. ตื่นแต่เช้าตั้งใจขึ้นดอยไปไหว้พระธาตุ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจได้ขึ้นไปกราบแค่เฉพาะพระครูบาเท่านั้น แล้ว
ก็กลับลงมาขับรถออกไปทางแม่ริมจะไปเที่ยวสะเมิง แต่เจอรถติดมากๆ กว่าจะหลุดออกมาได้ก็สายแล้ว เพราะหลงทาง
มัวแต่จะไปหาร้านข้าวเช้าทานนั่นเอง โธ่ เสียชื่อเด็กเชียงใหม่เก่าหมดเรยเรา
เส้นทางสายสะเมิงที่เมื่อก่อน จขกท. แสนจะคุ้นเคย ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ที่ท่องเที่ยวเก่าๆ อย่าง
แม่สาสเน็กฟาร์ม สายน้ำผึ้งออร์คิด เก็ตเตอร์ฟาร์ม ปางช้างแม่สา สวนบัวออร์คิด ก็ยังคงอยู่แม้จะผ่านไปเกือบ 20 ปีแล้ว
แสดงว่าธุรกิจก็ยังอยู่ได้ แต่ที่เห็นเพิ่มเข้ามาอย่างชัดเจนก็คือ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สนามขับรถ ATV ไร่สตรอเบอรี่
วันนั้น จขกท. มัวแต่แวะถ่ายรูปดอกกล้วยไม้ที่ สวนบัวออร์คิดฟาร์ม และแปลงทดลองเกษตรสวนสิริกิติ์ จนไปได้
ไม่ถึงไหนก็ต้องกลับลงมา ขากลับแวะไร่สตรอเบอรี่ ซื้อมาฝากเพื่อนๆ เลยถือโอกาสขอชาร์ตแบ็ตกล้องด้วย เจ้าของไร่
ใจดีให้ชาร์ตแบ็ตฟรีและลดราคาสตรอเบอรี่ให้ด้วย จขกท. เลยได้พูดคุยถามไถ่ถึงธุรกิจไปด้วยเลยระหว่างรอแบ็ตที่ชาร์จ
ค่ะ คำตอบยอดฮิตก็คือ พออยู่ได้แต่ไม่ดีเท่าปีก่อนๆ ปีนี้ เจ้าของไร่บอกว่า ลำพังแค่สตรอเบอรี่นั้น การแข่งขันสูง ไร่นี้เป็น
ไร่เล็กๆ สู้ไร่ใหญ่เค้าไม่ไหว จึงต้องเพิ่มไลน์สินค้าด้วยการเพิ่มการปลูก กู๊ดเบอรี่ (เขียนถูกไม๊นั่น) แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยม
เนื่องจากเพิ่งเป็นแปลงทดลองและปีนี้อากาศไม่หนาวเท่าไหร่ ทำให้ใบหงิกๆงอๆและลูกเล็กไม่สมบูรณ์ รสชาติก็ยังไม่ดี
ทำให้ต้องขายราคาถูก จขกท. ซื้อมาถุงหนึ่ง ครึ่งกิโลราคา 40 บาทค่ะ ส่วนการตลาดยอดฮิตของไร่สตรอเบอรี่ ก็ยังเป็น
การเชิญนักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บผลสตรอเบอรี่เอง อยากได้มากน้อยเท่าไหร่ก็เอามาชั่งขายตามน้ำหนักที่เก็บได้ นั่นแหละ
ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสนุกสนานและเรียนรู้วิธีการเก็บสตรอเบอรี่ไปในตัว แถมยังไม่ทำให้รู้สึกได้ว่าโดนบังคับซื้อ
จขกท. ได้ไปเจอเพื่อนรุ่นพี่สมัยเรียนมหาลัย ไปนั่งทานข้าวและคุยกันสัพเพเหระตามประสาพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันนาน
พี่คนหนึ่งตอนนี้เป็นเจ้าของรีสอร์ทเล็กๆอยู่สะเมิง อยากขอให้ จขกท.ช่วยออกไอเดียทำแผนการตลาดรีสอร์ทใน
ไร่สตรอเบอรี่ให้ ปัญหาของพี่เค้าคือ มันเริ่มถึงจุดอิ่มตัวและการแข่งขัยสูง คิดทำไรแปลกๆใหม่ๆไม่ออกแล้ว ก็ได้แต่ทำ
การตลาดตามๆกันไป (อ้าว แล้วตรูจะคิดออกม๊ายยย )
ทีนี้ก็เรื่องยาวสิคะ นั่งคุยวิเคราะห์กันถึงสภาพเศรษฐกิจทั้ง ไมโคร แมคโคร โลตัส บิ๊กซีกันเลยทีเดียว อิอิ
นั่งวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจและแผนการตลาดจน จขกท. พุงกางเลยค่ะ เรานั่งคุยกันที่ร้านสุกี้ชื่อดัง ที่เซ็นเฟสนั่นแหละ
ที่นี่เพิ่งเปิดใหม่ ร้านสุกี้ชื่อดังยังไม่ได้ปิดตัวนะเจ้า
Point (ความคิดเห็นของ จขกท.)
การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่นั้น จะต่างจากภูเก็ตตรงที่ กลุ่มเป้าหมายจะหลากหลายมากกว่า จำนวนของ
นักท่องเที่ยวชาวไทยกับต่างชาตินั้น มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน เผลอๆอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำในบางช่วง ดังนั้นถ้าใคร
จะทำแผนการตลาดสำหรับเปิดดำเนินธุรกิจอะไรต่างๆ ต้องคำนึงถึงจุดนี้ให้มาก จุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวแต่ละที่ของ
เชียงใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทย มากกว่า คนต่างชาติ ไม่เหมือนภูเก็ตที่จุดเด่นของการท่องเที่ยวตอบโจทย์
ความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก ดังนั้นการทำธุรกิจใดๆต้องคำนึงถึงพฤติกรรมการบริโภคของ
กลุ่มเป้าหมาย
อีกอย่างหนึ่ง เชียงใหม่มีมหาลัยมากแห่งมากกว่าภูเก็ต อย่าลืมว่า กำลังซื้อของวัยรุ่นสูงมาก แม้จะมีเงินน้อยหรือหาเงิน
ด้วยตัวเองยังไม่ได้ก็ตาม แต่สามารถดึงเงินจากผู้ปกครองมาเป็นกำลังซื้อให้ตัวเองได้
.... วันนี้ ขากลับจากสนามบิน นั่งรถตู้โดยสารมา รถตู้ขับเร็วมากและมีอยู่ช่วงหนึ่งขับฝ่าไฟแดงด้วย
นักท่องเที่ยวตื่นเต้นกันใหญ่ แม้ จขกท. จะฟังไม่ออกว่าเค้าพูดไรกัน (พวกเค้าไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ ) แต่ก็ฟังรู้ว่าพวกเค้า
อะเมซซิ่งมาก วี๊ดวิ้ว มาตลอดทาง ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลยค่ะ เพราะนักท่องเที่ยวพวกนี้ ดูท่าทางจะชอบท่องเที่ยว
แบบสไตล์ แอดแวนเจอร์ พวกเค้าอาจจะเช่ารถไม่ว่าจะเป็นมอไซด์หรือรถยนต์ขับเที่ยว แล้วจะเอาเป็นแบบอย่าง ที่สำคัญ
มันอันตรายมากด้วย ....
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ



ปล. คุณป้ารักแมว บอกว่านู๋นิดแต่งตัวสะรุ่นมาก
ค่ะ ต้องยอมรับว่านู๋นิดแต่งตัวแบบเปรี้ยวฝุดๆ ใส่กระโปรงสั้นมั่กมาก รองเท้าผ้าใบสุดเท่
ก่อนคลิกสปอยด์นี้ ท่านต้องทำใจไว้หน่อยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทำใจไม่ให้เผลอ "หลงรัก" นู๋นิดค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
+ + + [กระทู้วันหยุด] เที่ยวเชียงใหม่ดี๊ดี ...... (Pechnamnil AC)+ + +
จขกท. ตื่นเต้นมากที่จะได้ไปเชียงใหม่ ไอ้ที่ตื่นเต้นเนี่ยไม่ใช่เพราะไม่เคยไปหรอกนะคะ แต่เป็นเพราะมีนัดสำคัญ
กับคนพิเศษไว้ต่างหาก และอีกอย่างหนึ่งก็เพราะไม่ได้ไปมาแล้วหลายปี น่าจะซักประมาณเกือบ 4 ปีแล้วมั๊ง
ไม่รู้ว่าเชียงใหม่จะเปลี่ยนแปลงไปมากซักแค่ไหนหนอ ?
จากที่พักมาสนามบินนั้นไกลมากๆ ถ้าจะเรียกใช้บริการแท็กซี่ทั่วไปค่าบริการจะตกประมาณ 800 บาท จขกท. จึงขอให้
คนที่พอจะเคยรู้จักพูดคุยกันแถวๆอพาร์ทเม้นท์ไปส่ง เค้าคิดค่าน้ำมัน 500 บาทค่ะ ประหยัดได้ตั้ง 300 บาทแน่ะ
( เห็นมั๊ยฉลาดมั่กๆ ) ระหว่างทางก็ได้คุยกันสัพเพเหระไปเรื่อย และก็อดไม่ได้ที่จะต้องพูดถึงเรื่องการทำมาหากิน
เรื่องปากท้อง
พี่คนนี้เค้าออกสไตล์ทอมบอยขายลูกชิ้นทอดที่ตลาดใกล้ๆอพาร์ทเม้นท์นั่นล่ะค่ะ พี่เค้าเล่าให้ฟังว่าช่วงนี้ของปีนี้ยอดขาย
ลดลงกว่าปีที่แล้วเยอะมาก จะต้องยืดเวลาขายเกือบทั้งวันกว่าจะได้ยอดขายเท่ากับปีที่แล้วที่ขายแค่ 5-6 ชั่วโมง ฟังแล้วก็
นึกภาพออกเลย ถามพี่เค้าว่าแล้วคนอื่นๆล่ะเป็นยังไงบ้าง พี่เค้าก็บอกว่าเหมือนๆกัน บ่นกันไปก็บ่นกันมา แต่ก็ต้องทำ
เพราะยังไงมันก็พออยู่ได้ ยังดีกว่ากลับไปกรีดยางกับปลูกสับปะรดที่พัทลุงบ้านเกิด เพราะราคาตกต่ำเหลือเกิน ไม่คุ้ม
อ้าว !แย่แล้วสิตรู !! นี่ที่จะไปเชียงใหม่นี่ ก็กำลังจะไปหาเพื่อนที่ปลูกสับปะรดอยู่ที่เชียงรายนะเนี่ย กะจะไปปรึกษาหารือเค้า
เรื่องจะเอาสับปะรดไปปลูกที่บ้าน ไง๋พี่ทอมมาพูดดักนู๋แบบนี้ล่ะ
อ่ะ พักเรื่องสับปะรดไว้ก่อน กลับมาคุยกับพี่ทอมต่อ ใกล้จะถึงสนามบินละ ช่วงนี้ จขกท. ท็อคกาถีบ นิดนุง คริ คริ
พี่เค้าก็บ่นเพ้อเปรียบเทียบลามไปถึงเศรษฐกิจปากท้องสมัยลุงทักษิณอีกจนได้ เห็นมะ ใครๆก็ไม่ลื๊ม ! แกบอกว่าตอนนั้นนี่
ที่บ้านแกเข้าขั้นร่ำรวย ไหนจะขายยางได้ไหนจะขายสับปะรดได้ สับปะรดก็สับปะรดแก้ว หวานกรอบไม่กัดลิ้นเหมือน
สับปะรดภูเก็ต แน่ะ มีแขวะเค้าอีกอ่า พ่อค้านี่ไปรับถึงสวน เก็บเองอีกต่างหาก แถมพูดคำไหนก็คำนั้นไม่ต่อราคาซ๊ากคำ
ซื้อง่ายขายคล่องเพราะคนมีเงิน ชาวบ้านเสร็จจากขายยาง ขายสับปะรดแล้ว ก็เข้ากลุ่มผลิตสินค้าโอท็อปออกขายอีก
แหม...เสียดาย กำลังฟังพี่เค้าคุยอย่างออกรสก็ถึงสนามบินซะก่อน ก็เลยต้องรีบตาเหลือกไปเช็คอินซะก่อน เด๋วตกเครื่อง
ถึงเชียงใหม่เอาตอนเที่ยงกว่าๆ น้องเอารถมารับออกจากสนามบินไปส่งที่โรงแรมแถวๆอาเขต น้องทิ้งรถไว้ให้ใช้แล้ว He
ก็หายศีรษะกลับสวนป่าที่ลำพูน (น้องทำงานป่าไม้) บอกตอนกลับให้ฝากกุญแจรถไว้ที่แฟน ... จขกท. นั้นแสนจะลั้ลลา
เพราะได้นัดเจอบุคคลสำคัญที่ฝันอยากเจอไว้นานแล้ว และเย็นนี้เราจะได้เจอกัน เข้าห้องพักปั๊บก็โทรหาทันที
เรานัดเจอกันที่สตาร์ อเวนิว หน้าอาเขตก่อนตอน 4 โมงเย็น ก่อนจะย้ายไปหาอะไรทานกันที่ห้างเซ็นทรัล กาดสวนแก้ว
ด้วยความที่ตอนแรกเจอกันนั้น เราต่างตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอกันเป็นครั้งแรก ทั้งๆที่รู้จักกันในเว็บบอร์ดมา 6 ปีแล้ว
ต่างทักทายกันอย่างสนิทสนมและคุ้นเคย ทำให้กว่าจะออกเดินทางไปห้วยแก้วได้นั้น ก็เล่นเอามืดค่ำ รถติดเบย ฉ๋ม
เชียงใหม่ในวันนี้ เปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก สิ่งก่อสร้าง ห้างร้าน ถนนหนทาง รถรา ผู้คน ความเจริญทางวัตถุเข้ามาขยาย
ตัวเมืองออกไปทุกทิศทุกทาง ถนนซูเปอร์ไฮเวย์รอบตัวเมือง ตั้งแต่สนามบินออกไปทางอำเภอหางดง สารภี สันกำแพง
ดอยสะเก็ด แม่โจ้ แม่ริม จนแยกไม่ออกว่า อันไหนคือตัวจังหวัด อันไหนคืออำเภอ ถนนเส้นซูปเปอร์ไฮเวย์ ขยายออกไป
เป็น 16 เลนแล้วก็ยังไม่พอรองรับการจราจรขนส่งที่หลั่งไหลเข้ามายังตัวเมืองเชียงใหม่ จนต้องก่อสร้างขยายถนนและ
อุโมงค์ลอดทางแยกเพิ่มอีกแทบทุกแยกบนเส้นทางนี้ แน่นอน นั่นหมายความว่าสิ่งเหล่านี้ เป็นตัวชี้วัดความเจริญเติบโต
ทางด้านเศรษฐกิจของจังหวัดนี้ในแต่ละปีไปด้วย
..... เย็นนั้น พวกเราตั้งใจไปทานสุกี้ร้านดังที่ห้าง แต่ปรากฏว่า สุกี้ร้านดังที่นั่น ปิดตัวไปแล้วววว ฮ๊า เป็นไปได้ไง ? ?
และภายในห้างฯ ก็เงียบเหงาโหวงเหวงมาก คนเดินน้อยฝุดๆ ทั้งๆที่เป็นเวลาเลิกงานนานแล้ว งานนี้ถ้าเกี๊ยกมาสำรวจ
เศรษฐกิจแถวนี้ คำว่า เศรษฐกิจ ดี๊ดี อาจจะต้องถูกกลืนกลับเข้าไปในท้อง ... แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า เศรษฐกิจของ
เชียงใหม่ไม่ดีนะ เด๋วค่อยกลับมาวิเคราะห์กันเล่นๆดู
วันต่อมา จขกท. ตื่นแต่เช้าตั้งใจขึ้นดอยไปไหว้พระธาตุ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจได้ขึ้นไปกราบแค่เฉพาะพระครูบาเท่านั้น แล้ว
ก็กลับลงมาขับรถออกไปทางแม่ริมจะไปเที่ยวสะเมิง แต่เจอรถติดมากๆ กว่าจะหลุดออกมาได้ก็สายแล้ว เพราะหลงทาง
มัวแต่จะไปหาร้านข้าวเช้าทานนั่นเอง โธ่ เสียชื่อเด็กเชียงใหม่เก่าหมดเรยเรา
เส้นทางสายสะเมิงที่เมื่อก่อน จขกท. แสนจะคุ้นเคย ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ที่ท่องเที่ยวเก่าๆ อย่าง
แม่สาสเน็กฟาร์ม สายน้ำผึ้งออร์คิด เก็ตเตอร์ฟาร์ม ปางช้างแม่สา สวนบัวออร์คิด ก็ยังคงอยู่แม้จะผ่านไปเกือบ 20 ปีแล้ว
แสดงว่าธุรกิจก็ยังอยู่ได้ แต่ที่เห็นเพิ่มเข้ามาอย่างชัดเจนก็คือ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สนามขับรถ ATV ไร่สตรอเบอรี่
วันนั้น จขกท. มัวแต่แวะถ่ายรูปดอกกล้วยไม้ที่ สวนบัวออร์คิดฟาร์ม และแปลงทดลองเกษตรสวนสิริกิติ์ จนไปได้
ไม่ถึงไหนก็ต้องกลับลงมา ขากลับแวะไร่สตรอเบอรี่ ซื้อมาฝากเพื่อนๆ เลยถือโอกาสขอชาร์ตแบ็ตกล้องด้วย เจ้าของไร่
ใจดีให้ชาร์ตแบ็ตฟรีและลดราคาสตรอเบอรี่ให้ด้วย จขกท. เลยได้พูดคุยถามไถ่ถึงธุรกิจไปด้วยเลยระหว่างรอแบ็ตที่ชาร์จ
ค่ะ คำตอบยอดฮิตก็คือ พออยู่ได้แต่ไม่ดีเท่าปีก่อนๆ ปีนี้ เจ้าของไร่บอกว่า ลำพังแค่สตรอเบอรี่นั้น การแข่งขันสูง ไร่นี้เป็น
ไร่เล็กๆ สู้ไร่ใหญ่เค้าไม่ไหว จึงต้องเพิ่มไลน์สินค้าด้วยการเพิ่มการปลูก กู๊ดเบอรี่ (เขียนถูกไม๊นั่น) แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยม
เนื่องจากเพิ่งเป็นแปลงทดลองและปีนี้อากาศไม่หนาวเท่าไหร่ ทำให้ใบหงิกๆงอๆและลูกเล็กไม่สมบูรณ์ รสชาติก็ยังไม่ดี
ทำให้ต้องขายราคาถูก จขกท. ซื้อมาถุงหนึ่ง ครึ่งกิโลราคา 40 บาทค่ะ ส่วนการตลาดยอดฮิตของไร่สตรอเบอรี่ ก็ยังเป็น
การเชิญนักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บผลสตรอเบอรี่เอง อยากได้มากน้อยเท่าไหร่ก็เอามาชั่งขายตามน้ำหนักที่เก็บได้ นั่นแหละ
ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสนุกสนานและเรียนรู้วิธีการเก็บสตรอเบอรี่ไปในตัว แถมยังไม่ทำให้รู้สึกได้ว่าโดนบังคับซื้อ
จขกท. ได้ไปเจอเพื่อนรุ่นพี่สมัยเรียนมหาลัย ไปนั่งทานข้าวและคุยกันสัพเพเหระตามประสาพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันนาน
พี่คนหนึ่งตอนนี้เป็นเจ้าของรีสอร์ทเล็กๆอยู่สะเมิง อยากขอให้ จขกท.ช่วยออกไอเดียทำแผนการตลาดรีสอร์ทใน
ไร่สตรอเบอรี่ให้ ปัญหาของพี่เค้าคือ มันเริ่มถึงจุดอิ่มตัวและการแข่งขัยสูง คิดทำไรแปลกๆใหม่ๆไม่ออกแล้ว ก็ได้แต่ทำ
การตลาดตามๆกันไป (อ้าว แล้วตรูจะคิดออกม๊ายยย )
ทีนี้ก็เรื่องยาวสิคะ นั่งคุยวิเคราะห์กันถึงสภาพเศรษฐกิจทั้ง ไมโคร แมคโคร โลตัส บิ๊กซีกันเลยทีเดียว อิอิ
นั่งวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจและแผนการตลาดจน จขกท. พุงกางเลยค่ะ เรานั่งคุยกันที่ร้านสุกี้ชื่อดัง ที่เซ็นเฟสนั่นแหละ
ที่นี่เพิ่งเปิดใหม่ ร้านสุกี้ชื่อดังยังไม่ได้ปิดตัวนะเจ้า
Point (ความคิดเห็นของ จขกท.)
การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่นั้น จะต่างจากภูเก็ตตรงที่ กลุ่มเป้าหมายจะหลากหลายมากกว่า จำนวนของ
นักท่องเที่ยวชาวไทยกับต่างชาตินั้น มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน เผลอๆอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำในบางช่วง ดังนั้นถ้าใคร
จะทำแผนการตลาดสำหรับเปิดดำเนินธุรกิจอะไรต่างๆ ต้องคำนึงถึงจุดนี้ให้มาก จุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวแต่ละที่ของ
เชียงใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทย มากกว่า คนต่างชาติ ไม่เหมือนภูเก็ตที่จุดเด่นของการท่องเที่ยวตอบโจทย์
ความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก ดังนั้นการทำธุรกิจใดๆต้องคำนึงถึงพฤติกรรมการบริโภคของ
กลุ่มเป้าหมาย
อีกอย่างหนึ่ง เชียงใหม่มีมหาลัยมากแห่งมากกว่าภูเก็ต อย่าลืมว่า กำลังซื้อของวัยรุ่นสูงมาก แม้จะมีเงินน้อยหรือหาเงิน
ด้วยตัวเองยังไม่ได้ก็ตาม แต่สามารถดึงเงินจากผู้ปกครองมาเป็นกำลังซื้อให้ตัวเองได้
.... วันนี้ ขากลับจากสนามบิน นั่งรถตู้โดยสารมา รถตู้ขับเร็วมากและมีอยู่ช่วงหนึ่งขับฝ่าไฟแดงด้วย
นักท่องเที่ยวตื่นเต้นกันใหญ่ แม้ จขกท. จะฟังไม่ออกว่าเค้าพูดไรกัน (พวกเค้าไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ ) แต่ก็ฟังรู้ว่าพวกเค้า
อะเมซซิ่งมาก วี๊ดวิ้ว มาตลอดทาง ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลยค่ะ เพราะนักท่องเที่ยวพวกนี้ ดูท่าทางจะชอบท่องเที่ยว
แบบสไตล์ แอดแวนเจอร์ พวกเค้าอาจจะเช่ารถไม่ว่าจะเป็นมอไซด์หรือรถยนต์ขับเที่ยว แล้วจะเอาเป็นแบบอย่าง ที่สำคัญ
มันอันตรายมากด้วย ....
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ
ปล. คุณป้ารักแมว บอกว่านู๋นิดแต่งตัวสะรุ่นมาก
ค่ะ ต้องยอมรับว่านู๋นิดแต่งตัวแบบเปรี้ยวฝุดๆ ใส่กระโปรงสั้นมั่กมาก รองเท้าผ้าใบสุดเท่
ก่อนคลิกสปอยด์นี้ ท่านต้องทำใจไว้หน่อยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้