สุขภาพในมุมมองของอิสลาม
เรียบเรียงโดย One Muslimah
องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ได้ให้ความหมายของคำว่า "สุขภาพ" ไว้ว่า "สุขภาพ (Health) หมายถึง สุขภาวะที่สมบูรณ์ ทั้ง 4 มิติ คือ มิติทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ มิใช่เพียงแค่ปราศจากโรคหรือความพิการเท่านั้น" แต่ความหมายของ “สุขภาพ ในทัศนะอิสลาม” จะเน้นในมิติด้าน “จิตวิญญาณ (spiritual well-being)” เป็นสำคัญ เพราะอิสลามมีหลักความศรัทธาที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับพระผู้เป็นเจ้า คือ มีความศรัทธาในอัลลอฮฺ
อิสลามเชื่อว่าสุขภาวะที่สมบูรณ์ทางจิตวิญญาณ จะเป็นพลังที่จะนำไปสู่สุขภาพที่ดีโดยรวม เนื่องจากอิสลามเป็นวิถีการดำเนินชีวิต (Way of Life) ที่ตั้งอยู่ในกรอบแนวทางของศาสนาที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน และแบบอย่างคำสอนของท่านศาสดามุฮัมหมัด ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย ทั้งในเรื่องการกิน การนอน กิจวัตรประจำวันทั่วไป สังคม วัฒนธรรม สุขภาพอนามัย การเจ็บป่วย ความตาย และอื่นๆ ซึ่งมีบัญญัติไว้ทั้งสิ้น
การมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงดี ย่อมเป็นรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิต และกระบวนการพัฒนาในทุกด้านทุกมิติ ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด ได้กล่าวถึงสุขภาพไว้อย่างกว้างขวางและครอบคลุมปัจจัยแห่งสุขภาวะ อีกทั้งสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของสุขภาพไว้อย่างเป็นองค์รวม ว่า
“ผู้ใดที่ตื่นเช้าขึ้นมา มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง มีจิตใจที่สงบร่มเย็น ไม่มีความวิตกกังวลทุกข์ร้อน มีอาหารสำหรับบริโภคในวันนั้น
ก็ประหนึ่งว่าเขาผู้นั้นได้ครองโลกไว้ทั้งโลก”
(ติรมีซีย์ อิบนิมายะฮ์ และบุคอรี)
ในมุมมองของอิสลาม ถือว่าการดูแลรักษาสุขภาพนั้นเป็นหน้าที่ (วาญิบ) สำหรับมนุษย์ เพราะสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ดี เป็นความโปรดปราน (เนี๊ยะมัต) ที่อัลลอฮฺ ทรงประทานให้แก่มนุษย์ ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด กล่าวว่า
“เนี๊ยะมัต (ความโปรดปราน) 2 ประการ ที่คนส่วนใหญ่มักจะหลงลืม คือ การมีสุขภาพที่ดี และการมีเวลาว่าง”
(บุคอรี)
ดังนั้น มนุษย์จะต้องสำนึกในคุณค่าและต้องแสดงความกตัญญูต่ออัลลอฮฺ ในการดำรงรักษาความโปรดปรานนี้ ด้วยการรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง แต่หากปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจ หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นมูลเหตุแห่งการบ่อนทำลายสุขภาพ นอกจากผู้นั้นจะต้องได้รับความเดือดร้อนในชีวิตบนโลกนี้แล้ว เขายังต้องรับผิดชอบและถูกสอบสวนในวันอาคีเราะฮฺ (โลกหน้า) อีกด้วย ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด มุฮัมหมัด ได้กล่าวว่า
“และสำหรับร่างกายของเจ้านั้น เป็นหน้าที่ซึ่งเจ้าต้องดูแลมัน”
(บุคอรี และมุสลิม)
และดังปรากฏในโองการกุรอานว่า
“และหลังจากนั้น (ตาย) สูเจ้าต้องถูกสอบถามถึงเรื่องความโปรดปรานต่างๆ ที่ได้รับจากอัลลอฮฺ ”
(ซูเราะฮฺอัตตะกาซุร : 8)
ท่านนบีมุฮัมหมัด ได้ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตและจิตวิญญาณเป็นอย่างยิ่ง เพราะความเป็นมนุษย์ของเรานั้นอยู่ที่จิตใจและจิตวิญญาณ ไม่ได้อยู่ที่ร่างกาย แต่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างจิตกับกายนั้นมีความลึกซึ้งละเอียดอ่อน ไม่อาจแยกจากกันได้ และมีอิทธิพลต่อกันทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด ได้กล่าวไว้ว่า
“พึงรู้เถิดว่า ในร่างกายนั้น มีก้อนเนื้ออยู่ก้อนหนึ่ง ซึ่งถ้ามันดีแล้ว อวัยวะส่วนอื่นในร่างกายก็จะดีตามไปด้วยทั้งหมด
แต่หากมันเลวแล้ว อวัยวะอื่นทั้งหมดในร่างกายก็จะเลวตามไปด้วย พึงรู้เถิดว่ามัน คือ หัวใจ ”
(บุคอรี และมุสลิม)
การปฏิบัติศาสนกิจต่างๆ ในอิสลาม ไม่ว่าจะเป็นการละหมาด การถือศีลอด การกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ (การซิเกร) การอ่านอัลกุรอาน และอื่นๆ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เสริมสร้างสุขภาพจิตทั้งสิ้น
อัลลอฮฺ ทรงตรัสไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานว่า
“บรรดาผู้ศรัทธาและจิตใจของพวกเขาสงบด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮ พึงทราบเถิด ด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺ นั้น ทำให้จิตใจสงบ”
(ซูเราะฮฺอัรเราะอฺดุ : 28)
การละหมาด เป็นการปล่อยวางทางจิตใจจากภารกิจทุกอย่างรอบๆ ตัว เพื่อรวบรวมสมาธิรำลึกถึง และวิงวอนขอต่ออัลลอฮฺ พระผู้เป็นเจ้า ด้วยจิตอันมั่นคงมุ่งมั่นซึ่งจะก่อให้เกิดพลัง และความเข้มแข็งของจิตใจ ซึ่งจะเป็นเกราะกำบังความเลวร้ายต่างๆ ที่จะเข้ามากัดเซาะบ่อนทำลายการดำรงอยู่และสุขภาพจิตอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับการถือศีลอดนั้น นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างความสดใส ฝึกความอดทนอดกลั้น และความแข็งแกร่งของจิตใจแล้ว การถือศีลอดยังเป็นการรักษาและเสริมสร้างสุขภาพทางกายอย่างมีประสิทธิภาพด้วย ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด กล่าวไว้ว่า
“ท่านจงถือศีลอด แล้วท่านจะมีสุขภาพที่สมบูรณ์”
(อัฏฏอบรอนี)
อิสลามให้ความสำคัญกับเรื่องของความสะอาด ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด ได้กล่าวไว้ว่า
“ความสะอาดนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธา”
(อะหมัด และมุสลิม)
การรักษาสุขภาพและรักษาความสะอาดในมุมมองของคำสอนศาสนาอิสลาม
เรียบเรียงโดย One Muslimah
องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ได้ให้ความหมายของคำว่า "สุขภาพ" ไว้ว่า "สุขภาพ (Health) หมายถึง สุขภาวะที่สมบูรณ์ ทั้ง 4 มิติ คือ มิติทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ มิใช่เพียงแค่ปราศจากโรคหรือความพิการเท่านั้น" แต่ความหมายของ “สุขภาพ ในทัศนะอิสลาม” จะเน้นในมิติด้าน “จิตวิญญาณ (spiritual well-being)” เป็นสำคัญ เพราะอิสลามมีหลักความศรัทธาที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับพระผู้เป็นเจ้า คือ มีความศรัทธาในอัลลอฮฺ
อิสลามเชื่อว่าสุขภาวะที่สมบูรณ์ทางจิตวิญญาณ จะเป็นพลังที่จะนำไปสู่สุขภาพที่ดีโดยรวม เนื่องจากอิสลามเป็นวิถีการดำเนินชีวิต (Way of Life) ที่ตั้งอยู่ในกรอบแนวทางของศาสนาที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน และแบบอย่างคำสอนของท่านศาสดามุฮัมหมัด ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย ทั้งในเรื่องการกิน การนอน กิจวัตรประจำวันทั่วไป สังคม วัฒนธรรม สุขภาพอนามัย การเจ็บป่วย ความตาย และอื่นๆ ซึ่งมีบัญญัติไว้ทั้งสิ้น
การมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงดี ย่อมเป็นรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิต และกระบวนการพัฒนาในทุกด้านทุกมิติ ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด ได้กล่าวถึงสุขภาพไว้อย่างกว้างขวางและครอบคลุมปัจจัยแห่งสุขภาวะ อีกทั้งสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของสุขภาพไว้อย่างเป็นองค์รวม ว่า
“ผู้ใดที่ตื่นเช้าขึ้นมา มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง มีจิตใจที่สงบร่มเย็น ไม่มีความวิตกกังวลทุกข์ร้อน มีอาหารสำหรับบริโภคในวันนั้น
ก็ประหนึ่งว่าเขาผู้นั้นได้ครองโลกไว้ทั้งโลก”
(ติรมีซีย์ อิบนิมายะฮ์ และบุคอรี)
ในมุมมองของอิสลาม ถือว่าการดูแลรักษาสุขภาพนั้นเป็นหน้าที่ (วาญิบ) สำหรับมนุษย์ เพราะสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ดี เป็นความโปรดปราน (เนี๊ยะมัต) ที่อัลลอฮฺ ทรงประทานให้แก่มนุษย์ ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด กล่าวว่า
“เนี๊ยะมัต (ความโปรดปราน) 2 ประการ ที่คนส่วนใหญ่มักจะหลงลืม คือ การมีสุขภาพที่ดี และการมีเวลาว่าง”
(บุคอรี)
ดังนั้น มนุษย์จะต้องสำนึกในคุณค่าและต้องแสดงความกตัญญูต่ออัลลอฮฺ ในการดำรงรักษาความโปรดปรานนี้ ด้วยการรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง แต่หากปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจ หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นมูลเหตุแห่งการบ่อนทำลายสุขภาพ นอกจากผู้นั้นจะต้องได้รับความเดือดร้อนในชีวิตบนโลกนี้แล้ว เขายังต้องรับผิดชอบและถูกสอบสวนในวันอาคีเราะฮฺ (โลกหน้า) อีกด้วย ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด มุฮัมหมัด ได้กล่าวว่า
“และสำหรับร่างกายของเจ้านั้น เป็นหน้าที่ซึ่งเจ้าต้องดูแลมัน”
(บุคอรี และมุสลิม)
และดังปรากฏในโองการกุรอานว่า
“และหลังจากนั้น (ตาย) สูเจ้าต้องถูกสอบถามถึงเรื่องความโปรดปรานต่างๆ ที่ได้รับจากอัลลอฮฺ ”
(ซูเราะฮฺอัตตะกาซุร : 8)
ท่านนบีมุฮัมหมัด ได้ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตและจิตวิญญาณเป็นอย่างยิ่ง เพราะความเป็นมนุษย์ของเรานั้นอยู่ที่จิตใจและจิตวิญญาณ ไม่ได้อยู่ที่ร่างกาย แต่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างจิตกับกายนั้นมีความลึกซึ้งละเอียดอ่อน ไม่อาจแยกจากกันได้ และมีอิทธิพลต่อกันทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด ได้กล่าวไว้ว่า
“พึงรู้เถิดว่า ในร่างกายนั้น มีก้อนเนื้ออยู่ก้อนหนึ่ง ซึ่งถ้ามันดีแล้ว อวัยวะส่วนอื่นในร่างกายก็จะดีตามไปด้วยทั้งหมด
แต่หากมันเลวแล้ว อวัยวะอื่นทั้งหมดในร่างกายก็จะเลวตามไปด้วย พึงรู้เถิดว่ามัน คือ หัวใจ ”
(บุคอรี และมุสลิม)
การปฏิบัติศาสนกิจต่างๆ ในอิสลาม ไม่ว่าจะเป็นการละหมาด การถือศีลอด การกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ (การซิเกร) การอ่านอัลกุรอาน และอื่นๆ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เสริมสร้างสุขภาพจิตทั้งสิ้น
อัลลอฮฺ ทรงตรัสไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานว่า
“บรรดาผู้ศรัทธาและจิตใจของพวกเขาสงบด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮ พึงทราบเถิด ด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺ นั้น ทำให้จิตใจสงบ”
(ซูเราะฮฺอัรเราะอฺดุ : 28)
การละหมาด เป็นการปล่อยวางทางจิตใจจากภารกิจทุกอย่างรอบๆ ตัว เพื่อรวบรวมสมาธิรำลึกถึง และวิงวอนขอต่ออัลลอฮฺ พระผู้เป็นเจ้า ด้วยจิตอันมั่นคงมุ่งมั่นซึ่งจะก่อให้เกิดพลัง และความเข้มแข็งของจิตใจ ซึ่งจะเป็นเกราะกำบังความเลวร้ายต่างๆ ที่จะเข้ามากัดเซาะบ่อนทำลายการดำรงอยู่และสุขภาพจิตอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับการถือศีลอดนั้น นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างความสดใส ฝึกความอดทนอดกลั้น และความแข็งแกร่งของจิตใจแล้ว การถือศีลอดยังเป็นการรักษาและเสริมสร้างสุขภาพทางกายอย่างมีประสิทธิภาพด้วย ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด กล่าวไว้ว่า
“ท่านจงถือศีลอด แล้วท่านจะมีสุขภาพที่สมบูรณ์”
(อัฏฏอบรอนี)
อิสลามให้ความสำคัญกับเรื่องของความสะอาด ดังที่ท่านนบีมุฮัมหมัด ได้กล่าวไว้ว่า
“ความสะอาดนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธา”
(อะหมัด และมุสลิม)