ต่อเนื่องจากกระทู้แรก แบกเป้เที่ยวแดนจิงโจ้ 6 วัน 2 เมือง Melbourne & Sydney ที่ http://pantip.com/topic/34703077
และ ทริปออสเตรเลีย วันที่ห้า ตระเวณรอบ Sydney Harbour ชมพลุ Count Down 2015 ตระการตา ที่ http://pantip.com/topic/34854382

และแล้ววันนี้ก็มาถึง เช้าวันแรกของปีใหม่ 2015 และเป็นวันสุดท้ายของทริปนี้ เย็นนี้ต้องกลับ กทม แล้ว
วันนี้เราออกเดินทางกันช้าหน่อย เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยจากการกลับดึกเมื่อคืน เราออกมาขึ้นเรือที่ท่าเดิมตอน 10 โมง น้อง Charlotte ลำเดิมมารับ พาเราฝ่าลมเย็นๆ ชมทิวทัศน์ต่างๆ




ลอดใต้ Harbour Bridge มา มองเห็น Opera House เป้าหมายของเราเช้านี้ยืนท้าแดดส่งยิ้มให้เรามาแต่ไกล วันนี้เราจะเข้าไปชมข้างในกันล่ะ


ก่อนอื่น กองทัพต้องเดินด้วยท้อง พอมาถึง Circular Quay เราไปส่องตู้กระจก เห็นเป็นแซนวิสหน้าตาดูดี เลยจัดซะ

เราเดินกินแซนวิสชิลล์ๆชมวิวระหว่างทางที่จะเดินไปหา Opera House

ระหว่างทางเห็นคนมานั่งทานอาหารเช้าชิลล์ๆชมวิวในวันสบายๆ ช่างน่ารื่นรมย์ดีเหลือเกิน

ชมวิวสะพาน Harbour Bridge และเรือเฟอร์รี่ กับท้องฟ้าใสๆ หลังผ่านค่ำคืนของการ Count Down


เดินผ่านร้านค้าก็มาถึงทางเดินเข้าสู่ Opera House เรามาถึงตอน 11 โมง มีนักท่องเที่ยวมาก่อนหน้าเราประมาณหนึ่งแล้ว

เราใช้บัตร I-Venture ที่เหลือ 1 รายการเพื่อแลกตั๋วทัวร์เข้าชมภายใน ที่นี่จะจัดทัวร์เป็นรอบๆ มีภาษาอังกฤษและจีน ทัวร์ไกด์ของกรุ้ปเรา หล่อมั้ยครับ?


ก่อนเริ่มทัวร์ มีตากล้องมาถ่ายรูปลูกทัวร์ทีละกรุ้ป จากนั้นไกด์จึงพาเราเดินเข้าประตูส่วน Loading ซึ่งเป็นทางเข้าของ Staff นักแสดงที่จะเข้ามาแสดง และบุคคลสำคัญต่างๆ ล้วนต้องเข้าทางนี้ทั้งนั้น

ไกด์พาเราเข้ามานั่งในโรงละครขนาดเล็ก พร้อมกับอธิบายว่าที่นี่มีโรงละคร 3 ขนาด โรงนี้เป็นโรงที่เล็กที่สุด และเป็นโรงเดียวที่อนุญาตให้ถ่ายรูปภายในได้

จากนั้นไกด์พาเรามาที่โถงของอีกอาคารเพื่อดูวีดีโออธิบายถึงที่มา Concept การออกแบบและประวัติของการสร้าง Opera House


พร้อมกับชมความสวยงามของภายในอาคารไปด้วย



หลังจากชมประวัติการสร้างแล้ว ไกด์ก็พาเราออกมานอกอาคารอีกครั้งเพื่อให้มาชมกระเบื้องเซรามิกที่ใช้มุงหลังคาในส่วนของโดมอย่างใกล้ๆ ไกด์เน้นมากๆว่าเป็นกระเบื้องเซรามิกที่ทำยากมาก ใช้เวลากว่า 3 ปีในการติดตั้งให้ครบทั้งหมด


จากนั้นเราก็กลับเข้าสู่ในอาคารอีกครั้งเพื่อเข้าไปชมห้องแสดงขนาดกลางและขนาดใหญ่ ระหว่างทางชมความสวยงามผสมผสานกันระหว่างโครงสร้างคอนกรีตเปลือยและวัสดุไม้ที่ใช้ตกแต่งภายใน ดูแตกต่างแต่กลมกลืน

ห้องแสดงทั้ง 2 แตกต่างจากห้องแรกเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านขนาดและการตกแต่งภายใน โดยเฉพาะห้องใหญ่สุดซึ่งน่าจะจุผู้ชมได้เป็นหลักพัน การตกแต่งภายในหรูหราอลังการมากๆ น่าเสียดายที่ถูกห้ามไม่ให้ถ่ายภาพภายใน

เรานั่งอยู่ภายในพักใหญ่ๆแล้วจึงออกมาที่โถงหน้าห้องเพื่อมาชมวิวของอ่าวจากภายในอาคาร


เราใช้เวลาอยู่กับกรุ้ปทัวร์ทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จบทัวร์ประมาณบ่ายโมงตรง ไกด์พาเรามาส่งที่ชั้นล่างของอาคารซึ่งเป็นร้านค้าขายของที่ระลึก

ที่บูทขายของที่ระลึกอย่างเป็นทางการของ Opera House เราเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงต้องถ่ายรูปก่อนเริ่มทัวร์และทำไมถึงห้ามถ่ายรูปภายในห้องแสดงคอนเสริต์ เพราะเค้าเอารูปที่ถ่ายเราตอนแรกไปแมทซ์กับ Background ทั้งภายในห้องแสดงและภายนอกอาคาร สวยดีครับ ใครอยากได้เป็นที่ระลึกเชิญได้

เวลาบ่ายโมงตรง เราออกมาเดินเก็บภาพบรรยากาศโดยรอบอีกครั้ง เพื่อเป็นการร่ำลา Opera House และ Harbour Bridge




เดินเก็บบรรยากาศได้สัก 15 นาที เราก็จำต้องเดินลาจากมา เนื่องจากยังมีภารกิจสุดท้ายที่ต้องทำก่อนที่จะบินกลับบ้าน

เราเดินเลียบอ่าวมุ่งหน้ากลับไปที่ Circular Quay ระหว่างทางเห็นผู้คนมากขึ้นกว่าตอนมา บ้างก็ทานมื้อเที่ยง บ้างก็นั่งๆนอนๆชิลล์ชมวิวทิวทัศน์กันไป

ดูช่างมีความสุขกันเหลือเกิน นึกถึงบ้านเราว่าน่าจะมีสถานที่แบบนี้บ้าง คงจะดีไม่น้อย


ตอนบ่ายโมงครึ่งเราก็มาถึงที่ Circular Quay คราวนี้เราจะเดินทางออกจากที่นี่โดยใช้รถไฟละ
อยู่บนสถานีมองออกมาฝั่งตรงข้ามกับท่าเรือ เห็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสมัยเก่าดูโดดเด่นท่ามกลางกลุ่มอาคารกระจกสมัยใหม่ ดูสวยงาม ดูจากแผนที่น่าจะเป็นอาคาร Police & Justice Museum


เรานั่งรถไฟมาลงที่สถานี Town Hall Station เนื่องจากเป็นสถานีปลายทาง และตั้งใจจะเดินไปที่ Paddy’s Market ซึ่งห่างออกไปประมาณ 3-4 Block ระหว่างทางก็ตั้งใจเผื่อจะได้ Shopping ในตัวเมืองบ้าง

ระหว่างทางแอบมองเห็น Sydney Tower เป็นหอคอยสูงที่มีร้านอาหารและจุดชมวิวมุมสูงของเมือง เราไม่ได้ขึ้นไป ได้แต่มองและถ่ายรูปจากเบื้องล่าง รูปนี้มีองค์ประกอบเป็นอาคารสมัยเก่าอยู่ร่วมกับอาคารกระจกและตัว Tower เป็น 3 สไตล์ที่แตกต่างแต่อยู่ร่วมกันได้เป็นอย่างดี


เดินมาอีกหน่อยเจออาคารนี้สวยดี น่าจะเป็น Sydney Town Hall เป็นอาคารสมัยเก่าดูขลัง อยู่ท่ามกลางกลุ่มอาคารสมัยใหม่อย่างไม่อายใคร โดดเด่นซะอีกต่างหาก


จนเวลา 14.30 น. ในที่สุดเราก็เดินมาเจอ Paddy’s Market จนได้

ที่ Paddy’s Market นี้คล้ายกับ Queen Victoria Market ที่ Melbourne เป็นตลาดพื้นเมืองขายของหลากหลายชนิดราคาถูก คล้ายๆจตุจักรบ้านเรา เราตั้งใจมาหาซื้อผลไม้พื้นเมืองราคาถูก แต่เป็นความโชคร้ายของเรา ตลาดแห่งนี้ปิดทุกวันจันทร์ เราเลยอดไปตามระเบียบ

เราลองเดินเข้าไป พบว่าชั้นสองเป็นห้างติดแอร์ ขายของตามปกติทั่วไป เราเลยเข้าไปซื้อผลไม้ใน Supermarket แทน ราคาอาจจะไม่ถูกเท่าชั้นล่าง แต่ได้ผลไม้คุณภาพดีกลับบ้าน

ขอทิ้งภาพนี้ไว้เป็นภาพสุดท้ายของทริปนี้ ไม่ได้มีความสวยงามอะไร เป็นเพียงรูปสุดท้ายที่ถ่ายเป็นการร่ำลาเมือง Sydney เป็นความทรงจำถึงเมืองหนึ่งที่เราเคยมา และหวังว่าจะได้กลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง


ขากลับเราเดินทางย้อนทางกับขาที่เรามา ด้วยการนั่งรถ Light Rail ไปที่ Central Station และนั่งรถไฟสายสีเขียวไปที่สนามบิน เราเดินทางกลับด้วยเครื่องของสายการบิน Qantax ออกจาก Sydney เวลา 19.45 น. และมาถึงเมืองไทยเวลา 00.55 น. แล้วจึงเดินทางกลับบ้านด้วยความเหน็ดเหนื่อยแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข

คุ้มแล้วกับที่ตั้งหน้าตั้งตามาเป็นเวลานานเพื่อที่จะได้มาเยือนประเทศนี้ ดินแดน Down Under.....

ทริปนี้เป็นทริปที่ยาวและเหน็ดเหนื่อยทุกวัน แต่ก็เป็นการเดินทางที่ได้รับความสุขและประสบการณ์ต่างๆไม้น้อยเลย
อยากขอแนะนำทริปนี้ไว้พิจารณาสำหรับนักเดินทางทุกท่านที่ต้องการประสบการณ์เพิ่มเติมนะครับ
สำหรับตอนนี้ ขอขอบคุณทุกท่านๆที่ติดตามอ่านมาจนถึงวันสุดท้าย และขอบคุณทุกคอมเมนต์และกำลังใจนะครับ
จะขอรับไว้ปรับปรุงในรีวิวทริปต่อไปในครั้งหน้า ขอบคุณมากๆครับ