วันนี้ขอมาวิเคราะห์รูปเกมของ Bayern Munich กับ Borussia Dortmund ก่อนเกมการแข่งขันระหว่าง 2 ทีมเต็งลุ้นแชมป์ของ Bundesliga ที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม เวลา 00.30 น.หรือเวลาเที่ยงคืนครึ่งของคืนวันเสาร์ โดยแมตนี้ถ้าสามารถร่วมเชียร์กันได้ทางช่อง Fox Sports 2 นะครับ ซึ่งผมได้ไปหาข้อมูลกับเพื่อนๆ และนำมาเรียบเรียงกันอีกทีหากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยครับ
ในฤดูกาลที่ผ่านมาคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าทีมที่ได้แชมป์บุนเดสลิกา คือ Bayern Munich ด้วยการจบฤดูกาลที่คะแนน 79 แต้ม ในขณะที่ VFL Wolfsburg ครองตำแหน่งรองแชมป์ไปด้วยคะแนน 71 แต้ม แต้มห่างกัน 8 แต้ม ผลสรุปแล้วในฤดูกาล 2014-2015
ทีมที่ได้ไปแชมป์เปี่ยน ลีก ได้แก่ Bayern Munich, VFL Wolfsburg , Borussia Monchengladbach , Bayer Leverkusen
ทีมที่ได้ไปยูโรป้า ลีกได้แก่ FC Augsburg , Schalke 04 , Borussia Dortmund
และทีมที่ต้องตกชั้นไป ได้แก่ SC Freiburg , SC Paderborn 07
มาย้อนถึงศึกครั้งแรกของบาร์เยิร์น มิวนิค กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในฤดูกาลนี้กันนะครับ นัดนี้เจ้าบ้าน บาเยิร์น มิวนิค จัดทีมชุดใหญ่มาในระบบ 4-3-3 โดยใช้ ดั๊กลาส คอสต้า , โธมัส มุลเลอร์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นสามประสานในแนวรุก ส่วนแนวรับขยับ ดาบิด อลาบากลับไปเล่นตำแหน่งแบ็คซ้ายและให้ ฆาบี้ มาร์ติเนซ คู่กับ เยโรม บัวเต็ง ในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง ในขณะที่ทีมเยือนโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ดร็อป มาร์โก้ รอยส์ แล้วส่ง กอนซาโล คาสโคร ลงมาทำหน้าที่แทน พร้อมกับให้ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ยืนเป็นกองหน้า โดยมี ชินจิ คางาวะ กับ เฮนริค เมอคิตาร์ยาน คอยเติมเกม
เกมเริ่มได้เพียงแค่ 26 นาที เป็นฝั่งเจ้าบ้านบาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำก่อน 1-0 จากประตูของโธมัส มุลเลอร์ และในอีกไม่กี่นาที ฝั่งเจ้าบ้านก็หนีห่างเป็น 2-0 ในจังหวะที่ เฮนริค เมอร์คิตายาน กองกลางของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปทำฟาวล์ใส่ ติอาโก อัลคันทารา ในกรอบเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ และเป็นโธมัส มุลเลอร์ รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปอย่างไม่พลาด บาเยิร์น มิวนิคนำ 2-0 ในนาทีที่34 แต่ในอีก 3นาทีต่อมา เป็นปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าชาวกาบองทำประตูตีตึ้นให้ทีมเยือนได้สำเร็จ ไล่ตามมาเป็น 2-1 จบครึ่งแรก
ครึ่งหลังเริ่มได้เพียง 25วินาที บาเยิร์น มิวนิคก็หนีห่างไปอีกเป็น 3-1 จากลูกยิงของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ศูนย์หน้าชาวโปแลนด์ และเจ้าบ้านก็มาบวกอีก 2 ประตู ในนาทีที่58 และ นาทีที่ 65 จากการทำประตูของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้และมาริโอ เกิทเซ จบเกมบาเยิร์น มิวนิคเปิดบ้านถล่มเอาชนะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปอย่างขาดลอย 5-1
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในการพบกันของทั้ง2ทีม
4 October 2015 Bayern Munich vs Borussia Dortmund 5-1
28 April 2015 Bayern Munich vs Borussia Dortmund 1-1
4 April 2015 Borussia Dortmund vs Bayern Munich 0-1
1 November 2014 Bayern Munich vs Borussia Dortmund 2-1
13 August 2014 Borussia Dortmund vs Bayern Munich 2-0
สถิติ 5 นัดหลังของ Bayern Munich
6 February 2016 Bayer Leverkusen vs Bayern Munich 0-0
14 February 2016 Augsburg vs Bayern Munich 1-3
20 February 2016 Bayern Munich vs Darmstadt 98 3-1
27 February 2016 Wolfsburg vs Bayern Munich 0-2
2 March 2016 Bayern Munich vs Mainz 05 1-2
Bayer Leverkusen vs Bayern Munich
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นเปิดบ้าน เบย์อารีน่าต้อนรับการมาเยือนของทีมจ่าฝูงอย่างบาเยิร์น มิวนิค ทีมเจ้าบ้านเลือกใช้ ทิน เยดวาย มายืนเป็นแบ็คขวาในเกมนี้ ที่เหลือถือว่าจัดตัวตามถนัด ส่วนฝั่งบาเยิร์น มิวนิคทีมเยือน สภาพทีมขาดกองหลังตัวกลางจึงต้องใช้บริการโจชัว คิมมิช กองกลางดาวรุ่งมายืนเป็นเซนเตอร์จำเป็น ส่วนกองกลางเลือกใช้ อาร์ตูโร่ วิดัล ยืนคู่กับ ชาบี อลอนโซ่และพัก โทมัส มุลเลอร์ดาวยิงตัวเก่งของทีม ซึ่งในเกมนี้ทางฝั่งเสือใต้เป็นฝ่ายครองบอลบุกเป็นส่วนมากถึง 63% โอกาสทำประตูของทั้งสองทีมใกล้เคียงกันแต่ฝั่งทีมห้างขายยา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เป็นฝ่ายที่ยิงเข้ากรอบมากกว่า จบเกม ทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันไป 0-0
Augsburg vs Bayern Munich
ฝั่งเอาก์สบวร์ก จัดทีมตามถนัด ส่วนด้านทีมบาเยิร์น ประสบปัญหาไร้เซ็นเตอร์ฮาล์ฟอาชีพที่มีปัญหาบาดเจ็บ ทำให้ต้องปรับเอาดาวรุ่งอย่าง โจชัว คิมมิช มาจับคู่ปราการหลังตัวกลางจำเป็นกับ ดาวิด อลาบ้าเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้นทางด้าน บาเยิร์นออกนำอย่างรวดเร็วโดย เลวานดอฟสกี้ และในครึ่งหลังบาเยิร์นได้อีก2 ลูกจาก เลวานดอฟสกี้ กับ มุลเลอร์ ในนาทีที่ 62 กับ 78 และในท้ายเกมเจ้าบ้านได้ประตูปลอบใจในนาทีที่86จาก ราอูล โบบาดิญา จบเกมบาเยิร์นบุกชนะไป 3-1
Bayern Munich vs Darmstadt 98
บาเยิร์นมีการปรับทีมจากเกมสัปดาห์ก่อนที่บุกชนะเอาก์สบวร์ก 3-1 ทั้งสิ้น 3 ราย ได้แก่ ราฟินญา, แซร์ดาร์ทาสคี และ คิงสลีย์โคม็อง ด้านทีมเยือนดาร์มสตั๊ดท์ ที่ชนะในเกมนอกบ้านมา 2 นัดติดต่อกันแล้ว เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-4-1-1 เริ่มเกมมาเป็นบาเยิร์นที่ครองบอลบุกเข้าใส่ได้มากกว่า แต่กลับเป็นดาร์มสตัดต์ ที่อาศัยทีเด็ดของซานโดร ซิริกู ขึ้นนำได้สำเร็จในนาทีที่ 26 จนกระทั่งนาทีที่ 49 บาเยิร์นได้ประตูตีเสมอจากราฟินญา เป็น 1-1 และพลิกแซงขึ้นนำ 2-1 จากการทำประตูของ มุลเลอร์ ในนาทีที่71 และในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 84 บาเยิร์นได้ประตูที่3จาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ จบเกมบาเยิร์นชนะไป 3-1
Wolfsburg vs Bayern Munich
โวล์ฟสบวร์ก เจ้าบ้าน ตัดสินใจใช้ 11 คนแรกจากบุนเดสลีกานัดล่าสุด ส่วนด้านทีมเยือนบาเยิร์น ปรับทัพทั้งสิ้น 2 ราย ได้แก่ ชาบี อลอนโซ และ คิงสลีย์โคม็อง ซึ่งได้โอกาสลงตัวจริงแทน อาร์ตูโร วิดัล กับ ติอาโก้ อัลคันทารา ในครึ่งแรกบาเยิร์นเป็นฝ่ายครองบอลบุกมากกว่าแต่ไม่สามารถผ่านแนวรับของโวล์ฟสบวร์กได้ จบครึ่งแรกสกอร์ 0-0 ในครึ่งหลังบาเยิร์นแก้เกมด้วยการส่งสองแนวรุกอย่าง ติอาโก้ และ ฟรองค์ ริเบรี จนนาทีที่ 66 ได้ประตูขึ้นนำจาก โคม็อง แปด้วยขวาเน้นๆเข้าไป ทีมเยือนบุกนำ 1-0 ถัดมานาทีที่ 74 บาเยิร์นยังมาบวกลูกสองเพิ่มได้จากเลวานดอฟสกี้ ช่วยให้บาเยิร์นนำห่าง2ลูก จบเกมบาเยิร์นบุกชนะไปแบบสบายๆ 0-2
Bayern Munich vs Mainz 05

บาเยิร์นเจ้าบ้านได้เมดี้ เบนาเตียกลับมาช่วยแนวรับ และใช้ ฟรองค์ ริเบรี จับคู่กับ อาเยน รอบเบน ในแนวรุก ส่วนไมนซ์ปรับทีมใช้หลังสามใส่ฮักค์ไปยืนเซ็นเตอร์ เริ่มเกมเป็นฝั่งบาเยิร์นเป็นฝ่ายครองบอลและพับสนามบุก ส่วนไมนช์เป็นฝ่ายตั้งรับและรอจังหวะส่วนกลับแล้วในนาทีที่26เป็นฝั่งทีมเยือนไมนซ์ขึ้นนำก่อนโดยได้ประตูจากไฆโร ขึ้นนำ1-0 ครึ่งหลังในนาทีที่ 65 ฝั่งบาเยิร์นตามตีเสมอได้จากการทำประตูของร็อบเบน เป็น 1-1 และในช่วงท้ายเกมไมนซ์ได้ประตูชัยจากการยิงไกลของคอร์โดบาส่งบอลพุ่งเข้าเสาแรก แซงขึ้นนำอีกครั้ง จบเกมเป็นฝั่งทีมเยือนไมนซ์ชนะไป 2-1 และเป็นความพ่ายแพ้นัดที่สองของบาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาลนี้
สถิติ 5 นัดหลังของ Borussia Dortmund
6 February 2016 Hertha BSC vs Borussia Dortmund 0-0
14 February 2016 Borussia Dortmund vs Hannover 96 1-0
20 February 2016 Bayer Leverkusen vs Borussia Dortmund 0-1
27 February 2016 Borussia Dortmund vs 1899 Hoffenheim 3-1
2 March 2016 Darmstadt 98 vs Borussia Dortmund 0-2
Hertha BSC Berlin vs Borussia Dortmund
แฮร์ธา เจ้าถิ่นปรับทัพจากเกมสัปดาห์ก่อนเพียงแค่รายเดียวเท่านั้น คือ เยนส์ เฮเกเลอร์ ที่ได้โอกาสลงตัวจริงแทน เพอร สเกลเบรด ส่วนแนวรุกยังฝากความหวังไว้ที่ ซาโลมง กาลู และ เวดาด อิบิเซวิช
ด้านทีมเยือนดอร์ทมุนด์ เปลี่ยนแปลงนักเตะจากนัดล่าสุด 4 คือ มาร์เซล ชเมลเซอร์, อิลคาย กุนโดกัน, กอนซาโล คาสโตร และ มาร์โก รอยส์ แทน เอริค ดวร์ม, มัทธีอัส กินเทอร์, ชินจิ คางาวะ และ อาเดรียน รามอส
ครึ่งแรกเกมค่อนข้างจะสูสี และทั้งสองทีมก็ยังหาจังหวะทำประตูไม่ได้ จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกันแบบไร้สกอร์ที่ 0-0
ในครึ่งหลังเป็นดอร์ทมุนด์ พยายามตั้งเกมบุกเพื่อหวังยิงออกนำให้ได้ รวมถึงส่งอดีตนักเตะเจ้าบ้านอย่าง อาเดรียน รามอส ลงมาเป็นตัวสำรองหวังพังประตูทีมเก่าอีกด้วย แต่กลับไม่สามารถเจาะแนวรับของแฮร์ธาได้ ทำให้จบเกมด้วยผลเสมอ 0-0
Borussia Dortmund vs Hannover
เจ้าบ้านดอร์ทมุนด์ ปรับทับจากเกมเดเอฟเบโพคาล ทั้งสิ้น 3 ราย ได้แก่ เนเวน ซูโบติส ,ชินจิ คากาวะ และกอนซาโล คาสโตร แทนโซครา ติส ปาปัสทาโตปูลอส, เอริค ดวร์ม และ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ด้านทีมเยือน ฮันโนเวอร์ สถานการณ์ค่อนข้างแย่ นัดนี้จึ้งต้องการชัยชนะ โดยเลือกวาง อาร์ตูร์ โซเบียช ยืนเป็นกองหน้า คอยร่วมประสานงานในแนวรุกร่วมกับ เคนาน คารามาน, และ อุฟเฟ เบช
ครึ่งแรกเป็นดอร์ทมุนด์ที่ครองเกมเหนือกว่ามาก บุกอยู่ข้างเดียวแต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของฮันโนเวอร์ได้ ทำให้ครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันแบบไร้สกอร์ที่ 0-0เข้าสู้ครึ่งหลังก็ยังเป็นเจ้าถิ่นที่บุกอยู่ข้างเดียว จนนาทีที่ 57 ดอร์ทมุนด์ยิงออกนำได้สำเร็จ โดยได้จาก เฮนริค เมอคิตาร์ยาน ส่งให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0 หลังจากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็น ดอร์ทมุนด์ที่เปิดบ้านเอาชนะไปได้ 1-0
Leverkusen vs Borussia Dortmund

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เจ้าบ้าน ได้ ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ ได้กลับมายืนตัวจริงอีกครั้ง ส่วนฝั่งทีมเยือนของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นัดนี้ส่ง เฮนริกห์ เอ็มคิตาร์ยาน กับปิแอร์-เอเมอริค อูบาเมยอง ในแนวรุก
ครึ่งแรกโอกาสบุกของทั้งสองทีมมีเท่ากัน ไม่ค่อยมีโอกาศลุ้นทำประตูแบบจะแจ้งมากนัก จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกัน 0-0 เข้าครึ่งหลังเกมในนาทีที่ 64 ก็เป็นทางดอร์ทมุนด์ ที่มาได้ประตูชัยของเกมโดยได้จาก อูบาเมยอง และป็นประตูเดียวที่เกิดในเกมนี้ ช่วยให้ดอร์ทมุนเอาชนะเลเวอร์คูเซ่น 0-1
มีต่อนะครับ........
โค้งสุดท้ายก่อนปิดฤดูกาลบุนเดสลีกากับว่าที่แชมป์ มาคุยกันครับ!!!
วันนี้ขอมาวิเคราะห์รูปเกมของ Bayern Munich กับ Borussia Dortmund ก่อนเกมการแข่งขันระหว่าง 2 ทีมเต็งลุ้นแชมป์ของ Bundesliga ที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม เวลา 00.30 น.หรือเวลาเที่ยงคืนครึ่งของคืนวันเสาร์ โดยแมตนี้ถ้าสามารถร่วมเชียร์กันได้ทางช่อง Fox Sports 2 นะครับ ซึ่งผมได้ไปหาข้อมูลกับเพื่อนๆ และนำมาเรียบเรียงกันอีกทีหากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยครับ
ในฤดูกาลที่ผ่านมาคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าทีมที่ได้แชมป์บุนเดสลิกา คือ Bayern Munich ด้วยการจบฤดูกาลที่คะแนน 79 แต้ม ในขณะที่ VFL Wolfsburg ครองตำแหน่งรองแชมป์ไปด้วยคะแนน 71 แต้ม แต้มห่างกัน 8 แต้ม ผลสรุปแล้วในฤดูกาล 2014-2015
ทีมที่ได้ไปแชมป์เปี่ยน ลีก ได้แก่ Bayern Munich, VFL Wolfsburg , Borussia Monchengladbach , Bayer Leverkusen
ทีมที่ได้ไปยูโรป้า ลีกได้แก่ FC Augsburg , Schalke 04 , Borussia Dortmund
และทีมที่ต้องตกชั้นไป ได้แก่ SC Freiburg , SC Paderborn 07
มาย้อนถึงศึกครั้งแรกของบาร์เยิร์น มิวนิค กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในฤดูกาลนี้กันนะครับ นัดนี้เจ้าบ้าน บาเยิร์น มิวนิค จัดทีมชุดใหญ่มาในระบบ 4-3-3 โดยใช้ ดั๊กลาส คอสต้า , โธมัส มุลเลอร์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นสามประสานในแนวรุก ส่วนแนวรับขยับ ดาบิด อลาบากลับไปเล่นตำแหน่งแบ็คซ้ายและให้ ฆาบี้ มาร์ติเนซ คู่กับ เยโรม บัวเต็ง ในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง ในขณะที่ทีมเยือนโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ดร็อป มาร์โก้ รอยส์ แล้วส่ง กอนซาโล คาสโคร ลงมาทำหน้าที่แทน พร้อมกับให้ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ยืนเป็นกองหน้า โดยมี ชินจิ คางาวะ กับ เฮนริค เมอคิตาร์ยาน คอยเติมเกม
เกมเริ่มได้เพียงแค่ 26 นาที เป็นฝั่งเจ้าบ้านบาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำก่อน 1-0 จากประตูของโธมัส มุลเลอร์ และในอีกไม่กี่นาที ฝั่งเจ้าบ้านก็หนีห่างเป็น 2-0 ในจังหวะที่ เฮนริค เมอร์คิตายาน กองกลางของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปทำฟาวล์ใส่ ติอาโก อัลคันทารา ในกรอบเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ และเป็นโธมัส มุลเลอร์ รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปอย่างไม่พลาด บาเยิร์น มิวนิคนำ 2-0 ในนาทีที่34 แต่ในอีก 3นาทีต่อมา เป็นปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าชาวกาบองทำประตูตีตึ้นให้ทีมเยือนได้สำเร็จ ไล่ตามมาเป็น 2-1 จบครึ่งแรก
ครึ่งหลังเริ่มได้เพียง 25วินาที บาเยิร์น มิวนิคก็หนีห่างไปอีกเป็น 3-1 จากลูกยิงของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ศูนย์หน้าชาวโปแลนด์ และเจ้าบ้านก็มาบวกอีก 2 ประตู ในนาทีที่58 และ นาทีที่ 65 จากการทำประตูของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้และมาริโอ เกิทเซ จบเกมบาเยิร์น มิวนิคเปิดบ้านถล่มเอาชนะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปอย่างขาดลอย 5-1
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในการพบกันของทั้ง2ทีม
4 October 2015 Bayern Munich vs Borussia Dortmund 5-1
28 April 2015 Bayern Munich vs Borussia Dortmund 1-1
4 April 2015 Borussia Dortmund vs Bayern Munich 0-1
1 November 2014 Bayern Munich vs Borussia Dortmund 2-1
13 August 2014 Borussia Dortmund vs Bayern Munich 2-0
สถิติ 5 นัดหลังของ Bayern Munich
6 February 2016 Bayer Leverkusen vs Bayern Munich 0-0
14 February 2016 Augsburg vs Bayern Munich 1-3
20 February 2016 Bayern Munich vs Darmstadt 98 3-1
27 February 2016 Wolfsburg vs Bayern Munich 0-2
2 March 2016 Bayern Munich vs Mainz 05 1-2
Bayer Leverkusen vs Bayern Munich
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นเปิดบ้าน เบย์อารีน่าต้อนรับการมาเยือนของทีมจ่าฝูงอย่างบาเยิร์น มิวนิค ทีมเจ้าบ้านเลือกใช้ ทิน เยดวาย มายืนเป็นแบ็คขวาในเกมนี้ ที่เหลือถือว่าจัดตัวตามถนัด ส่วนฝั่งบาเยิร์น มิวนิคทีมเยือน สภาพทีมขาดกองหลังตัวกลางจึงต้องใช้บริการโจชัว คิมมิช กองกลางดาวรุ่งมายืนเป็นเซนเตอร์จำเป็น ส่วนกองกลางเลือกใช้ อาร์ตูโร่ วิดัล ยืนคู่กับ ชาบี อลอนโซ่และพัก โทมัส มุลเลอร์ดาวยิงตัวเก่งของทีม ซึ่งในเกมนี้ทางฝั่งเสือใต้เป็นฝ่ายครองบอลบุกเป็นส่วนมากถึง 63% โอกาสทำประตูของทั้งสองทีมใกล้เคียงกันแต่ฝั่งทีมห้างขายยา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เป็นฝ่ายที่ยิงเข้ากรอบมากกว่า จบเกม ทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันไป 0-0
Augsburg vs Bayern Munich
ฝั่งเอาก์สบวร์ก จัดทีมตามถนัด ส่วนด้านทีมบาเยิร์น ประสบปัญหาไร้เซ็นเตอร์ฮาล์ฟอาชีพที่มีปัญหาบาดเจ็บ ทำให้ต้องปรับเอาดาวรุ่งอย่าง โจชัว คิมมิช มาจับคู่ปราการหลังตัวกลางจำเป็นกับ ดาวิด อลาบ้าเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้นทางด้าน บาเยิร์นออกนำอย่างรวดเร็วโดย เลวานดอฟสกี้ และในครึ่งหลังบาเยิร์นได้อีก2 ลูกจาก เลวานดอฟสกี้ กับ มุลเลอร์ ในนาทีที่ 62 กับ 78 และในท้ายเกมเจ้าบ้านได้ประตูปลอบใจในนาทีที่86จาก ราอูล โบบาดิญา จบเกมบาเยิร์นบุกชนะไป 3-1
Bayern Munich vs Darmstadt 98
บาเยิร์นมีการปรับทีมจากเกมสัปดาห์ก่อนที่บุกชนะเอาก์สบวร์ก 3-1 ทั้งสิ้น 3 ราย ได้แก่ ราฟินญา, แซร์ดาร์ทาสคี และ คิงสลีย์โคม็อง ด้านทีมเยือนดาร์มสตั๊ดท์ ที่ชนะในเกมนอกบ้านมา 2 นัดติดต่อกันแล้ว เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-4-1-1 เริ่มเกมมาเป็นบาเยิร์นที่ครองบอลบุกเข้าใส่ได้มากกว่า แต่กลับเป็นดาร์มสตัดต์ ที่อาศัยทีเด็ดของซานโดร ซิริกู ขึ้นนำได้สำเร็จในนาทีที่ 26 จนกระทั่งนาทีที่ 49 บาเยิร์นได้ประตูตีเสมอจากราฟินญา เป็น 1-1 และพลิกแซงขึ้นนำ 2-1 จากการทำประตูของ มุลเลอร์ ในนาทีที่71 และในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 84 บาเยิร์นได้ประตูที่3จาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ จบเกมบาเยิร์นชนะไป 3-1
Wolfsburg vs Bayern Munich
โวล์ฟสบวร์ก เจ้าบ้าน ตัดสินใจใช้ 11 คนแรกจากบุนเดสลีกานัดล่าสุด ส่วนด้านทีมเยือนบาเยิร์น ปรับทัพทั้งสิ้น 2 ราย ได้แก่ ชาบี อลอนโซ และ คิงสลีย์โคม็อง ซึ่งได้โอกาสลงตัวจริงแทน อาร์ตูโร วิดัล กับ ติอาโก้ อัลคันทารา ในครึ่งแรกบาเยิร์นเป็นฝ่ายครองบอลบุกมากกว่าแต่ไม่สามารถผ่านแนวรับของโวล์ฟสบวร์กได้ จบครึ่งแรกสกอร์ 0-0 ในครึ่งหลังบาเยิร์นแก้เกมด้วยการส่งสองแนวรุกอย่าง ติอาโก้ และ ฟรองค์ ริเบรี จนนาทีที่ 66 ได้ประตูขึ้นนำจาก โคม็อง แปด้วยขวาเน้นๆเข้าไป ทีมเยือนบุกนำ 1-0 ถัดมานาทีที่ 74 บาเยิร์นยังมาบวกลูกสองเพิ่มได้จากเลวานดอฟสกี้ ช่วยให้บาเยิร์นนำห่าง2ลูก จบเกมบาเยิร์นบุกชนะไปแบบสบายๆ 0-2
Bayern Munich vs Mainz 05
บาเยิร์นเจ้าบ้านได้เมดี้ เบนาเตียกลับมาช่วยแนวรับ และใช้ ฟรองค์ ริเบรี จับคู่กับ อาเยน รอบเบน ในแนวรุก ส่วนไมนซ์ปรับทีมใช้หลังสามใส่ฮักค์ไปยืนเซ็นเตอร์ เริ่มเกมเป็นฝั่งบาเยิร์นเป็นฝ่ายครองบอลและพับสนามบุก ส่วนไมนช์เป็นฝ่ายตั้งรับและรอจังหวะส่วนกลับแล้วในนาทีที่26เป็นฝั่งทีมเยือนไมนซ์ขึ้นนำก่อนโดยได้ประตูจากไฆโร ขึ้นนำ1-0 ครึ่งหลังในนาทีที่ 65 ฝั่งบาเยิร์นตามตีเสมอได้จากการทำประตูของร็อบเบน เป็น 1-1 และในช่วงท้ายเกมไมนซ์ได้ประตูชัยจากการยิงไกลของคอร์โดบาส่งบอลพุ่งเข้าเสาแรก แซงขึ้นนำอีกครั้ง จบเกมเป็นฝั่งทีมเยือนไมนซ์ชนะไป 2-1 และเป็นความพ่ายแพ้นัดที่สองของบาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาลนี้
สถิติ 5 นัดหลังของ Borussia Dortmund
6 February 2016 Hertha BSC vs Borussia Dortmund 0-0
14 February 2016 Borussia Dortmund vs Hannover 96 1-0
20 February 2016 Bayer Leverkusen vs Borussia Dortmund 0-1
27 February 2016 Borussia Dortmund vs 1899 Hoffenheim 3-1
2 March 2016 Darmstadt 98 vs Borussia Dortmund 0-2
Hertha BSC Berlin vs Borussia Dortmund
แฮร์ธา เจ้าถิ่นปรับทัพจากเกมสัปดาห์ก่อนเพียงแค่รายเดียวเท่านั้น คือ เยนส์ เฮเกเลอร์ ที่ได้โอกาสลงตัวจริงแทน เพอร สเกลเบรด ส่วนแนวรุกยังฝากความหวังไว้ที่ ซาโลมง กาลู และ เวดาด อิบิเซวิช
ด้านทีมเยือนดอร์ทมุนด์ เปลี่ยนแปลงนักเตะจากนัดล่าสุด 4 คือ มาร์เซล ชเมลเซอร์, อิลคาย กุนโดกัน, กอนซาโล คาสโตร และ มาร์โก รอยส์ แทน เอริค ดวร์ม, มัทธีอัส กินเทอร์, ชินจิ คางาวะ และ อาเดรียน รามอส
ครึ่งแรกเกมค่อนข้างจะสูสี และทั้งสองทีมก็ยังหาจังหวะทำประตูไม่ได้ จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกันแบบไร้สกอร์ที่ 0-0
ในครึ่งหลังเป็นดอร์ทมุนด์ พยายามตั้งเกมบุกเพื่อหวังยิงออกนำให้ได้ รวมถึงส่งอดีตนักเตะเจ้าบ้านอย่าง อาเดรียน รามอส ลงมาเป็นตัวสำรองหวังพังประตูทีมเก่าอีกด้วย แต่กลับไม่สามารถเจาะแนวรับของแฮร์ธาได้ ทำให้จบเกมด้วยผลเสมอ 0-0
Borussia Dortmund vs Hannover
เจ้าบ้านดอร์ทมุนด์ ปรับทับจากเกมเดเอฟเบโพคาล ทั้งสิ้น 3 ราย ได้แก่ เนเวน ซูโบติส ,ชินจิ คากาวะ และกอนซาโล คาสโตร แทนโซครา ติส ปาปัสทาโตปูลอส, เอริค ดวร์ม และ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ด้านทีมเยือน ฮันโนเวอร์ สถานการณ์ค่อนข้างแย่ นัดนี้จึ้งต้องการชัยชนะ โดยเลือกวาง อาร์ตูร์ โซเบียช ยืนเป็นกองหน้า คอยร่วมประสานงานในแนวรุกร่วมกับ เคนาน คารามาน, และ อุฟเฟ เบช
ครึ่งแรกเป็นดอร์ทมุนด์ที่ครองเกมเหนือกว่ามาก บุกอยู่ข้างเดียวแต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของฮันโนเวอร์ได้ ทำให้ครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันแบบไร้สกอร์ที่ 0-0เข้าสู้ครึ่งหลังก็ยังเป็นเจ้าถิ่นที่บุกอยู่ข้างเดียว จนนาทีที่ 57 ดอร์ทมุนด์ยิงออกนำได้สำเร็จ โดยได้จาก เฮนริค เมอคิตาร์ยาน ส่งให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0 หลังจากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็น ดอร์ทมุนด์ที่เปิดบ้านเอาชนะไปได้ 1-0
Leverkusen vs Borussia Dortmund
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เจ้าบ้าน ได้ ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ ได้กลับมายืนตัวจริงอีกครั้ง ส่วนฝั่งทีมเยือนของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นัดนี้ส่ง เฮนริกห์ เอ็มคิตาร์ยาน กับปิแอร์-เอเมอริค อูบาเมยอง ในแนวรุก
ครึ่งแรกโอกาสบุกของทั้งสองทีมมีเท่ากัน ไม่ค่อยมีโอกาศลุ้นทำประตูแบบจะแจ้งมากนัก จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกัน 0-0 เข้าครึ่งหลังเกมในนาทีที่ 64 ก็เป็นทางดอร์ทมุนด์ ที่มาได้ประตูชัยของเกมโดยได้จาก อูบาเมยอง และป็นประตูเดียวที่เกิดในเกมนี้ ช่วยให้ดอร์ทมุนเอาชนะเลเวอร์คูเซ่น 0-1
มีต่อนะครับ........