ผมขออนุญาตให้ความเห็นในประเด็นเรื่องคุณสรยุทธนะครับเพราะรู้สึกว่าความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างผู้ที่ให้กำลังใจนักข่าวท่านนี้ทำหน้าที่ต่อไปกับผู้ที่เรียกร้องให้ท่านหยุดการทำหน้าที่สื่อดูจะสมน้ำสมเนื้อกันซึ่งปรากกการณ์นี้อาจจะบอกถึงมาตราฐานทางจริยธรรมในบ้านเมืองของเราในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี
ถ้าตัดประเด็นเรื่องคดีความยังไม่ถึงที่สุดซึ่งตามหลักกฏหมายสากลจำเลยยังมีสิทธิอุทรณ์ฎีกาออกไปแล้วมาพิจารณาถึงข้อเท็จจริงที่ว่าทำไมยังมีคนอีกหลายกลุ่มที่สามารถยอมรับและยังเชื่อถือในการทำหน้าที่สื่อของคุณสรยุทธต่อไปได้
ผมคิดว่าถ้าเทียบระดับจริยธรรมในบ้านเมืองของเรากับการทนมีชีวิตอยู่ได้ในสังคมที่คนที่กระทำความผิดซึ่งในสายตาของกฏหมายและในสายตาของวิญญูชนทั่วไป(ในระดับสากลด้วยนะครับ)กับรสชาติอาหารคงต้องบอกว่าเรานั้นบริโภคอาหารรสจัดมากๆและอาหารที่คนไทยต้องทนบริโภคมาตลอดสิบปี ต้องบอกว่าคนไทยเราต้องทานส้มตำใส่พริกไม่ต่ำกว่ายี่สิบเม็ดจนปากชาด้านกันไปหมดแล้ว เอาแค่เรื่องล่าสุดที่ กกต.หน่วยงานซึ่งมีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง(แต่ตลอดเวลาก็ได้แสดงถึงจุดยืนอันแน่ชัดของตัวเองให้ปรากฏให้เห็นทั้งทางตรงและทางอ้อมว่าพวกท่านมีความจริงใจแค่ไหนต่อการจัดให้มีการเลือกตั้ง)สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายจากอดีตนายกรัฐมนตรีและเหล่ากปปส.ได้ซึ่งแน่นอนทั้งสองฝ่ายที่กำลังตกเป็นจำเลยต่างชี้ให้เห็นว่าผู้ที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้นั้นน่าจะเป็นตัวกกต.นั้นเอง
ส่วนเรื่องการกระทำความผิดอื่นๆที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราที่ผู้กระทำผิดยังเสวยสุขอยู่ได้นั้นขออนุญาตไม่ยกมากล่าวถึงนะครับเพราะทุกท่านคงทราบกันดีอยู่เต็มหัวใจแล้ว
ดังนั้น เมื่อหลายๆท่านที่มีความชื่นชอบในตัวคุณสรยุทธเอาความผิดของคุณสรยุทธที่ถูกตัดสินโดยศาลชั้นต้นไปเปรียบเทียบกับความผิดที่ผมยกมากล่าวอ้าง ท่านเหล่านั้นจึงสามารถกลืนเรื่องนี้ลงไปได้อย่างง่ายดาย
นี่ยังไม่ได้พิจารณาถึงเรื่องความสามารถของการเป็นสื่อของคุณสรยุทธเมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับคุณภาพของสื่ออื่นๆที่ดาหน้าออกมาโจมตีคุณสรยุทธนะครับ
ผมเชื่อว่าข้อสังเกตุของผมยังคงมีช่องโหว่มากมายและยินดีรับฟังความเห็นต่างของเพื่อนๆสมาชิกในห้องราชดำเนินนี้นะครับ
มุมมองเรื่องจริยธรรมกับสรยุทธsyndrome
ถ้าตัดประเด็นเรื่องคดีความยังไม่ถึงที่สุดซึ่งตามหลักกฏหมายสากลจำเลยยังมีสิทธิอุทรณ์ฎีกาออกไปแล้วมาพิจารณาถึงข้อเท็จจริงที่ว่าทำไมยังมีคนอีกหลายกลุ่มที่สามารถยอมรับและยังเชื่อถือในการทำหน้าที่สื่อของคุณสรยุทธต่อไปได้
ผมคิดว่าถ้าเทียบระดับจริยธรรมในบ้านเมืองของเรากับการทนมีชีวิตอยู่ได้ในสังคมที่คนที่กระทำความผิดซึ่งในสายตาของกฏหมายและในสายตาของวิญญูชนทั่วไป(ในระดับสากลด้วยนะครับ)กับรสชาติอาหารคงต้องบอกว่าเรานั้นบริโภคอาหารรสจัดมากๆและอาหารที่คนไทยต้องทนบริโภคมาตลอดสิบปี ต้องบอกว่าคนไทยเราต้องทานส้มตำใส่พริกไม่ต่ำกว่ายี่สิบเม็ดจนปากชาด้านกันไปหมดแล้ว เอาแค่เรื่องล่าสุดที่ กกต.หน่วยงานซึ่งมีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง(แต่ตลอดเวลาก็ได้แสดงถึงจุดยืนอันแน่ชัดของตัวเองให้ปรากฏให้เห็นทั้งทางตรงและทางอ้อมว่าพวกท่านมีความจริงใจแค่ไหนต่อการจัดให้มีการเลือกตั้ง)สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายจากอดีตนายกรัฐมนตรีและเหล่ากปปส.ได้ซึ่งแน่นอนทั้งสองฝ่ายที่กำลังตกเป็นจำเลยต่างชี้ให้เห็นว่าผู้ที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้นั้นน่าจะเป็นตัวกกต.นั้นเอง
ส่วนเรื่องการกระทำความผิดอื่นๆที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราที่ผู้กระทำผิดยังเสวยสุขอยู่ได้นั้นขออนุญาตไม่ยกมากล่าวถึงนะครับเพราะทุกท่านคงทราบกันดีอยู่เต็มหัวใจแล้ว
ดังนั้น เมื่อหลายๆท่านที่มีความชื่นชอบในตัวคุณสรยุทธเอาความผิดของคุณสรยุทธที่ถูกตัดสินโดยศาลชั้นต้นไปเปรียบเทียบกับความผิดที่ผมยกมากล่าวอ้าง ท่านเหล่านั้นจึงสามารถกลืนเรื่องนี้ลงไปได้อย่างง่ายดาย
นี่ยังไม่ได้พิจารณาถึงเรื่องความสามารถของการเป็นสื่อของคุณสรยุทธเมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับคุณภาพของสื่ออื่นๆที่ดาหน้าออกมาโจมตีคุณสรยุทธนะครับ
ผมเชื่อว่าข้อสังเกตุของผมยังคงมีช่องโหว่มากมายและยินดีรับฟังความเห็นต่างของเพื่อนๆสมาชิกในห้องราชดำเนินนี้นะครับ