ยาวหน่อยนะคะ ตั้งใจอ่านด้วย นานๆทีจะตั้งใจเขียนภาษาไทยยาวๆ


เมื่อกลางเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเดินขึ้นเขาที่เนปาล เส้นทางที่เดินเรียกว่า Mardi Himal เป็นเส้นทางใหม่ ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เดินขึ้น4วัน ลง 4 วัน ตอนที่ตัดสินใจไปนั้น มีเวลาเตรียมตัวแค่2อาทิตย์ อุปกรณ์เดินป่าขึ้นเขาก็ไม่มี คือไม่พร้อมอะไรสักอย่าง แต่รู้สึกว่าอยากลองทำอะไรที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำดู ทัวร์ที่ไปคือ Wild guababa
http://www.wildguanabana.com/trips/secret-himalayas
เป็นทัวร์ของคนอียีปต์ เจ้าของทัวร์เป็นนักปืนเขาอยู่แล้ว ทัวร์นี้จะเน้นการผจญภัยที่ไม่เหมือนอื่น เป็นทัวร์ที่ทำให้เราได้เรียนรู้ตัวเอง และค้นพบตัวเอง ครั้งนี้มีลูกทัวร์12คน ไม่รวมลูบหาบสรุปเราเป็นคนไทยคนเดียว ก่อนไปก็มีกังวลใจหลายๆอย่าง เช่น ถ้าอยากเขาห้องน้ำระหว่างล่ะ ถ้าเกิดอยากร้องไห้ขึ้นมาล่ะ อาหารจะกินยังไง แล้วคนอื่นเขาจะมองเราแปลกๆไหม เป็นคนเดียว ถนนมันน่ากลัว กังวลไปต่างๆนาๆ แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างดีเกินคาด เพื่อนร่วมเดินทางทุกคนน่ารักและดูแลเอาใจใส่ดีมาก ถึงแม้การเดินทางจะลำบาก น้ำไม่ได้อาบ นอนบนดิน กินอาหารแปลกๆทุกวัน แต่ทริปนี้เป็นทริปที่มีความสุขมาก เพราะมันไม่ใช่แค่ความสุขธรรมดา มันเป็นความสุขที่แท้จริงที่หาแทบไม่ได้ในชีวิตปกตินี้ ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าสกปรกมอมแมม รองเท้าเยียบขี้วัวมาเป็นไม่รู้กี่รอบ เงินก็ไม่มีติดตัว บางทีระหว่างเดินทางฝนตก ตัวเปียกแต่ยังจำรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ การแบ่งปัน และมิตรภาพ นั้นได้ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้หัวเราะติดกันเป็นเวลาหลายวันขนาดนี้ ลูกหาบแต่ละคนก็ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ขนาดเขาต้องแบกของหนักกว่า สามสิบโล พอเราถามว่าหนักไหมเขาหันกลับมายิ้ม แล้วตอบว่า "ไม่เลย" ถ้าเป็นเราล่ะ ขนาดเดินยังแทบจะล้มลุกคลุกคลาน ก็นั้นล่ะ ชีวิตคนเราต้นทุนมาไม่เหมือนกัน แต่ลูกหาบคนนั้นยังสามารถยิ้มอย่างมีความสุขได้
วันสุดท้ายของการเดินทาง เราทั้ง12 คนได้มีโอกาสไปเยื่ยม แคมป์โฮป ซึ่งเป็นแคมป์ที่ไว้ให้สำหรับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากแป่นดินไหวเมื่อปี 2015 ซึ่งเขาไม่มีบ้าน จึงต้องมาอาศัยอยู่ที่นี่ ตอนเราเดินเขาไป เด็กๆทุกคนที่แคมป์โฮป ออกมาตอนรับ และพาพวกเราไปเดินดูเต้นท์แต่ละเต้นท์ เด็กๆเป็นคนคิดบวกมาก ถามว่ารู้สึกยังไงกับแผ่นดินไหวที่ผ่านมา ทุกคนตอบว่า "มันทำให้หนูรู้ว่าหนูไม่เคยอยู่คนเดียว มีคนยื่นมือเขามาช่วย และทำให้ได้อยู่ใกล้ๆกับเพื่อนมากขึ้นด้วย" มันทำให้เราคิดว่าทุกวันนี้เราใช้เวลาเพื่ออะไร? บางทีเราอาจจะมองข้ามสิ่งดีๆรวบตัวเราไปหรือเปล่า? ขนาดเด็กๆที่ไม่มีแต่บ้าน พวกเขายังมีรอยยิ้มที่สดใสได้ พอเสร็จทริป เราทั้ง12คน มีความตั้งใจที่อยากจะช่วยแคมป์โฮปให้มีบ้าน จึงจัดตั้งแคมเปนท์ขึ้นมาโดยนำเงินที่ได้รับบริจาคไปให้แคมป์โฮป เพื่อสร้างบ้านในชาวบ้านและเด็กๆ ใครอยากร่วมบริจาคเชิญได้ที่ลิงค์นี้นะค่ะ ถ้าไม่สะดวกบริจาคก็ไม่เป็นไรค่ะ ช่วยแชร์ลิงค์ หรือแค่สละเวลามาอ่านตรงนี้ก็ดีใจแล้วค้า
https://www.generosity.com/emergencies-fundraising/building-hope-and-homes-in-nepal
https://www.facebook.com/12-Hopes-1009297629152469/?ref=hl
ครั้งแรกกับการ trekking Mardi Himal ที่เนปาล
เมื่อกลางเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเดินขึ้นเขาที่เนปาล เส้นทางที่เดินเรียกว่า Mardi Himal เป็นเส้นทางใหม่ ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เดินขึ้น4วัน ลง 4 วัน ตอนที่ตัดสินใจไปนั้น มีเวลาเตรียมตัวแค่2อาทิตย์ อุปกรณ์เดินป่าขึ้นเขาก็ไม่มี คือไม่พร้อมอะไรสักอย่าง แต่รู้สึกว่าอยากลองทำอะไรที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำดู ทัวร์ที่ไปคือ Wild guababa http://www.wildguanabana.com/trips/secret-himalayas
เป็นทัวร์ของคนอียีปต์ เจ้าของทัวร์เป็นนักปืนเขาอยู่แล้ว ทัวร์นี้จะเน้นการผจญภัยที่ไม่เหมือนอื่น เป็นทัวร์ที่ทำให้เราได้เรียนรู้ตัวเอง และค้นพบตัวเอง ครั้งนี้มีลูกทัวร์12คน ไม่รวมลูบหาบสรุปเราเป็นคนไทยคนเดียว ก่อนไปก็มีกังวลใจหลายๆอย่าง เช่น ถ้าอยากเขาห้องน้ำระหว่างล่ะ ถ้าเกิดอยากร้องไห้ขึ้นมาล่ะ อาหารจะกินยังไง แล้วคนอื่นเขาจะมองเราแปลกๆไหม เป็นคนเดียว ถนนมันน่ากลัว กังวลไปต่างๆนาๆ แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างดีเกินคาด เพื่อนร่วมเดินทางทุกคนน่ารักและดูแลเอาใจใส่ดีมาก ถึงแม้การเดินทางจะลำบาก น้ำไม่ได้อาบ นอนบนดิน กินอาหารแปลกๆทุกวัน แต่ทริปนี้เป็นทริปที่มีความสุขมาก เพราะมันไม่ใช่แค่ความสุขธรรมดา มันเป็นความสุขที่แท้จริงที่หาแทบไม่ได้ในชีวิตปกตินี้ ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าสกปรกมอมแมม รองเท้าเยียบขี้วัวมาเป็นไม่รู้กี่รอบ เงินก็ไม่มีติดตัว บางทีระหว่างเดินทางฝนตก ตัวเปียกแต่ยังจำรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ การแบ่งปัน และมิตรภาพ นั้นได้ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้หัวเราะติดกันเป็นเวลาหลายวันขนาดนี้ ลูกหาบแต่ละคนก็ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ขนาดเขาต้องแบกของหนักกว่า สามสิบโล พอเราถามว่าหนักไหมเขาหันกลับมายิ้ม แล้วตอบว่า "ไม่เลย" ถ้าเป็นเราล่ะ ขนาดเดินยังแทบจะล้มลุกคลุกคลาน ก็นั้นล่ะ ชีวิตคนเราต้นทุนมาไม่เหมือนกัน แต่ลูกหาบคนนั้นยังสามารถยิ้มอย่างมีความสุขได้
วันสุดท้ายของการเดินทาง เราทั้ง12 คนได้มีโอกาสไปเยื่ยม แคมป์โฮป ซึ่งเป็นแคมป์ที่ไว้ให้สำหรับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากแป่นดินไหวเมื่อปี 2015 ซึ่งเขาไม่มีบ้าน จึงต้องมาอาศัยอยู่ที่นี่ ตอนเราเดินเขาไป เด็กๆทุกคนที่แคมป์โฮป ออกมาตอนรับ และพาพวกเราไปเดินดูเต้นท์แต่ละเต้นท์ เด็กๆเป็นคนคิดบวกมาก ถามว่ารู้สึกยังไงกับแผ่นดินไหวที่ผ่านมา ทุกคนตอบว่า "มันทำให้หนูรู้ว่าหนูไม่เคยอยู่คนเดียว มีคนยื่นมือเขามาช่วย และทำให้ได้อยู่ใกล้ๆกับเพื่อนมากขึ้นด้วย" มันทำให้เราคิดว่าทุกวันนี้เราใช้เวลาเพื่ออะไร? บางทีเราอาจจะมองข้ามสิ่งดีๆรวบตัวเราไปหรือเปล่า? ขนาดเด็กๆที่ไม่มีแต่บ้าน พวกเขายังมีรอยยิ้มที่สดใสได้ พอเสร็จทริป เราทั้ง12คน มีความตั้งใจที่อยากจะช่วยแคมป์โฮปให้มีบ้าน จึงจัดตั้งแคมเปนท์ขึ้นมาโดยนำเงินที่ได้รับบริจาคไปให้แคมป์โฮป เพื่อสร้างบ้านในชาวบ้านและเด็กๆ ใครอยากร่วมบริจาคเชิญได้ที่ลิงค์นี้นะค่ะ ถ้าไม่สะดวกบริจาคก็ไม่เป็นไรค่ะ ช่วยแชร์ลิงค์ หรือแค่สละเวลามาอ่านตรงนี้ก็ดีใจแล้วค้า
https://www.generosity.com/emergencies-fundraising/building-hope-and-homes-in-nepal
https://www.facebook.com/12-Hopes-1009297629152469/?ref=hl