[CR] “ วัดตะเคียน.. ตะกรุดคอหมา.. ตลาดน้ำ.. และทรานส์ฟอร์เมอร์ ”

กระทู้รีวิว

“วัดตะเคียน ”ชื่อนี้เคยได้ยินตั้งแต่สมัยเป็นเด็กน้อยแต่นึกภาพไม่ออก ได้แต่จินตนาการไปตามประสาว่าจะเต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติเหมือนดั่งชื่อรึเปล่า คิดแล้วขนแขนลุกเบาๆ…พอๆๆเลิกหลอนได้แล้ว จริงๆแล้วที่นี่นอกจากจะเป็นวัดที่มีชื่อเสียงแล้ว ยังมีตลาดน้ำแสนเก๋และของกินสูตรโบราณอร่อยๆมากมาย เมื่อได้ยินคำว่าของกิน คนจริงจังเรื่องอาหารอย่างเราก็ต้องมาค่ะ แต่ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่อาหารนะคะ ประวัติความเป็นมาของวัดตะเคียนและตลาดต้องชมแห่งนี้ช่างน่าทึ่ง เห็นบรรยากาศคึกคักแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าที่นี่เคยเป็นวัดร้างมาก่อนด้วย การพลิกวัดร้างที่มีพระสงฆ์เพียงสองรูปอย่างวัดตะเคียนในอดีตจนกลายเป็นวัดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศได้ขนาดนี้ไม่ธรรมดาเลยค่ะ เขาทำได้อย่างไร? ช้าอยู่ใยเรามาร่วมกันหาคำตอบ ช็อป ชิม ชิล ลุยตลาดน้ำวัดตะเคียนกันเลยดีกว่าค่ะ

ก้าวแรกที่เดินเข้าวัด เรารู้สึกตื่นเต้นเหมือนเด็กๆผสมกับความประหลาดใจว่าทำไมมีหุ่นยนต์ Transformerมายืนเก๊กท่าอยู่ข้างโบสถ์กันครบแกงค์? แต่เมื่อสอบถามพบว่าพระครูสมุห์สงบ กิติยาโณ เจ้าอาวาสของวัดตะเคียนมีกุลโลบายในการเผยแผ่คำสอนของพุทธศาสนา ต้องการให้คนอยู่วัดได้นานขึ้น ยุคนี้เป็นยุคของการเปลี่ยนแปลง วิธีการสอนของวัดก็จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ทาวัดจึงประยุกต์สิ่งต่างๆในโลกปัจจุบันมาให้ความรู้เพื่อให้เข้าถึงพุทธศาสนิกชน ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่

หุ่นยนต์ Transformer วันนี้แปลงร่างมาเป็นคุณครูสอนวิชาพระพุทธศาสนะคร๊าบ;)

ส่วนพี่ๆหุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์เหล่านี้ทำมาจากเศษเหล็ก วัสดุเหลือใช้เช่นจานเบรค โซ่ในเครื่องยนต์เก่า ถังแก๊ส และชิ้นส่วน ต่างๆจากซากรถยนต์นำมารีไซเคิลสร้างเป็นพี่ๆห่นุทรานส์ฟอร์เมอร์สดุหล่อที่ทำหน้าที่สอนใจพทุธศาสนิกชนรุ่นจิ๋วจนถึงรุ่นใหญ่ เมื่อเห็นพี่ๆทรานส์ฟอร์เมอร์เหล่านี้เราตคีวามได้ว่าขนาดเศษเหล็กยังมีคุณค่า เราเป็นมนษุย์ต้องทำตัวให้มีคุณค่า เมื่อจากโลกนี้ไปยังสามารถทิ้งมรดกทางความดีไว้ให้กับโลกค่ะ เมื่อเดินเยี่ยมชมไปในอีกหลายๆมมุก็จะพบตุ๊กตุ่นตุ๊กตาน่ารักอีกหลายตัวคอยขัดเกลาให้ความรู้พวกเราแบบอ้อมๆ นับวา่เป็นไอเดียที่ฉลาดล้ำสุดสร้างสรรค์ของทางวัดค่ะ

เอาล่ะมาถึงไฮไลท์ของวันนี้คือตลาดน้ำวัดตะเคียน ตลาดต้องชมแล้วค่ะ พดูแล้วก็หิวขึ้นมาทันที วัดตะเคียนเป็นวัดเก่าแก่มี อายุนับร้อยปีคาดว่าสร้างมาก่อนสมัยรัชกาลที่ 5 ที่นี่เคยเป็นวัดที่มีพระภิกษุมาจำพรรษาบ้างร้างบ้างสลับกันไป จนมาถึงสมัยของหลวงปู่แย้ม ปิยะวัณโณมาเป็นเจ้าอาวาส ท่านเป็นนักพัฒนาอัจฉริยะที่พลิกวัดร้างจนเปิดเป็นตลาดน้ำวัดตะเคียน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบรี เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2552

แทบจะทุกมุมของร้านค้าที่นี่มีแต่รูปเคารพของหลวงป่แูย้มค่ะ

หลวงป่แูย้ม ปิยะวัณโณ หรือพระครูปิยนนทคุณ

จนทุกวันนี้ตลาดน้ำวัดตะเคียนเป็นหนึ่งในโครงการตลาดต้องชมของกระทรวงพาณิชย์ที่สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน สร้างแหล่งค้าขายสินค้าคุณภาพดีและช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชมุชนอีกด้วย ต้องกราบขอบพระคุณหลวงปู่แย้มที่แม้ท่านจะละสังขารไปแล้ว แต่ยังทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลาน ให้ชาวบ้านได้มีที่ทำกินและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนอีกด้วยค่ะ ด้วยแนวคิดที่ต้องการพลิกฟื้นวิถีชีวิตของคนไทยในอดีตให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสและให้ชาวบ้านได้มีพื้นที่ทำกินโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ส่วนสินค้าก็จะเป็นสินค้าทางการเกษตรที่ชาวบ้านปลูกเอง อาหารหาทานยากต่างๆที่ชาวบ้านพายเรือมาขาย ทานกันสดๆโดยไม่มีสารพิษ จุดเด่นของตลาดนนี้คืออาหารต่างๆที่นี่เขาจะไม่ทำทิ้งไว้ค่ะ เขาจะทำกันสดๆให้เราทานกันสดๆควันฉุยหอมกรุ่นไปทั่วตลาดเลย ว่าแล้วก็ไปชิมกันค่ะ ลยุ!

บรรยากาศคึกคักของตลาดน้ำวัดตะเคียน และสินค้าทางการเกษตรปลูกเองจากมือชาวบ้านค่ะ

เดินทานมาตลอดทางจนจุกก็พึ่งมาเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือของวัดตะเคียน งานนี้อิ่มแค่ไหนก็ต้องลองให้ได้ค่ะ ก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดของทางวัดที่เน้นความอิ่มอร่อยและราคาแสนถูกเพียงชามและ15บาทเท่านั้นค่ะ ฟังไม่ผิดค่ะ 15 บาทเท่านั้น ถ้าพิเศษก็ 20 บาท แต่คุณภาพและความอร่อยคับชามเลยค่ะ ที่นี่เขาทำกันสดๆ เส้นเหนียวนุ่ม เนื้อและลูกชิ้นก็ให้เยอะด้วยค่ะ ไม่ได้มีแต่เส้นกับน้ำนะคะ ผู้คนยืนต่อแถวกันยาวเหยียดจนต้องแจกบัตรคิวกันเลยทีเดียวเรารอนานเกือบ 25 นาทีกว่าจะได้ทานแต่ก็คุ้มค่ากับการรอคอยค่ะ

ก๋วยเตี๋ยวเรือของวัดตะเคียน อิ่ม อร่อย ราคาแสนถูกจ้า

ยังค่ะยังไม่จบ งานนี้ท้องไม่แตกไม่กลับบ้านค่ะ ของดีของดังเจ้าต่อไปที่ถ้าไม่ชิมถือว่าพลาดคือขนมไทยคุณตาคุณยาย ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ของวัดตะเคียนเองคะ เก่าแก่แค่ไหนก็แค่คุณยายทำขายมาตั้งแต่อายุ 17เองค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าตอนนี้คุณยายอายุเท่าไหร่นั้นต้องไปอุดหนุนขนมคุณยายค่ะ เผื่อคุณยายจะบอก อิอิ

เราเหมาขนมไทยแสนหวานมาอย่างละกล่องและฟาดเรียบภายในวันเดียว ตอนนี้ระดับน้ำตาลขึ้นสูงมากแล้วค่ะ 555แต่ไม่เสียใจที่ได้ลอง ที่ปลื้มที่สุดคือเม็ดขนุนของคุณยายคะ เม็ดขนุนเม็ดอ้วนโตรสหวานอ่อนๆละมุนลิ้นหอมกลิ่นมะลิ มันช่างดีงามเหลือเกิน เราขอยกให้คุณยายเป็นเทพเจ้าแห่งเม็ดขนุนเลยค่ะ ใครไม่อยากพลาดต้องมาลองกันด่วนเลยค่ะ

จากนั้นเราก็ได้แบกตัวถังที่เต็มมากของเราเดินไปชิมอะไรอีกหลายอย่าง เช่นหมูสะเต๊ะป้าณี ก๋วยจั๊บป้านิด ลูกชิ้นปลาเยาวราช ไส้กรอกอีสานคนเอาถ่าน ขนมตาล ขนมใส่ไส้ ขนมครก ตายๆๆๆค่ะจากนี่ช่วยไปยิมออกกำลังกายไถ่บาปอีก 20 วัน

ขนมครกกรอบนอกนุ่มใน ก๋วยจั๊บป้านิดเส้นหนานุ่มมีดีที่ซุป และหมูสะเต๊ะป้านีมันน้อยหอมกลิ่นเตาถ่านด้วยค่ะ

เดินชิมจนพุงกางแล้วแต่ยังไม่อยากกลับบ้านเลย มาถึงวัดตะเคียนแล้วก็ต้องไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อสิริมงคลแต่ชีวิตกันหน่อยนะคะ เสียดายที่วันนี้พระอุโบสถหลังเก่าและพระอุโบสถปิดจึงอดเข้าไปกราบนมัสการพระพุทธรูปเก่าแก่ แต่ไม่เป็นไรค่ะเราสามารถไปกราบหลวงปู่แย้ม และสิ่งสิทธิ์อีกหลายอย่างในวัดค่ะ

เริ่มจากไปกราบมณฑปหลวงปู่แย้มกันค่ะ ท่านเป็นพระนักพัฒนาอัจฉริยะมีความรู้ความสามารถรอบด้าน ในอีกด้านท่านเป็นพระเกจิชื่อดัง เก่งในทางเครื่องรางของขลัง เป็นหมอพระที่มีความรู้วิชาแพทย์แผนโบราณช่วยรักษาชาวที่เจ็บป่วยมากมายจนหายดี อีกทั้งยังมีความสามารถในงานช่างงานโยธาหลายอย่างท่านเคยพิมพ์กระเบื้องใช้สร้างอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ และโรงเรียนของวัดหลักสองซึ่งเป็นวัดที่ท่านเคยพำนักก่อนที่ท่านจะย้ายมาพำนักที่วัดตะเคียนแห่งนี้

เครื่องรางที่มีชื่อเสียงก็เช่น “ตะกรุดคอหมา” ว่ากันว่าท่านมีความเมตตาต่อสัตว์อย่างมากโดยเฉพาะน้องหมาค่ะ แต่น้องหมาในวัดก็ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านในชุมชนจนชาวบ้านไม่พอใจจึงทำร้ายน้องหมาจนได้รับบาดเจ็บอยู่เนืองๆ หลวงปู่แย้มจึงปลุกเสกตะกรุดผูกคอน้องหมาทุกตัวไว้เพื่อป้องกันไม่ได้รับให้บาดเจ็บ จากนั้นน้องหมาเหล่านั้นก็ไม่ได้รับความบาดเจ็บอีกเลย บรรดานักเลงแถวนั้นได้ยินถึงสรรพคุณของตะกรุดคอหมาหลวงปู่แย้ม จึงเกิดอยากลองของว่าจะแน่สักแค่ไหน จึงลองเอาปืนมายิงหมาดู ปรากฏว่าปืนแตก เหตุการณ์นี้ฮือฮาเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ ผู้คนต่างต้องการตะกรุดคอหมามาไว้ในครอบครอง จนไปแย่งเอาจากคอหมาก็มี

จากนั้นไปไหว้หลวงพ่อธรรมจักรที่วิหารหลวงพ่อธรรมจักร ซึ่งชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์จึงนิยมมาขอพรต่างๆค่ะ

ศาลเจ้าแม่ประกายทองประกายมาศ งานนี้สายหวยต้องมาค่ะ ชาวบ้านนิยมมาขอหวยและบนด้วยชุดไทยค่ะ

ลอดใต้โบสถ์ เสริมดวงชะตา “ ประตูปากเสือ ประตูปากมังกร ” โดยมีความชื่อกันว่าการได้ลอดใต้โบสถ์เป็นการล้างอาถรรภ์และความเป็นสิริมงคล พิธีกรรมก็โดยตั้งจิตอธิษฐานแล้วสวดมนต์เดินเวียนใต้โบสถ์สามรอบ โดยเข้าทางปากเสือซึ่งเป็นตัวแทนสิ่งชั่วร้ายแล้วเดินออกจากปากมังกรซึ่งเป็นสัตว์มงคลเป็นตัวแทนของความเจริญรุ่งเรือง

ทางเข้าถ้ำปากเสือปากมังกรและบริเวณภายในของถ้ำปากเสือปากมังกร

เดินเล่นไปมาอยู่หลายรอบก็ได้เวลากลับบ้านแล้วค่ะ ลาก่อนตลาดน้ำต้องชม ตะกรุดหมา และทรานส์ฟอร์เมอร์ ก่อนจะไปขอทิ้งลายแทงไว้สักหน่อย การเดินทางสะดวกสบายและง่ายมากๆค่ะ แผนที่ข้างล่างเลยหรือsearchใน google mapได้เลยค่ะ ตลาดเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 – 16.00 ของทุกวันค่ะ โทร.02-595-1851 , 081-9210946 นะคะ แล้วพบกันใหม่ที่ไหนสักที่นะคะ ขอบคุณค่ะ