เคยทะเลาะกับแม่จนไม่อยากมีชีวิตอยู่บ้างไหมคะ ?

สวัสดีคะ นี่เป็นกระทู้แรกผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้คะ สมมุติว่าเราชื่อเอ นะคะ นี่เป็นปัญหาเกี่ยวกับครอบครัวคะ ตอนนี้เราอายุ 18 ปีคะ

เกริ่นก่อนเลยนะคะว่าชีวิตเราในวัยเด็กก็เหมือนเด็กปกติทั่วไปคะ แต่ครอบครัวเราจะค่อนข้างหัวโบราณคะ เราจะถูกเลี้ยงมาแบบไข่ในหิน เชื่อฟังพ่อแม่ พยายามเรียนให้ดีที่สุด  ได้เกรดปานกลาง ไม่น่าเกลียด(ไม่เคยได้ 0,ร,มส จนจบม.6) ไปเที่ยวกับเพื่อนได้บ้าง แต่อย่ากลับดึก หรือเย็นมาก แต่พ่อแม่จะไม่ปล่อยให้เราไปค้างบ้านเพื่อนหรือไปทำกิจกรรมกับเพื่อน เช่นไปทะเล ดูคอนเสิร์ต เที่ยวกลางคืน อะไรที่คิดว่าไกลพ่อแม่คือไม่ได้เลย เราจะสนิทกับพ่อมากกว่าแม่คะคือตอนแรก พ่อเราก็ทำงานอยู่บ้านกับเรานะคะ แม่เราชอบพูดให้เราฟังมาตลอดคะว่าพ่อเราไม่ได้เรื่อง ขี้เกียจบ้าง อะไรบ้าง หาเงินไม่พอใช้บ้าง ของในบ้านทุกอย่างเป็นเงินแม่ตลอดตั้งแต่มีเราก็ลำบากมาก พ่อเราไม่เป็นโล้เป็นพาย พ่อเราทำงานอยู่บริษัทดังบริษัทหนึ่งคะ ตอนเด็กๆพ่อเราเป็นอัมพาตจึงต้องออกงาน พอพ่อหายแล้ว บริษัทจึงชวนกลับไปทำงานต่อคะ พ่อเราก็ไปทำจนกระทั่งวันนึงคะ พ่อมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ช่วงนั้นเราอยู่ประมาน ม.1 คะ ทางบ้านเราก็มีปัญหาเรื่องเงินนะคะ ซึ่งใช้ไม่พอกับค่าต่างๆเพราะว่าพ่อเราตกงาน แม่เราทำงานอยู่บริษัทหนึ่ง พอเลิกเรียนเราก็ไปหาแม่ ไปเล่นที่ทำงานแม่ จนแม่แนะนำคนนึงให้รู้จักคะ ตอนนั้นเราเด็กแต่ก็ไม่เด็กจนเกินไปที่จะรู้ว่าเขาคือแฟนใหม่แม่คะ แต่เราไม่โอเคกับเค้าเค้าดูไม่จริงใจ แต่เราก็ไม่อะไรนะคะ(ขอไม่เล่าและขยายความตรงนี้นะคะ) แล้วพ่อเราก็รู้เข้าคะ แต่พ่อเราก็ไม่ได้พูดอะไร เราคิดว่าเค้าคงเสียใจคะ แต่ด้วยความที่เป็นผู้ใหญ่และอยู่กินกันมานานเค้าคงมีเหตุผลอะไรหลายๆอย่างที่เขาไม่พูด และอยู่บ้านโดยไม่พูดคุยกับแม่คะ พ่อเราก็ทำงานอิสระไปเรื่อยๆคะ ผ่านมา 2 ปีคะ วันหนึ่งพ่อของเราเค้าก็ได้งานใหม่คะ ซึ่งเพื่อนๆของเค้าก็แนะนำมา คือการทำทัวร์คะ แต่เป็นการทำกับบริษัท ไม่ได้ทำแบบอิสระ พ่อเราเก่งเรื่องภาษาคะ พ่อบอกเราว่าเค้ารู้จักงานนี้มานานแล้ว แต่เรายังเด็กพ่อเราจึงไม่อยากทิ้งเราไปตอนนั้นเรากำลังจะจบม.3 คะ และกำลังจะได้เรียนต่อม.4 ด้วยความที่มีปัญหาเรื่องเงินและพ่อเห็นว่าเราโตแล้ว พ่อจึงตัดสินใจไปทำงาน แล้วปัญหามันก็เกิดจากที่พ่อไปทำงานคะ บริษัทนะคะไม่ได้รับงานเอง ก็มีทัวร์เข้าถี่ๆๆๆ จนไม่มีเวลากลับบ้านเลยคะ แบบว่าง 1 วัน บริษัทก็ไกลบ้าน พ่อเราจึงพักที่บริษัทคะ ปกติคนที่ดูแลเราจะเป็นพ่อคะ ซื้อข้าวทำกับข้าว ให้เงินเรา แต่พอพ่อไปทำงาน แม่ก็เป็นคนทำแทนพ่อคะ ด้วยความที่เราถูกเลี้ยงมาแบบนี้จริงๆ แม่เริ่มจับผิดเราตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้คะ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนทะเลาะกัน เราทะเลาะกับแม่บ่อยมากๆ ไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากอะไร

เรื่องยอดฮิตที่ทะเลาะกับแม่ตอนม.4 คือเรากลับบ้านเย็น.. วันนั้นเราเลิกเรียน 16.30 โมง แม่ทราบคะว่าเราเลิกเรียนเวลานี้ ประมาน 16.40 เรากำลังเดินออกจากโรงเรียนพร้อมเพื่อน(ผู้หญิง)คนนึงคะ แม่เรามาตามเราที่โรงเรียนว่าเลิกเรียนแล้วทำไมไม่กลับบ้าน ด่าเพื่อนเราด้วยว่าพาเราเสีย สั่งเพื่อนเราว่าอย่ามายุ่งกับเราอีก เพื่อนเราก็หน้าเสียเลยคะ บอกเราว่า กลับๆบ้านก่อนเหอะไว้เจอกันๆ พอเรากลับบ้านมาก็ทะเลาะกันยกใหญ่ เราจะพูด หรืออธิบายอะไรแม่ไม่เคยฟังเลยคะ ด้วยความที่ตอนนั้นคิดน้อยบวกกับความที่เป็นเด็กแบบไม่ค่อยรู้เห็นโลก เราเลยไม่คิดว่าพ่อจะเหนื่อยจะหนักใจอะไร เราเลยไลน์บอกพ่อคะ เล่าให้พ่อฟัง พ่อโทรมาหาเรา เรากำลังร้องไห้ พ่อก็ไม่รู้จะทำยังไงบอกให้เราใจเย็นๆไปก่อน และตอนม.4 มีเรื่องอีกมากมายที่ทะเลาะกัน เราทะเลาะกันบ่อยมากๆ ที่ว่ามากๆจนจำไม่หมด นับไม่ได้ว่าทะเลาะอะไรบ้าง ทุกครั้งที่มีปัญหาเราก็บอกพ่อทุกครั้ง(คิดย้อนกลับไป เราคิดน้อยไปจริง) หลังจาก 1 ปีครึ่ง ที่พ่อไปทำงาน(พ่อกลับมาบ้านบ้าง ช่วงไม่มีทัวร์และหยุดๆเกิน 1 วัน)พ่อได้มีทุกอย่าง ทั้งเงินสด เงินในบัญชี พ่อซื้อของที่บ้านเราไม่มีที่จำเป็นด้วยเงินสด เราสุขสบายแต่เราไม่มีความอุ่นใจเลย พอเราเริ่มอยู่ม.5 เราเริ่มทะเลาะกับแม่เรื่อง ผู้ชายอะ คือเราก็ทำตัวของเราปกติดีมุกอย่างคะ การกลับบ้าน ไปเรียนต่างๆนาๆ เค้าเห็นใครแวบๆข้างหลังคล้ายๆเรา ก็หาว่าเราไปหมดคะ ถ้าเห็นว่าใครคล้ายๆเราเดินกับผู้ชาย แม่ก็จะปักใจเชื่อทันทีคะว่านั้นคือเราอยู่กับผู้ชาย เรื่องที่เราทะเลาะคงจะเป็นกลัวเราท้องมั้งคะ(เราต้องท้องกับออกซิเจนแน่ๆ) แล้วเริ่มหนักขึ้นคะ ทุกครั้งที่เรากลับบ้านจะมีแต่คำดูถูก เหยียดหยามสาระพัดคะ บางทีก็พูดแนวกระแทกกระทั่นคะ อยู่แบบนั้นจริงๆวนๆซ้ำๆ จนเราเหนื่อยใจคะ บอกพ่อพ่อก็บอกให้เข้มแข็งคะ เราก็เข้มแข็งตามพ่อบอกคะ ไม่ร้องไห้ ไม่ฟัง ไม่คิดมาก ไม่อะไรทั้งนั้ย แต่ด้วยความที่แม่เราคะ คนที่เป็นแม่เราเองคะ คำต่างๆสารพัดมันสะสมคะ ไม่รู้ว้าจะเข้มแข็งยังไงต่อไปไหว เราจึงพูดบ้าง อธิบายสิ่งที่เราเป็นคะ แม่โกรธเรามากคะจึงเอาไม้กวาดมาตีเรา เป็นแผลม่วงช้ำทั้งตัวคะ แขนที่เราเอามือกันก็ม่วงเป็นเส้นๆตามรอยไม้กวาดคะ ช่วงนั้นใส่เสื้อกันหนาวไปโรงเรียนตลอดเลย พอเพื่อนบางคนเห็น(ตอนเราเผลอถกแขนเสื้อขึ้น)ก็ถามว่าแขนเป็นอะไร เราก็โกหกเพิ่อนไปว่าตกบรรได ตอนนั้นเรายังบอกพ่ออยู่นะคะ แต่ไม่ทุกคำพูดเท่าม.4 จะมีแต่เรื่องลงไม้ลงมือเท่านั้น พอยิ่งนับวันก็ยิ่งทะเลาะกันหนักขึ้นเรื่อยๆคะ เราบอกตรงๆเลยเราค่อนข้างเก็บกดคะ พอเราขึ้นม.6 เราก็ทะเลาะกับแม่เรื่องไปเที่ยวบ้าง ไม่กลับบ้าน เรื่องผู้ชายๆ รวมๆกันเลยคะ มิกซ์กันได้ลงตัวมาก 55555 เรื่องไปทั่วนะคะเราจะขอไปที่ๆนึงซึ่งมันใกล้ๆบ้านคะ แม่ก็จะด่าและเหยียดเรา เรื่องเราไม่กลับบ้านคือเหมือนตอนม.4 อะคะ เรื่องผู้ชายก็เหมือนตอนม.5 แต่หนักกว่า ปัจจุบันนี้เราไปแค่ปากซอยแม่ก็คิดว่าเรานัดผู้ชายไว้คะ ต้องเป็นสามีเราแน่ๆ เราต้องท้องแน่ๆ ต่างๆนาๆคะ แล้วก็เวลาไปโรงเรียนแม่ก็จะคิดว่าเราไม่ไปโรงเรียนแอบไปหาผู้ชายคะ เราไม่รู้เหมือนกันคะว่าทำไมแม่ถึงคิดแบบนั้นได้ ทั้งๆที่เราไม่เคยทำ เรื่องพวกนี้มันสะสมเรามานานคะ เราคิดมาก เราเครียดไปหมดทะเลาะกันกับแม่ทุกครั้งเราพยายามหาทางออก หาต้นเหตุ หาสาเหตุว่าเกิดจากตัวเราไม่ดีตรงไหน ทำอะไรผิดตรงไหนถึงได้เป็นแบบนี้ แต่ก็แปลกคะหาไม่เจอเลย ตอนเราใกล้จบม.6 เราได้ทำงานเป็นพาสไทม์อยู่ที่นึงคะเป็นร้านขายพวกอาหาร ทำเลิกเรียน 17.00-23.00 น. เราคงคิดว่าถ้าทำงานแม่คงจะเข้าใจ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นคะ เราทำงานหลังเลิกเรียนจะได้ 6 ชม. แต่เสาร์-อาทิตย์เราจะได้ 8 ชม. แม่ก็จับผิดเราเหมือนเดิมแหละคะ วันนั้นวันธรรมดาที่เราทำหลังเลิกเรียน เราทะเลาะกับแม่เรื่องทำงานเสร็จแล้วทำไมไม่กลับบ้านเลย เอ่อคือเราก็กลับคะ กำลังเดินกลับคะ ไม่มีรถกลับคะ 23.00 กว่า มีแต่แท็กซี่อยู่หน้าห้าง แล้วบ้านเราก็ไม่ได้ไกลเลย 1 ป้ายรถเมล์คะจะให้นั่งแท็กซี่กลับบ้านก็แพงเนอะ พอถึงวันเสาร์คะเราเข้า 12.00-21.00 น. แม่เราถามว่าพรุ่งนี้เข้ากี่โมง เราก็บอกไปคะเข้าเที่ยง แล้วแม่ก็นับชั่วโมงคะเทียบกับวันธรรมดา แม่บอกว่าเลิก 18.00 น.นิ เราเลยบอกเลิก 21.00 น. แม่บอกเราโกหก พอวันเสาร์เราไปทำงานคะ เข้า12.00 น.พักประมาน 15.00 น. คะ แม่น่าจะมาตอนเราพักพอดี เค้าไม่เห็นเราทำงาน เค้าโทรมาด่าเราใหญ่เลย เราก็บอกแม่ไปว่าเราพัก เราอยู่หลังร้าน แล้วแม่ก็ถามว่าไปพักทำไมอยู่หลังร้าน ไปมั่วสุมอะไรกันอยู่หลังร้าน เราก็งงว่าทำไมพักถึงอยู่หลังร้านไม่ได้ เราเลยบอกเค้าไปว่าแม่นี่มันร้านขายอาหารนะจะไปมั่วสุมอะไร เค้าบอกเลิก 21.00 น.ใช่มั้ย เราเลยบอกใช่ เค้าบอกกูจะมาดู เค้าบอกถ้าไม่อยากอายคนไปมากกว่านี้ เราก็ชั่งมันเถอะ พอถึงเวลา 21.00 น.เราต้องช่วยงานคนเก็บร้านอย่างนึง เพราะตอนเก็บร้านเค้าก็ช่วยเรา เราจึงช่วยเค้ากวาดพื้นละกัน(แต่ร้านยังไม่ปิด) เราจึงกวาดๆไป เพราะนาฬิกาของที่ตอกบัตรมันช้าอยู่แล้ว 21.05 น. เป๊ะๆเลย แม่โทรมาด่าคะว่าเลิกงานแล้วทำไมไม่กลับบ้าน เราก็บอกไปว่าทำงานอยู่งานยังไม่เสร็จ ตอนนั้นเราท้อมากเลย เหนื่อยใจสะสมทะเลาะเรื่องที่มันไม่มีจริงกับแม่มา 4 ปี เราจะทำเราจะทำอะไรก็ไม่ได้เลยหรอ เหนื่อยล้าไปหมดคิดว่าเราอยู่มาได้ยังไงถึง18 ปี ตอนนั้นมีความรู้สึกไม่อยากอยู่มากๆ คนรอบข้างที่เรารู้จัก แม่เราทำลายเค้าหมด เราไม่อยากรู้จักใคร ไม่อยากไปไหนไม่อยากทำอะไรแล้วความคิดคืออยากตายสุดๆ มันเป็นเรื่องสะสมมากๆเราพยายามแก้ทุกทาง ถามแม่ตรงๆว่าเราจะต้องทำยังไง ทำไมแม่ถึงคิดอย่างงั้น คำตอบได้มาทุกครั้งก็คือ ทำให้มันดี แล้วเราทำอะไรผิดไปนี่คือคำถามของเรา เราทำอะไรไม่ดีบ้าง แม่ก็ตอบไม่ได้    พอเรากลับถึงบ้านแม่เราก็ด่าเรา ดูถูกเราเหมือนเดิม (เราทำงานเรายังจะท้อง) หลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้ไปทำงานอีกเลยอาทิตย์นึง พอเรากลับไปทำงานอีกวันแรกก็มีปัญหาเลย เราทำ 12.00-21.00 น.เหมือนเดิม แต่ทีนี้เราซื้อของกินไว้ เราตอกบัตรออกงานประมาน 21.05 น.เวลานาฬิกา เวลาบัตรตอกคือ 21.00 น. เราก็กินของกินที่เราซื้อไว้คะ ละก็เก็บของของเราไปด้วย เราออกจากที่ทำงานประมาน 21.10 น. ขึ้นวินกลับบ้าน (สามทุ่มยังมีวินอยู่) ถึงบ้านประมาน 21.19 นาที แม่ก็โทรมา อ้าวยังทำงานไม่เสร็จไม่สิ้นหรอ ยังไม่ได้เวลากลับบ้านอีกหรอ(ทุกครั้งที่แม่โทรมาหาเราจะมีแต่คำถามประชดประชันพวกนี้) เราบอกอยู่หน้าบ้าน เค้าถามมารถอะไร เราบอกมาวิน เค้าก็กดตัดสายไป แล้วเราก็เข้าบ้าน แม่ก็พูดดูถูกเราเหมือนทุกๆวัน เราก็นอนเฉยๆไม่ได้พูดไม่ได้แย้งอะไร(พอบอกเราต้องเข้มแข็ง) แต่วันนี้พูดเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่องนึงคือ เลิกงานไม่รู้จักกลับบ้านกลับช่อง ถ้าเกิดผิดพลาดอะไรมา กูจะไม่เลี้ยงไม่ดูไม่มองสักนิดเลย เราก็เงียบคะเราเงียบจนเค้าถามเราว่า ไปแมคทำไมกูเห็นนั่งอยู่ที่แมค เราก็บอกปัดๆไปว่าป่าวไม่ได้ไป เราเบื่อทะเลาะคะ แม่บอกว่าป่าวอะไรก็เห็นนั่งใส่เสื้อตัวนี้อยู่ที่แมค(อย่างที่เล่าไปข้างบนคะด้านหลังคล้ายๆเรา=เรา จึงมีเราอยู่ทั่วประเทศคะ) เราเลยบอกไปว่าไม่ได้ไปทีหลังเจอแม่ก็เข้าไปทักเลยๆ แล้วเค้าก็บอกว่าเดี๋ยวนี้เถียงหรอ ต่างๆนาๆคะ จนเค้าบอกจะโทรไปบอกพ่อ เราก็บอกโทรเลย เค้าก็โทรไปคะ แต่พ่อเข้าข้างเรา เค้าเลยโกรธมาก พ่อเครียให้เสร็จ เราก็เงียบนอนร้องไห้ตามระเบียบคะ เค้าก็หัวเราะแบบหึๆ และบอกว่าทำมาเป็นร้องห่มร้องไห้ พ่อเลยเข้าข้างไง และก็หัวเราะอยู่แบบนั้นคะ และบอกว่าสะใจเว้ย สนุกจังเลยและก็หัวเราะ ละก็บอกขอให้ชีวิตเรามีแต่ความยิ้ม ลูกยิ้ม ขอให้ไม่มีวันเจริญ ละก็หัวเราะคะ เค้าก็ทำซ้ำๆอยู่อย่างนั้นจนเราหลับไป แต่เรื่องที่เราท้อจนไม่อยากมีชีวิตอยู่เราไม่เคยบอกใครเลย เราไม่มีทางออกเลยเราตั้งกระทู้ขึ้นมาอยากขอคำแนะนำ แต่พูดกันตรงๆนี่เราลองแล้วนะคะ หันหน้าคุยกันเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น 4 ปีที่พ่อทำงานทัวร์ 4ปีที่เราใช้ชีวิตอยู่บนคำดูถูกมันทำให้เรามีเหตุผลมากขึ้น โตด้านความคิดมากขึ้น แต่เราแก้ปัญหานี้ไม่ได้จริงๆคะ เราหมดทางออกของปัญหานี้จริงๆ
ปล.ในชีวิตจริงมีทั้งภาพ แสง สี เสียง มันแย่กว่าในตัวอักษรมากคะ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปัญหาครอบครัว ปัญหาชีวิต
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่