บรร.กำลังถึงช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ต่อไปอาจไม่ใช้ระบบ 3-5-2 วิงแบ็คอย่างเจ้าอุ้มอาจจะไม่อยู่กับทีมแล้ว หลังหมดสัญญา ส่งผลใหญ่มากเกมครอสริมเส้นแม่นๆ ลดลง
เพราะอุ้มเป็นตัวจักรสำคัญคนนึงในระบบนี้เลย (ถ้าอุ้มอยู่ต่อก็ดีครับ)
การได้อดุลย์มา เพื่อเป็นตัวแทนสุเชาว์ ยังไม่ลงตัวเพราะกลาง 3ตัวที่บรร.ใช้คือต้องหมุนเวียนกันสลับเล่นทั้งรุกและรับ
แต่อดุลย์จะถนัดคือปักหลักยืนหน้ากองหลังอย่างเดียว
ถ้าบรร.ยังใช้3-5-2ก็ได้แบบนี้( xxx คือตัวหลักยังไม่มี) ในไทยตำแหน่งวิงแบ็คหายาก
ดิโอโก
xxx
จักรพันธ์ โก
xxxx อดุลย์ xxx
กรวิทย์ ตูเญช xxx
ศิวรักษ์
แต่ถ้าบรร.ใช้4-2-3-1ก็ได้แบบนี้( xxx คือตัวหลักยังไม่มี)
ดิโอโก
xxx อนาวิน
xxx
อดุลย์ โก
สถาพร กรวิทย์ ตูเญช นฤบดินทร์
ศิวรักษ์
แต่ถ้าบรร.ใช้4-3-3ก็ได้แบบนี้( xxx คือตัวหลักยังไม่มี)
ดิโอโก
xxx อนาวิน
โก xxx
อดุลย์
สถาพร กรวิทย์ ตูเญช นฤบดินทร์
ศิวรักษ์
*จะเห็นว่า 4-3-3 และ4-2-3-1 คล้ายๆกัน ยืดหยุ่น สามารถเปลี่ยนรูปแบบการเล่นโดยไม่ต้องเปลี่ยนตัวนักเตะได้
เพราะโก เล่นได้ทั้งรับและรุกอยู่แล้ว
ส่วนที่บุรีรัมย์ขาด จริงๆ มี 2ส่วน
1 คือตัวริมเส้นที่เร็วแบบปีกความเร็วสูงกึ่งกองหน้า เช่นอาชิมปง หรือที่พาบอลไปเองได้ จริงๆดิโอโกก็เหมาะแต่ต้องมีหน้าเป้าโหดๆ
กองหน้าริมเส้นทั้ง 2ฝั่ง ให้ยืนตรงข้ามกับเท้าข้างถนัด เพราะสามารถเลี้ยงหักเข้ากลางแล้วยิงได้เลย
นึกถึงบาซ่าด้านซ้ายใช้เนมาร์ถนัดขวา ส่วนด้านขวาเมสซี่ถนัดซ้าย หรืออย่างบาเยิร์นก็มีริเบรี่ ใครอีกคนนะหัวโล้นๆ
ที่ให้ใช้3ประสานแดนหน้าก็เพื่อเพิ่มทางเลือกในการโจมตี ถ้ามีแต่หน้าอย่างเดียว มันจะกลายเป็นโยนใช้กองหน้าชงเองกินเอง ภาระตรงนี้ หนักเกินไป แต่ถ้ามีขนาบด้วยทั้งซ้ายขวาคอยสนับสนุนหรือหุบเข้ามาจบสกอร์ก็ดี ที่สำคัญทำให้ตัวสร้างสรรค์เกมมีทางเลือกในการจ่ายบอล ได้มากถึง 3ทาง
2 เพลเมกเกอร์แท้ๆ ต่างชาติของจริงซักคน ส่วนนี้ บรร.ขาดหายไป หลังจากหมดยุคกาเมโล่ก็ไม่มีตัวใกล้เคียง บอลจากกลางไปหน้าลดประสิทธภาพไป ต้องไดเร็กอย่างเดียว ตำแหน่งนี้ทักษะต้องสูง มีค่าอ่านเกม คุมจังหวะ และมีลูกจ่ายแบบชี้เป็นชี้ตายได้ ซึ่งนักเตะไทย ใน บรร.ไม่มีซักคนเลย มีแต่ผู้รับเหมาจำเป็นเท่านั้น
*ผมวิเคราะห์ตามประสาแฟน บรร.คนนึงเท่านั้น
-ขอบคุณครับผม-
บุรีรัมย์ กับระบบ 3-5-2 อาจจะใกล้ตันแล้ว
ต่อไปอาจไม่ใช้ระบบ 3-5-2 วิงแบ็คอย่างเจ้าอุ้มอาจจะไม่อยู่กับทีมแล้ว หลังหมดสัญญา ส่งผลใหญ่มากเกมครอสริมเส้นแม่นๆ ลดลง
เพราะอุ้มเป็นตัวจักรสำคัญคนนึงในระบบนี้เลย (ถ้าอุ้มอยู่ต่อก็ดีครับ)
การได้อดุลย์มา เพื่อเป็นตัวแทนสุเชาว์ ยังไม่ลงตัวเพราะกลาง 3ตัวที่บรร.ใช้คือต้องหมุนเวียนกันสลับเล่นทั้งรุกและรับ
แต่อดุลย์จะถนัดคือปักหลักยืนหน้ากองหลังอย่างเดียว
ถ้าบรร.ยังใช้3-5-2ก็ได้แบบนี้( xxx คือตัวหลักยังไม่มี) ในไทยตำแหน่งวิงแบ็คหายาก
ดิโอโก
xxx
จักรพันธ์ โก
xxxx อดุลย์ xxx
กรวิทย์ ตูเญช xxx
ศิวรักษ์
แต่ถ้าบรร.ใช้4-2-3-1ก็ได้แบบนี้( xxx คือตัวหลักยังไม่มี)
ดิโอโก
xxx อนาวิน
xxx
อดุลย์ โก
สถาพร กรวิทย์ ตูเญช นฤบดินทร์
ศิวรักษ์
แต่ถ้าบรร.ใช้4-3-3ก็ได้แบบนี้( xxx คือตัวหลักยังไม่มี)
ดิโอโก
xxx อนาวิน
โก xxx
อดุลย์
สถาพร กรวิทย์ ตูเญช นฤบดินทร์
ศิวรักษ์
*จะเห็นว่า 4-3-3 และ4-2-3-1 คล้ายๆกัน ยืดหยุ่น สามารถเปลี่ยนรูปแบบการเล่นโดยไม่ต้องเปลี่ยนตัวนักเตะได้
เพราะโก เล่นได้ทั้งรับและรุกอยู่แล้ว
ส่วนที่บุรีรัมย์ขาด จริงๆ มี 2ส่วน
1 คือตัวริมเส้นที่เร็วแบบปีกความเร็วสูงกึ่งกองหน้า เช่นอาชิมปง หรือที่พาบอลไปเองได้ จริงๆดิโอโกก็เหมาะแต่ต้องมีหน้าเป้าโหดๆ
กองหน้าริมเส้นทั้ง 2ฝั่ง ให้ยืนตรงข้ามกับเท้าข้างถนัด เพราะสามารถเลี้ยงหักเข้ากลางแล้วยิงได้เลย
นึกถึงบาซ่าด้านซ้ายใช้เนมาร์ถนัดขวา ส่วนด้านขวาเมสซี่ถนัดซ้าย หรืออย่างบาเยิร์นก็มีริเบรี่ ใครอีกคนนะหัวโล้นๆ
ที่ให้ใช้3ประสานแดนหน้าก็เพื่อเพิ่มทางเลือกในการโจมตี ถ้ามีแต่หน้าอย่างเดียว มันจะกลายเป็นโยนใช้กองหน้าชงเองกินเอง ภาระตรงนี้ หนักเกินไป แต่ถ้ามีขนาบด้วยทั้งซ้ายขวาคอยสนับสนุนหรือหุบเข้ามาจบสกอร์ก็ดี ที่สำคัญทำให้ตัวสร้างสรรค์เกมมีทางเลือกในการจ่ายบอล ได้มากถึง 3ทาง
2 เพลเมกเกอร์แท้ๆ ต่างชาติของจริงซักคน ส่วนนี้ บรร.ขาดหายไป หลังจากหมดยุคกาเมโล่ก็ไม่มีตัวใกล้เคียง บอลจากกลางไปหน้าลดประสิทธภาพไป ต้องไดเร็กอย่างเดียว ตำแหน่งนี้ทักษะต้องสูง มีค่าอ่านเกม คุมจังหวะ และมีลูกจ่ายแบบชี้เป็นชี้ตายได้ ซึ่งนักเตะไทย ใน บรร.ไม่มีซักคนเลย มีแต่ผู้รับเหมาจำเป็นเท่านั้น
*ผมวิเคราะห์ตามประสาแฟน บรร.คนนึงเท่านั้น
-ขอบคุณครับผม-