ตามหัวข้อกระทู้ เราขออธิบายคำว่าเล่นใหญ่ ในความหมายของเราก่อนนะ "เล่นใหญ่" ในความหมายของเราคือ เยอะแยะ พูดอะไรเกินจริง โกหกเป็นตุเป็นตะ อะไรประมาณนี้ค่ะ โดยเรื่องที่เราจะเล่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเราและเพื่อนของเรา ซึ่งเราขอเรียกเค้าว่า "พี" เรื่องทั้งหมดก็มีตามนี้ค่ะ
เราและพีเป็นเพื่อนกันมานาน ก็ถือว่ารู้จักกันบ้างตามโอกาสต่างๆ ที่ได้พูดคุยกัน อาจจะเพราะในช่วงม.ต้น เราไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันเลยไม่ค่อยสนิทกันมากเท่าไหร่ แต่เราคิดว่าเรารู้จักพีมากๆ ในหลายๆ เรื่อง เพราะถือได้ว่าพี เป็นคนตัวท็อปคนนึงของรร.เลยก็ว่าได้ เค้าเป็นเด็กที่เป็นตัวท็อปด้านภาษาของโรงเรียน เรียกได้ว่าถ้ามีงานอะไรที่เกี่ยวกับการใช้ภาษา ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม หรือการแข่งขันก็มักจะมีชื่อพีอยู่ตลอด มากไปกว่านั้นพีเป็นเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนโครงการหนึ่ง ก็เลยยิ่งทำให้เค้าเป็นรู้จักของเพื่อนๆ รุ่นน้อง และครูอาจารย์อีกหลายๆ ท่าน พร้อมทั้งครอบครัวของเค้าก็ยังเคยสนับสนุนเงินในกิจกรรมของโรงเรียนอยู่ เนืองๆ เรียกว่าตัวพีเอง มีคอนเนคชันอย่างดีกับครูอาจารย์ในโรงเรียนเลยก็ว่าได้ เราเป็นอีกคนที่อยู่ห่างๆ ตัวพี แต่ก็รู้อะไรเกี่ยวกับเค้าบ้าง คือไม่ได้ตั้งใจอยากจะรู้อะไรขนาดนั้น แต่ก็แหม่ ที่กล่าวมาข้างบนก็น่าจะรู้ว่า พีเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในรร.มากแค่ไหน แต่เรื่องมันก็เริ่มมาจาก
มาถึงช่วงม.ปลาย บังเอิญว่าพีได้มาอยู่ห้องเดียวกับเรา เพราะว่าเค้าพึ่งกลับมาจากตปท. มากไปกว่านั้นเค้าก็ยังมานั่งข้างๆ เราอีก แต่สายตาเราในตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร ก็ปกติทั่วๆ ไป พอพีมานั่งเป็นเพื่อนข้างโต๊ะมากขึ้น เราก็มีโอกาสได้คุยกันมากขึ้น ทำให้เรารู้อะไรหลายๆ ในตัวพีไม่ว่าจะเป็นนิสัย ทัศนคติ และอีกอย่างเพื่อนที่นั่งด้วยกันก็ต้องรู้การเรียนของเพื่อนอีกคนใช่ ป่ะ เราขอพูดถึงนิสัยและทัศนคติของพีเลย ส่วนตัวเราเองเราบอกก่อนเลยว่า ขณะที่พิมพ์อยู่ตอนนี้เราเองมีอคติต่อพีไปแล้ว ยังเราจะพยายามพูดให้เป็นตัวของพีโดยไม่ใส่อคติให้มากที่สุดนะ พีเป็นคนเข้าถึงคนง่าย พูดจาฉะฉาน ทีอัธยาศัยดี ด้วยความที่เค้าเป็นแบบนี้ก็ย่อมมีเพื่อนมาก และรู้จักครูอาจารย์คนนั้นคนนี้เยอะเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เค้าเป็นเด็กที่เคยไปตปท. ก็อาจจะทำให้คำพูดคำจาบางอันดูพูดเกินจริง พูดแบบเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป เช่น "เห้ย ง่ายจะตายแค่นี้ทำไม่ได้หรอ" "เราไม่เลือกอะไรแบบนี้หรอกนะ มันง่ายเกินไป" นอกจากนี้ยังถือได้ว่าเค้าก็เป็นคนๆ นึงพี่พยายามอวดอ้างสรรพคุณของตัวเองอยู่เสมอ ว่าตรงนั้นเค้าไปมาละนะ ตรงนี้เค้าก็ไปมาละ อันนั้นเคยทำมาละ อันนี้ก็เคยทำมาล่ะ อีกอย่างก็ไม่แปลกใจที่เค้าอาจจะมองว่าการศึกษาบ้านเรามันไม่ดี เพราะเค้าไปเจอในสิ่งที่โอเคกว่า (อันนี้เข้าใจได้) บุคลิกเค้าเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมากคนนนึง พูดง่ายๆ คือพยายามคีพลุคสุดๆ แต่สิ่งที่เค้าพยายามทำนั้นมันดูเหมือนว่าจะตรงกันข้ามกับความเป็นจริงไปซะ ทั้งหมด เค้าทะนงตนว่าตัวเองยังเก่งอยู่ ในขณะที่เรานั่งข้างเค้าก็ต้องรู้ผลสอบ ผลคะแนนอะไรอย่างนี้ใช่ป่ะ คือเค้าไม่ใช่คนเก่งอะไรเลย คะแนนเค้าก็ธรรมดาทั่วไป คะแนนตกบ้าง ผ่านบ้าง แต่ที่พีคที่สุดก็คือ เค้าดูเหมือนว่าพยายามทำตัวเองให้อัพในภาษาอังกฤษ แต่สอบทีไรผลก็ตรงกันข้ามทุกที เค้าตกอยู่บ่อยๆ ย้ำว่าตกนะ ไม่ใช่ผ่านครึ่ง ซึ่งเราก็อึ้งมาก เพราะอย่างน้อยเราคิดว่าเค้าเป็นเด็กนร.แลกเปลี่ยนเคยไปอยู่ตปท.มา ถึงแม้จะเป็นประเทศที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ แต่การสอบชิงทุนไปละ? การใช้ภาษาอังกฤษในระหว่างที่เค้ายังพูดภาษาที่สามไม่ได้ล่ะ? บวกกับตลอดมา เราก็เห็นเค้าเป็นตัวแทนรร.เข้าร่วมแข่งขัน เข้าร่วมกิจกรรมในด้านภาษาอังกฤษ คือบอกเลยว่าผลงานก็เห็นๆ อยู่ว่าเค้าต้องมีทักษะด้านนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่พอวัดผลออกมาจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ตามนั้นอ่ะ ยิ่งทำให้เราคิดไปอีกว่า เค้าเฟคมากๆ และอีกเรื่องที่เราคิดว่าเป็นไฮไลต์ของเรื่องนี้เลย
ด้วยความที่เราทุกคนเป็นเด็กม.6 ฉะนั้นเวลาที่มีการประกาศผลสอบ หรือประกาศคะแนนสอบต่างๆ ก็มักจะมาแชร์กับเพื่อนๆ ซึ่งพีก็เป็นอีกคนนึง ที่มักจะมาแชร์คะแนนสอบของตัวเองบ้าง ซึ่งเราก็รับฟังเหมือนกับฟังคนอื่นทั่วๆ ไป แต่เรื่องก็คือ บางวิชาเค้าพุดว่าเค้าได้คะแนนเท่านี้ ซึ่งเราก็โห จริงดิ เยอะมากเลยนะ เป็นไปได้หรอ (พุดกับเพื่อนอีกคน) ซึ่งเพื่อนอีกคนก็บอกเหมือนกันว่าพีบอกมาอย่างนี้ ตอนนั้นในใจเราไม่เชื่อเลยว่าสิ่งที่เค้าพูดนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะว่าก็เห็นๆ กันอยู่ขนาดสอบในห้องเค้ายังไม่ค่อยจะได้เลย แล้วจะนับอะไรกับข้อสอบระดับชาติ ในใจเราคิดว่าพีโกหกแน่นอน เราก็เลยพยายามหาความจริงในสิ่งที่พีพูด โดยการพยายามเข้ารหัสเพื่อดูผลสอบของเค้าจริงๆ เราก็มีสายเพื่อนร่วมขบวนการที่พยายามหาข้อมูล (เราคิดว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดีที่เราจะไปละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น แต่ทำไงได้ล่ะตอนนั้นมันอยากรู้ความจริง บวกกับอีกอย่างเราพยายามจับผิดพีเพราะอคติส่วนตัว) จนท้ายที่สุดเราก็สามารถเปิดเข้าไปดูคะแนนสอบของเค้า และต้องบอกเลยว่าสิ่งที่เราเข้าใจมาตั้งแต่ต้นว่าพีโกหกมันถูกแล้ว เค้าโกหกทั้งเพ โกหกทุกรายวิชา คะแนนที่เค้าพูดนั้นสูงลิบลับจากคะแนนที่เค้าได้ตามความเป็นจริง คือมาเช็คคะแนนในตอนหลังคะแนนที่เค้าพูดเค้าสามารถเป็นอันดับสูงๆ ของประเทศได้เลย ซึ่งมันตัดกับผลการเรียนของเค้าที่เรารู้มาก่อนหน้านี้มากๆ ทุกวิชาที่เค้าบอกมันโกงคะแนนความจริงชัดๆ อีกอย่างเราลืมบอกก่อนหน้านี้ มันก็จะมีการประกาศผลของรับตรง โควตาอะไรต่างๆ ซึ่งตัวพีก็สมัครไว้เหมือนกัน และบังเอิญว่าตรงกับคณะ และสาขาของเพื่อนเราอีกคนพอดี ในใจตอนแรกเราคิดว่า เห้ย ไม่น่ารอดมือพีไปได้หรอก เพราะเลือกพีสอบแบบใช้ภาษาที่สาม ซึ่งมันก็ตรงกับประเทศที่เค้าไปแลกเปลี่ยนมา 1 ปี เราก็ไม่แปลกใจเลยว่าถ้าเค้าจะสอบติดในครั้งนั้น แต่ผลปรากฏว่าเพื่อนของเราติด แต่พีหลุด เราก็ไปถามพีว่าทำไม ตัวพี่ก็พูดเราแบบนี้ "คือรู้ตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่าไม่ติด เพราะตั้งใจทำให้ไม่ติดเอง ไม่อยากอยู่มหาลัยนี้อ่ะ" เราก็แบบโห พูดได้ขนาดนี้เลยหรอ สองสิ่งนี้ทำให้เรามีอคติต่อตัวพีมากขึ้นไปอีก และอีกอย่างนึงอย่างที่บอกตอนแรกว่าเราสามารถเจาะเข้าข้อมูลของพีเพื่อไปดู คะแนนสอบได้ เราก็เลยแอบจดไว้ แล้วก็มาเข้าดูผลการสอบระดับชาติของอีกอันหนึ่ง ก็ปรากฏอีกเหมือนเดิมว่า ศักยภาพของพีไม่ใช่ในสิ่งที่เค้าพูดๆ ไว้เลย แพทภาษาที่ควรจะได้คะแนนเยอะๆ เพราะว่าเค้าได้เปรียบในการไปตปท. ซึ่งบังเอิญว่าตรงกับแพทภาษานั้นๆ เค้าได้ไม่ถึงครึ่ง ไม่ถึงร้อยด้วยซ้ำก็ยังว่าได้ อีกอย่างแกทคะแนนรวมก็ไม่เกินครึ่ง เกินหนึ่งร้อยมานิดเดียว ซึ่งแบบเห้ยยย มันขนาดนั้นเลยหรอ แล้วสื่งที่เค้าพูดๆ ออกมาก่อนหน้านั้นล่ะ ว่าลองทำแล้วได้เท่านี้นะ ได้เท่านั้นนะ (เป็นคะแนนที่สูงพอสมควร) คืออะไร? และล่าสุดมีประกาศรับตรงของมหาลัยหนึ่งพึ่งออกมา เค้าบอกว่าเค้าติดคณะนี้ อีกครั้งที่เราไม่เชื่อเราก็ลองไปคำนวณคะแนนของ เค้าดู บวกกับไปดูเกณฑ์ตามคณะและสาขาที่พีบอกว่าติด สรุปคือ รวมคะแนนแล้วเกณฑ์ขั้นต่ำคะแนนรวมก็ไม่ถึง เกณฑ์ขั้นต่ำของแกทก็ยังไม่ถึง และเกณฑ์ขั้นต่ำของแพทภาษาก็ยังไม่ถึง เราก็เห้ยเกินไปป่ะ ออกมาพูดซะขนาดนี้
สิ่งที่เราพูดมาทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปเปิดโปงความจริงของพี (ถึงแม้จะมีหลักฐานและพยานทั้งหมดก็เถอะ) เราไม่อยากทำให้เป็นบาปกรรมติดตัวเรามากกว่า อยากให้ความจริงสนองผลต่อตัวเค้าเอง ว่าท้ายที่สุดเค้าต้องยอมรับความจริง เราไม่ได้ดูถูกว่าพีได้คะแนนน้อย ถ้าพีไม่ออกมาโพทนา ป่าวประกาศว่าตัวเองได้อย่างนั้นอย่างนี้ เราจะไม่ทำเลย ไม่ใช่เจอกับเราคนเดียวแต่กับเพื่อนๆ และคนรู้จักอีกหลายๆ คนด้วยที่พีเอาไปพูด สุดท้ายเราอยากขอเตือนคนที่กำลังอ่านกระทู้นี้อยู่ว่า อย่าหลงเชื่อในรูปลักษณ์ภายนอกที่ถูกฉาบเอาไว้ กบลเกลื่อนในสิ่งที่ไม่ดี อย่าเชือในคำพูดอีกอวดอ้างสรรพคุณหากตัวเราไม่ได้พบกับความจริง และอย่าทำแบบตัวเราที่พยายามจับผิดเค้า เพราะมันเป็นการละเมิดสิทธิ์ของคนอื่นมากๆ แต่ที่เราออกมาพูดเพราะตอนนั้นเราทำไปแล้ว ทำไปด้วยความมีอคติและความไม่รู้จักยับยั้งตัวเอง เราเองก็ไม่รู้ว่าเราควรจะทำยังไงกับพีดี เรายังคงต้องเจอเค้าอยู่บ่อยๆ เรายังคงต้องเห็นเค้าทำพฤติกรรมอย่างนี้ต่อไป
ทำยังไงดีกับเพื่อนที่ชอบเล่นใหญ่แบบนี้
เราและพีเป็นเพื่อนกันมานาน ก็ถือว่ารู้จักกันบ้างตามโอกาสต่างๆ ที่ได้พูดคุยกัน อาจจะเพราะในช่วงม.ต้น เราไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันเลยไม่ค่อยสนิทกันมากเท่าไหร่ แต่เราคิดว่าเรารู้จักพีมากๆ ในหลายๆ เรื่อง เพราะถือได้ว่าพี เป็นคนตัวท็อปคนนึงของรร.เลยก็ว่าได้ เค้าเป็นเด็กที่เป็นตัวท็อปด้านภาษาของโรงเรียน เรียกได้ว่าถ้ามีงานอะไรที่เกี่ยวกับการใช้ภาษา ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม หรือการแข่งขันก็มักจะมีชื่อพีอยู่ตลอด มากไปกว่านั้นพีเป็นเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนโครงการหนึ่ง ก็เลยยิ่งทำให้เค้าเป็นรู้จักของเพื่อนๆ รุ่นน้อง และครูอาจารย์อีกหลายๆ ท่าน พร้อมทั้งครอบครัวของเค้าก็ยังเคยสนับสนุนเงินในกิจกรรมของโรงเรียนอยู่ เนืองๆ เรียกว่าตัวพีเอง มีคอนเนคชันอย่างดีกับครูอาจารย์ในโรงเรียนเลยก็ว่าได้ เราเป็นอีกคนที่อยู่ห่างๆ ตัวพี แต่ก็รู้อะไรเกี่ยวกับเค้าบ้าง คือไม่ได้ตั้งใจอยากจะรู้อะไรขนาดนั้น แต่ก็แหม่ ที่กล่าวมาข้างบนก็น่าจะรู้ว่า พีเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในรร.มากแค่ไหน แต่เรื่องมันก็เริ่มมาจาก
มาถึงช่วงม.ปลาย บังเอิญว่าพีได้มาอยู่ห้องเดียวกับเรา เพราะว่าเค้าพึ่งกลับมาจากตปท. มากไปกว่านั้นเค้าก็ยังมานั่งข้างๆ เราอีก แต่สายตาเราในตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร ก็ปกติทั่วๆ ไป พอพีมานั่งเป็นเพื่อนข้างโต๊ะมากขึ้น เราก็มีโอกาสได้คุยกันมากขึ้น ทำให้เรารู้อะไรหลายๆ ในตัวพีไม่ว่าจะเป็นนิสัย ทัศนคติ และอีกอย่างเพื่อนที่นั่งด้วยกันก็ต้องรู้การเรียนของเพื่อนอีกคนใช่ ป่ะ เราขอพูดถึงนิสัยและทัศนคติของพีเลย ส่วนตัวเราเองเราบอกก่อนเลยว่า ขณะที่พิมพ์อยู่ตอนนี้เราเองมีอคติต่อพีไปแล้ว ยังเราจะพยายามพูดให้เป็นตัวของพีโดยไม่ใส่อคติให้มากที่สุดนะ พีเป็นคนเข้าถึงคนง่าย พูดจาฉะฉาน ทีอัธยาศัยดี ด้วยความที่เค้าเป็นแบบนี้ก็ย่อมมีเพื่อนมาก และรู้จักครูอาจารย์คนนั้นคนนี้เยอะเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เค้าเป็นเด็กที่เคยไปตปท. ก็อาจจะทำให้คำพูดคำจาบางอันดูพูดเกินจริง พูดแบบเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป เช่น "เห้ย ง่ายจะตายแค่นี้ทำไม่ได้หรอ" "เราไม่เลือกอะไรแบบนี้หรอกนะ มันง่ายเกินไป" นอกจากนี้ยังถือได้ว่าเค้าก็เป็นคนๆ นึงพี่พยายามอวดอ้างสรรพคุณของตัวเองอยู่เสมอ ว่าตรงนั้นเค้าไปมาละนะ ตรงนี้เค้าก็ไปมาละ อันนั้นเคยทำมาละ อันนี้ก็เคยทำมาล่ะ อีกอย่างก็ไม่แปลกใจที่เค้าอาจจะมองว่าการศึกษาบ้านเรามันไม่ดี เพราะเค้าไปเจอในสิ่งที่โอเคกว่า (อันนี้เข้าใจได้) บุคลิกเค้าเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมากคนนนึง พูดง่ายๆ คือพยายามคีพลุคสุดๆ แต่สิ่งที่เค้าพยายามทำนั้นมันดูเหมือนว่าจะตรงกันข้ามกับความเป็นจริงไปซะ ทั้งหมด เค้าทะนงตนว่าตัวเองยังเก่งอยู่ ในขณะที่เรานั่งข้างเค้าก็ต้องรู้ผลสอบ ผลคะแนนอะไรอย่างนี้ใช่ป่ะ คือเค้าไม่ใช่คนเก่งอะไรเลย คะแนนเค้าก็ธรรมดาทั่วไป คะแนนตกบ้าง ผ่านบ้าง แต่ที่พีคที่สุดก็คือ เค้าดูเหมือนว่าพยายามทำตัวเองให้อัพในภาษาอังกฤษ แต่สอบทีไรผลก็ตรงกันข้ามทุกที เค้าตกอยู่บ่อยๆ ย้ำว่าตกนะ ไม่ใช่ผ่านครึ่ง ซึ่งเราก็อึ้งมาก เพราะอย่างน้อยเราคิดว่าเค้าเป็นเด็กนร.แลกเปลี่ยนเคยไปอยู่ตปท.มา ถึงแม้จะเป็นประเทศที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ แต่การสอบชิงทุนไปละ? การใช้ภาษาอังกฤษในระหว่างที่เค้ายังพูดภาษาที่สามไม่ได้ล่ะ? บวกกับตลอดมา เราก็เห็นเค้าเป็นตัวแทนรร.เข้าร่วมแข่งขัน เข้าร่วมกิจกรรมในด้านภาษาอังกฤษ คือบอกเลยว่าผลงานก็เห็นๆ อยู่ว่าเค้าต้องมีทักษะด้านนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่พอวัดผลออกมาจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ตามนั้นอ่ะ ยิ่งทำให้เราคิดไปอีกว่า เค้าเฟคมากๆ และอีกเรื่องที่เราคิดว่าเป็นไฮไลต์ของเรื่องนี้เลย
ด้วยความที่เราทุกคนเป็นเด็กม.6 ฉะนั้นเวลาที่มีการประกาศผลสอบ หรือประกาศคะแนนสอบต่างๆ ก็มักจะมาแชร์กับเพื่อนๆ ซึ่งพีก็เป็นอีกคนนึง ที่มักจะมาแชร์คะแนนสอบของตัวเองบ้าง ซึ่งเราก็รับฟังเหมือนกับฟังคนอื่นทั่วๆ ไป แต่เรื่องก็คือ บางวิชาเค้าพุดว่าเค้าได้คะแนนเท่านี้ ซึ่งเราก็โห จริงดิ เยอะมากเลยนะ เป็นไปได้หรอ (พุดกับเพื่อนอีกคน) ซึ่งเพื่อนอีกคนก็บอกเหมือนกันว่าพีบอกมาอย่างนี้ ตอนนั้นในใจเราไม่เชื่อเลยว่าสิ่งที่เค้าพูดนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะว่าก็เห็นๆ กันอยู่ขนาดสอบในห้องเค้ายังไม่ค่อยจะได้เลย แล้วจะนับอะไรกับข้อสอบระดับชาติ ในใจเราคิดว่าพีโกหกแน่นอน เราก็เลยพยายามหาความจริงในสิ่งที่พีพูด โดยการพยายามเข้ารหัสเพื่อดูผลสอบของเค้าจริงๆ เราก็มีสายเพื่อนร่วมขบวนการที่พยายามหาข้อมูล (เราคิดว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดีที่เราจะไปละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น แต่ทำไงได้ล่ะตอนนั้นมันอยากรู้ความจริง บวกกับอีกอย่างเราพยายามจับผิดพีเพราะอคติส่วนตัว) จนท้ายที่สุดเราก็สามารถเปิดเข้าไปดูคะแนนสอบของเค้า และต้องบอกเลยว่าสิ่งที่เราเข้าใจมาตั้งแต่ต้นว่าพีโกหกมันถูกแล้ว เค้าโกหกทั้งเพ โกหกทุกรายวิชา คะแนนที่เค้าพูดนั้นสูงลิบลับจากคะแนนที่เค้าได้ตามความเป็นจริง คือมาเช็คคะแนนในตอนหลังคะแนนที่เค้าพูดเค้าสามารถเป็นอันดับสูงๆ ของประเทศได้เลย ซึ่งมันตัดกับผลการเรียนของเค้าที่เรารู้มาก่อนหน้านี้มากๆ ทุกวิชาที่เค้าบอกมันโกงคะแนนความจริงชัดๆ อีกอย่างเราลืมบอกก่อนหน้านี้ มันก็จะมีการประกาศผลของรับตรง โควตาอะไรต่างๆ ซึ่งตัวพีก็สมัครไว้เหมือนกัน และบังเอิญว่าตรงกับคณะ และสาขาของเพื่อนเราอีกคนพอดี ในใจตอนแรกเราคิดว่า เห้ย ไม่น่ารอดมือพีไปได้หรอก เพราะเลือกพีสอบแบบใช้ภาษาที่สาม ซึ่งมันก็ตรงกับประเทศที่เค้าไปแลกเปลี่ยนมา 1 ปี เราก็ไม่แปลกใจเลยว่าถ้าเค้าจะสอบติดในครั้งนั้น แต่ผลปรากฏว่าเพื่อนของเราติด แต่พีหลุด เราก็ไปถามพีว่าทำไม ตัวพี่ก็พูดเราแบบนี้ "คือรู้ตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่าไม่ติด เพราะตั้งใจทำให้ไม่ติดเอง ไม่อยากอยู่มหาลัยนี้อ่ะ" เราก็แบบโห พูดได้ขนาดนี้เลยหรอ สองสิ่งนี้ทำให้เรามีอคติต่อตัวพีมากขึ้นไปอีก และอีกอย่างนึงอย่างที่บอกตอนแรกว่าเราสามารถเจาะเข้าข้อมูลของพีเพื่อไปดู คะแนนสอบได้ เราก็เลยแอบจดไว้ แล้วก็มาเข้าดูผลการสอบระดับชาติของอีกอันหนึ่ง ก็ปรากฏอีกเหมือนเดิมว่า ศักยภาพของพีไม่ใช่ในสิ่งที่เค้าพูดๆ ไว้เลย แพทภาษาที่ควรจะได้คะแนนเยอะๆ เพราะว่าเค้าได้เปรียบในการไปตปท. ซึ่งบังเอิญว่าตรงกับแพทภาษานั้นๆ เค้าได้ไม่ถึงครึ่ง ไม่ถึงร้อยด้วยซ้ำก็ยังว่าได้ อีกอย่างแกทคะแนนรวมก็ไม่เกินครึ่ง เกินหนึ่งร้อยมานิดเดียว ซึ่งแบบเห้ยยย มันขนาดนั้นเลยหรอ แล้วสื่งที่เค้าพูดๆ ออกมาก่อนหน้านั้นล่ะ ว่าลองทำแล้วได้เท่านี้นะ ได้เท่านั้นนะ (เป็นคะแนนที่สูงพอสมควร) คืออะไร? และล่าสุดมีประกาศรับตรงของมหาลัยหนึ่งพึ่งออกมา เค้าบอกว่าเค้าติดคณะนี้ อีกครั้งที่เราไม่เชื่อเราก็ลองไปคำนวณคะแนนของ เค้าดู บวกกับไปดูเกณฑ์ตามคณะและสาขาที่พีบอกว่าติด สรุปคือ รวมคะแนนแล้วเกณฑ์ขั้นต่ำคะแนนรวมก็ไม่ถึง เกณฑ์ขั้นต่ำของแกทก็ยังไม่ถึง และเกณฑ์ขั้นต่ำของแพทภาษาก็ยังไม่ถึง เราก็เห้ยเกินไปป่ะ ออกมาพูดซะขนาดนี้
สิ่งที่เราพูดมาทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปเปิดโปงความจริงของพี (ถึงแม้จะมีหลักฐานและพยานทั้งหมดก็เถอะ) เราไม่อยากทำให้เป็นบาปกรรมติดตัวเรามากกว่า อยากให้ความจริงสนองผลต่อตัวเค้าเอง ว่าท้ายที่สุดเค้าต้องยอมรับความจริง เราไม่ได้ดูถูกว่าพีได้คะแนนน้อย ถ้าพีไม่ออกมาโพทนา ป่าวประกาศว่าตัวเองได้อย่างนั้นอย่างนี้ เราจะไม่ทำเลย ไม่ใช่เจอกับเราคนเดียวแต่กับเพื่อนๆ และคนรู้จักอีกหลายๆ คนด้วยที่พีเอาไปพูด สุดท้ายเราอยากขอเตือนคนที่กำลังอ่านกระทู้นี้อยู่ว่า อย่าหลงเชื่อในรูปลักษณ์ภายนอกที่ถูกฉาบเอาไว้ กบลเกลื่อนในสิ่งที่ไม่ดี อย่าเชือในคำพูดอีกอวดอ้างสรรพคุณหากตัวเราไม่ได้พบกับความจริง และอย่าทำแบบตัวเราที่พยายามจับผิดเค้า เพราะมันเป็นการละเมิดสิทธิ์ของคนอื่นมากๆ แต่ที่เราออกมาพูดเพราะตอนนั้นเราทำไปแล้ว ทำไปด้วยความมีอคติและความไม่รู้จักยับยั้งตัวเอง เราเองก็ไม่รู้ว่าเราควรจะทำยังไงกับพีดี เรายังคงต้องเจอเค้าอยู่บ่อยๆ เรายังคงต้องเห็นเค้าทำพฤติกรรมอย่างนี้ต่อไป