ค้าสัตว์เพื่อเป็นอาหาร เป็นคนบาป

กระทู้สนทนา
หลายครั้งเวลาผมดูทีวีรายการธรรมะ สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ คือเรื่องการฆ่าสัตว์เพื่อเป็นอาหาร ทุกครั้งที่รายการเหล่านี้นำเสนอ จะออกแนวทื่อๆ เช่น แม่ค้าทุบหัวปลา ก็จะตกมอไซค์รถคว่ำหัวแตก ไม่ก็เป็นไมเกรน คนค้าวัว ก็จะป่วยแล้วร้องเสียงเหมือนวัว

ผมว่าเราถูกปลูกฝัง มาว่าคนค้าสัตว์ คนฆ่าสัตว์ เจ้าของฟาร์ม คือคนบาป ตีตราเค้าไปแล้ว แล้วคนกินเนื้อสัตว์อย่างเราๆ ล่ะ ไม่บาปหรือ

ผมพยายามอ่านหลายๆ ที่ดู ข้อสรุปคือ ดูที่เจตนา ถ้าเจตนาฆ่าคือบาป แต่การซื้อเนื้อ ไม่บาป เพราะมันตายไปแล้ว การไปซื้อเนื้อที่ตายจึงไม่บาป

ผมก็งงอีก ถ้าดูที่เจตนา ผมว่าก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ การที่เราไปร้านอาหาร แล้วสั่งกะเพราหมู มันก็เหมือนกับการที่เราสั่งให้เค้าฆ่าหมูมาทำกะเพราให้เรากิน เช่นกัน ไปตลาด คุณไปเลือกเนื้อ ก็คือคุณตั้งใจไปเลือกเนื้อมาแต่แรก แค่คุณไม่เห็นตอนที่เค้าเชือดมาให้คุณเห็นเท่านั้น

แต่เรื่องพระฉันเนื้อ ผมแยกเป็นอีกประเด็นนะครับ เพราะ พระท่านไม่ได้เจตนาจะเลือกฉันแต่เนื้อ ท่านฉันอาหาร ทุกอย่างที่ญาติโยมใส่บาตร ท่านเลือกไม่ได้ ท่านจึงไม่บาปในเรื่องเจตนา

แล้วอีกเรื่องที่ผมอยากหยิบยก ผมเห็นหลายๆวัด ปล่อยให้แม่ค้าพ่อค้า ขายนก ขายปลา ขายเต่า เพื่อให้คนซื้อไปปล่อย ซึ่งส่วนตัวผมว่าคนเหล่านี้บาปยิ่งกว่า คนขายเนื้อสัตว์อีก เพราะสัตว์เหล่านี้ถูกปล่อย ไม่นานมันก็ตายครับ ไม่ก็ถูกจับมาเวียนขายใหม่ ซึ่งเห็นๆกันอยู่ แล้วหลายๆวัดก็ปล่อยให้มีการค้าแบบนี้อยู่ มันไม่ขัดกับหลักธรรมหรือ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่