หลายคนอาจจะเคยเจอปัญหามือถือหาย และสิ่งที่ทำได้คือทำใจ แต่วันนี้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น จะทำให้เราไม่ต้องทำใจอีกแล้ว ผมบันทึกเรื่องราวนี้ไว้ในบันทึกส่วนตัว มีรูปภาพประกอบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อันนี้บันทึกที่ผมเขียนครับ http://www.gathersheet.com/preview/nop/606/ เผื่อมีใครที่ต้องการความช่วยเหลือกรณีมือถือหายได้มาอ่านเจอ คิดว่าบทความนี้อาจจะช่วยได้บ้างครับ
โดยมือถือที่ผมใช้อยู่คือเจ้า Samsung Galaxy Note 5 ครับ ผมเพิ่งถอยมาได้เดือนนึง
เหตุเกิดในวันรับปริญญาพี่สาวแฟนที่มหาวิทยาลัยหอการค้า โดยหลังจากที่จบพิธีการต่างๆและการถ่ายรูปแล้ว ก็ถึงเวลากินเลี้ยงในตอนเย็น โดยจุดหมายปลายทางของเราอยู่ที่ร้านสวนอาหารส้มตำ ตรงข้าม Paradise Park ถ.ศรีนครินทร์
โดยผมเป็นคนเรียกแท๊กซี่คู่กรรมนี้ด้วยตนเอง เราไปกัน 4 คน มีตัวผม แฟน พี่สาวแฟน และเพื่อนแฟน พร้อมกับของขวัญเยอะแยะมากมายคนละไม้คนละมือ ผมเป็นคนนั่งเบาะหน้าข้างคนขับ และสาวๆนั่งด้านหลัง ในระหว่างที่รถขับไปนั้นผมก็เล่นมือถือแชทกับเพื่อนตามปกติ โดยไม่ได้คิดว่าวันนี้จะเป็นวันซวยของตัวเองแล้ว
หลังจากถึงที่หมายปลายทาง ผมก็ลงจากรถโดยไม่ได้ตรวจสอบทรัพย์สินก่อนลง เพราะพะวงเรื่องการถือของมากกว่า
หลังจากเดินเข้าไปในร้านและนั่งได้ประมาณไม่เกิน 10 นาที ผมเอามือคลำกางเกงเพื่อหามือถือ แต่ปรากฎว่าไม่มี!
ความรู้สึกในตอนนั้นคือตัวเบาหวิวมาก ผมรีบโทรเข้าไปที่มือถือตัวเองทันที ปรากฎว่า "ขออภัยไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้" โดนปิดเครื่อง! โดนแล้วกู เพราะผมจำได้ว่าตอนก่อนถึงร้านแบตมือถือแจ้งว่าเหลือ 15% ไม่มีทางที่ 10 นาทีแบตจะหมดได้ แต่ผมจำทะเบียนรถแท๊กซี่ไม่ได้ จำได้แต่ว่าเป็นผู้หญิงขับ
ผมจึงไปแจ้งความที่ สน.พระโขนง คุณตำรวจร้อยเวรทั้งสองได้ให้การช่วยเหลือและให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี ร้อยเวรได้ทำใบแจ้งความบันทึกประจำวัน และใบติดตามเครื่อง (ใบที่มีเลขที่ IMEI และชื่อเจ้าของ) ซึ่งต้องนำไปให้กับทั้งสามค่ายมือถือ AIS, True, DTAC ตรวจสอบให้ ซึ่งเลข IMEI นั้นเปรียบเสมือนเลขประจำตัวเครื่องนั่นเอง
ผมนึกขึ้นได้ว่าผมขึ้นทางด่วนจากดินแดงซึ่งต้องขับผ่านด่านจ่ายเงิน โดยด่านจ่ายเงินนั้นต้องมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว ผมเลยให้คุณตำรวจออกใบขอดูกล้องวงจรปิดของทางด่วน
จากนั้นผมกลับบ้านมาหาข้อมูลทุกอย่างว่ามือถือหายทำยังไง ผมได้ทำการเข้าไปที่เว็บ
www.android.com/devicemanager เพื่อหามือถือจากสัญญาณ GPS แต่ก็หาไม่ได้เพราะมือถือถูกปิดอยู่ ผมจึงสั่งล็อคมือถือและใส่ข้อความให้คืนมือถือผ่านตรงนี้ จากนั้นผมได้เข้าไปที่เว็บ
findmymobile.samsung.com/login.do เพื่อหาตำแหน่งแต่ก็เหมือนเดิมคือหาไม่ได้เพราะมือถือถูกปิด ผมจึงกลับบ้านและได้บนกับเจ้าที่ที่บ้านว่าถ้าได้มือถือคืนจะกินเจ 3 วัน ชั่วโมงนี้คือเครียดมาก ทางเทคนิคไม่ได้ก็ต้องไสยศาสตร์ล่ะครับ
วันต่อมาผมไปที่ห้างซีคอนสแควร์เพื่อนำใบแจ้งความไปให้กับทั้งสามค่ายมือถือ เพื่อขอความร่วมมือในการตรวจหาว่ามีใครใช้ SIM กับเครื่องที่มีเลข IMEI ของผมหรือไม่ แต่ทางค่ายมือถือบอกว่าการจะติดตามสัญญานได้ ใช้เวลาอย่างน้อยถึง 15 วัน ซึ่งนานมากกก
ผมไม่รอเวลา ผมเริ่มโทรไปยังพวกศูนย์ประชาสัมพันธ์ของหาย เช่น จส.100, สวพ.91 ศูนย์แท๊กซี่ 1681 บอกรายละเอียดทั้งหมดไปแต่ก็ยังไม่มีใครติดต่อกลับมา
ต่อมาผมจึงได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดจากทางด่วนซึ่งผมจำได้ว่าเข้าช่องจ่ายเงินด้านขวาสุด และช่วงเวลากี่โมง ตรงจุดนี้สำคัญมากเพราะจะสามารถตีกรอบให้แคบลงได้ โดยผมอิงเวลาจากการแชทกับเพื่อนๆ ปาฏิหารย์มีจริงครับ!!
ผมเจอแท๊กซี่ที่ผมนั่งและสิ่งที่ทำให้ผมจำรถแท๊กซี่ได้ก็คือเจ้าลูกโป่งหลังรถ (ด้านคนขับ) สีเหลืองที่ผมซื้อมา ทำให้ผมได้ทะเบียนและสีของแท๊กซี่ที่ถูกต้อง ซึ่งตอนโทรแจ้งพวก จส.100 รวมทั้งแจ้งความนั้นผมดันไปบอกเขาว่าสีเขียว-เหลือง ซึ่งผิดสี ที่จริงเป็นแท๊กซี่สีฟ้า ผมจึงได้โทรไปยัง 1681 อีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีเลขทะเบียนนี้ในระบบและจะให้ผู้ขับแท๊กซี่โทรกลับมาหาผม
ตอนนี้ผมนั่งรอโทรศัพท์อย่างเดียว มันตื่นเต้นเหมือนตอนรอประกาศสลากกินแบ่งรัฐบาล
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น!
คนที่โทรมาบอกว่าเดี๋ยวจะไปดูที่อู่ให้ไม่รู้ลูกน้องเก็บได้หรือเปล่า ผมจึงรอผ่านไปสักพักเขาก็บอกว่าเจอแล้วลูกน้องเก็บไว้ แล้วจะเอามาคืนผม ผมจึงนัดแนะเวลาแต่เขาก็ผลัดไปเรื่อยๆจนในที่สุดสองทุ่มเขาก็ได้มาเจอที่ห้างซีคอน
ผมจำได้ว่าคนนี้ก็คือคนขับรถวันนั้นนั่นเอง ในขณะที่เจอหน้าเขาดูตกใจ และตื่นๆพอสมควร ผมได้มือถือคืนและเริ่มตรวจสอบเครื่อง ปรากฎว่าเครื่องโดนล็อคไม่สามารถใช้งานได้ จากสิ่งที่ผมทำในวันแรกที่หาย โดยต้องกรอก Email และ Password ของ Gmail ก่อน ถึงสามารถใช้งานได้
พอปลดล็อคแล้วปรากฎว่าโดน Recovery เรียบร้อย (ง่ายๆล้างเครื่อง) ซึ่งผมได้สอบถามคนขับก็บอกว่า ลูกน้องเอาไปร้านมือถือแล้วพยายามจะให้ช่างเข้ามือถือผม แต่ด้วยพระเดชพระคุณของมหาเทพ android และ samsung จับมือร่วมกันโดยสร้างการปิดกันการเข้าถึงเครื่องของผมถึงแม้จะล้างเครื่องไปแล้วก็ตาม ก็ยังต้องใช้ Gmail กับ Samsung account ทำให้เขาต้องเอามาคืน ซึ่งเจตนาของเขานั้นคือไม่คืนผมแน่ๆ 100 % (เอาไปขายหรือใช้เอง) เพราะถ้าจะคืนจริงๆจะไปล้างเครื่องทำไม ทำไมไม่ติดต่อตำรวจหรือทำอย่างอื่น
ผมถามคนขับต่อไปว่าลูกน้องเป็นใคร เขาก็บอกว่าขับรถให้เป็นคล้ายๆต่างด้าวชาวเขมร กลับบ้านไปแล้ว ผมกับเพื่อนถึงกับงงว่าเขมรมาขับแท๊กซี่หรอวะ เกิดมาเพิ่งเคยเจอคนไทยยังได้ใบขับขี่ยากเลย มันมาขับได้ไงวะ เริ่มทะ
ๆแล้ว แต่ผมก็มอบสินน้ำใจให้เขาเล็กน้อย เพราะถือว่าเขายังเอามาคืน ถึงแม้จะไม่ได้เต็มใจก็ตาม และหลังจากแยกย้ายไปได้สักครู่ เขาก็โทรมาหาผมว่าลูกน้องก็เพิ่งไปขับรถชนคันอื่นมาต้องซ่อมเอง และยังขโมยมือถือของผมอีก เหมือนประมาณว่าหนีไปแล้ว บลาๆๆๆ (แหมมันไปไวจริงๆ) ไม่มีข้อมูลอะไรเลยไปต่างจังหวัดกลับบ้านไปหาแม่แล้ว
ผมเลยบอกไปว่างั้นก็ช่วยบอกเขาให้ระวังตำรวจด้วยนะครับเพราะผมยังไม่ได้ถอนแจ้งความไป หากเกิดอะไรกับเครื่องผม ผมอาจจะเอาเรื่อง ซึ่งเพลงผม รูป โน้ตที่จด บลาๆๆหายหมด
สรุป... มือถือหายบนแท๊กซี่ต้องทำอย่างไรบ้าง?
1. ลองโทรเข้าเครื่องดูครับถ้าติดมีหวังได้คืนเลยแต่ถ้าไม่ติดก็ "คุณ โดน แล้ว"
2 .พยายามนึกไตร่ตรองเหตุการณ์ทั้งหมดให้ได้ เช่น เวลาขึ้นลงรถ(สำคัญมาก), สถานที่ที่ผ่าน (ส่วนใหญ่ตามร้านจะมีกล้อง), รายละเอียดของรถ ทั้ง สี ทะเบียนรถ รายละเอียดคนขับ ชื่อ เพศ ลักษณะเป็นต้น
3. โทรแจ้งพวกศุนย์ประชาสัมพันธ์ต่างๆ เช่น จส.100 โทร 1137, ศูนย์แท๊กซี่ โทร 1681, สวพ. 91 โทร 1644 เขาจะถามรายละเอียดเราก็เล่าไปครับ
4. แจ้งตำรวจให้เร็วที่สุด เราลงรถที่ไหน ไป สน.ท้องที่นั้นๆ เอากล่องมือถือไปด้วยนะครับ ผมเอาไปทั้งถุงตอนซื้อมาเลย พร้อมบัตรประชาชนและพาไปพยานด้วยก็ดี
5. พยายามเข้าไปหาตำแหน่งละควบคุมของมือถือเราผ่าน ทางเว็บไซต์
www.android.com/devicemanager และ
findmymobile.samsung.com/login.do โดยทำการล็อคเครื่องด้วยนะครับ เพื่อช่วยไม่ให้คนที่เอาไปใช้มือถือของเราได้
6. หาสถานที่ที่คาดว่าจะมีกล้องวงจรปิด เช่น แยกไฟแดง ทางด่วน สถานที่สำคัญๆ เพราะเป็นหลักฐานสำคัญ
7. ติดต่อเพื่อทำการขอดูกล้อง เพื่อดูรายละเอียดและทะเบียนรถ โดยเราต้องจำช่วงเวลาที่รถผ่านให้ได้แม่นยำที่สุดนะครับเพื่อความรวดเร็วในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ผมจำได้จากการถ่ายรูปครับเพราะเพื่อนแฟนถ่ายรูปก่อนขึ้นรถ (เวลาถ่ายรูปมันจะบอกเวลา) หรือตอนอยู่ในรถเราคุยกับใครเช่นใน Line หรือ Facebook เพราะในแชทจะบันทึกเวลาเอาไว้ทำให้เราสามารถคาดการณ์เวลาได้แม่นยำมากขึ้น มีประโยชน์มากๆเลย
8. โทรติดต่อศูนย์แท๊กซี่ 1681 พร้อมแจ้งหมายเลขทะเบียน แล้วรอติดต่อกลับ
9. ถ้าแท๊กซี่ติดต่อกลับมา คุณต้องลุ้นเอาแล้วครับว่าใครคือคนเอามือถือของคุณไป (แท๊กซี่อาจจะแถว่าไม่เห็นหรือ คนอื่นอาจจะเอาไปจริง)
10. ดวงและโชคครับ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ผมเชื่อเพราะผมไม่คิดว่าผมจะได้คืนเลยถ้าไม่มีดวงและโชค (ที่ได้เจอคนดีๆที่ช่วยเหลือผมไว้)
การป้องกันมือถือหาย
1. ตรวจทรัพย์สินเสมอเมื่อลงจากรถ ทำให้เป็นนิสัย
2. เก็บเลข IMEI ไว้ให้ดี เผื่อในกรณีที่จำเป็นก็ยังช่วยเราได้
3. ลงแอพพวกตามหาอุปกรณ์ไว้ในเครื่องของเรา เช่น Android Lost วิธีการใช้ดูในนี้ได้เลย
pantip.com/topic/30654191
4. ตั้งค่าการป้องกันเครื่องโดยทำตามนี้ครับ (ลิ้งค์จากพี่ในกลุ่ม Facebook ขอขอบคุณครับ)
www.samsung.com/th/discover/how-to/find-my-mobile/
** ขอขอบคุณ **
1. Samsung และ Android ที่ช่วยกันปกป้องเครื่องของผมจากการเข้าถึงของผู้อื่น
2. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อนๆทุกคนที่ช่วยเหลือผมในการหามือถือครับ
3. พี่คนนึงที่ได้ให้การช่วยเหลือผมไว้ (ไม่ขอเปิดเผยข้อมูล) ทั้งที่พี่เขาไม่รู้จักผม ผมไม่รู้จักเขา ไม่เคยช่วยเหลือกันมาก่อน เขาช่วยผมทั้งที่เขาไม่ได้อะไรเลย ทำให้ผมได้เบาะแสสำคัญ ถ้าไม่มีพี่เขา ป่านนี้มือถือผมจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ เขาคือไอดอลของผมเลย ทำให้ผมอยากทำความดีมากขึ้นกว่าตอนที่เคยเป็น อยากช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน แบบพี่เขาบ้าง ผมซึ้งในน้ำใจพี่เขาจริงๆ ถ้ามีคนแบบพี่เขาเยอะๆโลกคงน่าอยู่ขึ้น
4. สุดท้ายจริงๆ ขอขอบคุณกลุ่ม Facebook
Samsung Galaxy Note 5 Club Thailand ที่เข้ามาให้กำลังใจ แนะนำวิธีต่างๆ ผมขอขอบคุณจากใจจริงครับพวกคุณน่ารักมากเลยครับ
อย่าเพิ่งหมดหวัง! วิธีตามหามือถือหายบนแท๊กซี่ [จากประสบการณ์จริง]
โดยมือถือที่ผมใช้อยู่คือเจ้า Samsung Galaxy Note 5 ครับ ผมเพิ่งถอยมาได้เดือนนึง
เหตุเกิดในวันรับปริญญาพี่สาวแฟนที่มหาวิทยาลัยหอการค้า โดยหลังจากที่จบพิธีการต่างๆและการถ่ายรูปแล้ว ก็ถึงเวลากินเลี้ยงในตอนเย็น โดยจุดหมายปลายทางของเราอยู่ที่ร้านสวนอาหารส้มตำ ตรงข้าม Paradise Park ถ.ศรีนครินทร์
โดยผมเป็นคนเรียกแท๊กซี่คู่กรรมนี้ด้วยตนเอง เราไปกัน 4 คน มีตัวผม แฟน พี่สาวแฟน และเพื่อนแฟน พร้อมกับของขวัญเยอะแยะมากมายคนละไม้คนละมือ ผมเป็นคนนั่งเบาะหน้าข้างคนขับ และสาวๆนั่งด้านหลัง ในระหว่างที่รถขับไปนั้นผมก็เล่นมือถือแชทกับเพื่อนตามปกติ โดยไม่ได้คิดว่าวันนี้จะเป็นวันซวยของตัวเองแล้ว
หลังจากถึงที่หมายปลายทาง ผมก็ลงจากรถโดยไม่ได้ตรวจสอบทรัพย์สินก่อนลง เพราะพะวงเรื่องการถือของมากกว่า
หลังจากเดินเข้าไปในร้านและนั่งได้ประมาณไม่เกิน 10 นาที ผมเอามือคลำกางเกงเพื่อหามือถือ แต่ปรากฎว่าไม่มี!
ความรู้สึกในตอนนั้นคือตัวเบาหวิวมาก ผมรีบโทรเข้าไปที่มือถือตัวเองทันที ปรากฎว่า "ขออภัยไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้" โดนปิดเครื่อง! โดนแล้วกู เพราะผมจำได้ว่าตอนก่อนถึงร้านแบตมือถือแจ้งว่าเหลือ 15% ไม่มีทางที่ 10 นาทีแบตจะหมดได้ แต่ผมจำทะเบียนรถแท๊กซี่ไม่ได้ จำได้แต่ว่าเป็นผู้หญิงขับ
ผมจึงไปแจ้งความที่ สน.พระโขนง คุณตำรวจร้อยเวรทั้งสองได้ให้การช่วยเหลือและให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี ร้อยเวรได้ทำใบแจ้งความบันทึกประจำวัน และใบติดตามเครื่อง (ใบที่มีเลขที่ IMEI และชื่อเจ้าของ) ซึ่งต้องนำไปให้กับทั้งสามค่ายมือถือ AIS, True, DTAC ตรวจสอบให้ ซึ่งเลข IMEI นั้นเปรียบเสมือนเลขประจำตัวเครื่องนั่นเอง
ผมนึกขึ้นได้ว่าผมขึ้นทางด่วนจากดินแดงซึ่งต้องขับผ่านด่านจ่ายเงิน โดยด่านจ่ายเงินนั้นต้องมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว ผมเลยให้คุณตำรวจออกใบขอดูกล้องวงจรปิดของทางด่วน
จากนั้นผมกลับบ้านมาหาข้อมูลทุกอย่างว่ามือถือหายทำยังไง ผมได้ทำการเข้าไปที่เว็บ www.android.com/devicemanager เพื่อหามือถือจากสัญญาณ GPS แต่ก็หาไม่ได้เพราะมือถือถูกปิดอยู่ ผมจึงสั่งล็อคมือถือและใส่ข้อความให้คืนมือถือผ่านตรงนี้ จากนั้นผมได้เข้าไปที่เว็บ findmymobile.samsung.com/login.do เพื่อหาตำแหน่งแต่ก็เหมือนเดิมคือหาไม่ได้เพราะมือถือถูกปิด ผมจึงกลับบ้านและได้บนกับเจ้าที่ที่บ้านว่าถ้าได้มือถือคืนจะกินเจ 3 วัน ชั่วโมงนี้คือเครียดมาก ทางเทคนิคไม่ได้ก็ต้องไสยศาสตร์ล่ะครับ
วันต่อมาผมไปที่ห้างซีคอนสแควร์เพื่อนำใบแจ้งความไปให้กับทั้งสามค่ายมือถือ เพื่อขอความร่วมมือในการตรวจหาว่ามีใครใช้ SIM กับเครื่องที่มีเลข IMEI ของผมหรือไม่ แต่ทางค่ายมือถือบอกว่าการจะติดตามสัญญานได้ ใช้เวลาอย่างน้อยถึง 15 วัน ซึ่งนานมากกก
ผมไม่รอเวลา ผมเริ่มโทรไปยังพวกศูนย์ประชาสัมพันธ์ของหาย เช่น จส.100, สวพ.91 ศูนย์แท๊กซี่ 1681 บอกรายละเอียดทั้งหมดไปแต่ก็ยังไม่มีใครติดต่อกลับมา
ต่อมาผมจึงได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดจากทางด่วนซึ่งผมจำได้ว่าเข้าช่องจ่ายเงินด้านขวาสุด และช่วงเวลากี่โมง ตรงจุดนี้สำคัญมากเพราะจะสามารถตีกรอบให้แคบลงได้ โดยผมอิงเวลาจากการแชทกับเพื่อนๆ ปาฏิหารย์มีจริงครับ!!
ผมเจอแท๊กซี่ที่ผมนั่งและสิ่งที่ทำให้ผมจำรถแท๊กซี่ได้ก็คือเจ้าลูกโป่งหลังรถ (ด้านคนขับ) สีเหลืองที่ผมซื้อมา ทำให้ผมได้ทะเบียนและสีของแท๊กซี่ที่ถูกต้อง ซึ่งตอนโทรแจ้งพวก จส.100 รวมทั้งแจ้งความนั้นผมดันไปบอกเขาว่าสีเขียว-เหลือง ซึ่งผิดสี ที่จริงเป็นแท๊กซี่สีฟ้า ผมจึงได้โทรไปยัง 1681 อีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีเลขทะเบียนนี้ในระบบและจะให้ผู้ขับแท๊กซี่โทรกลับมาหาผม
ตอนนี้ผมนั่งรอโทรศัพท์อย่างเดียว มันตื่นเต้นเหมือนตอนรอประกาศสลากกินแบ่งรัฐบาล
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น!
คนที่โทรมาบอกว่าเดี๋ยวจะไปดูที่อู่ให้ไม่รู้ลูกน้องเก็บได้หรือเปล่า ผมจึงรอผ่านไปสักพักเขาก็บอกว่าเจอแล้วลูกน้องเก็บไว้ แล้วจะเอามาคืนผม ผมจึงนัดแนะเวลาแต่เขาก็ผลัดไปเรื่อยๆจนในที่สุดสองทุ่มเขาก็ได้มาเจอที่ห้างซีคอน
ผมจำได้ว่าคนนี้ก็คือคนขับรถวันนั้นนั่นเอง ในขณะที่เจอหน้าเขาดูตกใจ และตื่นๆพอสมควร ผมได้มือถือคืนและเริ่มตรวจสอบเครื่อง ปรากฎว่าเครื่องโดนล็อคไม่สามารถใช้งานได้ จากสิ่งที่ผมทำในวันแรกที่หาย โดยต้องกรอก Email และ Password ของ Gmail ก่อน ถึงสามารถใช้งานได้
พอปลดล็อคแล้วปรากฎว่าโดน Recovery เรียบร้อย (ง่ายๆล้างเครื่อง) ซึ่งผมได้สอบถามคนขับก็บอกว่า ลูกน้องเอาไปร้านมือถือแล้วพยายามจะให้ช่างเข้ามือถือผม แต่ด้วยพระเดชพระคุณของมหาเทพ android และ samsung จับมือร่วมกันโดยสร้างการปิดกันการเข้าถึงเครื่องของผมถึงแม้จะล้างเครื่องไปแล้วก็ตาม ก็ยังต้องใช้ Gmail กับ Samsung account ทำให้เขาต้องเอามาคืน ซึ่งเจตนาของเขานั้นคือไม่คืนผมแน่ๆ 100 % (เอาไปขายหรือใช้เอง) เพราะถ้าจะคืนจริงๆจะไปล้างเครื่องทำไม ทำไมไม่ติดต่อตำรวจหรือทำอย่างอื่น
ผมถามคนขับต่อไปว่าลูกน้องเป็นใคร เขาก็บอกว่าขับรถให้เป็นคล้ายๆต่างด้าวชาวเขมร กลับบ้านไปแล้ว ผมกับเพื่อนถึงกับงงว่าเขมรมาขับแท๊กซี่หรอวะ เกิดมาเพิ่งเคยเจอคนไทยยังได้ใบขับขี่ยากเลย มันมาขับได้ไงวะ เริ่มทะ
ผมเลยบอกไปว่างั้นก็ช่วยบอกเขาให้ระวังตำรวจด้วยนะครับเพราะผมยังไม่ได้ถอนแจ้งความไป หากเกิดอะไรกับเครื่องผม ผมอาจจะเอาเรื่อง ซึ่งเพลงผม รูป โน้ตที่จด บลาๆๆหายหมด
สรุป... มือถือหายบนแท๊กซี่ต้องทำอย่างไรบ้าง?
1. ลองโทรเข้าเครื่องดูครับถ้าติดมีหวังได้คืนเลยแต่ถ้าไม่ติดก็ "คุณ โดน แล้ว"
2 .พยายามนึกไตร่ตรองเหตุการณ์ทั้งหมดให้ได้ เช่น เวลาขึ้นลงรถ(สำคัญมาก), สถานที่ที่ผ่าน (ส่วนใหญ่ตามร้านจะมีกล้อง), รายละเอียดของรถ ทั้ง สี ทะเบียนรถ รายละเอียดคนขับ ชื่อ เพศ ลักษณะเป็นต้น
3. โทรแจ้งพวกศุนย์ประชาสัมพันธ์ต่างๆ เช่น จส.100 โทร 1137, ศูนย์แท๊กซี่ โทร 1681, สวพ. 91 โทร 1644 เขาจะถามรายละเอียดเราก็เล่าไปครับ
4. แจ้งตำรวจให้เร็วที่สุด เราลงรถที่ไหน ไป สน.ท้องที่นั้นๆ เอากล่องมือถือไปด้วยนะครับ ผมเอาไปทั้งถุงตอนซื้อมาเลย พร้อมบัตรประชาชนและพาไปพยานด้วยก็ดี
5. พยายามเข้าไปหาตำแหน่งละควบคุมของมือถือเราผ่าน ทางเว็บไซต์ www.android.com/devicemanager และ findmymobile.samsung.com/login.do โดยทำการล็อคเครื่องด้วยนะครับ เพื่อช่วยไม่ให้คนที่เอาไปใช้มือถือของเราได้
6. หาสถานที่ที่คาดว่าจะมีกล้องวงจรปิด เช่น แยกไฟแดง ทางด่วน สถานที่สำคัญๆ เพราะเป็นหลักฐานสำคัญ
7. ติดต่อเพื่อทำการขอดูกล้อง เพื่อดูรายละเอียดและทะเบียนรถ โดยเราต้องจำช่วงเวลาที่รถผ่านให้ได้แม่นยำที่สุดนะครับเพื่อความรวดเร็วในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ผมจำได้จากการถ่ายรูปครับเพราะเพื่อนแฟนถ่ายรูปก่อนขึ้นรถ (เวลาถ่ายรูปมันจะบอกเวลา) หรือตอนอยู่ในรถเราคุยกับใครเช่นใน Line หรือ Facebook เพราะในแชทจะบันทึกเวลาเอาไว้ทำให้เราสามารถคาดการณ์เวลาได้แม่นยำมากขึ้น มีประโยชน์มากๆเลย
8. โทรติดต่อศูนย์แท๊กซี่ 1681 พร้อมแจ้งหมายเลขทะเบียน แล้วรอติดต่อกลับ
9. ถ้าแท๊กซี่ติดต่อกลับมา คุณต้องลุ้นเอาแล้วครับว่าใครคือคนเอามือถือของคุณไป (แท๊กซี่อาจจะแถว่าไม่เห็นหรือ คนอื่นอาจจะเอาไปจริง)
10. ดวงและโชคครับ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ผมเชื่อเพราะผมไม่คิดว่าผมจะได้คืนเลยถ้าไม่มีดวงและโชค (ที่ได้เจอคนดีๆที่ช่วยเหลือผมไว้)
การป้องกันมือถือหาย
1. ตรวจทรัพย์สินเสมอเมื่อลงจากรถ ทำให้เป็นนิสัย
2. เก็บเลข IMEI ไว้ให้ดี เผื่อในกรณีที่จำเป็นก็ยังช่วยเราได้
3. ลงแอพพวกตามหาอุปกรณ์ไว้ในเครื่องของเรา เช่น Android Lost วิธีการใช้ดูในนี้ได้เลย pantip.com/topic/30654191
4. ตั้งค่าการป้องกันเครื่องโดยทำตามนี้ครับ (ลิ้งค์จากพี่ในกลุ่ม Facebook ขอขอบคุณครับ) www.samsung.com/th/discover/how-to/find-my-mobile/
** ขอขอบคุณ **
1. Samsung และ Android ที่ช่วยกันปกป้องเครื่องของผมจากการเข้าถึงของผู้อื่น
2. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อนๆทุกคนที่ช่วยเหลือผมในการหามือถือครับ
3. พี่คนนึงที่ได้ให้การช่วยเหลือผมไว้ (ไม่ขอเปิดเผยข้อมูล) ทั้งที่พี่เขาไม่รู้จักผม ผมไม่รู้จักเขา ไม่เคยช่วยเหลือกันมาก่อน เขาช่วยผมทั้งที่เขาไม่ได้อะไรเลย ทำให้ผมได้เบาะแสสำคัญ ถ้าไม่มีพี่เขา ป่านนี้มือถือผมจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ เขาคือไอดอลของผมเลย ทำให้ผมอยากทำความดีมากขึ้นกว่าตอนที่เคยเป็น อยากช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน แบบพี่เขาบ้าง ผมซึ้งในน้ำใจพี่เขาจริงๆ ถ้ามีคนแบบพี่เขาเยอะๆโลกคงน่าอยู่ขึ้น
4. สุดท้ายจริงๆ ขอขอบคุณกลุ่ม Facebook Samsung Galaxy Note 5 Club Thailand ที่เข้ามาให้กำลังใจ แนะนำวิธีต่างๆ ผมขอขอบคุณจากใจจริงครับพวกคุณน่ารักมากเลยครับ