เมื่อมีโอกาสได้ค้นคว้าเกี่ยวกับ ธรรมกาย ตามคำสอนของ หลวงพ่อวัดปากน้ำ. At Dawnตอนที่#2 โดย เมฆฑูต

At Dawn ๒

ในเมฆทูต อาฬวกะยักษ์ผู้ลงมาอยู่ในโลกมนุษย์ มีความคิดถึงครอบครัวเป็นอันมาก จึงวิงวอนเหล่าก้อนเมฆนักเดินทางให้นำสาส์นแห่งรัก และห่วงใยขึ้นไปถึงบุตรและภรรยา อาฬวกะจึงมักเล่าถึงความวิจิตรในดินแดนของตนให้เหล่าเมฆได้ฟัง มีตอนหนึ่งซึ่งน่าสนใจมาก คือ ตอนที่อาฬวกะพรรณนาถึง "กุมุท" หรือ "กุนมุทที" บัวสายสีทองว่า เมื่อถึงคืนพระจันทร์เพ็ญ เหล่ากุมุทจะพากันชูดอกขึ้นเหนือพื้นน้ำที่ใสดังเกล็ดแก้ว ระยิบระยับดุจมีชีวิตด้วยพลิ้วคลื่นเล็ก ๆ ที่พูดกันกระซี้กระซิกร่าเริง  

ทั้งบัวกุมุท ทั้งเปลวคลื่น ต่างรอเวลา...ที่พระจันทร์จะเดินดวงถึงกลางฟ้า เพราะ ณ เวลานั้น ท้องน้ำจะงดงามยิ่งนักด้วยเหล่ากุมุททั้งหลายจะคลี่คลายกลีบเบิกบาน กุมุท บัวสีทองจะบานเต็มที่เมื่อเดือนเดินดวงถึงกึ่งกลางฟ้า


เมื่อนั้น ฟ้าและน้ำ จะเป็นผืนเดียวกัน กุมุทสะท้อนแสงเงินยวง เปลี่ยนตัวเองจากบัวสีทองธรรมดาเป็นสีพระจันทร์เพ็ญ ท้องน้ำกลับกลายคล้ายสะท้อนแสงฟ้า
ข้อความนี้ ชักชวนให้นึกถึงคำพูดหนึ่งที่งดงามไม่แพ้กัน ว่า ข้าพเจ้าขอนมัสการ "พระจันทร์ คือ ธรรมกาย" อันปรากฏชัดทั่วสากลจักรวาล ส่องแสงอันสว่างไสวไปในจิตอันบริสุทธิ์ดุจน้ำที่ใส หรือ หลุดพ้นแล้วจากราหู

ข้าพเจ้าขอนมัสการ "พระอาทิตย์ คือ ธรรมกายและตนุมณฑล คือ #สัมโภคกาย" อันประกอบด้วยนฤมาณกายนานาประการ อันมหาฤษี(นักบวช หรือ สมณะ)ทั้ง หลายผู้ปรารถนาในลัทธิ(ความเชื่อ)อันพึงสำเร็จได้

ข้าพเจ้าขอนมัสการซึ่ง "นฤมาณกายอันสกฤต เป็นรูปที่บุคคลพึงมองเห็นและที่อาจเป็นประโยชน์ต่อสัตว์โลกได้ ดั่งเช่น กัลปพฤกษ์ให้สำเร็จประโยชน์

ข้อความอันไพเราะพึงศึกษานี้ เกิดขึ้นในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันต์ที่ ๕ ประมาณ พ.ศ. ๑๕๑๓ โดยองคมนตรีชื่อ "กีรติบัณฑิต" ผู้นับถือพระพุทธศาสนา จารึกไว้ ในจารึก "สรีสันธอร์"....องคมนตรีปุโรหิตท่านนี้เป็นกวีเอกแห่งราชสำนัก

ท่านอาจารย์ทรงวิทย์ แก้วศรี ผู้เขียนเรื่อง พระพุทธศาสนาในอินโดจีน ได้ให้ความเห็นถึงความประสมประสานกันระหว่างสองความเชื่อ คือ พุทธและพราหมณ์ ในกัมพูชา ณ ขณะช่วงเวลานั้น

เพียงเท่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความมีอยู่ ความเป็นไปได้ ความสัมผัสได้ของ"ธรรมกาย" ว่าเป็นภาวะที่เหล่านักบวชหรือสมณะทั้งหลายปรารถนายิ่งนัก และซ้ำยังเป็นสิ่งที่บุคคลผู้มีความบริสุทธิ์ในใจสามารถเข้าถึงได้

และภาวะแห่ง"ธรรมกาย" นี้ นอกจากจะยังความประเสริฐให้เกิดขึ้นได้แล้ว ยังเป็นแหล่งแห่งความสมปรารถนาเหมือนต้นกัลปพฤกษ์ ที่ผู้ใดมีความปรารถนาเช่นใดที่ดีงาม ก็ให้ไปยืนใต้ร่มกัลปพฤกษ์นี้แล้วอธิษฐาน

นี้เป็นไปดังคำสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำ สด จันทสโร(พระมงคลเทพมุนี) ที่ว่า ผู้ใดเข้าถึงธรรมกาย ความสุขทั้งหลายจะพึงบังเกิดขึ้น

ตามวิสัยของผู้ใฝ่ศึกษา ข้อความเหล่านี้พิสูจน์ได้จากความเชื่อในทฤษฎีที่รู้จักกันดีในหมู่นักวิชาการเชิงพุทธ คือ  The Theory of The Three Kayas or The Trikaya Theory ที่ประกอบด้วย
#นิรมานกาย The Appearance Body : The Body in which he appears in the  world for the benefit of suffering being. ซึ่งหมายถึงพระรูปกายอันงามของ พระพุทธองค์ หรือ เจ้าชายสิทธัตถะ นั่นเอง อีกทั้งยังใช้เป็นกายในการสร้าง ความดี สะสมบ่มบารมีของมนุษย์ทั้งหลาย
#ธรรมกาย The Dharma-Body wherein he is one with the eternal Dharma  that lies beyond all dualities and conceptions...   เป็นกายอันเที่ยงแท้ เป็นนิจจัง ที่ซ่อนอยู่ในกายมนุษย์ เข้าถึงได้ด้วยการปฏิบัติ สมาธิภาวนา
#สัมโภคกาย เป็นกายที่ปรากฏอยู่ในภูมิแห่งโพธิสัตว์ คือ #สวรรค์ชั้นดุสิต  The Sambhoga Kaya the (his) enjoyment (or Bliss)body appears to  to Bhodhisattavas in the celestial realm . และ celestial realm นี้ ในคัมภีร์ พุทธของจีน นิยมเรียกว่า Pure Land or The Land of Supreme Bliss หรือที่  เรียกว่า"สวรรค์ชั้นดุสิต" #ที่เป็นอยู่ของเหล่าโพธิสัตว์ นั่นเอง
อ่านกันพอสบาย เพราะไม่อยากให้เป็นวิชาการจนเกินไป แต่อยากให้ชาวพุทธทั้งหลายมีความเชื่อมั่น เข้าใจ ในสิ่งที่ถือว่าสำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา นั่นคือ "#ภาวะแห่งธรรมกาย" ที่เป็นแกนของพระธรรมคำสอนทั้งปวงและเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ พัฒนาได้ จากธรรมกายทั่วไปที่เรียกกันตามที่หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านพร่ำสอน คือ #โคตรภู แล้วปรับระดับความใสของสมาธิไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึง #อรหัต ซึ่งเราก็รู้กันอยู่แล้วว่ามีจริงจากบรรดาสาวกของพระพุทธองค์ที่บ้างก็เข้าถึง โสดาบัน บ้างก็เข้าถึงสกทาคามี อนาคามี จนกระทั่งถึงระดับอรหันตสาวก
ส่วน โคตรภู นั้น เชื่อว่าเป็นภาวะธรรมกายปกติ เบื้องต้นที่พระภิกษุธรรมดาตลอดจนคนทั่วไปที่สมบูรณ์ด้วยศีลก็สามารถเข้าถึงได้

อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ เพราะนี่คือความเข้าใจในพระพุทธศาสนาที่พุทธศาสนิกชนพึงรู้
กระซิบอีกนิดค่ะ The Trikaya or Trikaya Doctrine ถูกนำมาปรากฏชัดอยู่ใน The Saddharma Pundarikka Sutra (Lotus Sutra) เมื่อประมาณ พ.ศ. ๔๐๐ กว่า ๆ หรือก่อนคริสตศักราชประมาณหนึ่งร้อยปี แต่ในความเป็นจริง The Trikaya นี้มีมาตั้งสมัยพุทธกาล คือ ช่วงเวลาที่พระพุทธองค์ยังดำรงพระชนม์อยู่
คงต้องบอกว่าเรื่องพระพุทธศาสนานี้เป็นสิ่งที่พูดคุย/เขียนได้ตลอดชีวิตเลยทีเดียว เรามาค่อย ๆ เรียนรู้กันนะคะ
พูดกันง่าย ๆ ธรรมกาย คือ คำพูดของคนโบราณที่เราท่านมักได้ยินกันจนคุ้นว่า "มีพระในตัว" หรือ "หาพระในตัวให้เจอเสียก่อน" และพระในตัวนั่นแหละ คือ "ธรรมกาย"

เมฆทูต

Cr:: https://web.facebook.com/At-dawn-1692283784387253/
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความเห็นจากผู้โพสท์

- นำข้อความมาให้ได้ทัศนา สามารถคอมเม้นต์ได้ แต่ขอให้ใช้วาจาสุภาพนะคะ
- ผู้โพสท์ ก็สนใจและตามศึกษา เรื่องราวของหลวงพ่อวัดปากน้ำและวิชชาธรรมกาย  
- ข้อมูลจากเฟสบุ๊ค ของ เมฆฑูต  ซึ่งอ่านแล้ว มีหลักการ เชื่อถือได้ ถ้าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ศาสนาพุทธ ปฏิบัติธรรม ธรรมกาย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่