ผมว่าสมัยก่อน (โดยเฉพาะช่วงบุรีรัมย์กลายเป็นทีม ข และช่วงเลือกตั้งรอบปี 54 ที่เนวินอุ้มบังยีเป็นนายกฯ ได้นั่นแหละ) สองทีมนี้เขาไม่อะไรกันขนาดนี้นะ ก็ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างเตะบอลกันไป ผลในสนามก็ว่ากัน ถึงช่วงนั้นเมืองทองจะยังไม่ชนะบุรีรัมย์ก็เหอะ   แต่พอช่วงเลือกตั้งปี 56 ตั้งแต่กลายเป็นบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ป้าต่ายเข้ามามีบทบาทในทีมเต็มตัว (สมัยยังมีบุรีรัมย์ เอฟซี ใน D2 แล้วป้าต่ายเป็นประธานสโมสรเอง ป้าต่ายยังไม่มายุ่งกับบุรีรัมย์ พีอีเอขนาดนี้) พอบุรีรัมย์เริ่มมีปัญหากับบังยี มีปัญหากับ TPL และสมาคมฯ หลังจากนั้นแหละครับ ยาว ใส่กันยับทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ ฝ่ายบังยีก็เอาสื่อในมือเล่นงานบุรีรัมย์ ฝ่ายบุรีรัมย์ก็ตอบโต้กลับด้วยโซเชียลบ้างอะไรบ้าง ยิ่งผ่านเวลาไปก็ยิ่งแรง ยิ่งช่วงใกล้เลือกตั้ง 58 นี่ยิ่งแบบว่าเอากันให้ตายทั้งเรื่องในสนาม (บุรีรัมย์-เมืองทอง) เรื่องนอกสนาม (เนวิน-บังยี)   

จนตอนนี้ฝั่งบังยีหมดอำนาจในสมาคมไปหมดแล้ว เหลือที่มั่นสุดท้ายที่ยังเอาไว้ต่อท่ออำนาจได้ก็เมืองทอง (และเทโร) นี่แหละ (และผมเชื่อว่าดีลนี้เป็นดีลการเมือง ทำเพื่อให้รักษาฐานที่มั่นเอาไว้ ต่อท่อจากทีมชาติในยุคซิโก้ในการควบคุมของบังยีออกมาเป็นเมืองทองในตอนนี้ ทำให้คนดูยังรู้สึกว่าเมืองทองก็คือทีมชาติ บังยีและทีมงานยังพอมีอะไรเอาไว้ให้ทำได้บ้างในระดับชาติ) ตอนแรกผมคิดว่ามันจะเบาลงนะ ที่ไหนได้ไม่เบาเลย เหมือนกับว่าจะเล่นเมืองทองหนักกว่าเดิมอีก เหมือนฝ่ายบุรีรัมย์จะกวาดล้างทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นบังยี สยามกีฬา เมืองทอง ให้หมดไปเลยอะไรแบบนั้น ส่วนฝั่งบังยีก็หันมาเล่นที่ตัวนายกสมาคมคนใหม่ที่ก็ได้รับการสนับสนุนจากเสี่ยเนแทน แล้วก็ใช้สื่อในมือคอยแซะบุรีรัมย์ไปเรื่อยๆ

สรุป แล้วเมื่อไหร่จะจบครับเนี่ย จะกลับไปเป็นเหมือนสมัยก่อนได้ไหมที่เราไม่สู้รบกันแรงขนาดนี้ สยามกีฬากับบุรีรัมย์จะกลับมาอยู่ของใครของมันไม่แซะกันไปมาได้อีกไหม หรือจะต้องมีใครพังไปซักฝ่ายนึงก่อนถึงจะยอมจบกันซักที มันมาถึงจุดนี้กันแล้วหรือ?