นัดหน้าที่ไปเยือนฮิโรชิม่า บุรีรัมย์จะไม่มีตูเนซลงสนามเนื่องโดนแบนจากใบเหลือง 2 นัดติดกัน

นัดหน้าที่ไปเยือนฮิโรชิม่า บุรีรัมย์จะไม่มีตูเนซลงสนามเนื่องโดนแบนจากใบเหลือง 2 นัดติดกัน ได้สุเชาวน์คืนมาแต่คงต้องให้โกซุลกิไปยืนเป็นเซ็นเตอร์แทนอีก แถมกองหน้าไทยอย่างเจ้าชวนก็ยังเล่นไม่ดี ดูแล้วรูปเกมต้องไปรับอย่างเดียวแน่ เพราะไม่มีกองหน้าในการครองบอลหรือทำประตูเลย เอาเป็นว่าไม่ว่าจะแพ้แบบเสียประตูมากหรือเสียประตูน้อย ก็ทำให้ดีที่สุดแล้วกัน ถึงไม่ได้สักแต้มก็ช่างมัน ปีนี้มันแก้ไขอะไรไม่ทันแล้วก็ต้องยอมรับผล อยากให้เน้นถ้วยไทยลีคเป็นหลักเพื่อที่จะได้ไปแก้ตัวอีกครั้งใน ACL รอบแบ่งกลุ่มปีหน้า อดทนในช่วง 3 เดือนแรกนิดนึงเราอาจจะได้เห็นบุรีรัมย์เล่นแบบเพลย์เซฟเน้นผลในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงที่ขาดกองหน้าที่จะยิงประตู ผมยังเชื่อว่ากองหลังและกองกลางบุรีรัมย์จะยังคงแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกองหน้าทีมต่างๆในไทยลีคได้ ถ้ากองหลังและกองกลางบุรีรัมย์เน้นรับเหนียวแน่นแล้วโต้กลับแบบขึ้นมาเป็นแผง ไม่เน้นโยนยาวไปข้างหน้า เพลสซิ่งเร็ว แม้ทีมอื่นๆจะรู้จุดอ่อนว่าต้องเจาะทางชิติพัทธ์ แต่ถ้าบุรีรัมย์ส่งสุรีย์สลับกับสุรัตน์มายืนแทนชิตพัทธ์จุดอ่อนนี้น่าจะหมดไป ผลการแข่งขันในช่วง 3 เดือนแรกน่าจะออกมาแบบเสมอเป็นส่วนใหญ่ (ไม่ชนะเพราะไม่มีกองหน้ายิงประตูแต่ก็ไม่น่าจะแพ้เพราะระบบเพลสซิ่งของบุรีรัมย์น่าจะพอยันทีมในไทยลีกได้อยู่) พอดีโอโก้กลับมาน่าจะกลับมาเล่นบอลแบบไดเรคสวนกลับเร็วที่ถนัดได้อีกครั้ง ทุกอย่างน่าจะค่อยๆดีขึ้นอีกครั้ง ขอแค่อย่าท้อหมดกำลังใจกันเสียก่อน อาจจะต้องเหนื่อยหน่อยในการเร่งทำ 3 แต้มทุกนัดตั้งแต่นัดที่ 12 เป็นต้นไปเพราะเสียคะแนนไปมากจาก 11 นัดแรกที่น่าจะเสมอเป็นส่วนใหญ่ (โชคดีที่มีฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกมาเบรคลีค 1 นัดในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้) และในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังนักเตะบุรีรัมย์อาจจะไม่ล้ามากนักเนื่องจากติดทีมชาติลงแข่งฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกรอบ 12 ทีมสุดท้ายเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่