ก่อนอื่นเลยต้องขออภัยก่อนนะคะ ที่ไม่มีรูปภาพประกอบเลย เพราะเพิ่งสมัคร Pantip ค่ะ
มาเริ่มกันเลยค่ะ เรากับแฟน ตัดสินใจกันว่าจะไปเที่ยวเกาะเสม็ด จ.ระยอง ในวันที่ 20-21 ก.พ. 2559 เนื่องจาก มีวันหยุดยาว ส-อา-จ ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชาพอดี เราเริ่มค้นหาที่พักจากการอ่านรีวิวและค้นหาที่พักในเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งที่พักบนเกาะเสม็ดถ้าไม่เดินหาเองก็จะได้ 1500-2000 บาท/คืนเป็นอย่างต่ำ ซึ่งทั้งนี้เราก็ได้โทรไปสอบถามหลายที่ แต่ละที่ราคาก็ลดหลั่นตามกันไป แต่เนื่องด้วยเป็นวันหยุดยาวห้องพักต่างๆจึงมีราคาแพงขึ้น 2000-3500 บาท/คืน ไม่รวมอาหารเช้า จนมาถึงที่สุดท้าย เรากับแฟนลองอ่านรีวิวดูแล้วว่าจะเอาที่พักที่อยู่ใกล้หาดทรายแก้ว เพราะได้เดินทางได้ง่ายและหาของกินได้สะดวก จึงตัดสินใจเลือก เจี๊ยบบังกะโล ซึ่งได้โทรสอบถามล่วงหน้าแล้วค่าห้องสำหรับ 2 คน เป็นห้องพัก Standard Room พร้อมอาหารเช้าบุฟเฟ่ จากการอ่านรีวิวที่นี่แล้วใน Pantip และเว็บไซต์อื่นๆ บ้างก็บอกว่าที่พักดี ใกล้ร้านอาหาร เดินทางสะดวก บ้างก็ว่าไม่ดีเพราะที่พักกำลังปรับปรุง ทั้งนี้รีวิวดังกล่าวก็เป็นปี 2013 ซึ่งผ่านมาหลายปีแล้ว ดิฉันจึงคิดในใจว่า ในตอนนี้ที่พักของเจี๊ยบฯคงจะเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ดีแล้ว สรุปเราจึงเลือกจองที่นี่ไป 3 วัน 2คืน ในราคา 4000 บาท ทั้งนี้พนักงานบอกว่าต้องจองทันทีและพร้อมโอนเงินทั้งหมดใน1วัน เนื่องจากลูกค้าบางคนอยู่ไม่ถึง 2 วันก็ทำการ Cancel ซึ่งทำให้ทางที่พักเสียลุกค้า เราก็คิดในใจว่ามันก็แปลกๆแล้วนะที่อื่นยังเสียแค่ ครึ่งเดียวอีกครึ่งค่อยไปจ่ายในวันไปถึง แต่อีกใจก็คิดว่าลูกค้าของเขาอาจจะเยอะจริงๆก็เป็นได้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงกลัวไม่มีที่พัก เลยตัดสินใจโอนเงินวันเดียวเลยเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ (ลืมบอกเลยค่ะว่าจองพร้อมโอนเงินตอนต้นเดือน ก.พ.)
เราเริ่มเดินทางด้วยรถตู้ ในเวลา 7.00 น. ที่อนุสาวรีย์ ถึงท่าเรือบ้านเพ ในเวลา 9.00 น. และขึ้นเรือ ต่อมาถึงเกาะเสม็ดในเวลา 10.00น. มาถึงเราก็เช่ามอเตอร์ไซค์เลยค่ะ จะได้ไมเสียค่าแท็กซี่หรือรถเขียวบนเกาะ เราขับรถไปตามแผนที่ ผ่านหาดทรายแก้วและจึงมาถึงอ่าวไผ่ จึงเจอเจี๊ยบบังกะโล ด้านซ้ายติดชายทะเลเป็นร้านอาหารของเจี๊ยบค่ะ ส่วนด้านขวาเป็นที่พักของเจี๊ยบบังกะโล เราเดินไปเพื่อติดต่อสอบถามเพื่อทำการเช็คอิน เจอพนักงานผู้หญิงค่ะ อายุประมาณ 30 ปลายๆ เข้ามาทักทายให้เราเซนต์ชื่อเข้าพักดูรายชื่อเซนต์ล่าสุดแล้วเป็นวันที่ 16 ก.พ 2016 เราก็คิดในใจนี่หรือที่บอกว่าคนเข้าพักเยอะ แต่ก็ยังปลอบใจตัวเองนะคะว่านอกนั้นอาจเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ได้ อาจจะมีสมุดเซนต์อีกเล่ม และได้ทราบว่าห้องพักที่เราจะเข้าพักแขกยังไม่ได้เช็คเอาท์ออก น่าจะเข้าพักได้อีกทีตอน 13.00 น. เรากับแฟนก็ไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ จึงขอฝากของไว้และไปขับรถเล่นรอบๆเกาะดูก่อน และของฝากของสัมภาระไว้ที่ล๊อบบี้ เรากับแฟนขับรถไปร้านอาหารแถวหาดทรายขาว เป็นร้านอาหารของชาวบ้านค่ะราคาไม่แพง 2 คน สั่งอาหารจานเดียว ตก2คน ในเราคา 350 บาทค่ะ เราขับรถเล่นและกลับเข้ามาที่ล็อบบี้อีกทีตอน 12.45 น. พนักงานคนเดิมบอกว่าที่พักยังไม่เสร็จรอสักครู่นะคะ เราก็นั่งรอไปจน 13.20 น. มีผู้ชาย น่าจะเจ้าของ พูดจาดีค่ะ เดินมาสอบถาม จนสรุปพี่ผู้ชายคนนี้ก้สั่งลุกน้องให้พาเราไปห้องพัก พนักงานน่าจะเป็นพม่าค่ะ ฟังเราไม่ค่อยออก ช่วยเราถือของมาส่งด้วย
เย้ เจอห้องพักแล้ว มองจากภายนอกเป็นบังกะโลธรรมดาทั่วไปแหล่ะค่ะ ลดหลั่นกันตามเชิงเขามีอาคารตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จอยู่ด้วยค่ะ แต่ดูจากสภาพแล้วเหมือนในกระทู้เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วที่เคยรีวิวว่ากำลังก่อสร้าง (คิดในใจ ว่าป่านนี้ก็น่าจะเสร็จได้แล้วนะ.แต่ก็แอบปลอบใจตัวเองว่าเค้าอาจจะกำลังสร้างเพิ่ม) เราได้ห้องคู่หลังเกือบล่างสุด เข้าไปในห้องๆกลิ่นสเปรย์น้ำหอมเต็มห้องเลยค่ะ คือเพิ่งทำความสะอาดแคบมากค่ะ มีตู้เย็น แอร์ ทีวี เราสำรวจรอบห้องก่อนเลยว่ามีอะไรชำรุดไหมจะได้รีบแจ้ง แต่ก็ไม่มีอะไรชำรุดค่ะ มีแต่ก๊อกน้ำล้างหน้าในห้องน้ำที่ตัวก๊อกแตก หมุนได้รอบทิศเลยค่ะ สภาพห้องดูโทรม รวมๆแล้วประเมินจากสายตาน่าจะราคา 500/คืน ได้ ไม่น่าถึง 2000/คืน มาถึงเรื่องที่นอน เตียงนอนยุบไปเลยค่ะ นอนปวดหลังมากค่ะ ผ้าขนหนู นี่เก่าเลยค่ะ แข็งกระด้างมาก ก็จำใจต้องใช้ไปค่ะเพราะไม่ได้พกมาด้วย อ่อ ลืมบอกไปห้องพักที่นี่ไม่มีน้ำเปล่าให้นะคะ กระดาษทิชชู่ก้อมีให้แค่ 1 ม้วน และอยู่ 2 คืนไม่มีการเข้ามาทำความสะอาดหรือเปลี่ยนผ้าปูและผ้าขนหนูให้ค่ะ สภาพห้องอับชื้น และคับแคบมากค่ะเนื่องจากไม่มีตู้เสื้อผ้า เรากับแฟนเลยต้องวางของกระจายเต็มพื้นห้องเต็มเตียงเลยค่ะ ส่วนสภาพรอบห้อง ด้านนอกมีราวตากผ้า กับโต๊ะหินให้ค่ะ บริเวณรอบๆห้องพักหลังห้องติดกับบ่อบำบัดน้ำเสีย น้ำทิ้งอะไรสักอย่าง ส่งกลิ่นเหม็นเบาๆ ไม่อยากคิดเลยค่ะว่าถ้ามาฤดูฝนจะเลอะเทอะ เละเทะ และส่งกลิ่นเหม็นแค่ไหน
ตอนเย็นเราเลือกมื้อค่ำที่ร้านอาหารเจี๊ยบบังกะโลเหมือนกันค่ะ เนื่องจากบรรยากาศดี และอ่านรีวิวมาแล้วว่าอาหารอร่อย อีกอย่างเป็นการอุดหนุนทางที่พักด้วยเลยค่ะ อ่านรีวิวมาว่าถ้าสั่งวอาหารให้สั่งทีเดียวเนื่องจากอาหารออกช้ามาก เข้ามาถึงเราก็นั่งฟังเพลงคลอๆไปค่ะเพลงเพราะเบาๆชิวๆ ฟังเสียงคลื่นบรรยากาศดีมากค่ะ เราสั่งเครื่องดื่ม บลูเบอรี่โซดาไป 1 แก้ว แฟนเราสั่งไฮเนเก้น 1 ขวด ส่วนอาหาร สั่งต้มยำรวมมิตร ยำรวมมิตร หมึกนึ่งมะนาวและข้าวผัดปู เรามานั่งตอน 18.00 น. ค่ะ ได้อาหารครบเกือบ 19.30 น อ่อ พนักงานลืมหมึกนึ่งมะนาวไปอีก 1 อย่างค่ะ ตอนนี้คนเต็มร้านมากค่ะ ทั้งไทยและต่างประเทศ . เวลา 20.00 น. ที่นี่ก็มีโชว์กระบองไฟด้วยค่ะสวยงามมาก เบ็ดเสร็จคิดค่าเสียหายได้ รวม 750 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงนะคะ เป็นอันว่าชอบร้านอาหารของเจี๊ยบบังกะโลค่ะ
มาถึงเรื่องอาหารเช้า ที่โทรสอบถามไว้ครั้งแรกว่าบุฟเฟ่ต์ ไม่เลยค่ะ เราได้คูปองมาพอไปถึงร้านอาหารที่เรานั่งกินเมื่อกิน เพื่อมากินบุฟเฟ่ที่ตั้งใจไว้ แต่พนักงานกลับบอกว่า ขออภัยด้วยนะคะตอนนี้ ทางร้านเปลี่ยนนโยบายใหม่แล้วค่ะเนื่องจากลุกค้าน้อย จึงเปลี่ยนเป็นสั่งอาหารจานเดียวแทนค่ะ เราก้ต้องเลยตามเลยค่ะ ในเมนูมีอาหารเช้าแบบอเมริกัน กับอาหารไทยทั่วไปค่ะ เรากับแฟนก้อเลือกอาหารแบบอเมริกันกับไทยไปเลยค่ะ จะดูความแตกต่าง อาหารก็จัดว่าอร่อยค่ะ สมคำร่ำรือ เพราะเป็นร้านอาหารชื่อดังด้วย นับรวมมูลค่า 2 จาน ประมาณ 300 บาท แต่แอบเสียอารมณ์ตรงที่บอกเราว่าเป็นบุฟเฟ่ต์ สรุปได้เป็นอาหารจานเดียว
ใครจะมาพักที่เจี๊ยบบังกะโล ลองคิดดีๆนะคะ เราไม่สนับสนุนอย่างยิ่งค่ะ ราคา 2000/คืน รวมอาหารเช้า ไม่คุ้มเลยค่ะเหมือนได้ห้องพักห้องละ 500 เราว่าเพิ่มเงินอีกนิดไปอยู่รีสอร์ทหรือโรงแรมดีๆได้เลยค่ะ อย่าคิดว่าประหยัดหรืออะไรเลย ราคาเท่านี้เลือกพักที่อื่นดีกว่าค่ะ จะก็ได้ๆห้องพักบรรยากาศดีๆอย่ามาอยู่บังกะโลโทรมๆแบบนี้เลยค่ะ ไม่น่าอยู่เลยจริงๆ
ส่วน ร้านอาหาร เจี๊ยบบังกะโลเราแนะนำนะคะบรรยากาศดีมากๆๆค่ะ คอนเฟิร์ม และอาหาร รสชาติ อร่อย คุ้มราคาค่ะ แต่ต้องไปเร็วหน่อยนะคะ แล้วสั่งอาหารรวดเดียวเลยค่ะ เดี๋ยวจะได้อาหารช้า ขัดอารมณ์คนหิวค่ะ ส่วนพนักงานร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นพม่าค่ะ สั่งดีๆดังๆชัดๆนะคะจะได้รายการอาหารไม่ผิด ถ้าเจอคนไทยก็ดีไปค่ะ เรื่องอาหารเช้า ย้ำว่าไม่ใช่บุฟเฟ่ต์นะคะ พนักงานเสริฟตอนเช้าถ้าเจอพนักงานผู้หญิงจะพูดดีหน่อยค่ะ แต่ถ้าเจอผู้ชายมีอยู่คนนึงค่ะพูดจาไม่ดีเลย กระโชกโฮกฮาก เราสั่งอาหารเช้าแบบอเมริกันไปวันแรกได้กาแฟด้วย(สั่งกับพนักงานผู้หญิง) แต่อีกวันไม่มีกาแฟ ค่ะ(สั่งกับพนักงานผู้ชาย) แถมไม่เต็มใจบริการเราด้วย ส่วนใหญ่ บริการแต่ชาวต่างชาติค่ะ เราแอบเห็นว่าเขาเสริฟอาหารให้ต่างชาติก่อนคนไทยทั้งๆที่มาก่อน เป็นหลายรอบค่ะไม่ใช่ครั้งเดียว สรุปว่าใครจะมาพักหรือมาร้านอาหารที่นี่คิดกันดีๆนะคะ ^^ ใครเป็นเหมือนเรามาแชร์ประสบการณ์กันค่ะ
ประสบการณ์เที่ยวเกาะเสม็ดพักเจี๊ยบบังกะโล (Jep's Bungalows) 2016
มาเริ่มกันเลยค่ะ เรากับแฟน ตัดสินใจกันว่าจะไปเที่ยวเกาะเสม็ด จ.ระยอง ในวันที่ 20-21 ก.พ. 2559 เนื่องจาก มีวันหยุดยาว ส-อา-จ ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชาพอดี เราเริ่มค้นหาที่พักจากการอ่านรีวิวและค้นหาที่พักในเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งที่พักบนเกาะเสม็ดถ้าไม่เดินหาเองก็จะได้ 1500-2000 บาท/คืนเป็นอย่างต่ำ ซึ่งทั้งนี้เราก็ได้โทรไปสอบถามหลายที่ แต่ละที่ราคาก็ลดหลั่นตามกันไป แต่เนื่องด้วยเป็นวันหยุดยาวห้องพักต่างๆจึงมีราคาแพงขึ้น 2000-3500 บาท/คืน ไม่รวมอาหารเช้า จนมาถึงที่สุดท้าย เรากับแฟนลองอ่านรีวิวดูแล้วว่าจะเอาที่พักที่อยู่ใกล้หาดทรายแก้ว เพราะได้เดินทางได้ง่ายและหาของกินได้สะดวก จึงตัดสินใจเลือก เจี๊ยบบังกะโล ซึ่งได้โทรสอบถามล่วงหน้าแล้วค่าห้องสำหรับ 2 คน เป็นห้องพัก Standard Room พร้อมอาหารเช้าบุฟเฟ่ จากการอ่านรีวิวที่นี่แล้วใน Pantip และเว็บไซต์อื่นๆ บ้างก็บอกว่าที่พักดี ใกล้ร้านอาหาร เดินทางสะดวก บ้างก็ว่าไม่ดีเพราะที่พักกำลังปรับปรุง ทั้งนี้รีวิวดังกล่าวก็เป็นปี 2013 ซึ่งผ่านมาหลายปีแล้ว ดิฉันจึงคิดในใจว่า ในตอนนี้ที่พักของเจี๊ยบฯคงจะเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ดีแล้ว สรุปเราจึงเลือกจองที่นี่ไป 3 วัน 2คืน ในราคา 4000 บาท ทั้งนี้พนักงานบอกว่าต้องจองทันทีและพร้อมโอนเงินทั้งหมดใน1วัน เนื่องจากลูกค้าบางคนอยู่ไม่ถึง 2 วันก็ทำการ Cancel ซึ่งทำให้ทางที่พักเสียลุกค้า เราก็คิดในใจว่ามันก็แปลกๆแล้วนะที่อื่นยังเสียแค่ ครึ่งเดียวอีกครึ่งค่อยไปจ่ายในวันไปถึง แต่อีกใจก็คิดว่าลูกค้าของเขาอาจจะเยอะจริงๆก็เป็นได้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงกลัวไม่มีที่พัก เลยตัดสินใจโอนเงินวันเดียวเลยเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ (ลืมบอกเลยค่ะว่าจองพร้อมโอนเงินตอนต้นเดือน ก.พ.)
เราเริ่มเดินทางด้วยรถตู้ ในเวลา 7.00 น. ที่อนุสาวรีย์ ถึงท่าเรือบ้านเพ ในเวลา 9.00 น. และขึ้นเรือ ต่อมาถึงเกาะเสม็ดในเวลา 10.00น. มาถึงเราก็เช่ามอเตอร์ไซค์เลยค่ะ จะได้ไมเสียค่าแท็กซี่หรือรถเขียวบนเกาะ เราขับรถไปตามแผนที่ ผ่านหาดทรายแก้วและจึงมาถึงอ่าวไผ่ จึงเจอเจี๊ยบบังกะโล ด้านซ้ายติดชายทะเลเป็นร้านอาหารของเจี๊ยบค่ะ ส่วนด้านขวาเป็นที่พักของเจี๊ยบบังกะโล เราเดินไปเพื่อติดต่อสอบถามเพื่อทำการเช็คอิน เจอพนักงานผู้หญิงค่ะ อายุประมาณ 30 ปลายๆ เข้ามาทักทายให้เราเซนต์ชื่อเข้าพักดูรายชื่อเซนต์ล่าสุดแล้วเป็นวันที่ 16 ก.พ 2016 เราก็คิดในใจนี่หรือที่บอกว่าคนเข้าพักเยอะ แต่ก็ยังปลอบใจตัวเองนะคะว่านอกนั้นอาจเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ได้ อาจจะมีสมุดเซนต์อีกเล่ม และได้ทราบว่าห้องพักที่เราจะเข้าพักแขกยังไม่ได้เช็คเอาท์ออก น่าจะเข้าพักได้อีกทีตอน 13.00 น. เรากับแฟนก็ไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ จึงขอฝากของไว้และไปขับรถเล่นรอบๆเกาะดูก่อน และของฝากของสัมภาระไว้ที่ล๊อบบี้ เรากับแฟนขับรถไปร้านอาหารแถวหาดทรายขาว เป็นร้านอาหารของชาวบ้านค่ะราคาไม่แพง 2 คน สั่งอาหารจานเดียว ตก2คน ในเราคา 350 บาทค่ะ เราขับรถเล่นและกลับเข้ามาที่ล็อบบี้อีกทีตอน 12.45 น. พนักงานคนเดิมบอกว่าที่พักยังไม่เสร็จรอสักครู่นะคะ เราก็นั่งรอไปจน 13.20 น. มีผู้ชาย น่าจะเจ้าของ พูดจาดีค่ะ เดินมาสอบถาม จนสรุปพี่ผู้ชายคนนี้ก้สั่งลุกน้องให้พาเราไปห้องพัก พนักงานน่าจะเป็นพม่าค่ะ ฟังเราไม่ค่อยออก ช่วยเราถือของมาส่งด้วย
เย้ เจอห้องพักแล้ว มองจากภายนอกเป็นบังกะโลธรรมดาทั่วไปแหล่ะค่ะ ลดหลั่นกันตามเชิงเขามีอาคารตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จอยู่ด้วยค่ะ แต่ดูจากสภาพแล้วเหมือนในกระทู้เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วที่เคยรีวิวว่ากำลังก่อสร้าง (คิดในใจ ว่าป่านนี้ก็น่าจะเสร็จได้แล้วนะ.แต่ก็แอบปลอบใจตัวเองว่าเค้าอาจจะกำลังสร้างเพิ่ม) เราได้ห้องคู่หลังเกือบล่างสุด เข้าไปในห้องๆกลิ่นสเปรย์น้ำหอมเต็มห้องเลยค่ะ คือเพิ่งทำความสะอาดแคบมากค่ะ มีตู้เย็น แอร์ ทีวี เราสำรวจรอบห้องก่อนเลยว่ามีอะไรชำรุดไหมจะได้รีบแจ้ง แต่ก็ไม่มีอะไรชำรุดค่ะ มีแต่ก๊อกน้ำล้างหน้าในห้องน้ำที่ตัวก๊อกแตก หมุนได้รอบทิศเลยค่ะ สภาพห้องดูโทรม รวมๆแล้วประเมินจากสายตาน่าจะราคา 500/คืน ได้ ไม่น่าถึง 2000/คืน มาถึงเรื่องที่นอน เตียงนอนยุบไปเลยค่ะ นอนปวดหลังมากค่ะ ผ้าขนหนู นี่เก่าเลยค่ะ แข็งกระด้างมาก ก็จำใจต้องใช้ไปค่ะเพราะไม่ได้พกมาด้วย อ่อ ลืมบอกไปห้องพักที่นี่ไม่มีน้ำเปล่าให้นะคะ กระดาษทิชชู่ก้อมีให้แค่ 1 ม้วน และอยู่ 2 คืนไม่มีการเข้ามาทำความสะอาดหรือเปลี่ยนผ้าปูและผ้าขนหนูให้ค่ะ สภาพห้องอับชื้น และคับแคบมากค่ะเนื่องจากไม่มีตู้เสื้อผ้า เรากับแฟนเลยต้องวางของกระจายเต็มพื้นห้องเต็มเตียงเลยค่ะ ส่วนสภาพรอบห้อง ด้านนอกมีราวตากผ้า กับโต๊ะหินให้ค่ะ บริเวณรอบๆห้องพักหลังห้องติดกับบ่อบำบัดน้ำเสีย น้ำทิ้งอะไรสักอย่าง ส่งกลิ่นเหม็นเบาๆ ไม่อยากคิดเลยค่ะว่าถ้ามาฤดูฝนจะเลอะเทอะ เละเทะ และส่งกลิ่นเหม็นแค่ไหน
ตอนเย็นเราเลือกมื้อค่ำที่ร้านอาหารเจี๊ยบบังกะโลเหมือนกันค่ะ เนื่องจากบรรยากาศดี และอ่านรีวิวมาแล้วว่าอาหารอร่อย อีกอย่างเป็นการอุดหนุนทางที่พักด้วยเลยค่ะ อ่านรีวิวมาว่าถ้าสั่งวอาหารให้สั่งทีเดียวเนื่องจากอาหารออกช้ามาก เข้ามาถึงเราก็นั่งฟังเพลงคลอๆไปค่ะเพลงเพราะเบาๆชิวๆ ฟังเสียงคลื่นบรรยากาศดีมากค่ะ เราสั่งเครื่องดื่ม บลูเบอรี่โซดาไป 1 แก้ว แฟนเราสั่งไฮเนเก้น 1 ขวด ส่วนอาหาร สั่งต้มยำรวมมิตร ยำรวมมิตร หมึกนึ่งมะนาวและข้าวผัดปู เรามานั่งตอน 18.00 น. ค่ะ ได้อาหารครบเกือบ 19.30 น อ่อ พนักงานลืมหมึกนึ่งมะนาวไปอีก 1 อย่างค่ะ ตอนนี้คนเต็มร้านมากค่ะ ทั้งไทยและต่างประเทศ . เวลา 20.00 น. ที่นี่ก็มีโชว์กระบองไฟด้วยค่ะสวยงามมาก เบ็ดเสร็จคิดค่าเสียหายได้ รวม 750 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงนะคะ เป็นอันว่าชอบร้านอาหารของเจี๊ยบบังกะโลค่ะ
มาถึงเรื่องอาหารเช้า ที่โทรสอบถามไว้ครั้งแรกว่าบุฟเฟ่ต์ ไม่เลยค่ะ เราได้คูปองมาพอไปถึงร้านอาหารที่เรานั่งกินเมื่อกิน เพื่อมากินบุฟเฟ่ที่ตั้งใจไว้ แต่พนักงานกลับบอกว่า ขออภัยด้วยนะคะตอนนี้ ทางร้านเปลี่ยนนโยบายใหม่แล้วค่ะเนื่องจากลุกค้าน้อย จึงเปลี่ยนเป็นสั่งอาหารจานเดียวแทนค่ะ เราก้ต้องเลยตามเลยค่ะ ในเมนูมีอาหารเช้าแบบอเมริกัน กับอาหารไทยทั่วไปค่ะ เรากับแฟนก้อเลือกอาหารแบบอเมริกันกับไทยไปเลยค่ะ จะดูความแตกต่าง อาหารก็จัดว่าอร่อยค่ะ สมคำร่ำรือ เพราะเป็นร้านอาหารชื่อดังด้วย นับรวมมูลค่า 2 จาน ประมาณ 300 บาท แต่แอบเสียอารมณ์ตรงที่บอกเราว่าเป็นบุฟเฟ่ต์ สรุปได้เป็นอาหารจานเดียว
ใครจะมาพักที่เจี๊ยบบังกะโล ลองคิดดีๆนะคะ เราไม่สนับสนุนอย่างยิ่งค่ะ ราคา 2000/คืน รวมอาหารเช้า ไม่คุ้มเลยค่ะเหมือนได้ห้องพักห้องละ 500 เราว่าเพิ่มเงินอีกนิดไปอยู่รีสอร์ทหรือโรงแรมดีๆได้เลยค่ะ อย่าคิดว่าประหยัดหรืออะไรเลย ราคาเท่านี้เลือกพักที่อื่นดีกว่าค่ะ จะก็ได้ๆห้องพักบรรยากาศดีๆอย่ามาอยู่บังกะโลโทรมๆแบบนี้เลยค่ะ ไม่น่าอยู่เลยจริงๆ
ส่วน ร้านอาหาร เจี๊ยบบังกะโลเราแนะนำนะคะบรรยากาศดีมากๆๆค่ะ คอนเฟิร์ม และอาหาร รสชาติ อร่อย คุ้มราคาค่ะ แต่ต้องไปเร็วหน่อยนะคะ แล้วสั่งอาหารรวดเดียวเลยค่ะ เดี๋ยวจะได้อาหารช้า ขัดอารมณ์คนหิวค่ะ ส่วนพนักงานร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นพม่าค่ะ สั่งดีๆดังๆชัดๆนะคะจะได้รายการอาหารไม่ผิด ถ้าเจอคนไทยก็ดีไปค่ะ เรื่องอาหารเช้า ย้ำว่าไม่ใช่บุฟเฟ่ต์นะคะ พนักงานเสริฟตอนเช้าถ้าเจอพนักงานผู้หญิงจะพูดดีหน่อยค่ะ แต่ถ้าเจอผู้ชายมีอยู่คนนึงค่ะพูดจาไม่ดีเลย กระโชกโฮกฮาก เราสั่งอาหารเช้าแบบอเมริกันไปวันแรกได้กาแฟด้วย(สั่งกับพนักงานผู้หญิง) แต่อีกวันไม่มีกาแฟ ค่ะ(สั่งกับพนักงานผู้ชาย) แถมไม่เต็มใจบริการเราด้วย ส่วนใหญ่ บริการแต่ชาวต่างชาติค่ะ เราแอบเห็นว่าเขาเสริฟอาหารให้ต่างชาติก่อนคนไทยทั้งๆที่มาก่อน เป็นหลายรอบค่ะไม่ใช่ครั้งเดียว สรุปว่าใครจะมาพักหรือมาร้านอาหารที่นี่คิดกันดีๆนะคะ ^^ ใครเป็นเหมือนเรามาแชร์ประสบการณ์กันค่ะ