เมื่อชั้นเป็นโรคซึมเศร้าเรื่องเล่าที่มาสาเหตุประสบการณ์อยุ่รพ.แผนกจิตเวชซื้อยากินเองหยุดยา2/ดเราควรทำอย่างไรดีในชีวิตคะ

ยืมไอดีเพื่อนมาตั้งนะคะ
เป็นโรคซึมเศร้ามา 6ปีแล้วค่ะ มีอาการ
    1. อารมณ์ซึมเศร้า หงุดหงิด
    2. ขาดความสนใจสิ่งรอบข้าง ไม่มั่นใจในตัวเอง
    3. สมาธิเสีย ไม่ค่อยมีสมาธิเวลาทำสิ่งต่างๆ
    4. รู้สึกอ่อนเพลียอยากนอนทั้งวัน
    5. เชื่องช้า ทำอะไรก็เชื่องช้าไปหมด
    6. รับประทานอาหารมากขึ้น
    7. นอนมากขึ้นไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเลยนอนได้เป็นวันๆ
    8. ชอบโทษตัวเองบ่อยๆบางเรื่องไม่ผิดก็โทษตัวเองก่อนประจำ
    9. ฆ่าตัวตายมา2 ครั้ง มีความคิดอยากตายบ่อยๆ
   10.ชอบคิดว่าทุกคนเกลียดเราไม่ชอบเรา เห็นคนอื่นเขาคุยกันก็คิดว่าเค้าพูดถึงเรา
   11.หดหู่ตลอดเวลาเวลาเห็นใครทะเลาะกันหรือเสียงดังก็จะตกใจง่าย คิดว่าเค้าทะเลาะกันเพราะเรารึเปล่าใครด่าก็คิดว่าด่าเรา
   12.แยกตัวไม่เข้าสังคม ชอบอยู่คนเดียวในห้อง อยุ่ได้ทั้งวันไม่ทำอะไร
   13.กลัวผู้คนเวลาออกไปข้างนอก กลัวที่มีคนเยอะๆเวลากลัวจะทำอะไรไม่ถูกเลย ตื้นเต้นกังวลกระวนกระวาย
   14.รู้สึกตัวเองไม่มีคุณค่าตลอดเวลา
   15.มีอาการหู่แว่วบ้างเป็นเหมือนเสียงกระซิบ แต่ก็พยายามคิดว่ามันเป็นเสียงในหัวเราเองแต่บางทีก็แยกแยะไม่ได้เมื่อกำเริบ
   16.ช่วงเป็นหนักๆหรือกำเริบ ดูรายการทีวีไม่ได้เลยคิดว่าคนในทีวีเค้าพูดถึงเราวิทยุถ้ามีคนพูดก็คิดว่าพูดถึงเรา ยิ่งเรื่องสะเทือนใจทำให้ทำไรไม่เป็นเลยต้องรีบปิดทันที แต่ดูหนังฟังเพลงได้ปกติ
    
  ช่วงเป็นหนักๆเป็นมากแต่ไม่ถึงกับอาละวาดพังข้าวของ แต่มีโวยวาย โวยวายร้องไห้กับแม่กับน้องสาวว่าทำไมได้ยินคนพูดถึงตัวเองแบบนินทาเรานู่นนี่นั่น ก็ร้องไห้เสียใจตอนนั้นยังไม่ได้รักษา แต่ไปซื้อยาคลายเครียดยานอนหลับที่คลีนิคมากินเองน้องสาวจัดการธุระบอกอาการหมอไป เลยได้ยามากิน4ตัวซึ่งจำไม่ได้แล้วว่ามีตัวไหนบ้าง ที่บ้านคิดว่าเราคงเครียดมากไป ช่วงนั้นเจอมรสุมหลายเรื่องโถมเข้ามาเยอะไปหมด แฟนมีกิ๊กหลายคนเอาเพื่อนของเพื่อนเราบ้างไปมีอะไรกับแฟนเก่าแล้วเพื่อนเห็นเราก็โทไปถามสรุปก็ยอมรับทั้งคู่ แฟนเจ้าชู้มากๆจับได้หลายคนก็ไม่หยุด ชอบคุยเฟสไลน์กับผู้หญิงเชิงจีบเชิงชู้สาวทุกคนและหลายคน ออกไปเที่ยวด้วยกันเราก็ทำใจ โกดนะ แต่พูดไปเค้าก้อทำอีกเลยปล่อย ก่อนหน้านี้เราคบกันมาได้ตอนนั้นก็ 3ปีตอนนั้นเราเป็นคนร่าเริง คุยสนุกเป็นคนปกติทั่วไป โลกสดใสมั่นใจในตัวเองแระอีกหลายอย่าง มันเริ่มตอนที่เราเองแอบไปมีกิ๊กก่อนช่วงนั้นแฟนเปนคนดีมาก อยุ่บ้านเล่นเกมส์ช่วยงานบ้านเลี้ยงหลานให้ เราหรอเที่ยวกลางคืนแทบทุกวันแต่ไม่มีเรื่องผู้ชายนะ แต่สุดท้ายเราเองแหละที่ไม่ดีเราแอบไปมีคนอื่น แล้วแฟนจับได้เขาร้องไห้อ้อนวอนรั้งทำทุกอย่างเพื่อขอให้เราไม่เลิกกัน เปนครั้งแรกตั้งแต่คบกันมาเค้าร้องไห้ให้เราเห็น จากวันนั้นมาเราก็บอกเลิกกับผู้ชายคนนั้นและสัญญาว่าจะไม่มีทำอีก จนถึงปัจจุบันนี้ก็ไม่มีไม่มองใครสักคน ตั้งแต่นั้นมาเค้าก็เปลี่ยนไปเป็นอีกคนไปเลย อีกเรื่องเราเองกำลังจะตกงาน ทั้งรถหาย แฟนก็ดันทะเลาะกับพ่อเราอีกซึ่งมันแรงมาก พ่อไล่เขาออกจากบ้านไป เขาตัดสินใจไปเรียนที่กทม ห่างกันไปอีก ตอนแรกก้อพอทำใจได้คิดว่าเค้าไปเอาอนาคต ทนหน่อย 3ปีเอง ไม่กี่เดือนที่ไปกทมนั้นเราดันจับได้อีกว่าเค้าไปนอนกับผู้หญิงที่พัทยาซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนสนิทเราเองเพราะเค้าลงรูปลงคอมเม้นเฟสกันออกหน้ามาก ไปเจอเพราะเฟสเพื่อนเค้าเป็นเพื่อนผู้หญิงคนนี้ ตอนแรกเพื่อนก็เตือนเรานะ เราก็ยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ จนเห็นเองกับตา สุดท้ายเลยขอรหัสเฟสแฟนทั้งๆที่ไม่เคยไปวุ่นวายเลยเราเชื่อใจ แต่ความเชื่อใจก็โดนหักหลังทุกที เราเข้าไปดู โป๊ะเลยคุยกันออกแนวเรื่องอย่างว่าละ เมื่อคืนสุดยอดมั้ยลีลาเด็ดมาก มาหาอีกนะ มันไม่เจ็บมากเพราะเจอมาเยอะกว่านี้ก็มีแต่มันเจ็บไม่ใช่ผู้หญิงมาหาเขาเองนะ เขาเองแหละนั่งรถไปหาถึงพัทยา ซึ่งคบกันมาเขาไม่เคยมาหาเราเลยมีแต่เราไปหามาบ้านก็รับมา ตอนนั้นทั้งจุกไปหมดคิดไรไม่ออกร้องไห้ฟูมฟายอย่างเดียว ก็นั่นล่ะค่ะ มันรวมมาหมด เลยสติแตก วันนั้นกินเบียร์เพราะปกติก็กินทุกวันเหมือนคนติดเหล้าเพราะมันทุกข์ทุกวัน คิดแต่ว่าขอให้ได้กินมันจะได้นอนหลับหายเครียดลงบ้าง คืนนั้นทั้งเมาทั้งเสียใจมาก ตัดผมตัวเองทิ้งเหมือนคนบ้า เอาแต่โทษๆตัวเองว่าต้นเหตุเป็นเพราะเรา แม่คิดว่าถ้าเราตัดใจทำใจ ปลง ไม่คาดหวังกับทุกอย่างเราคงดีขึ้น แต่เราก็ไม่ยอมเลิกกับเขาเราเลือกที่จะอยุ่เอง คืนนั้นกินเบียร์ไป7ขวดได้ ตอนนั้นคิดไรไม่รู้คิดแต่อยากหลับไปไม่ตื่นอีกเลยเลยหยิบเอาซองยาบรรจุตัวยา4แผง แผงละ30เม็ดทั้งยาคลายเครียดยานอนหลับรวมกันกินไปพร้อมกับเบียร์จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย สะลึมสะลือพักนึงรุ้สึกแค่เหมือนมีอะไรมาแหย่จมูกลงคอ ถูกแล้วหมอล้างท้อง แล้วจากนั้นก็จำไรไม่ได้อีกเลยฟื้นมาอีกที แม่ พี่ชายยืนอยู่ปลายเตียงยืนร้องไห้ เรามองไปรอบๆมันไม่เหมือนโรงบาลทั่วไป ทำไมคนป่วยไม่ปกติกัน บางคนโดนมัดอยู่กับเตียงบางคนนั่งคุยคนเดียวและอีกหลายคนที่ป่วยทางใจ<จิต>เต็มไปหมด เรานอนห้องดูอาการเฝ้าสังเกตุอาการหมอวินิชฉัยเป็นระหว่างซึมเศร้าหรือพิษสุราเรื้องรัง ระหว่างดูอาการอย่างต่ำต้องอยู่โรงบาล2อาทิตย์อย่างน้อย เพื่อที่จะรุ้ว่าเป็นอะไร เพราะประวัติเคยมีฆ่าตัวตายด้วยการกินยาพาราเกินขนาดมาครั้งนึงกับกรีดข้อมือตัวเองแล้วมาเย็บที่ร.พ  หมอเอารูปอะไรมาให้ดูไม่รู้ให้ดูว่ามองเป็นอะไร พวกผีเสื้อไรพวกนี้ที่ดูๆในหนังมาก้อประมาณนั้น ให้เขียนแบบสอบถามต่างๆให้วาดรูปว่าผู้ญที่รักที่สุดในชีวิตคือใครและผู้ชายคือใคร ตอนนั้นเราคิดอะไรไม่ออกเราวาดรูปแฟนเพราะเรารักแฟนมากกับรูปหลานสาวเราลงไปเพราะหลานสาวคือกำลังใจเดียวของเรา ทำแบบสอบถามอดีตสภาพแวดล้อมความฝันในอนาคต สามวันแรกที่ปรับยาอยู่นั้นอาการยังคงกำเริบอยุ่คือมีหูแว่วเสียงกระซิบ เสียงเพื่อนบ้างเสียงคนอื่นนินทาบ้างประมาณ ทรมานมากจิงๆ นอนร้องไห้ทุกวันอยากตายทุกวัน หมอว่าเราเป็นเคสหายากเลยขอให้เราไปคุยอธิบายที่เราเป็นอยู่พูดต่อหน้านักเรียนแพทย์เรารับปาก วันต่อมารถเข็นมารับ พอจะเข็นเราขึ้นไปบนเวที เราตกใจค่ะทุนเดิมเรากลัวคนเยอะอยุ่แล้ว นี่นักศึกษาแพทย์ 70คนนั่งมองรอสอบถามเราอยู่ เราเหมือนคนจิตจะหลุด เลยขอหมอกลับห้องเฝ้าคนไข้เราร้องไห้ทำไรไม่ถูกจิงๆ หมอเขาเลยบอกว่าโอเคๆไม่เปนไรยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นรัยนะ ขอโทษขอโพยคุนหมอ ยกใหญ่ที่พามาแล้วผิดหวัง เข็นรถกลับก็โทษตัวเองๆร้องไห้ฟูมฟายความอยากตายก็มาอีก พยาบาลเลยฉีดยานอนหลับอย่างแรงให้อยุ่รพ.เปนอาทิตยาเริ่มปรับตัวได้เสียงหูแว่วหรือเสียงในหัวนั้นก้อหายไป ในรพ.มีกิจกรรมให้ทำนู่นทำนี่ตลอดเวลา ใจจิงไม่อยากทำอะไรอยากนอนอยู่เตียงทั้งวันแต่ก้อต้องทำฝืนใจหน่อยคิดว่าเราจะได้ดีขึ้นจะได้หาย โชคดีมีน้องข้างเตียงซึ่งเค้ามีอาการทางใจไม่อยากเรียกทางจิตค่ะ ให้เกียรติพวกเขา เขาทรมานนะที่เป็นแบบนี้ แต่ยังดีน้องควบคุมตัวเองได้บ้างไม่ได้บ้างในบางที แต่คุยรู้เรื่อง น้องเปนคนอารมณ์ดี ชอบหยอกพยาบาล ชอบหยอกคนไข้ทุกคน เฟรนลี่ขี้เล่น ชอบเอาขนมที่แม่น้องฝากมาเยี่ยมแบ่งให้ทุกคน ที่สำคัญเปนทอมด้วย น่ารักมากๆ จากที่เราคิดว่ามีแต่คนเกลียดเราแต่เราคงเข้ากะใครไม่ได้หรอกคุยก็ไม่เก่งด้วย น้องก้อมาตีสนิทเองเลยเขารู้นะว่าเราทำไรมาถึงได้มาอยู่รพ.แต่เขาไม่ถามให้เราสะเทือนใจสักคำ เราไม่อยากทำกิจกรรมก้อมีน้องคนนี้นี่แหละชวนไป ลากไปบ้าง จูงมือไปบ้างหยอกบ้าง จากวันนั้นเรากลายเป็นเพื่อนสนิทกันซะงั้น พยาบาลเค้าแซวว่าเราเปนแฟนกับน้องเค้าอะไรประมาณนี้ เพราะนอนเตียงข้างกัน ก่อนนอนก้อกู๊ดไนท์กัน เราตื่นตอนตีห้าต้องมาอาบน้ำ เราก็จะให้น้องนอนก่อนเพราะนอนขี้เซาที่สุดในห้องนั้นแล้วปลุกคนอื่นตื่นหมดแต่นางไม่ตื่น ถ้าเปนคนไข้คนอื่นโดนพยาบาลด่าหมด แต่น้องเค้าได้สิทธิ์พิเศษ เพราะเป็นที่รักของหมอของพยาบาลทุกคนในห้องนั้น เรารู้สึกมีค่าขึ้น มีเพื่อน เราแทบลืมแฟนเราไปเลยแทบไม่คิดถึงด้วยซ้ำ เชื่อมั้ย เข้ารพ.จนออกก้อไม่เคยมาเยี่ยมเลย พอครบ2อาทิตย์หมอบอกว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงอยากให้อยุ่รพ.ไปก่อนยังไม่อยากให้กลับบ้านถึงอาการต่างๆจะดีขึ้นแต่ก้อยังน่าเป็นห่วงอยู่ เราไม่ยอมอยากกลับบ้านมากคิดถึงบ้าน เลยขอให้พี่ชายพูดกะคุนหมอให้หน่อย พี่ชายก็รับปาก หมอเลยบอกขอเวลาเป็นตอนเย็นละกันระหว่างจะได้กลับหมอเอาแบบสอบถามมาถามว่าออกไปจะทำไรบ้างมีหน้าที่ทำอะไรไม่คิดฆ่าตัวตายแล้วนะถ้ามีอีกคราวหน้าจะจับส่งโรงบาลใหญ่<โรงบาลจิตเวช>แน่หมอขู่ 555 แล้วก็ไปเตรียมสั่งยาให้ทานที่บ้านเห็นว่าเป็นยาอะไรไม่รู้หมอบอกมีต้านเศร้า คลายเครียด ยานอนหลับ กับอีกอันแต่อ่านข้างกล่องมีตัวนึงเขาเขียนว่ารักษาอาทางจิตเวชได้มากล่องนึง หมอบอกกินแล้วลิ้นจะแข็งนะแต่มียาลดลิ้นแข็งให้อยู่ ต้องกินอย่าให้ขาด สุดท้ายหมอบอกให้เราเข้มแข็งสู้กับโรคนี้กินยาสม่ำเสมอสักวันมันต้องหาย ใจต้องสู้ด้วยนะ เราก็ขอบคุนเพื่อจะได้กลับบ้านสักทีดีใจมากเพราะตอนนั้นรู้สึกเหมือนคนปกติแล้ว ตื่นมาสดชื่น อยากทำโน่นทำนี่ตลอดเวลาอะไรอีกหลายอย่าง ระหว่างนั้นช่วงสาย ที่คนไข้ต่างคนต่างทำกิจกรรมกันอยุ่ น้องคนนั้นมีคิวรักษาตอนสายของวันนั้นพอดี เราก็คงไม่คิดอะไร คิดว่าเอาน่าคงฉีดยากินยาเดวก็มากินข้าวด้วยกันเหมือนเดิมแหละเนอะ แต่ไม่ใช่เลยหมอลากเครื่องอะไรไม่รู้มาใหญ่มาก เค้าทำกันที่เตียงน้องเลย เรานั่งกินข้าวพอดีเค้าปิดม่านนะ แต่ม่านดันแง้มออกเห็นเต็มๆตา เค้าช๊อตไฟฟ้าช๊อตหัวน้องอ่ะค่ะ แต่ไม่น่ากลัวเหมือนในหนังเท่าไหร่ เราอึ้งไปสักพักหมอเลยมาปิดม่าน เรากระวนกระวายน้องจะเปนไรมั้ย พอทำไรเสดหมอก็ให้น้องนอนบอกอีก2 ชม.ก็ฟื้นนะไม่ต้องห่วง เราก็ทำกิจกรรมรอ น้องฟื้นมาสะลึมสะลือพยายามจะเดินมาหาเราให้ได้ภาพที่เห็นเหมือนคนไม่มีสติแล้ว เหม่อลอย น้ำลายยืด เดินเป๋ไปเป๋มา เราเห็นเราร้องไห้เลยแล้วถามพยาบาลทำไมน้องเปนแบบนี้ พยาบาลเลยบอกว่าต้องใช้เวลาฟื้นฟูสมองสักสองสามวัน ถึงจะปกติ อย่าคิดมากนะน้องไม่เปนไรหรอก เราก็จะกลับพรุ่งนี้แล้ว น้องยังไม่รู้เรื่องเลยแล้วจะลากันยังไง ก็เลยขอกระดาษกับปากกาเพื่อมาจดเบอร์ให้น้องแต่พยาบาลเค้าห้ามให้คนไข้ เพราะปากกาเป็นอาวุธแทงได้ ห้ามคนไข้ใช้กลัวทำร้ายตัวเองหรือคนอื่น อีกอย่างจดเบอร์ให้เบอร์แลกเบอร์กันไม่ได้ด้วยเปนข้อห้ามกฎเหล็กของแผนกจิตเวชนี้ เราก้อคิดจะทำไง พยาบาลบอกน้องออกรพ.อีก2 อาทิตย์ระหว่างนั้นมาเยี่ยมน้องได้เด๋วพยาบาลจะบอกน้องไว้ให้เราก็ขอบคุนพยาบาลไปโชคดีแม่ของน้องเค้ามาเยี่ยมพอดี แม่ชอบเอาขนมมาฝากประจำ เราก็เลยใช้โอกาสตรงนี้ลาแม่เลยก่อนไปแม่เลยขอเบอร์โทรเราไว้แล้วก็แลกเบอรฺ์น้องเขามา เราดีใจมาก แม่บอกว่าแม่กะน้องคงคิดถึงนู๋แย่ บ้านแม่อยุ่ตั้งชัยภูมิ ว่างๆไปบ้านแม่นะละก้อกราบลาท่านไป แล้วไปเก็บของก่อนกลับลาพี่ๆน้องๆป้าอาที่อยู่ด้วยกันมา2 อาทิตย์และที่สำคัญหอมหน้าผากน้องคนนั้นไปแล้วบอกว่าเด๋วพี่มาเยี่ยมนะ ดูแลตัวเองนะคนเก่งของเจ้แอบน้ำตาไหลไปหน่อย เราอยู่นั่นเราได้ทั้งประสบณ์ได้ทั้งความรักความคิดใหม่ๆ ได้เห็นคนป่วยมากมาย อาการน้อยจากซึมเศร้าไปถึงหนักก็มี หนักมากส่วนใหญ่จะย้ายไปอยู่รพ.ใหญ่ ที่มีอยู่เลยไม่ค่อยโวยวายกันเท่าไหร่มีแต่ก็ส่วนน้อย กินยาทุกวันก็ใช้ชีวิตทั่วไปได้แต่ต้องอยุ่ในความควบคุมของหมอ ได้เห็นทั้งคนป่วยทั้งซึมเศร้า ทางใจ<จิต>เค้าน่าสงสารมากนะ เห็นใจพวกเขามาก หมอบอกว่าคนที่เป็นแบบนี้ได้ต้องเจอเรื่องกระทบจิตใจมากถึงมากๆซ้ำๆย้ำๆจนเปนแบบนี้ บอกตัวเองตั้งปณิฐานกับตัวเองไว้ว่าถ้าเราหายดีหายเป็นปกติโดยไม่ต้องกินยาแล้ววันนั้นเราจะไปเป็นจิตอาสาให้กับคนที่ป่วยเป็นโรคนี้จิงๆ พี่ยามลาบอกว่าไปแล้วอย่ากลับเข้ามาอีกนะ โชคดีอิหนู เข้มแข็งสู้ๆ เราก็ไหว้ขอบคุนแล้วเดินจากไป กลับถึงบ้านดีใจที่สุดเลย ก็ทำงานช่วยคนที่บ้านไประหว่างนี้ แฟนที่เราคิดว่าจะตัดขาดแล้วรู้ว่าออกรพ.ก็รีบกลับมาเลย แต่ตอนนั้นยังเข้าบ้านไม่ได้เพราะมีปัญหากับที่บ้านอยุ่ ใจเราทั้งดีใจที่เค้าโทรมาลืมความโกดความเจ็บที่เค้าทำมาหมดเลยเค้าบอกขอโทษบอกจะเริ่มต้นใหม่ทำตัวใหม่เพระาเค้าเราถึงเป็นแบบนี้เราก็บอกพูดแบบนี้กี่ทีแล้วเค้าบอกลองสักตั้งนะ เค้าโอนหน่วยกิตมาเรียนที่บ้านเราละนะเราจะได้อยู่ด้วยกันเหมือนเดิมไง.... ...อย่าพิ่งเบื่อกันน๊า มีต่อนะคะ...►►►
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่