หัดขับมอไซต์ที่ลำปาง ซิ่งเดือดทะลุโค้ง และเดจาวู

กระทู้สนทนา


หยุดยาวนี้ไปไหน....เพี้ยนออกทริป

เป็นคำถามที่ทักน้องที่สนิทกันไปในเฟส เคยไปเที่ยวด้วยกัน แต่ไม่ได้ไปด้วยกันนานแล้ว หลังจากนั้นก็ได้ความว่า มันจะขี่มอไซต์จากกรุงเทพ ไปลำปาง กับแฟนมัน ไอ้ตัวเราก็ขี่มอไซต์ไม่เป็น น้องมันรู้ ก็อุตส่ามีน้ำใจไปคุยกับแฟน ว่าจะขี่ไปคนละคัน แล้วให้เราซ้อนมันไป บทสนทนาค้างไว้แค่นั้น

จนอาทิตย์สุดท้าย ก่อนออกเดินทาง ตัวเราเองพิจารณาแล้วว่า แค่ซ้อนจากนนทบุรี กลับมาบ้านที่แถวรามฯ ยังเมื่อยตูดแทบแย่ ซ้อนไปลำปางคงไม่ไหว ประกอบกับปีนี้สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะหัดขับรถ เวลาไปเที่ยวจะได้ไปได้สะดวก เพราะตอนนี้ที่เที่ยวที่สามารถไปเองได้แบบรถสาธารณะ หรือปั่นจักรยาน ก็น้อยลง งั้นลองไปหัดขับรถที่ลำปางดีกว่า ต่างจังหวัด รถน้อยๆ คงขับง่ายดี

Me: เห้ย กรุว่า กรุนั่งบขส.ไปเองดีกว่า
Bro: ไปด้วยกันนี่แหละพี่
Me: ไม่เอาอ่ะขี้เกียจ กรุนอนหลับไปสบายกว่า แล้วยิ้มจะได้ไปกับแฟน
Bro: เออๆ แล้วแต่พี่ละกัน

ผมก็ติดต่อสปอนเซอร์ที่ลำปาง ได้รถมอไซต์มาเรียบร้อย แต่แล้วหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ก่อนการเดินทางจะเกิดขึ้น ก็เหมือนจะขัดขวางเราไปหมด จะออกจากออฟฟิตบ่าย 4 โมง ก็ทำงานไม่เสร็จ กว่าจะออกเกือบ 5 โมง แผนที่ หรือข้อมูลก็ยังไม่ได้เตรียม ก็เตรียมมัน 15 นาทีสุดท้ายก่อนออกจากออฟฟิตนั่นแหละ ปกติก็ไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้านานอยู่แล้ว ตั๋วรถก็ยังไม่ได้จอง ระหว่างกลับก็โทรจองนครชัย....เต็ม เรียบร้อย รีบกลับบ้านมาเก็บกระเป๋า

ถึงบ้านจะรีบเข้าห้องน้ำอาบน้ำ จะได้มาเก็บของใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย ระหว่างเดินไปห้องน้ำ กำลังคิดว่าจะโทรหาสปอนเซอร์ที่ลำปาง ย้ำเรื่องรถ คุยรายละเอียด แต่พอก้าวเท้าเข้าห้องน้ำเท่านั้นแหละ เหมือนสิ่งที่คิดในหัวผสมกับภาพห้องน้ำ ทั้งสองอย่างรวมกัน ภาพบางอย่างปรากฎขึ้นในความทรงจำแว๊บเข้ามาเลย ถึงเหตุการณ์จะไม่ได้ชัดแป๊ะมาก เป็นเหตุการณ์ในความฝัน ที่ฝันเมื่อนานแล้ว น่าจะช่วง 2 - 3 เดือน

ฝันไม่ได้ฝันติดต่อ แต่ฝันแค่ครั้งเดียว ภาพที่แว๊บเข้ามาในหัวไม่ได้เป็นเรื่องราว แต่เป็นความทรงจำว่าประมาณว่า เห้ย เราเคยเห็นมาแล้วนี่นาภาพแบบนี้ เพราะโดยส่วนตัวเห็นแบบนี้อยู่แล้วเป็นประจำๆ จนคิดว่าชีวิตคนเรายังไงก็โดนกำหนดมาแล้ว เพราะถ้าไม่ถูกกำหนด จะฝันในสิ่งที่ยังไม่เกิดได้ไง แต่ภาพไม่ใช่สิ่งที่เรากลัวหรือกังวล เป็นความรู้สึกต่างหาก ความรู้สึกมันเศร้าๆ กังวลปนความเครียด จนเริ่มบอกกับตัวเองว่าไม่มีอะไรหรอก ด้วยตัวเองเป็นคนโชคดีอยู่ตลอดเวลา เดินทางมาตลอดก็ไม่เคยมีอุบัติเหตุ แต่ความรู้สึกแย่ๆ แบบนั้นมันลืมไม่ลงจริงๆ



ยังคงเดินหน้าทริปนี้ต่อไป แต่ก็มีเรื่องตะหงิดๆ สะกิดใจ พยายามฉุดรั้งไว้ เหมือนไม่อยากให้ไป
- ลืมเสื้อหนาวไว้ที่รถ ที่บ้าน
- ลืมปลั๊กชาร์ตไอโฟน ปกติเป็นคนไม่ลืมของ ของจะครบพร้อมมาก
- ปกตินั่งแอร์พอร์ตลิงค์ แล้วไปขึ้น มอร์ไซต์ที่ หมอชิด แต่เลือกแท็กซี่ ปรากฏรถติดมาก แถมตั๋วไม่ได้จอง ไม่รู้ว่ามีรถรอบกี่โมงเหลือบ้าง
- ตั๋วเต็ม ไปถึงตั๋วเต็มจริงๆ แต่พอหันหลัง เค้าก็เปิดรถเสริม ไม่รู้เลยว่ารถเสริมเป็นไง แต่ก็ต้องเอา เพราะเดี๋ยวไม่มีรถไปสรุปเป็นรถทัวร์แบบ รถทัวร์โป๊ะตึกๆๆ กว่าจะออกนานมาก รถรอบ 3 ทุ่ม ออก 5 ทุ่ม
- ลืมเดือยยึดขาตั้งกล้อง เป็นคนพกขาตั้งกล้อง รอบนี้ก็พกมา แต่ไม่หยิบเดือยที่ยึดระหว่างขากล้องกับกล้องมา ไม่เคยลืมมาก่อนเลย
หลายๆ อย่างดูวุ่นวาย ให้ตื่นเต้นแก้เบื่อ ก็คิดว่ามันเป็นความสนุกสนานแต่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น ของจริงรออยู่



รถมาถึงลำปางเกือบ 8 โมง น้องและสปอนเซอร์มารอก่อนแล้ว เพราะบอกเค้าว่าจะมาถึงประมาณ 6 โมง ทุกคนเลยรีบมา สรุปเรามาถึงช้าสุด ไปเอารถมอไซต์เรียบร้อย บอกเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ขับรถมอไซต์ ไม่ชอบ ไม่อยากขับรถใดๆ เลย ทั้งมอไซต์ ทั้งรถยนต์ มอไซต์คันนี้ก็เลือกแบบออโต้ คิดว่ามันจะได้ขี่ง่ายๆ



เที่ยววันแรกเราก็เริ่มกันที่ พระธาตุลำปางหลวง พระธาตุจอมปิง พระธาตุเขาน้อยใกล้ๆ แถวๆ นั้น แล้วไปนอนบ้านเพื่อนที่ อ.แม่ทะ ทุกอย่างก็ปกติดี ขี่เองทั้งวัน และก็คิดว่าโอเคน่ะ สะดวกสบายดี ไว้กลับบ้านจะหามาขี่สักคัน ไว้ไปใกล้ๆ แถวบ้าน สงบเรียบร้อยจบวันที่หนึ่ง



วันที่สองออกจากบ้านเพื่อนที่แม่ทะ เป้าหมายวันนี้คือ วัดเฉลิมพระเกียรติและจบที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนค้างคืนที่นั่น ออกถนนใหญ่ ถนนโล่งกว้าง ยิ่งบิดก็ยิ่งมัน แต่ก็ยังระวังรถอยู่น้า เมืองลำปาง เลี้ยวขวาขึ้นไป ก็ขับมาเรื่อยๆ เร็วบ้างช้าบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็เร็วอ่าน่ะ อย่าที่บอกยิ่งบิดก็ยิ่งมันสักพักเราเริ่มออกมาทางที่จะไปอำเภอแจ้ห่ม เพื่อที่จะไปวัดเฉลิมพระเกียรติ มีโค้งบ้างแต่ก็ไม่หักศอกมากนัก เริ่มอยากจะรู้ว่า ถ้าเร็วกว่านี้จะเลี้ยวทันไหม โค้งแล้วก็กลับมาทางตรงทำได้นี่นา โค้งต่อมาไม่ง่ายอย่างที่คิด รถมาเร็วเกินไป เข้าโค้งซ้ายเป็นหน้าผา มีแบริเออร์กันไว้ รถครูดเข้ากับแบริเออร์สุดท้ายก่อนจะหักขวาออกมา ข้ามเลนถนนไปชนเสาหลักลายที่รออยู่โค้งถัดไป หลักกระจุย ภาพสุดท้ายคือตอนชนและพุ่งเข้าไปในป่าไผ่ข้างทาง



ภาพมืดไปหมดเหมือนกำลังหลับอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นคิดว่าเป็นความฝัน คิดว่าเป็นความฝันจริงๆ คิดว่าตัวเองกำลังหลับ จนภาพก็กลับมา เรานอนอยู่ที่คูระบายน้ำข้างทาง ขวดน้ำมันที่ห้อยรถมาหกเรี่ยราดแถวๆ นั้น ความคิดสับสนยังจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ยังคิดว่าที่เกิดขึ้นนั้นคือความฝัน แล้วเรามานอนทำอะไรตรงนี้ จนมีน้องผู้ชายคนนึงถามขึ้นมาว่า "ตัดกางเกงได้ไหม" ในใจเราไม่อยากให้ตัด ตัดทำไมเสียดายกางเกง เพิ่งจะซื้อมาใหม่เลย นี่คิดในใจน่ะ (แต่น้องบอกว่าผมไม่ยอมให้ตัด พูดไปยังไม่รู้ตัว คิดว่าคิดในใจอยู่) แต่สุดท้ายก็ให้เค้าตัด น้องที่ขอตัดกางเกงเป็นกู้ภัย กำลังจะไปเที่ยวกับแฟนผ่านมาพอดี

มารู้ตอนหลังว่าจริงๆ ผมช็อค์จนน็อกไป "ภาพตัด" ผมไม่ได้หลับ หรือสลบ น้องบอกผมยังลืมตาอยู่ แต่ไม่รู้สึกตัว ส่วนตัวผมนั้นมันเป็นภาพมืดเหมือนเราหลับตา คงเป็นวิธีที่ร่างกายป่องกันตนเอง ให้จำไม่ได้ไม่เช่นนั้นจะแย่กว่านี้



น้องเค้าปฐมพยาบาลให้ มีแผลที่เข่า รู้สึกแสบๆ เค้าก็บอกให้นอนนิ่งๆ แต่ยิ่งนอนยิ่งมึน ยิ่งคิดไม่ออก เลยลุกขึ้นมานั่ง แล้วก็ยืน (ใครประสบอุบัติเหตุไม่ควรทำแบบนี้นะอาจจะมีอาการหัก หรือบาดเจ็บซึ่งถ้ายืน หรือขยับอาการจะยิ่งแย่ลง) ผมเองก็งงๆ ตัวเองอยู่ตอนนั้น แต่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไหม และเกิดอะไรขึ้น น้องที่มากับผมเค้าก็มาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ณ ตอนนั้น ผมก็ยังจำไม่ได้อยู่ดี

คิดไรไม่ออก กลัวอะไรหลายๆ อย่าง เลยโทรหาที่บ้าน ที่บ้านเป็นห่วงไม่ได้ว่าอะไร ก็สบายใจไปเปราะหนึ่ง ลำดับต่อมาก็เจ้าของมอไซต์ เค้าก็รีบตามมาดู ระหว่างนั้นน้องเซม น้องที่มาปฐมพยาบาลให้ โทรเรียกรถ โรงพยาบาลแจ้ห่มมาให้ น้องที่มากับผมรอเคลียรถมอไซต์ที่ชน ส่วนผมก็ไปกับรถพยาบาล



ระหว่างนั้นก็เริ่มนึกเรื่องราวข้างต้นขึ้นมาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่จะลงไปนอนน็อกอยู่ในคูข้างทาง น้องเล่าให้ฟังว่า ขี่มอไซต์ตามผมมา ตั้งใจจะตามมาบอกว่าให้ขี่ช้าลงหน่อย แต่ไม่ทันแล้ว ผมแหกโค้งไปซ่ะแล้ว น้องไม่ได้เห็นผมในทันที แต่เห็นรองเท้าผม ที่กระเด็นตกอยู่บนถนน และมีลุงคนนึงยืนดูบางสิ่งอยู่ น้องเลยคิดว่าเป็นผมแน่แล้ว ผมขี่ตัดหน้าลุง ก่อนจะชนกับเสาหลักลาย ลุงเลยลงมาดู โชคยังดีที่ไม่มีรถใหญ่กว่ารถมอไซต์ของลุงขับผ่านมา ไม่งั้นอาจจะสอยผมเละไปแล้ว

ผมมีแผลเย็นที่ขา 4 เข็ม และแผลถลอกลึกที่เข่า เนื้อหลุดไปหน่อยนึง ปวดไหล่ขวาและอกทางขวา เพราะกระแทกพื้น ดูจากชุดมีรอยครูดที่ไหล่ขวา คิดว่าหลังจากชน คงตีลังการ่วงลงมาจากรถ จากทิศทางที่นอนอยู่ และทิศทางที่มุ่งหน้า เจ็บต้นขาขวา นอกนั้นก็ถลอกและช้ำทั่วตัว โรงพยาบาลเอ็กซ์เรย์หัว และช่วงไหล่ที่เจ็บนอนโรงพยาบาล 1 คืน งดน้ำ งดอาหาร ให้น้ำเกลือ เนื่องจากน็อกไปตอนเกิดเหตุ รพ.ต้องสังเกตุอาการทางสมอง ว่ามีกระทบกระเทือนทางสมองไหม มีอาการคลื่นไส้ ปวดหัว หรืออะไรบ้างไหม



1 คืนช่างยาวนานเริ่มด้วย สักพักคุณทวดเตียงตรงข้าม เช็ดเนื้อเช็ดตัว ประแป้ง กินข้าวเสร็จ "ตาย" ญาติมากันเพียบเหมือนมาส่ง และก็มากันมากขึ้นเรื่อยๆ 2 ทุ่มนู้น กว่าจะมาย้ายศพ ไม่ได้กลัวนะ แต่ไม่มองหน้าดีกว่ากลัวจำหน้าได้คืนนี้ 4 ทุ่ม ญาติทุกเตียงยังอยู่ คุยกันสนุกสนาน ไอ้ผมจะนอน นอนไม่ได้เลย เริ่มจะปวดหัวเพราะหลับๆ ตื่นๆ ทั้งญาติ ทั้งพยาบาลมาตรวจ สักเที่ยงคืนเริ่มเงียบ แต่ไฟยังไม่ปิด พระท่านป่วยนอนเตียงตรงข้ามเยื้องๆ ไปหน่อย เปิดธรรมมะสวดทั้งคืน แถมด้วยดนตรีไทยระหว่างบทสวด ผมไม่กลัวเลยแต่ปกตินอนเปิดเพลงเลยใส่หูฟังดีกว่า เดี๋ยวๆ ก็มีเสียงร้อง อืออออ อ่าาาาาา จากทวดเตียงต่างๆ สักตี 3 ไฟถึงจะปิดหมด มืดๆ พอนอนได้ นอนไปสักพักตี 5 เริ่มพยาบาลเริ่มตรวจอีกรอบ พอเลิกนอน 555+ เช้าพอดี อากาศเย็นสบาย

ช่วงสายหมอตรวจอีกครั้ง ไม่มีอะไรแตกหัก สมองโอเค ให้กินข้าวได้ (หิวข้าวมาก) และทำเรื่องกลับได้ พี่จากอ.แม่ทะที่เราไปนอนบ้านก็มาเยี่ยม เห็นเราขับครั้งแรกก็ตะหงิดๆ ใจอยู่ จะไปไหวไหม สปอนเซอร์=คุณแอ็ดและแฟน ก็มารับและส่งผมบินกลับ กทม. ส่วนมอไซต์ทางสปอนเซอร์เป็นคนดูแลค่าเสียหาย และค่ารักษาพยาบาล โชคดีในความโชคร้ายจากอุบัติเหตุ อีกโชคดี ตรงที่ไม่มีอะไรหัก หรือรุนแรง คนเห็นสภาพมอไซต์ยังถามว่าคนขับตายไหม โชคดีที่เตรียมงานไว้เสร็จหมดแล้ว ลาหยุดได้ 1 อาทิตย์เลย เหมือนว่าจะรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้



ในหลายเรื่องดังข้างต้นที่พยายามจะหยุดยั่งไม่ให้ผมไปลำปางครั้งนี้ ลืมนู้นนี่ อุปสรรคมากมาย และที่สำคัญความรู้สึกตอนเดจาวู ถ้าผมรู้สึกแบบนี้อีก จะไม่เดินทางแน่นอน นี่ก็เป็นอีกเหตุหนึ่งที่นึกขึ้นมาได้ หมอดูทักไว้ก่อนวันเกิด ว่าปีนี้จะเกิดอุบัติเหตุจากการท่องเที่ยว แต่ไม่รุนแรง เค้าดูออกว่าผมชอบ
เดินทาง (ใครอยากได้เบอร์หมอดูหลังไมค์ได้นะ) แถมเดือนกุมภาพันธุ์ เป็นเดือนที่จะพักทุกทริป เพื่อไปสิมิลันเดือนมีนาคม แต่ก็ไปจนได้อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดเนอะ

เขียนเรื่องนี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์นักเดินทางทุกท่าน อย่าประมาณแบบผมน่ะครับ ตอนอยู่โรงบาลหลับตาทีไรก็คิดทุกที ถ้าไม่ซิ่ง ไม่ประมาทก็คงจบทริปสวยๆ
ไปแล้ว ไม่น่าเลย ไม่น่าเลยจริงๆ ทำตัวเองแท้ๆ สัญญาว่าจะขับต่ำกว่า 80 อ่ะต่ำกว่า 60 เลย อาจจะไม่ได้บาดเจ็บ พังยับเยินอะไรมาก แต่แค่นี้ยังรู้สึกเจ็บมากเลย ไม่อยากเจ็บไปมากกว่านี้

สุดท้ายนี้...
**ขอบคุณน้องเซมและแฟนที่มาช่วยปฐมพยาบาล
**ขอบคุณคุณแอ๊ดและแฟนที่ดูแล รับรองอย่างดีตลอดทริป
**ขอบคุณคุณหมอและพยาบาลที่โรงพยาบาลแจ้ห่ม น่ารักทุกคน โดยเฉพาะพยาบาล ขาวน่ารักมั้กๆ



ขอบคุณที่อ่านครับ


โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่