สำหรับคนที่เริ่มหัดลงทุนด้วยพอร์ทเล็กๆหลักพัน หลักหมื่น หลักแสนต้นๆ สิ่งที่เราเจอมากที่สุดในตอนเริ่มคือ “อาการติดหุ้น” อาการนี้เชื่อว่าทุกคนคงเคยผ่านมา เพราะเป็นอาการของความตื่นเต้น และอยากเฝ้าติดตามผลการลงทุนอย่างใกล้ชิด เมื่อได้เงินถึงจะไม่มากก็จะดีใจอย่างที่สุดๆ เพราะเป็นเรื่องใหม่ที่ “ไม่ต้องลงแรงแต่ได้เงินทันตาเห็น”
อาการติดหุ้นนี้เมื่อเราไม่หัดยับยั้งชั่งใจ จะกลายเป็นความเคยชิน เมื่อดูพอร์ทแล้วก็ต้องดูทั้งวัน อยากดูความเคลื่อนไหวของ “เงินของเรา” ตลอดเวลา ซึ่งก็ไม่แปลกเชื่อว่าใหม่ๆเป็นกันทุกคน แต่ถ้าลองคิดให้ดี อะไรคือปัจจัยสำคัญในการสร้างพอร์ทลงทุนให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งสำหรับคนพอร์ทเล็ก? เมื่อดูที่สมการนี้
ผลการลงทุน = เงินต้น + กำไรส่วนต่าง + ปันผล
หลายคนที่พอร์ทเล็กมักจะเข้าใจผิดไปโฟกัสที่กำไรส่วนต่างต่อวันเท่านั้น(ยังไม่รวมค่าคอมที่ต้องเสียไป) หรือถึงเข้าใจว่าไม่ควรเฝ้าจอเพราะมีงานต้องทำ แต่ก็อดใจไม่ได้ ยังอยากที่จะเฝ้ามองดูต่อไปอย่าง “ใกล้ชิด” ซึ่งทำให้บางทีอาชีพที่ไม่เอื้อให้เฝ้าจอหุ้นทั้งวัน(จริงๆก็หลายๆอาชีพ ถ้าไม่ใช่นักลงทุนเต็มตัว) เสียเวลาการทำงานระหว่างวันไปฟรีๆ ทั้งที่จริงแล้ว 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ในตอนกลางวัน น่าจะเป็นช่วงเวลาของ “การทำงาน” มากกว่า “การเฝ้าจอเฉยๆ” หรือกระนั้นก็รวมถึงการ “ซื้อๆขายๆ” ระหว่างวันด้วย ซึ่งแม้ capital gain อาจจะ % สูง แต่...ชีวิตไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพราะเงินต้นน้อย ลงทุนไปก็ไม่ได้ถึงหลักหมื่นหลักแสน(ถ้าพอร์ทไม่ถึงล้าน)
ดังนั้นสิ่งที่ควรทำสำหรับคนพอร์ทเล็กก็คือควรจะเลือกวิธีที่ทำให้ตอนกลางวันเราได้ทำงานอย่างเต็มที่ และในตอนเย็นๆค่ำๆ กลับมาทำการบ้าน และใช้เวลาระหว่างวันให้น้อยที่สุดกับเรื่องหุ้น วินัยอย่างนึงของการสร้างพอร์ทก็คือ การสะสมเงินต้นในแต่ละเดือนให้มากที่สุดเพื่อมาลงทุน ซึ่งนั่นแปลว่าในปีนึงถึงแม้ผลงานในการลงทุนเราจะไม่ดี แต่เราก็ได้เก็บออมไว้ส่วนนึงจนมากพอเมื่อวันนึงมันกลายเป็นเงินก้อนโต และความสามารถพร้อม เมื่อนั้น การกระพือปีกเพียงนิดเดียวของเรา “ก็สามารถทำให้พอร์ทสะเทือนได้”
การติดตามราคาระหว่างวันน้อยลง แต่ใช้เวลาศึกษาในตอนว่างช่วงค่ำๆ บางทีอาจจะทำให้พอร์ทโตได้ไวกว่า “การเร่งผลตอบแทนด้วยการเฝ้าจอ” เพราะเรารู้จักโฟกัสงานที่สำคัญตามช่วงเวลาได้ดี งานออกมาดี เงินก็ออกมาดี พอร์ทเดี๋ยวหาความรู้เยอะๆก็โตตามเงินต้นได้ที่ทะยอยเก็บพอดี
ปล.กระทู้นี้ไม่ได้บอกว่าไม่ควรเดย์เทรด แต่..เมื่อคุณแลกด้วยเวลาตลอดทั้งกลางวัน แสดงว่าคุณก็ต้องเสียอะไรบางอย่างไป ถ้าพร้อมแลก ลุยเลย ถ้าก้ำกึ่ง รีบหาเงินหาทองก่อน ตลาดหุ้นไม่หนีไปไหน มีอีกหลายวิธีที่จะลงทุนโดยไม่ต้องเสียเวลาเฝ้าจอถ้ายังไม่พร้อมลุยเต็มตัวเต็มเวลา
อย่าเร่งผลตอบแทนด้วยการเฝ้าจอ [สำหรับผู้เริ่มต้นลงทุนหุ้นที่มีเงินต้นน้อย]
อาการติดหุ้นนี้เมื่อเราไม่หัดยับยั้งชั่งใจ จะกลายเป็นความเคยชิน เมื่อดูพอร์ทแล้วก็ต้องดูทั้งวัน อยากดูความเคลื่อนไหวของ “เงินของเรา” ตลอดเวลา ซึ่งก็ไม่แปลกเชื่อว่าใหม่ๆเป็นกันทุกคน แต่ถ้าลองคิดให้ดี อะไรคือปัจจัยสำคัญในการสร้างพอร์ทลงทุนให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งสำหรับคนพอร์ทเล็ก? เมื่อดูที่สมการนี้
ผลการลงทุน = เงินต้น + กำไรส่วนต่าง + ปันผล
หลายคนที่พอร์ทเล็กมักจะเข้าใจผิดไปโฟกัสที่กำไรส่วนต่างต่อวันเท่านั้น(ยังไม่รวมค่าคอมที่ต้องเสียไป) หรือถึงเข้าใจว่าไม่ควรเฝ้าจอเพราะมีงานต้องทำ แต่ก็อดใจไม่ได้ ยังอยากที่จะเฝ้ามองดูต่อไปอย่าง “ใกล้ชิด” ซึ่งทำให้บางทีอาชีพที่ไม่เอื้อให้เฝ้าจอหุ้นทั้งวัน(จริงๆก็หลายๆอาชีพ ถ้าไม่ใช่นักลงทุนเต็มตัว) เสียเวลาการทำงานระหว่างวันไปฟรีๆ ทั้งที่จริงแล้ว 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ในตอนกลางวัน น่าจะเป็นช่วงเวลาของ “การทำงาน” มากกว่า “การเฝ้าจอเฉยๆ” หรือกระนั้นก็รวมถึงการ “ซื้อๆขายๆ” ระหว่างวันด้วย ซึ่งแม้ capital gain อาจจะ % สูง แต่...ชีวิตไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพราะเงินต้นน้อย ลงทุนไปก็ไม่ได้ถึงหลักหมื่นหลักแสน(ถ้าพอร์ทไม่ถึงล้าน)
ดังนั้นสิ่งที่ควรทำสำหรับคนพอร์ทเล็กก็คือควรจะเลือกวิธีที่ทำให้ตอนกลางวันเราได้ทำงานอย่างเต็มที่ และในตอนเย็นๆค่ำๆ กลับมาทำการบ้าน และใช้เวลาระหว่างวันให้น้อยที่สุดกับเรื่องหุ้น วินัยอย่างนึงของการสร้างพอร์ทก็คือ การสะสมเงินต้นในแต่ละเดือนให้มากที่สุดเพื่อมาลงทุน ซึ่งนั่นแปลว่าในปีนึงถึงแม้ผลงานในการลงทุนเราจะไม่ดี แต่เราก็ได้เก็บออมไว้ส่วนนึงจนมากพอเมื่อวันนึงมันกลายเป็นเงินก้อนโต และความสามารถพร้อม เมื่อนั้น การกระพือปีกเพียงนิดเดียวของเรา “ก็สามารถทำให้พอร์ทสะเทือนได้”
การติดตามราคาระหว่างวันน้อยลง แต่ใช้เวลาศึกษาในตอนว่างช่วงค่ำๆ บางทีอาจจะทำให้พอร์ทโตได้ไวกว่า “การเร่งผลตอบแทนด้วยการเฝ้าจอ” เพราะเรารู้จักโฟกัสงานที่สำคัญตามช่วงเวลาได้ดี งานออกมาดี เงินก็ออกมาดี พอร์ทเดี๋ยวหาความรู้เยอะๆก็โตตามเงินต้นได้ที่ทะยอยเก็บพอดี
ปล.กระทู้นี้ไม่ได้บอกว่าไม่ควรเดย์เทรด แต่..เมื่อคุณแลกด้วยเวลาตลอดทั้งกลางวัน แสดงว่าคุณก็ต้องเสียอะไรบางอย่างไป ถ้าพร้อมแลก ลุยเลย ถ้าก้ำกึ่ง รีบหาเงินหาทองก่อน ตลาดหุ้นไม่หนีไปไหน มีอีกหลายวิธีที่จะลงทุนโดยไม่ต้องเสียเวลาเฝ้าจอถ้ายังไม่พร้อมลุยเต็มตัวเต็มเวลา