ก่อนจะพูดถึง 3 เทคนิค ผมขอถามหน่อยครับว่าใครบ้างที่เคยสงสัยว่าถ้าเราต้องการทำคะแนนจากข้อสอบได้ดี
เราควรที่จะฝึกให้พื้นฐานเราแข็ง ผ่านการดูหนัง ฟังเพลง อ่านเยอะๆ ทวนแกรมม่า หรือกระทั่งการ immersion ไป summer AFS หาเพื่อนหาแฟนต่างชาติ แล้วเราจะทำข้อสอบได้เอง
หรือว่าควรที่จะฝึกโดยเน้นจากตัวข้อสอบ?
คำตอบที่ผมได้จากประสบการณ์ตรงเลยนะคือ..... ทั้งสองวิธีได้ผลทั้งคู่ครับ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกจากการปูพื้นฐาน (ซึ่งวิธีนี้น่าจะช่วยให้เราทำข้อสอบได้ดีขึ้น และยังใช้งานจริงได้ดีขึ้นด้วยครับ) หรือการฝึกโดยอิงจากตัวข้อสอบ แต่มีข้อต่างนิดหน่อยคือ วิธีการฝึกจากการปูพื้นฐานมักจะใช้เวลาในการเตรียมตัวเยอะกว่ามาก บางคนอาจจะเป็นปีหรือหลายปี กว่าจะมีความสามารถพอจะใช้ทำข้อสอบได้
ลองยกตัวอย่างเช่น เราต้องการจะทำข้อสอบเลขเกี่ยวกับการคูณหารในวันศุกร์นี้ แต่ว่าเราไปเตรียมตัวบวกลบคุณหาร ไปจนถึงค่าจำนวนจริง ตรีโกณ เรขาคณิต และอื่นๆ ถามว่าเราจะทำข้อสอบวันศุกร์ได้คะแนนดีไหม? น่าจะไม่ค่อยดีใช่ไหมครับ เพราะเนื้อหามันเยอะไป
ดังนั้นในสถานการณ์จริงถ้าเรามีเวลาจำกัด ผมจึงคิดว่าการฝึกโดยอิงจากข้อสอบ จะได้ผลดีกว่าครับ และผมได้แนะนำ 3 เทคนิคการเตรียมตัวไว้ในคลิปนี้ ไปดูกันได้ครับ แค่ 5-6 นาที แต่คิดว่าจะช่วยให้คะแนนดีขึ้นได้แน่นอนครับ
ต่อยอดจากคลิปนะครับ
1) ข้อที่หนึ่ง การจะทำข้อสอบให้ดี เราจะต้องศึกษาข้อสอบอย่างดีก่อนว่ามีอะไรบ้าง ใช้เวลาเท่าไหร่ แบบไหน มีกี่ข้อ แต่ละข้อควรใช้เวลาได้เท่าไหร่ ออกเรื่องอะไรบ้าง
2) ข้อที่สอง เราควรจะศึกษาเฉพาะเนื้อหาที่น่าจะออกสอ เช่น ถ้าจะสอบ TOEIC จำเป็นมั้ยต้องท่องศัพท์เยอะๆ ก็ไม่ควร แค่ศัพท์ที่น่าจะออก ฝึกอ่านเรื่องแนวที่จะออกเช่น ใบสมัครงาน บทความเกี่ยวกับธุรกิจก็เพียงพอ
3) ข้อที่สาม เราควรจะวิเคราะห์หาจุดอ่อนของตัวเองอยู่เสมอและพัฒนาจุดนั้น คนเรามักจะเผลอชอบฝึกหรือพัฒนาในจุดที่ตัวเองเก่ง แต่จริงๆแล้วเราควรที่จะพัฒนาในจุดที่ตัวเองอ่อนมากกว่า
อย่างผมขอแนะนำ TOEIC หน่อย ถ้าเราศึกษาข้อสอบปุ้บ
<-- เตรียมความพร้อมด้านจิตใจ ไม่ surprise เวลาเจอพาร์ทใหม่
<-- ฝึกได้ถูกต้อง รู้ว่าตอนไหนมีอ่านคำสั่ง (สามารถแวบไปทำข้อสอบหรืออ่านโจทย์บางข้อก่อนได้ จะมีเวลาเยอะกว่าคนอื่นหน่อย)
<-- รู้ว่าเหลือเวลาแค่ไหน ตอนไหนต้องเร่ง ตอนไหนผ่อนได้
<-- ทวน grammar เรื่องที่น่าจะออกสิบรอบ แทนที่จะอ่านเกินเรื่องที่ออก แต่อ่านแค่รอบหรือสองรอบ
หากทำได้ตามสามข้อนี้และรายละเอียดในคลิป ผมคิดว่าน่าจะทำคะแนนได้เพิ่มขึ้นมากครับ มีคำถามอะไรพิมพ์มาถามกันหรือพูดคุยกันได้นะครับ
เรื่องศัพท์นี่เรื่องใหญ่นะครับ บางคนพยายามท่องจำศัพท์ให้ได้เยอะที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว การทำข้อสอบไม่จำเป็นต้องรู้ศัพท์ทุกคำครับ การเดาศัพท์จากบริบท หรือการเดาศัพท์จาก prefix suffix เช่น ไม่ต้องรู้หน้าที่คำทั้งหมด แต่เราพอเดาได้ว่า คำนี้น่าจะเป็น n, v, adv, adj, ก็ช่วยได้เยอะครับ
ดังนั้นแล้ว ถ้าเรามีเวลาจำกัด อย่าพยายามรู้ให้หมดทุกเรื่อง แต่จำกัดไว้ว่าเราต้องการจะรู้อะไรและใช้เวลาให้เหมาะสม จะช่วยได้เยอะครับ
นิกกี้
EngClubT youtube channel อัพเดทวิดีโอสอนภาษาอังกฤษ ฟรีทุกอาทิตย์ ดูได้ทุกวันเสาร์เน้นการใช้งาน ฟัง พูด อ่านเขียน และการทำข้อสอบครับ
https://www.youtube.com/channel/UCrQNTlfu0Dz4hsOICPLmScw
EngClubT page อัพเดททุกวัน มี daily quiz ฝึกภาษาอังกฤษด้วย มาตอบคำถามทวนแกรมม่าง่ายๆกันได้นะครับ
www.facebook.com/engclubthailand
3 เคล็ดลับการเตรียมตัวและเพิ่มคะแนนข้อสอบภาษาอังกฤษ เช่น TOEIC, TOEFL, IETLS, GAT/PAT
เราควรที่จะฝึกให้พื้นฐานเราแข็ง ผ่านการดูหนัง ฟังเพลง อ่านเยอะๆ ทวนแกรมม่า หรือกระทั่งการ immersion ไป summer AFS หาเพื่อนหาแฟนต่างชาติ แล้วเราจะทำข้อสอบได้เอง
หรือว่าควรที่จะฝึกโดยเน้นจากตัวข้อสอบ?
คำตอบที่ผมได้จากประสบการณ์ตรงเลยนะคือ..... ทั้งสองวิธีได้ผลทั้งคู่ครับ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกจากการปูพื้นฐาน (ซึ่งวิธีนี้น่าจะช่วยให้เราทำข้อสอบได้ดีขึ้น และยังใช้งานจริงได้ดีขึ้นด้วยครับ) หรือการฝึกโดยอิงจากตัวข้อสอบ แต่มีข้อต่างนิดหน่อยคือ วิธีการฝึกจากการปูพื้นฐานมักจะใช้เวลาในการเตรียมตัวเยอะกว่ามาก บางคนอาจจะเป็นปีหรือหลายปี กว่าจะมีความสามารถพอจะใช้ทำข้อสอบได้
ลองยกตัวอย่างเช่น เราต้องการจะทำข้อสอบเลขเกี่ยวกับการคูณหารในวันศุกร์นี้ แต่ว่าเราไปเตรียมตัวบวกลบคุณหาร ไปจนถึงค่าจำนวนจริง ตรีโกณ เรขาคณิต และอื่นๆ ถามว่าเราจะทำข้อสอบวันศุกร์ได้คะแนนดีไหม? น่าจะไม่ค่อยดีใช่ไหมครับ เพราะเนื้อหามันเยอะไป
ดังนั้นในสถานการณ์จริงถ้าเรามีเวลาจำกัด ผมจึงคิดว่าการฝึกโดยอิงจากข้อสอบ จะได้ผลดีกว่าครับ และผมได้แนะนำ 3 เทคนิคการเตรียมตัวไว้ในคลิปนี้ ไปดูกันได้ครับ แค่ 5-6 นาที แต่คิดว่าจะช่วยให้คะแนนดีขึ้นได้แน่นอนครับ
ต่อยอดจากคลิปนะครับ
1) ข้อที่หนึ่ง การจะทำข้อสอบให้ดี เราจะต้องศึกษาข้อสอบอย่างดีก่อนว่ามีอะไรบ้าง ใช้เวลาเท่าไหร่ แบบไหน มีกี่ข้อ แต่ละข้อควรใช้เวลาได้เท่าไหร่ ออกเรื่องอะไรบ้าง
2) ข้อที่สอง เราควรจะศึกษาเฉพาะเนื้อหาที่น่าจะออกสอ เช่น ถ้าจะสอบ TOEIC จำเป็นมั้ยต้องท่องศัพท์เยอะๆ ก็ไม่ควร แค่ศัพท์ที่น่าจะออก ฝึกอ่านเรื่องแนวที่จะออกเช่น ใบสมัครงาน บทความเกี่ยวกับธุรกิจก็เพียงพอ
3) ข้อที่สาม เราควรจะวิเคราะห์หาจุดอ่อนของตัวเองอยู่เสมอและพัฒนาจุดนั้น คนเรามักจะเผลอชอบฝึกหรือพัฒนาในจุดที่ตัวเองเก่ง แต่จริงๆแล้วเราควรที่จะพัฒนาในจุดที่ตัวเองอ่อนมากกว่า
อย่างผมขอแนะนำ TOEIC หน่อย ถ้าเราศึกษาข้อสอบปุ้บ
<-- เตรียมความพร้อมด้านจิตใจ ไม่ surprise เวลาเจอพาร์ทใหม่
<-- ฝึกได้ถูกต้อง รู้ว่าตอนไหนมีอ่านคำสั่ง (สามารถแวบไปทำข้อสอบหรืออ่านโจทย์บางข้อก่อนได้ จะมีเวลาเยอะกว่าคนอื่นหน่อย)
<-- รู้ว่าเหลือเวลาแค่ไหน ตอนไหนต้องเร่ง ตอนไหนผ่อนได้
<-- ทวน grammar เรื่องที่น่าจะออกสิบรอบ แทนที่จะอ่านเกินเรื่องที่ออก แต่อ่านแค่รอบหรือสองรอบ
หากทำได้ตามสามข้อนี้และรายละเอียดในคลิป ผมคิดว่าน่าจะทำคะแนนได้เพิ่มขึ้นมากครับ มีคำถามอะไรพิมพ์มาถามกันหรือพูดคุยกันได้นะครับ
เรื่องศัพท์นี่เรื่องใหญ่นะครับ บางคนพยายามท่องจำศัพท์ให้ได้เยอะที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว การทำข้อสอบไม่จำเป็นต้องรู้ศัพท์ทุกคำครับ การเดาศัพท์จากบริบท หรือการเดาศัพท์จาก prefix suffix เช่น ไม่ต้องรู้หน้าที่คำทั้งหมด แต่เราพอเดาได้ว่า คำนี้น่าจะเป็น n, v, adv, adj, ก็ช่วยได้เยอะครับ
ดังนั้นแล้ว ถ้าเรามีเวลาจำกัด อย่าพยายามรู้ให้หมดทุกเรื่อง แต่จำกัดไว้ว่าเราต้องการจะรู้อะไรและใช้เวลาให้เหมาะสม จะช่วยได้เยอะครับ
นิกกี้
EngClubT youtube channel อัพเดทวิดีโอสอนภาษาอังกฤษ ฟรีทุกอาทิตย์ ดูได้ทุกวันเสาร์เน้นการใช้งาน ฟัง พูด อ่านเขียน และการทำข้อสอบครับ
https://www.youtube.com/channel/UCrQNTlfu0Dz4hsOICPLmScw
EngClubT page อัพเดททุกวัน มี daily quiz ฝึกภาษาอังกฤษด้วย มาตอบคำถามทวนแกรมม่าง่ายๆกันได้นะครับ
www.facebook.com/engclubthailand