ยืมแอคเคาท์รุ่นน้องมาตั้งกระทู้ถามคุณผู้หญิงครับว่าผู้หญิงเวลามีคนมาทำสิ่งดีๆให้แบบทำให้บ่อยๆจะรู้สึกดีหรือรู้สึกรำคาญครับ
--------------เข้าเรื่องของผมเลยนะครับ-------------------
สมัยตอนผมเรียนมัธยมผมแอบชอบรุ่นน้องอยู่คนนึ่ง ตอนนั้นน้องเขาเข้าเรียนม.1ใหม่ๆผมยังจำภาพที่ผมเห็นน้องเขาครั้งแรกได้ดีเลยแหละ ตัวอวบๆดำๆนิดๆตัดผมสั้นๆเท่าติ่งหู เหมือนหนูหิ่นอีกเวอร์ชั่นนึ่งเลย ตอนนั้นผมอยู่ม.3 สมัยบีบียังฮิตผมยอมรับครับว่าตอนนั้นผมคุยเยอะมากแบบเช้าคนเย็นคน ก็เข้าใจตัวเองนะว่าคุยเล่นๆไม่ได้จริงจังตามชีวิตเด็กมัธยมคนนึ่ง ตอนผมเจอน้องเขาครั้งแรกก็ตอนเปลี่ยนคาบเรียน(โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนแบบเดินเรียน) ผมนั่งรอเพื่อนอยู่หน้าห้องน้องเขาก็เดินมาพอดีวินาทีนั้นผมก็จ้องแบบ โอ้ววว!เธอทำไมจั้มมั้มจัง หลังจากเจอน้องเขาแรกๆก็แอบมองมาเรื่อยๆ จนขึ้นม.4 ตอนนั้นผมเริ่มมีความคิดว่าผมอยากจะเข้าไปคุยกับเธอจริงๆจังๆแต่ความรู้สึกตอนนั้นบอกเลยผมกลัวมาก กลัวแบบไม่เคยกลัวมาก่อน ผมสามารถแซวหรือจีบผู้หญิงคนอื่นได้โดยที่ผมไม่อายอะไรเลย แต่กับน้องคนนี้แค่สบตาผมยังไม่กล้า เวลาเราเจอคนที่ใช่เราก็มักจะพูดอะไรไม่ออกจริงๆ แต่ตอนนั้นเรียนหนักเอาการอยู่เหมือนกัน เรียนแผนวิทย์-คณิต แบบก็หายจากน้องเขาไปพักนึ่ง จนขึ้นม.5 น้องเขาก็อยู่ม.3 เลยตัดสินใจจะเข้าไปคุยจริงๆจังๆ แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะน้องเขามีแฟนแล้ว TT แต่ก็ไม่ได้เสียใจอะไรมากเพราะถึงน้องเขาไม่มีแฟนเราก็แทบจะไม่ได้แสดงออกอะไรมากอยู่แล้ว หลังจากนั้นผมก็เริ่มเอาดอกคัตเตอร์ไปไว้ในรถน้องเขาบ้างแอบเอาขนมไปใว้ในรถน้องเขาในวันสำคัญๆพร้อมข้อความสั้นๆ ช่วงนั้นก่อนสอบได้ข่าวว่าน้องเขาเลิกกับแฟน เลิกกันก่อนสอบพอดี สอบวันแรก(ช่วงสอบมิดเทอม)ผมไปโรงเรียนตั้งแต่เช้าไปนั่งรอลุงภารโรงเปิดห้องเพื่อที่จะเอาดอกคัตเตอร์กับกระดาษพร้อมข้อความสั้นๆไปไว้ใต้โต๊ะน้องเขาแล้วก็ถ่ายรูปไว้ อะไรที่ผมทำให้น้องเขาผมถ่ายรูปเก็บไว้ทุกครั้งไม่รู้จะถ่ายไปทำไม แต่เพราะผมชอบถ่ายรูปละกัน แล้วแบบวันนั้นเพื่อนแปลกใจมากปรกติผมมาโรงเรียนก็หลังเคารพธงชาติพอดี 5555 พอมาเทอม2 วันอังคารน้องเขาเรียนพละ ส่วนผมเรียนภาษาไทย โรงยิมกับตึกภาษาไทยอยู่ใกล้กันพอดี เวลาเรียนพละครูก็จะให้เอากระเป๋าไว้นอกโรงยิม ผมก็แอบเอาน้ำไปวางไว้ในกระเป๋าน้องเขาเขียนข้อความสั้นๆแปะไว้ว่า'กินน้ำเยอะๆจะได้สวยๆ'พร้อมกับรูปหน้ายิ้ม อ่อ ผมลืมบอกว่าพอน้องเขาขึ้นม.3 น้องเขาน่ารักมาก ขาวๆผอมลง ต่างจากตอนม.1มาก พอวันปัจฉิมผมก็เอาดอกคัตเตอร์ไปให้น้องเขาให้ในห้องเรียนเลยครับ เพื่อนน้องเขาแซวเต็มห้องเลย พอผมยื่นดอกไม้ให้น้องเขาก็รู้สึกแปลกใจนิดๆแล้วก็เหมือนอุทานขึ้นมาว่า 'ดอกคัตเตอร์' หลังจากผมเอาดอกไม้ให้น้องเขาก็น่าจะรู้แล้วแหละว่าเป็นผม แฮร่ๆ ผมก็เริ่มทักไปคุยในเฟส ตอนนั้นผมพยายามเรียนให้เก่งขึ้นเพื่อที่จะติดท็อป10ของห้องเพื่อขึ้นไปรับใบกระกาศ ผมซ้อมกีฬาจนกล้ามเนื้อฉีกเพื่อที่จะติดตัวแทนเขต ผมอยากทำให้น้องเขาเห็นว่าพี่ก็มีดีอยู่น้าาา อยากให้น้องเขาภูมิใจเมื่อได้เห็น แต่มันก็น่าแปลก ผมไม่เคยต้องการอะไรจากน้องเขาเลยแม้แต่ความรัก คืออะไรที่ผมให้น้องเขา หรือทำเพื่อน้องเขาผมรู้สึกดีแล้วก็มีความสุขยังไงไม่รู้ ผมถึงเข้าใจคำว่ารักคือการให้ ใช่ครับ รักคือการให้จริงๆ ให้โดยที่ไม่หวังอะไรกลับมาแม้แต่น้อย ต่อนะครับ พอสอบไฟร์นอลผมก็ไปเช้าเอาดอกไม้ไปใว้ใต้โต๊ะเหมือนเดิม แล้วก็ปิดเทอม พอมา.6 น้องเขาขึ้นม.4 พอดี เรื่องมันก็เริ่มน่าเศร้าครับ ต่างคนก็ต่างรักกันแต่คบกันไม่ได้ น้องเขาเด็กเรียน ตลอดเวลา4ปีผมเฝ้ามองน้องเขาผมรู้จักนิสัยน้องเขาโดยที่ผมไม่ได้คุยกับน้องเขาแม้แต่คำเดียว น้องเขาเด็กเรียน ขี้อาย บางทีผมก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำให้น้องเขาเขินอายหรือน้องเขารำคาญ ที่ผมบอกว่าคบกันไม่ได้ก็เพราะเพื่อนน้องเขาแล้วก็ครู เพราะแฟนเก่าน้องเขาเป็นเพื่อนกับเพื่อนน้องเขา แล้วแฟนเก่าของน้องเขาก็เป็นหลานครู ครูก็เหมือนจะมาพูดใส่น้องเขา ตอนผมอยู่ ม.ต้นผมมีเพื่อนที่เกเรหน่อยมีเรื่องต่อยตีบ่อยผมก็ติดรากแหไปด้วย ผมรู้สึกว่าน้องเขาอึดอัดมาก วันนั้นผมเดินไปคุยกับน้องเขาน้องเขาก็พูดเหมือนจะร้องไห้ ผมก็เลยบอกไม่เป็นไร พี่ไม่เอาเธอมาลำบากกับพี่หรอก อนาคตข้างหน้าต่างคนต่างเรียนจบ ต่างคนต่างทำงานแล้วเมื่อถึงเวลานั้นต่างคนก็ต่างไม่มีใครผมก็สัญญากับน้องเขาว่า ผมจะกลับมาจีบน้องเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันเลยครับ ผมก็มีแต่เรียนไดอารี่ถึงน้องเขาจนผมเรียนจบ แล้วก็ไปเรียนต่อมหาลัย จนถึงวันนี้ก็จะ3ปีแล้วยังไม่ได้เจอไม่ได้คุยเลย ไม่รู้ว่าน้องเขาจะเป็นยังไงบ้าง ยังคิดถึงเหมือนที่ผมคิดถึงอยู่รึเปล่า ที่จริงผมทำให้ก็เยอะอยู่ครับเป็นสิ่งเล็กๆน้อย ผมไม่รู้จะเรียบเรียงยังไงผมก็ไม่ใช่นักเขียน ถ้าอ่านไม่เข้าใจก็ขออภัยด้วยนะครับ ผมแค่อยากรู้ว่า ผู้หญิงเวลามีคนทำสิ่งดีๆให้เขาจะรู้สึกยังไง จะดีใจหรือรำคาญ ขอบคุณครับ
ขอถามคุณผู้หญิงเวลามีคนทำสิ่งดีๆให้
--------------เข้าเรื่องของผมเลยนะครับ-------------------
สมัยตอนผมเรียนมัธยมผมแอบชอบรุ่นน้องอยู่คนนึ่ง ตอนนั้นน้องเขาเข้าเรียนม.1ใหม่ๆผมยังจำภาพที่ผมเห็นน้องเขาครั้งแรกได้ดีเลยแหละ ตัวอวบๆดำๆนิดๆตัดผมสั้นๆเท่าติ่งหู เหมือนหนูหิ่นอีกเวอร์ชั่นนึ่งเลย ตอนนั้นผมอยู่ม.3 สมัยบีบียังฮิตผมยอมรับครับว่าตอนนั้นผมคุยเยอะมากแบบเช้าคนเย็นคน ก็เข้าใจตัวเองนะว่าคุยเล่นๆไม่ได้จริงจังตามชีวิตเด็กมัธยมคนนึ่ง ตอนผมเจอน้องเขาครั้งแรกก็ตอนเปลี่ยนคาบเรียน(โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนแบบเดินเรียน) ผมนั่งรอเพื่อนอยู่หน้าห้องน้องเขาก็เดินมาพอดีวินาทีนั้นผมก็จ้องแบบ โอ้ววว!เธอทำไมจั้มมั้มจัง หลังจากเจอน้องเขาแรกๆก็แอบมองมาเรื่อยๆ จนขึ้นม.4 ตอนนั้นผมเริ่มมีความคิดว่าผมอยากจะเข้าไปคุยกับเธอจริงๆจังๆแต่ความรู้สึกตอนนั้นบอกเลยผมกลัวมาก กลัวแบบไม่เคยกลัวมาก่อน ผมสามารถแซวหรือจีบผู้หญิงคนอื่นได้โดยที่ผมไม่อายอะไรเลย แต่กับน้องคนนี้แค่สบตาผมยังไม่กล้า เวลาเราเจอคนที่ใช่เราก็มักจะพูดอะไรไม่ออกจริงๆ แต่ตอนนั้นเรียนหนักเอาการอยู่เหมือนกัน เรียนแผนวิทย์-คณิต แบบก็หายจากน้องเขาไปพักนึ่ง จนขึ้นม.5 น้องเขาก็อยู่ม.3 เลยตัดสินใจจะเข้าไปคุยจริงๆจังๆ แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะน้องเขามีแฟนแล้ว TT แต่ก็ไม่ได้เสียใจอะไรมากเพราะถึงน้องเขาไม่มีแฟนเราก็แทบจะไม่ได้แสดงออกอะไรมากอยู่แล้ว หลังจากนั้นผมก็เริ่มเอาดอกคัตเตอร์ไปไว้ในรถน้องเขาบ้างแอบเอาขนมไปใว้ในรถน้องเขาในวันสำคัญๆพร้อมข้อความสั้นๆ ช่วงนั้นก่อนสอบได้ข่าวว่าน้องเขาเลิกกับแฟน เลิกกันก่อนสอบพอดี สอบวันแรก(ช่วงสอบมิดเทอม)ผมไปโรงเรียนตั้งแต่เช้าไปนั่งรอลุงภารโรงเปิดห้องเพื่อที่จะเอาดอกคัตเตอร์กับกระดาษพร้อมข้อความสั้นๆไปไว้ใต้โต๊ะน้องเขาแล้วก็ถ่ายรูปไว้ อะไรที่ผมทำให้น้องเขาผมถ่ายรูปเก็บไว้ทุกครั้งไม่รู้จะถ่ายไปทำไม แต่เพราะผมชอบถ่ายรูปละกัน แล้วแบบวันนั้นเพื่อนแปลกใจมากปรกติผมมาโรงเรียนก็หลังเคารพธงชาติพอดี 5555 พอมาเทอม2 วันอังคารน้องเขาเรียนพละ ส่วนผมเรียนภาษาไทย โรงยิมกับตึกภาษาไทยอยู่ใกล้กันพอดี เวลาเรียนพละครูก็จะให้เอากระเป๋าไว้นอกโรงยิม ผมก็แอบเอาน้ำไปวางไว้ในกระเป๋าน้องเขาเขียนข้อความสั้นๆแปะไว้ว่า'กินน้ำเยอะๆจะได้สวยๆ'พร้อมกับรูปหน้ายิ้ม อ่อ ผมลืมบอกว่าพอน้องเขาขึ้นม.3 น้องเขาน่ารักมาก ขาวๆผอมลง ต่างจากตอนม.1มาก พอวันปัจฉิมผมก็เอาดอกคัตเตอร์ไปให้น้องเขาให้ในห้องเรียนเลยครับ เพื่อนน้องเขาแซวเต็มห้องเลย พอผมยื่นดอกไม้ให้น้องเขาก็รู้สึกแปลกใจนิดๆแล้วก็เหมือนอุทานขึ้นมาว่า 'ดอกคัตเตอร์' หลังจากผมเอาดอกไม้ให้น้องเขาก็น่าจะรู้แล้วแหละว่าเป็นผม แฮร่ๆ ผมก็เริ่มทักไปคุยในเฟส ตอนนั้นผมพยายามเรียนให้เก่งขึ้นเพื่อที่จะติดท็อป10ของห้องเพื่อขึ้นไปรับใบกระกาศ ผมซ้อมกีฬาจนกล้ามเนื้อฉีกเพื่อที่จะติดตัวแทนเขต ผมอยากทำให้น้องเขาเห็นว่าพี่ก็มีดีอยู่น้าาา อยากให้น้องเขาภูมิใจเมื่อได้เห็น แต่มันก็น่าแปลก ผมไม่เคยต้องการอะไรจากน้องเขาเลยแม้แต่ความรัก คืออะไรที่ผมให้น้องเขา หรือทำเพื่อน้องเขาผมรู้สึกดีแล้วก็มีความสุขยังไงไม่รู้ ผมถึงเข้าใจคำว่ารักคือการให้ ใช่ครับ รักคือการให้จริงๆ ให้โดยที่ไม่หวังอะไรกลับมาแม้แต่น้อย ต่อนะครับ พอสอบไฟร์นอลผมก็ไปเช้าเอาดอกไม้ไปใว้ใต้โต๊ะเหมือนเดิม แล้วก็ปิดเทอม พอมา.6 น้องเขาขึ้นม.4 พอดี เรื่องมันก็เริ่มน่าเศร้าครับ ต่างคนก็ต่างรักกันแต่คบกันไม่ได้ น้องเขาเด็กเรียน ตลอดเวลา4ปีผมเฝ้ามองน้องเขาผมรู้จักนิสัยน้องเขาโดยที่ผมไม่ได้คุยกับน้องเขาแม้แต่คำเดียว น้องเขาเด็กเรียน ขี้อาย บางทีผมก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำให้น้องเขาเขินอายหรือน้องเขารำคาญ ที่ผมบอกว่าคบกันไม่ได้ก็เพราะเพื่อนน้องเขาแล้วก็ครู เพราะแฟนเก่าน้องเขาเป็นเพื่อนกับเพื่อนน้องเขา แล้วแฟนเก่าของน้องเขาก็เป็นหลานครู ครูก็เหมือนจะมาพูดใส่น้องเขา ตอนผมอยู่ ม.ต้นผมมีเพื่อนที่เกเรหน่อยมีเรื่องต่อยตีบ่อยผมก็ติดรากแหไปด้วย ผมรู้สึกว่าน้องเขาอึดอัดมาก วันนั้นผมเดินไปคุยกับน้องเขาน้องเขาก็พูดเหมือนจะร้องไห้ ผมก็เลยบอกไม่เป็นไร พี่ไม่เอาเธอมาลำบากกับพี่หรอก อนาคตข้างหน้าต่างคนต่างเรียนจบ ต่างคนต่างทำงานแล้วเมื่อถึงเวลานั้นต่างคนก็ต่างไม่มีใครผมก็สัญญากับน้องเขาว่า ผมจะกลับมาจีบน้องเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันเลยครับ ผมก็มีแต่เรียนไดอารี่ถึงน้องเขาจนผมเรียนจบ แล้วก็ไปเรียนต่อมหาลัย จนถึงวันนี้ก็จะ3ปีแล้วยังไม่ได้เจอไม่ได้คุยเลย ไม่รู้ว่าน้องเขาจะเป็นยังไงบ้าง ยังคิดถึงเหมือนที่ผมคิดถึงอยู่รึเปล่า ที่จริงผมทำให้ก็เยอะอยู่ครับเป็นสิ่งเล็กๆน้อย ผมไม่รู้จะเรียบเรียงยังไงผมก็ไม่ใช่นักเขียน ถ้าอ่านไม่เข้าใจก็ขออภัยด้วยนะครับ ผมแค่อยากรู้ว่า ผู้หญิงเวลามีคนทำสิ่งดีๆให้เขาจะรู้สึกยังไง จะดีใจหรือรำคาญ ขอบคุณครับ