สวัสดีค่ะ ชาวพันทิป
เพิ่งเคยตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดตรงไหนขออภัยนะคะ
วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ "อาการและการรักษาโรคไทรอยด์"ของเราค่ะ
อยากแชร์เป็นอุทาหรณ์เผื่อใครที่มีพฤติกรรมแบบนี้อยู่จะได้รีบแก้ไขก่อนที่จะเป็นแบบเรานะคะ
เรารู้ตัวว่าเป็นโรคไทรอยด์เมื่อ 2 ปีก่อนค่ะ เราเป็นทั้งไฮเปอร์และโฮโปไทรอยด์ค่ะ ตอนนั้นเราเรียนอยู่ปี 3 สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม
ซึ่งถึงว่าเป็นปีที่เรียนหนักพอสมควร รวมถึงต้องออกทริป จำข้อมูลเยอะแยะไปหมด
รวมไปถึงเป็นช่วงที่เพิ่งเริ่มออกเที่ยว หลงแสงสี เรียกได้ว่าเรียนเสร็จ กลับบ้าน แต่งตัว ออกเที่ยว ไม่ต่ำกว่า 3 ที่
กลับเกือบสว่าง แต่งตัว ไปเรียนต่อแบบมึนๆ แต่ก็พยายามโด้ปเครื่องชูกำลังที่เค้าว่าดี เพื่อให้เรียนรู้เรื่อง วนอยู่แบบนี้เกือบๆ ปี
แต่ถึงจะเที่ยวหนักแค่ไหนแต่เทอมนั้นเราก็ได้เกรด 4.00 นะคะ สาเหตุที่เราเที่ยวทุกคืน เพราะเราเรียนวิชาผสมเครื่องดื่มค่ะ
ซึ่งเราตื่นเต้นกับมันมาก เราเลยตะเวนชิมมันไปทุกที่เลยค่ะ ถือคติว่าเรามาเรียนรู้ไว้ไปสอบ ไม่น่าเสียหายยยย (คิดได้เนอะ)
ต่อมาเรียนเรื่องไวน์ ก็ตะเวนชิมเลยค่ะ ตอนแรกแค่ดมกลิ่นก็เมาแล้ว ตอนหลัง 2 ขวด ยังไม่เมาเลยค่ะ
เรียกได้ว่าจากที่กินไม่เป็นเลย ไปจนถึง สาโท เหล้าต้ม เหล้าขาว ยาดอง ไปจนถึงไวน์ ขวดหลายหมื่น เราลองมาหมดแล้วค่ะ
ตอนนั้นรู้สึกว่าเราเท่นะ ที่รู้จักเหล้าทุกชนิด เคยกินมาหมด (แค่เฉพาะที่ขายในไทยนะคะ) แต่ข้าวไม่ค่อยจะกิน กินแต่พวกอาหารจังฟู้ดตามร้านอาหารเพื่อ
รอเพื่อนไปเที่ยวเท่านั้น ตอนเช้าก็กินแซนวิช เครื่องดื่มแก้แฮ้ง กลางวันกินข้าวแกงปกติ ก็ยังไม่รู้สึกอะไร
จนมาถึงวันที่เราเมาจนช็อกค่ะ!!!!
วันนั้นเราไปดื่มไวน์ปกติเหมือนทุกวัน จู่ๆเราก็แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เพื่อนๆที่ไปด้วยตกใจมาก เลยรีบพาเราไปส่งโรงพยาบาล
พอไปถึงหมอก็บอกกับเราว่าต้องรอให้แอลกอฮอร์หมดก่อนถึงจะเจาะเลือดหรือตรวจอะไรได้ และวินิจฉัยว่าเราคงเมามาก สร่างแล้วเดี๋ยวก็หาย (ซะงั้น)
หลังจากมีอาการวันนั้น เราก็เรามีอาการมากขึ้น เริ่มจาก หอบ รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เหนื่อยมากๆ นั่งเฉยๆยังเหนื่อย และมือสั่น สั่นเหมือนคนติดยา
หิวและกินเยอะมากกกกกกกแต่น้ำหนักลด ไป 10 โล ในเวลาไม่ถึงเดือน
เราเลยไปหาหมอแถวบ้าน หมอก็เจาะเลือดไปตรวจ รอผลเลือด 3-5 ชั่วโมง หมอก็ซักประวัติว่าครอบครัวเรามีใครเคยเป็นโรคนี้ไหม
เราบอกว่าไม่มี พร้อมกับบอกว่า เราเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษชนิดไฮเปอร์ไทรอยด์ โรคนี้ไม่มีสาเหตุ และไม่มีวันรักษาหายขาด ต้องกินยาไปตลอดชีวิต
และมีลูกไม่ได้!!!!!!!! ตอนได้ยินเราก็ตกใจมากนะคะแต่ก็มีสติถามหมออย่างละเอียดว่าต้องรักษาตัวยังไงบ้าง มีผลข้างเคียงยังไง
คือ เราต้องปรับปรุงกิจวัตประจำวันใหม่ทั้งหมด 1.ต้องปรับเวลานอน คนเป็นโรคนี้จะนอนไม่ค่อยหลับเพราะใจเต้นเร็วและสั่นตลอดเวลา แต่ต้องนอนให้
ครบ 8 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน 2. กินยาสามเม็ดหลังอาหาร 3 มื้อ ซึ่งยาขมมากกกกกกมากกกถึงมากกกที่สุด 3.ทานอาหารที่มีประโยชน์ งด
กาแฟ ชา น้ำอัดลม รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ ไม่มีอาหารที่คนเป็นโรคไทรอยด์ห้ามนะคะ เพียงแต่ควรทานทุกอย่างในปริมาณที่เหมาะสม (อันนี้
สอบถามจากคุณหมอ) 4.ควรออกกำลังกาย 5.นั่งสมาธิ เพราะคนเป็นโรคนี้จะไฮเปอร์มาก อยู่นิ่งไม่ได้ ตกใจง่าย ขี้หนาวและขี้ร้อน รวมไปถึง
ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงเร็วมากกกก ขี้หงุดหงิด อาการน่าจะเหมือนคนท้องเลยก็ว่าได้ค่ะ พร้อมจะปรี้ดแตกตลอดเวลา 6.ช่วงแรกๆจะต้องไปเจาะเลือดเพื่อ
วัดระดับฮอร์โมน ว่าสอดคล้องกับยาที่ทานอยู่ไหมทุกๆอาทิตย์ ซึ่งเรียกว่าเจาะจนแขนพรุนไปเลยค่ะ เพราะแขนเราหาเส้นยาก ต้องเจาะหลายรอบกว่าจะ
เจอ จ้ำเก่ายังไม่ทันจะหาย รอยใหม่มาอีกแล้วค่ะ (T_T) ซึ่งตอนที่เราป่วยเข้ารักษาตัวเพื่อนที่เคยไปกินเหล้าด้วยกันหายแน่บเลยค่ะ ไม่เห็นหัวซาาาาคน
เราเลยหยุดทุกอย่าง ใช้ชีวิตแบบเซฟสุดๆ และเราก็ได้เรียนรู้ว่า เราจะไม่กลับไปใช้ชีวิตแบบนั้นอีกแล้ว และชีวิตเราก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
เรารักษากับโรงพยาบาลเดิมไปเรื่อยๆๆๆๆๆ จนวันนึงเรามีอาการ
ตาโปนค่ะ โปนแบบเห็นได้ชัด เรานี้ร้องไห้เลยค่ะ เพราะหมอเคยบอกว่า โรคนี้มีอาการ
ข้างเคียงหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คืออาการตาโปน ซึ่งมันจะไม่มีวันหาย นอกจากผ่าตัด!!!!!(คุณหมอขาา มันไม่จริงใช่ไหมค่ะ หนูยังไม่มีขรัว แล้วหนูจะหา
ขรัว ได้ไหมค่ะ สภาพแบบนี้ กรี้ดดดดดดดดดดดด) เราจึงหาข้อมูลรักษาวันนั้นและไปหาหมอโรงบาลใหม่ทันที !!!!
จึงได้มารู้จักการการรักษาแบบการกลืนรังสี
การรักษาจะเป็นยังไงขอมาอัพเดตต่อพรุ่งนี้นะคะ
ที่ขีดเส้นใต้เพื่อไว้ให้คนที่สงสัยว่าตัวเองอาจจะเป็นนี้ได้สังเกตตัวเอง จะได้รีบรักษาค่ะ
สำหรับใครที่มีคำถาม สอบถามไว้เลยคะ พรุ่งนี้จะมาช่วยตอบค่าาา
นอนน้อย เครียดหนัก ดื่ม(เหล้า)เยอะ กินอาหารจังค์ฟู้ด ระวัง!!!!! ระวังไทรอยด์มาสิงนะจ้ะ
เพิ่งเคยตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดตรงไหนขออภัยนะคะ
วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ "อาการและการรักษาโรคไทรอยด์"ของเราค่ะ
อยากแชร์เป็นอุทาหรณ์เผื่อใครที่มีพฤติกรรมแบบนี้อยู่จะได้รีบแก้ไขก่อนที่จะเป็นแบบเรานะคะ
เรารู้ตัวว่าเป็นโรคไทรอยด์เมื่อ 2 ปีก่อนค่ะ เราเป็นทั้งไฮเปอร์และโฮโปไทรอยด์ค่ะ ตอนนั้นเราเรียนอยู่ปี 3 สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม
ซึ่งถึงว่าเป็นปีที่เรียนหนักพอสมควร รวมถึงต้องออกทริป จำข้อมูลเยอะแยะไปหมด
รวมไปถึงเป็นช่วงที่เพิ่งเริ่มออกเที่ยว หลงแสงสี เรียกได้ว่าเรียนเสร็จ กลับบ้าน แต่งตัว ออกเที่ยว ไม่ต่ำกว่า 3 ที่
กลับเกือบสว่าง แต่งตัว ไปเรียนต่อแบบมึนๆ แต่ก็พยายามโด้ปเครื่องชูกำลังที่เค้าว่าดี เพื่อให้เรียนรู้เรื่อง วนอยู่แบบนี้เกือบๆ ปี
แต่ถึงจะเที่ยวหนักแค่ไหนแต่เทอมนั้นเราก็ได้เกรด 4.00 นะคะ สาเหตุที่เราเที่ยวทุกคืน เพราะเราเรียนวิชาผสมเครื่องดื่มค่ะ
ซึ่งเราตื่นเต้นกับมันมาก เราเลยตะเวนชิมมันไปทุกที่เลยค่ะ ถือคติว่าเรามาเรียนรู้ไว้ไปสอบ ไม่น่าเสียหายยยย (คิดได้เนอะ)
ต่อมาเรียนเรื่องไวน์ ก็ตะเวนชิมเลยค่ะ ตอนแรกแค่ดมกลิ่นก็เมาแล้ว ตอนหลัง 2 ขวด ยังไม่เมาเลยค่ะ
เรียกได้ว่าจากที่กินไม่เป็นเลย ไปจนถึง สาโท เหล้าต้ม เหล้าขาว ยาดอง ไปจนถึงไวน์ ขวดหลายหมื่น เราลองมาหมดแล้วค่ะ
ตอนนั้นรู้สึกว่าเราเท่นะ ที่รู้จักเหล้าทุกชนิด เคยกินมาหมด (แค่เฉพาะที่ขายในไทยนะคะ) แต่ข้าวไม่ค่อยจะกิน กินแต่พวกอาหารจังฟู้ดตามร้านอาหารเพื่อ
รอเพื่อนไปเที่ยวเท่านั้น ตอนเช้าก็กินแซนวิช เครื่องดื่มแก้แฮ้ง กลางวันกินข้าวแกงปกติ ก็ยังไม่รู้สึกอะไร
จนมาถึงวันที่เราเมาจนช็อกค่ะ!!!!
วันนั้นเราไปดื่มไวน์ปกติเหมือนทุกวัน จู่ๆเราก็แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เพื่อนๆที่ไปด้วยตกใจมาก เลยรีบพาเราไปส่งโรงพยาบาล
พอไปถึงหมอก็บอกกับเราว่าต้องรอให้แอลกอฮอร์หมดก่อนถึงจะเจาะเลือดหรือตรวจอะไรได้ และวินิจฉัยว่าเราคงเมามาก สร่างแล้วเดี๋ยวก็หาย (ซะงั้น)
หลังจากมีอาการวันนั้น เราก็เรามีอาการมากขึ้น เริ่มจาก หอบ รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เหนื่อยมากๆ นั่งเฉยๆยังเหนื่อย และมือสั่น สั่นเหมือนคนติดยา
หิวและกินเยอะมากกกกกกกแต่น้ำหนักลด ไป 10 โล ในเวลาไม่ถึงเดือน
เราเลยไปหาหมอแถวบ้าน หมอก็เจาะเลือดไปตรวจ รอผลเลือด 3-5 ชั่วโมง หมอก็ซักประวัติว่าครอบครัวเรามีใครเคยเป็นโรคนี้ไหม
เราบอกว่าไม่มี พร้อมกับบอกว่า เราเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษชนิดไฮเปอร์ไทรอยด์ โรคนี้ไม่มีสาเหตุ และไม่มีวันรักษาหายขาด ต้องกินยาไปตลอดชีวิต
และมีลูกไม่ได้!!!!!!!! ตอนได้ยินเราก็ตกใจมากนะคะแต่ก็มีสติถามหมออย่างละเอียดว่าต้องรักษาตัวยังไงบ้าง มีผลข้างเคียงยังไง
คือ เราต้องปรับปรุงกิจวัตประจำวันใหม่ทั้งหมด 1.ต้องปรับเวลานอน คนเป็นโรคนี้จะนอนไม่ค่อยหลับเพราะใจเต้นเร็วและสั่นตลอดเวลา แต่ต้องนอนให้
ครบ 8 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน 2. กินยาสามเม็ดหลังอาหาร 3 มื้อ ซึ่งยาขมมากกกกกกมากกกถึงมากกกที่สุด 3.ทานอาหารที่มีประโยชน์ งด
กาแฟ ชา น้ำอัดลม รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ ไม่มีอาหารที่คนเป็นโรคไทรอยด์ห้ามนะคะ เพียงแต่ควรทานทุกอย่างในปริมาณที่เหมาะสม (อันนี้
สอบถามจากคุณหมอ) 4.ควรออกกำลังกาย 5.นั่งสมาธิ เพราะคนเป็นโรคนี้จะไฮเปอร์มาก อยู่นิ่งไม่ได้ ตกใจง่าย ขี้หนาวและขี้ร้อน รวมไปถึง
ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงเร็วมากกกก ขี้หงุดหงิด อาการน่าจะเหมือนคนท้องเลยก็ว่าได้ค่ะ พร้อมจะปรี้ดแตกตลอดเวลา 6.ช่วงแรกๆจะต้องไปเจาะเลือดเพื่อ
วัดระดับฮอร์โมน ว่าสอดคล้องกับยาที่ทานอยู่ไหมทุกๆอาทิตย์ ซึ่งเรียกว่าเจาะจนแขนพรุนไปเลยค่ะ เพราะแขนเราหาเส้นยาก ต้องเจาะหลายรอบกว่าจะ
เจอ จ้ำเก่ายังไม่ทันจะหาย รอยใหม่มาอีกแล้วค่ะ (T_T) ซึ่งตอนที่เราป่วยเข้ารักษาตัวเพื่อนที่เคยไปกินเหล้าด้วยกันหายแน่บเลยค่ะ ไม่เห็นหัวซาาาาคน
เราเลยหยุดทุกอย่าง ใช้ชีวิตแบบเซฟสุดๆ และเราก็ได้เรียนรู้ว่า เราจะไม่กลับไปใช้ชีวิตแบบนั้นอีกแล้ว และชีวิตเราก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
เรารักษากับโรงพยาบาลเดิมไปเรื่อยๆๆๆๆๆ จนวันนึงเรามีอาการ
ตาโปนค่ะ โปนแบบเห็นได้ชัด เรานี้ร้องไห้เลยค่ะ เพราะหมอเคยบอกว่า โรคนี้มีอาการ
ข้างเคียงหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คืออาการตาโปน ซึ่งมันจะไม่มีวันหาย นอกจากผ่าตัด!!!!!(คุณหมอขาา มันไม่จริงใช่ไหมค่ะ หนูยังไม่มีขรัว แล้วหนูจะหา
ขรัว ได้ไหมค่ะ สภาพแบบนี้ กรี้ดดดดดดดดดดดด) เราจึงหาข้อมูลรักษาวันนั้นและไปหาหมอโรงบาลใหม่ทันที !!!!
จึงได้มารู้จักการการรักษาแบบการกลืนรังสี
การรักษาจะเป็นยังไงขอมาอัพเดตต่อพรุ่งนี้นะคะ
ที่ขีดเส้นใต้เพื่อไว้ให้คนที่สงสัยว่าตัวเองอาจจะเป็นนี้ได้สังเกตตัวเอง จะได้รีบรักษาค่ะ
สำหรับใครที่มีคำถาม สอบถามไว้เลยคะ พรุ่งนี้จะมาช่วยตอบค่าาา