สวัสดีครับ..
หลังจากได้ลองเขียนรีวิวท่องเที่ยวกระทู้แรกไป คราวนี้เริ่มสนุกแล้วสิครับ วันนี้ผมจะมารีวิวที่ได้ไปเที่ยวเกาะตาชัยเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาครับ
***** รีวิวนี้
"ยาว" นะครับ ถ้าใครกำลังหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจไปเกาะตาชัย น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ เพราะผมลง details ทุกอย่างเท่าที่ผมเคยสงสัยและหาคำตอบจากรีวิวอื่นๆ ไม่ได้ไว้ในนี้หมดแล้ว // แต่ถ้ายาวไป ก็ต้องขออภัยด้วยครับ ><


ก่อนหน้านั้นก็นั่งอ่านรีวิวในพันทิปเยอะมากว่าจะซื้อทัวร์กับบริษัทไหนดี แต่สุดท้ายผมก็ใช้บริการ one day trip ของ Love Andaman ครับ ตอนนั้นมีโปรโมชั่น voucher 4 ใบ เลือกไปเกาะไหนก็ได้ ตกอยู่ใบละประมาณ 1,900 บาทต่อครั้งต่อใบ ก็เลยตัดสินใจซื้อมาครับ
หลังจากได้ voucher แล้ว ก็วางแผนเรื่องการเดินทางและโรงแรมครับ วางแผนพร้อมกับเตรียมลาพักร้อนไว้ล่วงหน้าประมาณครึ่งปีได้ ทุกอย่างได้เตรียมการไว้หมดแล้ว เหลือแค่รอเวลา..
..แล้วเมื่อวันที่ผมรอคอยมาถึง ผมนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินภูเก็ตประมาณสิบเอ็ดโมง จากนั้นก็ใช้บริการรถเช่า Budget ที่สนามบินครับ เตร็ดเตร่แถวๆ ภูเก็ต ดูพระอาทิตย์กที่แหลมพรหมเทพ หาไรทานเสร็จจนค่ำๆ ก็ตีขึ้นไปนอนที่เขาหลัก ผมพักที่ Motive Cottage Resort ไม่ไกลจากท่าเรือมาก อยู่ใกล้ตลาดนัดและ 7-11 ถือว่าสะดวกมากเลยครับ ที่ผมไม่พักที่ภูเก็ตเพราะไม่อยากตื่นเช้ามาก จากภูเก็ตขับรถมาท่าเรือประมาณ 2 ชั่วโมงได้ครับ โดยโปรแกรมคือ เกาะตาชัยหนึ่งวัน และวันถัดไปเป็นเกาะสิมิลัน คือเอาให้เอียนทะเลกันไปเลย..
ก่อนหน้านั้น 1 วัน เจ้าหน้าที่เลิฟฯ จะโทรมานัดกับเราว่าจะมีรถตู้ไปรับที่โรงแรมตอน 07.40 น. ครับ พอลงมารอที่ lobby ก็มีคุณลุงคนขับมารอแล้วครับ ตรงเวลามาก ผมไม่เอารถส่วนตัวไปจอดทีท่าเรือเพราะไม่แน่ใจว่าจะมีที่จอดรึเปล่า เลยให้รถตู้มารับ-ส่ง น่าจะดีกว่า
หลังจากนั้นก็ไปแวะรับผู้โดยสารท่านอีกตามทางอีก 1-2 ที่ครับ ใช้เวลาไปถึงที่ท่าเรือก็ประมาณ 15-20 นาทีครับ ไปถึงที่ท่าเรือทับละมุก็แปดโมงนิดๆ แล้ว ตกใจเพราะคนเยอะมาก จากรูปที่เห็นในรีวิวดูสถานที่ใหญ่ แต่พอเห็นของจริงเล็กถนัดตาไปเลย อาจเพราะคนมาใช้บริการเยอะมากกกกก ส่วนใหญ่เป็นคนจีนเกือบ 90% นอกนั้นเป็นคนไทยและฝรั่ง (เหมือนผมเป็นชนกลุ่มน้อย)
ที่จอดรถสาธารณะด้านหน้าเลิฟฯ ที่จอดรถน้อย แต่ข้างๆ มีของเอกชนครับ แต่ต้องเสียเงิน ดังนั้นไม่แนะนำให้เอารถส่วนตัวมานะครับ
พอมาถึงก็ต้องต่อคิวเพื่อทำการลงทะเบียนโดยใช้ voucher ในการลงทะเบียนก่อน (อย่าลืมเอาไปด้วยนะครับ แต่ผมถ่ายรูปเอาไว้ก็ยื่นมือถือให้เจ้าหน้าที่ดูได้) คิวจะแยกเป็น เกาะตาชัย เกาะสิมิลัน และเกาะสุรินทร์ ครับ อย่าลืมเข้าแถวให้ถูกด้วยนะ
หลังจากนั้นจะได้ wristband แต่ละสีมา และถ้ามีสีเหมือนกับเราแสดงว่าลงเรือลำเดียวกันครับ ไม่ได้ระบุนะครับว่าต้องใส่มือขวาหรือมือซ้าย แล้วแต่สะดวกเลยครับ ซึ่งหลายคนจะดีใจว่าได้ wristband น่ารักๆ มาฟรีด้วย เลิฟใจดีเนอะ..
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่เดี๋ยวก่อนครับ! ทุกอันต้องคืนตอนกลับ หากใครอยากได้ ทาง Love Andaman มีจำหน่ายครับ (55 เป็นอันเฟลไป)
ระหว่างนั้น ก็ต่อคิวเพื่อทานอาหารเช้า คิวค่อนข้างยาวครับ อาหารเช้าที่เห็นก็เป็นอาหารง่ายๆ เป็น แซนวิชอันเล็กขนาดพอดีคำ ข้าวเหนียวสังขยาที่มาพร้อมในห่อใบตอง มีแซนวิชโรลปูอัด คุ๊กกี้ ปาท่องโก๋ และก็ข้าวต้มหมู (หรือไก่ไม่แน่ใจ) ส่วนเครื่องดื่มก็จะมี ชา กาแฟ soft drink และก็ผลไม้ครับ กว่าจะได้อาหารมาก็เกือบแปดโมงครึ่งแล้ว ไกด์ก็จะมาตามตัวเราให้ไปรวมตัวด้านหลัง ซึ่งบริเวณที่ทานอาหารด้านหน้าคนเยอะมากครับ ให้แนะนำเดินไปนั่งชิวๆ ด้านหลังเลยครับตรงที่ brief
ต่อคิวอาหารเช้าของ Love Andaman
ระหว่างนั้นผมก็ต้องรีบๆ กินเพราะไกด์ ชื่อ เกมส์ เริ่มจะ brief ให้ฟังแล้ว (เพราะกลุ่มที่จะลงเรือลำเดียวกับเรา มาถึงก่อนหน้านี้และได้ทานเช้าเรียบร้อยแล้วครับ) ณ จุดๆ นี้ ยัดอะไรได้ยัดไปเลยครับเพราะเราจะต้องใช้พลังงานหลังจากนี้อีกเยอะ ทั้งการถ่ายรูป เล่นน้ำ ฯลฯ ไกด์ก็จะแนะนำว่า โปรแกรมเป็นอย่างไร ข้อห้าม รายละเอียดต่างๆ ครับ หลังจาก brief ก็จะให้ขึ้นเรือเพื่อที่จะออกเรือเป็นลำแรกเลยครับ ก่อนขึ้นเรืออย่าลืมทานยาแก้เมาเรือเผื่อไว้ก็ดีนะครับ หลายคนบอกว่า ทานแล้วจะง่วง แต่ผมกลับรู้สึกเฉยๆ นะ หรือแล้วแต่คน
หลังจากนั้นไกด์ก็จะพาเราไปด้านหลังสุดตรงท่าเรือเพื่อขึ้นเรือ ตรงนั้นก็มีห้องน้ำอีกจุดนะครับ ทำธุระให้เรียบร้อยเพราะหลังจากนี้อีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งจะอยู่บนเรือ การทำภารกิจบนเรือดูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นะผมว่า (ยังไม่เคยลองเหมือนกัน) จากนั้น จะมีตะกร้าให้ถอดรองเท้าฝากไว้ครับ ไกด์บอกว่า ในวันหนึ่งๆ จะมีคนลืมรองเท้าไว้เยอะและจะกลายเป็นขยะ และทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้สวมรองเท้าขึ้นเกาะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(แต่เอ๊ะ.. ทำไมคนที่มากับทัวร์เจ้าอื่นก็เห็นใส่กับบ้างประปราย.. ช่างมัน อย่าสงสัยมาก)
หลังจากนั้น ก็จะผ่านจุดถ่ายรูปครับ (ซึ่งก็คือทางไปขึ้นเรือครับ) จะมีช่างกล้อง stand by แล้ว ซึ่งทุกคนรู้ดีว่า รูปของเราจะมาอยู่ในกรอบรูป หรือ ในจาน หลังจากที่เรากลับขึ้นมาแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะไม่อยากเสียตังค์ซื้อก็ตามแต่ก็ถ่ายๆ ไปเถอะครับ ให้ทุกฝ่ายสบายใจเนอะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพราะรูปที่เราถ่ายกันเองที่เกาะตาชัย สวยกว่าเยอะ 55 ใครมาเดี่ยวก็ถ่ายเดี่ยว ใครมาคู่ก็ถ่ายคู่ ใครมากลุ่มก็ถ่ายกลุ่มครับ อย่าไปเนียนถ่ายกับคนอื่นนะครับ เพราะผมเจอมาแล้ว แบบว่า เราไม่ได้มาด้วยกันแล้วทำไมเทอจะมาถ่ายรูปกับเรา.. (คิดไรกับเราป่าว)
สำคัญนะครับ ถ้าทำธุระเสร็จแล้วก็ให้รีบขึ้นเรือครับ เพราะถือว่าเป็นจุดกำหนดชีวิตการเดินทางในวันนี้ของคุณที่สำคัญมากครับ เพราะถือว่าเป็นการได้เลือกตำแหน่งที่นั่งที่ดีที่สุดเลยทีเดียว ใครมาก่อนก็สร้างอาณาเขตก่อนครับ
ขอพูดรายเอียดเรื่องที่นั่งของเรือก่อน จะแบ่งเป็นสามโซนครับ
โซนแรกจะเป็นด้านหน้าเลย ผมขอเรียกว่าโซน open air อันนั้นรับลมสุดๆ ได้รับแรงกระแทกสูงเพราะอยู่หัวเรือเวลาเจอคลื่น แต่ก็ได้ความมันส์ไปอีกแบบ ได้อาบแดดเต็มที่สำหรับคนที่อยากมีผิวสีแทน แต่ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่เกี่ยงกันสำหรับที่นั่งอันนี้ ไม่แนะนำให้ท่านที่หูรูดไม่ดีนะครับ แต่ถ้าคนมีปัญหาเรื่องการย่อยอาหารน่าจะช่วยได้เยอะครับ การกระแทกของเรือกับคลื่นจะช่วยให้อาหารที่ทานมาคลุกเคล้ากับน้ำย่อยในกระเพาะได้เป็นอย่างดีครับ
โซนสองคือ โซนในร่ม ก็จะแบ่งเป็นตอนกลาง กับตอนท้ายครับ
ตอนกลาง มีโคลงเคลงนิดหน่อย แต่ด้วยตำแหน่งที่ต้องหันหน้าเข้าหากันเหมือนนั่งรถสองแถว ดังนั้นร่างกายจะไม่ค่อยสมดุลสำหรับท่านั่งเท่าไหร่ เหมือนร่างกายซีกที่อยู่ใกล้ด้านท้ายเรือจะต้องรองรับน้ำหนักของตัวเองมากกว่า เพราะหัวเรือจะเชิดขึ้น แล้วเวลาหลับอาจไม่ค่อยสะดวก เวลาเรือเจอคลื่น ก้นก็จะลอยจากเบาะประมาณ 1-2 เซนติเมตรด้วยสภาวะไร้น้ำหนัก ตำแหน่งของที่นั่งของแต่ละคนจะค่อยๆ ล่นมาด้านท้ายเรื่อยๆ ครับ (ลองสังเกตดูครับถ้าได้ไป) สุดท้ายจะมากระจุกกันอยู่ด้านท้าย (รักกันๆๆ เลยใกล้ชิดกันเนอะ)
ส่วนตอนท้ายผมว่าดีครับ มันได้นั่งพิงและตำแหน่งการนั่งเหมือนนั่งรถปกติ แต่จะเสียงดังมากเพราะใกล้เครื่องเรือ แดดร้อนตอนขาไปและกลับเพราะแดดส่องช่วงคอ แล้วเป็นตำแหน่งที่เบาะมักเปียกตลอดเนื่องจาก ตอนขึ้นลงของผู้โดยสาร หลังการดำน้ำหรือขึ้นเกาะ ทุกคนจะเหยียบผ่านโซนนี้ครับ ที่นั่งเราก็จะชุ่มช่ำตลอด
นอกจากนี้จะมีที่นั่งสองที่ฝั่งซ้ายของเรือ ตรงแนวตำแหน่งของกัปตัน อันนั้นน่าจะดีนะครับ ผมขอเรียนกว่า Honeymoon seat ละกันครับ เหมาะกับคู่รักครับ นั่งแบบไม่ต้องแคร์ใคร ไม่ต้องเบียดใครแต่เบียดกันเอง วิวดี ลมโกรก จู๋จี๋กันได้ตามสบาย และอยู่ในร่มอีกด้วย
ซึ่งแน่นอนครับ ขาไปผมนั่งโซนกลาง (คิดว่าผมนั่ง Honeymoon seat ละสิ)
เอาเป็นว่าเมื่อผู้โดยสารครบแล้วก็เริ่มออกเรือครับ เรือผมเป็นเรือใหญ่ มีสามเครื่องเรือ มีแต่คนไทยทั้งหมดแต่จะเบียดๆ กันหน่อยแบบไหล่ชนไหล่เลย น่าจะจุได้ประมาณ 40 คน ไกด์บอกว่าพยายามให้คนไทยอยู่ด้วยกันหมดเพราะไม่อยากให้เราไปแตกกลุ่มไปรวมกับกรุ๊ปคนจีน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้น ทุกคนเลยโอเคครับ
[CR] :: เกาะตาชัย.. ช่ายยยยยยยยเลย :: รีวิวเกาะตาชัย - สิมิลัน ตอนที่ 1
สวัสดีครับ..
หลังจากได้ลองเขียนรีวิวท่องเที่ยวกระทู้แรกไป คราวนี้เริ่มสนุกแล้วสิครับ วันนี้ผมจะมารีวิวที่ได้ไปเที่ยวเกาะตาชัยเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาครับ
***** รีวิวนี้ "ยาว" นะครับ ถ้าใครกำลังหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจไปเกาะตาชัย น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ เพราะผมลง details ทุกอย่างเท่าที่ผมเคยสงสัยและหาคำตอบจากรีวิวอื่นๆ ไม่ได้ไว้ในนี้หมดแล้ว // แต่ถ้ายาวไป ก็ต้องขออภัยด้วยครับ ><
ก่อนหน้านั้นก็นั่งอ่านรีวิวในพันทิปเยอะมากว่าจะซื้อทัวร์กับบริษัทไหนดี แต่สุดท้ายผมก็ใช้บริการ one day trip ของ Love Andaman ครับ ตอนนั้นมีโปรโมชั่น voucher 4 ใบ เลือกไปเกาะไหนก็ได้ ตกอยู่ใบละประมาณ 1,900 บาทต่อครั้งต่อใบ ก็เลยตัดสินใจซื้อมาครับ
หลังจากได้ voucher แล้ว ก็วางแผนเรื่องการเดินทางและโรงแรมครับ วางแผนพร้อมกับเตรียมลาพักร้อนไว้ล่วงหน้าประมาณครึ่งปีได้ ทุกอย่างได้เตรียมการไว้หมดแล้ว เหลือแค่รอเวลา..
..แล้วเมื่อวันที่ผมรอคอยมาถึง ผมนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินภูเก็ตประมาณสิบเอ็ดโมง จากนั้นก็ใช้บริการรถเช่า Budget ที่สนามบินครับ เตร็ดเตร่แถวๆ ภูเก็ต ดูพระอาทิตย์กที่แหลมพรหมเทพ หาไรทานเสร็จจนค่ำๆ ก็ตีขึ้นไปนอนที่เขาหลัก ผมพักที่ Motive Cottage Resort ไม่ไกลจากท่าเรือมาก อยู่ใกล้ตลาดนัดและ 7-11 ถือว่าสะดวกมากเลยครับ ที่ผมไม่พักที่ภูเก็ตเพราะไม่อยากตื่นเช้ามาก จากภูเก็ตขับรถมาท่าเรือประมาณ 2 ชั่วโมงได้ครับ โดยโปรแกรมคือ เกาะตาชัยหนึ่งวัน และวันถัดไปเป็นเกาะสิมิลัน คือเอาให้เอียนทะเลกันไปเลย..
ก่อนหน้านั้น 1 วัน เจ้าหน้าที่เลิฟฯ จะโทรมานัดกับเราว่าจะมีรถตู้ไปรับที่โรงแรมตอน 07.40 น. ครับ พอลงมารอที่ lobby ก็มีคุณลุงคนขับมารอแล้วครับ ตรงเวลามาก ผมไม่เอารถส่วนตัวไปจอดทีท่าเรือเพราะไม่แน่ใจว่าจะมีที่จอดรึเปล่า เลยให้รถตู้มารับ-ส่ง น่าจะดีกว่า
หลังจากนั้นก็ไปแวะรับผู้โดยสารท่านอีกตามทางอีก 1-2 ที่ครับ ใช้เวลาไปถึงที่ท่าเรือก็ประมาณ 15-20 นาทีครับ ไปถึงที่ท่าเรือทับละมุก็แปดโมงนิดๆ แล้ว ตกใจเพราะคนเยอะมาก จากรูปที่เห็นในรีวิวดูสถานที่ใหญ่ แต่พอเห็นของจริงเล็กถนัดตาไปเลย อาจเพราะคนมาใช้บริการเยอะมากกกกก ส่วนใหญ่เป็นคนจีนเกือบ 90% นอกนั้นเป็นคนไทยและฝรั่ง (เหมือนผมเป็นชนกลุ่มน้อย)
ที่จอดรถสาธารณะด้านหน้าเลิฟฯ ที่จอดรถน้อย แต่ข้างๆ มีของเอกชนครับ แต่ต้องเสียเงิน ดังนั้นไม่แนะนำให้เอารถส่วนตัวมานะครับ
พอมาถึงก็ต้องต่อคิวเพื่อทำการลงทะเบียนโดยใช้ voucher ในการลงทะเบียนก่อน (อย่าลืมเอาไปด้วยนะครับ แต่ผมถ่ายรูปเอาไว้ก็ยื่นมือถือให้เจ้าหน้าที่ดูได้) คิวจะแยกเป็น เกาะตาชัย เกาะสิมิลัน และเกาะสุรินทร์ ครับ อย่าลืมเข้าแถวให้ถูกด้วยนะ
หลังจากนั้นจะได้ wristband แต่ละสีมา และถ้ามีสีเหมือนกับเราแสดงว่าลงเรือลำเดียวกันครับ ไม่ได้ระบุนะครับว่าต้องใส่มือขวาหรือมือซ้าย แล้วแต่สะดวกเลยครับ ซึ่งหลายคนจะดีใจว่าได้ wristband น่ารักๆ มาฟรีด้วย เลิฟใจดีเนอะ..
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ระหว่างนั้น ก็ต่อคิวเพื่อทานอาหารเช้า คิวค่อนข้างยาวครับ อาหารเช้าที่เห็นก็เป็นอาหารง่ายๆ เป็น แซนวิชอันเล็กขนาดพอดีคำ ข้าวเหนียวสังขยาที่มาพร้อมในห่อใบตอง มีแซนวิชโรลปูอัด คุ๊กกี้ ปาท่องโก๋ และก็ข้าวต้มหมู (หรือไก่ไม่แน่ใจ) ส่วนเครื่องดื่มก็จะมี ชา กาแฟ soft drink และก็ผลไม้ครับ กว่าจะได้อาหารมาก็เกือบแปดโมงครึ่งแล้ว ไกด์ก็จะมาตามตัวเราให้ไปรวมตัวด้านหลัง ซึ่งบริเวณที่ทานอาหารด้านหน้าคนเยอะมากครับ ให้แนะนำเดินไปนั่งชิวๆ ด้านหลังเลยครับตรงที่ brief
ต่อคิวอาหารเช้าของ Love Andaman
ระหว่างนั้นผมก็ต้องรีบๆ กินเพราะไกด์ ชื่อ เกมส์ เริ่มจะ brief ให้ฟังแล้ว (เพราะกลุ่มที่จะลงเรือลำเดียวกับเรา มาถึงก่อนหน้านี้และได้ทานเช้าเรียบร้อยแล้วครับ) ณ จุดๆ นี้ ยัดอะไรได้ยัดไปเลยครับเพราะเราจะต้องใช้พลังงานหลังจากนี้อีกเยอะ ทั้งการถ่ายรูป เล่นน้ำ ฯลฯ ไกด์ก็จะแนะนำว่า โปรแกรมเป็นอย่างไร ข้อห้าม รายละเอียดต่างๆ ครับ หลังจาก brief ก็จะให้ขึ้นเรือเพื่อที่จะออกเรือเป็นลำแรกเลยครับ ก่อนขึ้นเรืออย่าลืมทานยาแก้เมาเรือเผื่อไว้ก็ดีนะครับ หลายคนบอกว่า ทานแล้วจะง่วง แต่ผมกลับรู้สึกเฉยๆ นะ หรือแล้วแต่คน
หลังจากนั้นไกด์ก็จะพาเราไปด้านหลังสุดตรงท่าเรือเพื่อขึ้นเรือ ตรงนั้นก็มีห้องน้ำอีกจุดนะครับ ทำธุระให้เรียบร้อยเพราะหลังจากนี้อีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งจะอยู่บนเรือ การทำภารกิจบนเรือดูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นะผมว่า (ยังไม่เคยลองเหมือนกัน) จากนั้น จะมีตะกร้าให้ถอดรองเท้าฝากไว้ครับ ไกด์บอกว่า ในวันหนึ่งๆ จะมีคนลืมรองเท้าไว้เยอะและจะกลายเป็นขยะ และทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้สวมรองเท้าขึ้นเกาะครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากนั้น ก็จะผ่านจุดถ่ายรูปครับ (ซึ่งก็คือทางไปขึ้นเรือครับ) จะมีช่างกล้อง stand by แล้ว ซึ่งทุกคนรู้ดีว่า รูปของเราจะมาอยู่ในกรอบรูป หรือ ในจาน หลังจากที่เรากลับขึ้นมาแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะไม่อยากเสียตังค์ซื้อก็ตามแต่ก็ถ่ายๆ ไปเถอะครับ ให้ทุกฝ่ายสบายใจเนอะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ใครมาเดี่ยวก็ถ่ายเดี่ยว ใครมาคู่ก็ถ่ายคู่ ใครมากลุ่มก็ถ่ายกลุ่มครับ อย่าไปเนียนถ่ายกับคนอื่นนะครับ เพราะผมเจอมาแล้ว แบบว่า เราไม่ได้มาด้วยกันแล้วทำไมเทอจะมาถ่ายรูปกับเรา.. (คิดไรกับเราป่าว)
สำคัญนะครับ ถ้าทำธุระเสร็จแล้วก็ให้รีบขึ้นเรือครับ เพราะถือว่าเป็นจุดกำหนดชีวิตการเดินทางในวันนี้ของคุณที่สำคัญมากครับ เพราะถือว่าเป็นการได้เลือกตำแหน่งที่นั่งที่ดีที่สุดเลยทีเดียว ใครมาก่อนก็สร้างอาณาเขตก่อนครับ
ขอพูดรายเอียดเรื่องที่นั่งของเรือก่อน จะแบ่งเป็นสามโซนครับ
โซนแรกจะเป็นด้านหน้าเลย ผมขอเรียกว่าโซน open air อันนั้นรับลมสุดๆ ได้รับแรงกระแทกสูงเพราะอยู่หัวเรือเวลาเจอคลื่น แต่ก็ได้ความมันส์ไปอีกแบบ ได้อาบแดดเต็มที่สำหรับคนที่อยากมีผิวสีแทน แต่ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่เกี่ยงกันสำหรับที่นั่งอันนี้ ไม่แนะนำให้ท่านที่หูรูดไม่ดีนะครับ แต่ถ้าคนมีปัญหาเรื่องการย่อยอาหารน่าจะช่วยได้เยอะครับ การกระแทกของเรือกับคลื่นจะช่วยให้อาหารที่ทานมาคลุกเคล้ากับน้ำย่อยในกระเพาะได้เป็นอย่างดีครับ
โซนสองคือ โซนในร่ม ก็จะแบ่งเป็นตอนกลาง กับตอนท้ายครับ
ตอนกลาง มีโคลงเคลงนิดหน่อย แต่ด้วยตำแหน่งที่ต้องหันหน้าเข้าหากันเหมือนนั่งรถสองแถว ดังนั้นร่างกายจะไม่ค่อยสมดุลสำหรับท่านั่งเท่าไหร่ เหมือนร่างกายซีกที่อยู่ใกล้ด้านท้ายเรือจะต้องรองรับน้ำหนักของตัวเองมากกว่า เพราะหัวเรือจะเชิดขึ้น แล้วเวลาหลับอาจไม่ค่อยสะดวก เวลาเรือเจอคลื่น ก้นก็จะลอยจากเบาะประมาณ 1-2 เซนติเมตรด้วยสภาวะไร้น้ำหนัก ตำแหน่งของที่นั่งของแต่ละคนจะค่อยๆ ล่นมาด้านท้ายเรื่อยๆ ครับ (ลองสังเกตดูครับถ้าได้ไป) สุดท้ายจะมากระจุกกันอยู่ด้านท้าย (รักกันๆๆ เลยใกล้ชิดกันเนอะ)
ส่วนตอนท้ายผมว่าดีครับ มันได้นั่งพิงและตำแหน่งการนั่งเหมือนนั่งรถปกติ แต่จะเสียงดังมากเพราะใกล้เครื่องเรือ แดดร้อนตอนขาไปและกลับเพราะแดดส่องช่วงคอ แล้วเป็นตำแหน่งที่เบาะมักเปียกตลอดเนื่องจาก ตอนขึ้นลงของผู้โดยสาร หลังการดำน้ำหรือขึ้นเกาะ ทุกคนจะเหยียบผ่านโซนนี้ครับ ที่นั่งเราก็จะชุ่มช่ำตลอด
นอกจากนี้จะมีที่นั่งสองที่ฝั่งซ้ายของเรือ ตรงแนวตำแหน่งของกัปตัน อันนั้นน่าจะดีนะครับ ผมขอเรียนกว่า Honeymoon seat ละกันครับ เหมาะกับคู่รักครับ นั่งแบบไม่ต้องแคร์ใคร ไม่ต้องเบียดใครแต่เบียดกันเอง วิวดี ลมโกรก จู๋จี๋กันได้ตามสบาย และอยู่ในร่มอีกด้วย
ซึ่งแน่นอนครับ ขาไปผมนั่งโซนกลาง (คิดว่าผมนั่ง Honeymoon seat ละสิ)
เอาเป็นว่าเมื่อผู้โดยสารครบแล้วก็เริ่มออกเรือครับ เรือผมเป็นเรือใหญ่ มีสามเครื่องเรือ มีแต่คนไทยทั้งหมดแต่จะเบียดๆ กันหน่อยแบบไหล่ชนไหล่เลย น่าจะจุได้ประมาณ 40 คน ไกด์บอกว่าพยายามให้คนไทยอยู่ด้วยกันหมดเพราะไม่อยากให้เราไปแตกกลุ่มไปรวมกับกรุ๊ปคนจีน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้น ทุกคนเลยโอเคครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น