พอดีเมื่อคืนได้นั่งดู ไอ้แมงมุม 3 ของ โทบี้ แมคไกวร์ แบบมีสมาธิ หลังจากดุมาหลายรอบ ประทับใจแต่ฉากต่อสู้ สนุกกับการที่พระเอกมีผู้ช่วย และ เกว็น สเตซี่ ที่แสดงโดย ไบรซ์ ดัลลัส รวมถึง มนุษย์ทราย ที่โดน จรวด มิไซล์ ของ เจมส์ ฟรังโก้ ทุกอย่างล้วนสนุกสนาน ดูหลายรอบไม่เบื่อ




แต่เมื่อคืน นั่งดุ ผมเห็นแง่คิดจากหนังได้ 3  อย่าง เอามาคุยกัน สนุกๆ

1 Power หรือ พลังอำนาจ สไปเดอร์แมนภาคนี้ มีเอเลี่ยนตกมาจากฟากฟ้า และ ถูกดึงดูดเข้าหา พระเอกของเรา จนทำให้ชุดสไปเดอร์แมน กลายเป็นสีดำ ทำให้พระเอกเรา แข็งแกร่งขึ้น โหดเหี้ยมขึ้น และนั่นทำให้เขาชนะมนุษย์ทรายได้ เพราะความเด็ดขาด และ ไร้ปราณี พระเอกปีเตอร์ ถูกครอบงำทั้งจิตใจ และเริ่มทำสิ่งที่ ตนเองสามารถทำได้ โดยไม่คำนึงว่า ควรทำหรือไม่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้( ในบรรดาคนที่มีความสามารถ ไม่ใช่ทำทุกอย่าง เพราะทำได้ แต่ของแท้ จะดูความเหมาะสมด้วยว่า ควรทำหรือไม่ ) และนำตัวปีเตอร์ ทำร้ายแมรี่ เจน ในที่สุด

ชุดดำแสดงถึงด้านมืด หนังแสดงให้เห็นชัดเจน ว่า เมื่อคนเรามีอำนาจมากขึ้น มีพลังมากขึ้น มักจะถูกครอบงำว่าตนจะทำอะไรก็ได้ และไม่ต้องสนใจใคร เช่นที่ ไอ้แมงมุมเริ่มทำกับทั้งผู้ร้าย และคนบริสุทธิ์  จะมองเอารอบตัวเราก็ได้ครับ มีทั้งคนที่มัวเมา และคนที่รู้จักใช้ พระเดช และ พระคุณ คู่กันไป ซึ่งสัดส่วนของผุ้มีอำนาจ ในแต่ละลำดับชั้น ก็จะแสดงออก ถึงอำนาจในมือ กันอย่างไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกคนอื่น  

แต่ปีเตอร์ ในเรื่องซึ่งเป็นตัวแทนคนดีอยุ่แล้ว ย่อมต่อต้าน และสถานที่ๆช่วยให้เค้ามีกำลังในการต่อต้านก็คือ โบสถ์

2 God พระเจ้า หนังอเมริกัน ยังคงสร้างศรัทธาให้แก่ผุ้ชม โดยเลือกให้ เสียงระฆังในโบสถ์ เป็นตัวช่วย ปีเตอร์ สลัดหลุด สิ่งเลวร้าย ที่มีรูปธรรม ออกจากร่างกายได้สำเร็จ เหมือนผีกลัวน้ำมนต์อะไรประมาณนั้น ตรงนี้ หนังสร้างแบบชัดๆ และคนดูหลายคนอาจเห็นแต่อีกครึ่งนึง อาจไม่สังเกตุ ว่า พระเจ้า ไม่ปล่อยให้คนดี โดดเดี่ยว หากแต่จะมาช่วยเหลือ เมื่อถึงเวลา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้( ไม่ว่าพระเจ้าของศาสนาใดๆ ก็ได้รับการนับถือในด้าน การคุ้มครอง แก่คนดี  แม้จะไม่ทุกครั้งก็ตาม)

3 Destiny โชคชะตาหรือพรหมลิขิต  คนดีได้ดี คนชั่วได้ชั่ว หนังยังคงต่อเนื่องในการทำดี ชั่ว โดยการให้ปีศาจต่างดาว หลุดจากร่าง สไปเดอร์แมน แล้วมาหล่นใส่ นักข่าว ผู้มีความใฝ่เลว ที่มาเยือนโบสถ์ เพื่อขอภาวนาต่อพระเจ้า ให้ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ตายซะ ซึ่งนั่นมันเป็นคำภาวนะที่ผิดที่ ผิดทาง อย่างมหันต์
และเมื่อคนเลวมาถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แซม เรมี่ ผกก ยังตอกย้ำด้วยการ ให้ ความเลวร้าย ตกใส่คนชั่วร้าย ผสมร่างเอเลี่ยนเข้ากับนักข่าวผู้สิ้นความดี ซึ่งในหนัง ไม่ได้ให้เกิดข้อเสียในทันที แถมยังให้เห็นว่า พลังแห่งความชั่ว ก็ทรงอานุภาพไม่น้อย โดยการปล่อยให้ เวน่อม ไปรวมตัวกับ แซนแมน มาวางแผน กำจัดสไปเดอร์แมน เรียกว่า อำนาจตกในมืคนชั่ว ก็เล่นเอาพระเอกของเรา อ่วมอรทัย ไม่น้อย โดยมีประชาชน ได้แต่ยืนดูเท่านั้น ไม่สามารถช่วยอะไร

แต่แล้วการกลับใจของ เจมส์ ฟรังโก้ ก็ทำให้คนดูเห็นว่า คนเลว ถ้ากลับตัวเป็นคนดีได้ ใครๆก็โห่ร้องเอาใจช่วย กระโดดตัวลอยกันทีเดียว  จำได้ว่าผมไปดูในโรง หลายปีก่อน รู้สึกเฮอย่างกะ เชียร์ ทีมชาติไทย วิ่งสี่คูณร้อย คือบรรยากาศของหนัง พาไปได้ขนาดนั้นจริงๆครับ สำหรับ โรงใหญ่

และสุดท้าย ทุกอย่างเหมือนกำหนดไว้ ไม่ว่าจะคนเลวกลับใจ หรือคนร้าย ที่หมดหวัง ล้วนต้องดับสลายไป แต่ก็ยังมีติ่งให้คิดนิดนึง ในส่วนของ แซนแมน ที่ได้กล่าว ขอโทษ กับ สไปเดอร์แมน ในสิ่งทั้งหมดที่ทำไป และ ตอนจบของหนังไตรภาค ซุปเปอร์ฮีโร่ อันดับหนึ่งของ อเมริกา สิ่งที่สไปเดอร์แมน บอกกับคนทั้งโรงหนังก็คือ " ผมให้อภัยคุณ "

ครับคนที่กลับใจอย่างจริงจัง ควรได้รับการอภัย คนที่อภัยคนอื่นก็เหมือนกับ ได้ปลดปล่อยตัวเองจากโซ่แห่งความทุกข์ เพียงแต่นี่เป็นหนังที่จรรโลงโลก แต่ในโลกความจริง ผุ้ร้ายกลับใจ และคนที่จะให้อภัยแบบใจจริง มันหากยากเหลือเกิน .

จบครับ ขอให้คนรักหนังทุกท่าน ได้ความสนุกผสมสาระไปด้วย ช่วยกันคิด ช่วยกันสร้าง อย่างปล่อยร้างสิ่งสร้างสรรค์นะครับ .