อยาก.....มีเมีย จะได้คลอเคลีย...

ภริยาในพระพุทธศาสนา ๗ ประเภท
จากพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวนิบาต
อยากเป็นภริยาที่ดี อยากได้สามีดี
ปฏิบัติธรรมตามคำสอนของ
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม แล้วดีทุกคน

๑. วธกาภริยา คือ ภรรยาเสมอด้วยเพชรฆาต
พวกจิตใจไม่ดี ชอบทำร้าย ด่าทอสาบแช่งสามี
เป็นชู้กะชายอื่น

๒. โจรีภริยา คือ ภรรยาเสมอด้วยโจร
เป็นคนล้างผลาญ สร้างหนี้สิน หาเท่าไหร่ไม่รู้จักพอ เอาเรื่องในบ้านไปโพทนานอกบ้าน ให้เสื่อมเสียแก่คนในบ้าน

๓. อัยยาภริยา คือ ภรรยาเสมอด้วยนาย เป็นผู้ชอบข่มสามีให้อยู่ในอำนาจ ไม่ให้เกียรติ์เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่น ชอบสั่งการ เอาแต่ใจตัวเอง เห็นสามีไร้ค่า ตนเองเป็นผู้นำ

๔. มาตาภริยา คือ ภรรยาเสมอด้วยแม่ ผู้มีความรักต่อสามีอย่างสุดซึ้ง ไม่เคยทอดทิ้งสามีในยามทุกข์ยาก ในยามป่วยไข้ ไม่ทำให้สามีสะเทือนใจ

๕. ภคินีภริยา คือ ภรรยาเสมอด้วยน้องสาว ผู้มีความเคารพต่อสามีในฐานะพ่อบ้าน แต่ขัดใจกันบ้างตามประสาคนใกล้ชิด ให้อภัยกัน โดยไม่คิดพยาบาท เดินตามแนวทางสามี ต้องพึ่งพาสามี

๖. สขีภริยา คือ ภรรยาเสมอด้วยเพื่อน มีความสามารถพอกัน ไม่ต้องพึ่งพากัน ไม่ยอมกัน เป็นตัวของตัวเองสูง รักและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ในหน้าที่ของตน

๗. ทาสีภริยา คือ ภรรยาเสมอด้วยคนรับใช้ อยู่ใต้คำสั่งสามีโดยไม่มีข้อโต้แย้ง สามีเป็นผู้เลี้ยงดู สั่งอะไรก็ทำอย่างนั้น แม้ไม่เห็นด้วยก็ไม่ออกความคิดเห็น อดทนทำงานตามหน้าที่ ตามแต่สามีจะสั่งการแม้ถูกดุด่า เฆี่ยนตีก็ยังทนอยู่ได้โดยไม่โต้ตอบ

* ปัญหาครอบครัวแก้ได้ด้วย
การสวดมนต์ พาหุง-มหากา
สวดพุทธคุณ เกินอายุ+๑
เจริญสติปัฏฐาน ๔
แผ่เมตตา แผ่อุทิศส่วนกุศล
รักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์
ตามธรรมคำสอนที่หลวงพ่อจรัญ พรำ่สอน

ทำได้ ได้ธรรม
ขอบคุณภาพสวยจาก ปดิวรัดา

Cr : พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง