ที่มา:
http://www.matichon.co.th/news/52173
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ก.พ. ที่ชั้น 4 ห้องประชุมแก่นเงิน อาคารสมเด็จพระเทพฯ รพ.ขอนแก่น น.พ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น พ.ญ.รักฝัก สวัสดิ์พาณิชย์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ ด้านศัลยกรรมทรวงอก นพ.ฉัตรชัย ซื่อศิริสวัสดิ์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ แพทย์เจ้าของไข้ นางอภิญญา ก้อยทอง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น และคณะ ร่วมกันแถลงข่าว กรณีผู้ป่วยทารกแรกเกิดถูกของแหลมทิ่มแทงตามลำตัว 14 แผล ฝังดินในป่ายู่คาลิปตัส อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น
ส่วนที่หน้าห้องหอผู้ป่วยทารกแรกเกิดระยะวิกฤติ 1 ที่รักษา “น้องไอดิน” ที่ยังอยู่ในตู้เด็กควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม และคณะแพทย์ที่ชำนาญการด้านศัลยกรรมทรวงอก ด้านศัลยกรรมเด็ก พร้อมด้วยแพทย์เจ้าของไข้ ได้พากันตรวจรักษา พร้อมกลับเขียนบันทึกอย่างละเอียด หลังจากทราบว่า น.ส.สุดา หรือ มล ทองดี อายุ 42 ปี ที่อยู่ 11 หมู่ 1 บ้านใหม่นาเพียง ต.ใหม่นาเพียง อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่นยอมรับสารภาพว่าพยายามฆ่าน้องไอดินที่บริเวณทุ่งนาบ้านโนนสวรรค์ หมู่ 3 ต.คอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ปาฏิหาริย์ได้มีคนมาช่วยให้รอดชีวิตมาถึงทุกวันนี้
น.พ.ชาญชัย ผอ.รพ.ขอนแก่น กล่าวว่า อาการล่าสุด ณ วันที่ 27 ก.พ. ผู้ป่วยมีอาการรู้สึกตัวดี ใส่ท่อช่วยหายใจและลดการใช้เครื่องช่วยหายใจได้ดี มีแนวโน้มถอดท่อช่วยหายใจและเครื่องช่วยหายใจ แต่ยังใส่สายระบายลมจากช่องเยื่อหุ้มปอด ยังคงงดน้ำ และอาหาร และให้สารน้ำและยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ แผนการรักษาขณะนี้คือเฝ้าระวังภาวการณ์ติดเชื้อและสังเกตอาการอัตราการหายใจที่ยังมีอาการหอบเล็กน้อย อีกไม่นานก็จะกลับมาเป็นปกติ คือ ว่ารอดจากวิกฤติ 80 % หาย ไม่หาย 20 % การรักษาดูแล “น้องไอดิน” ขณะนี้ไม่ต่ำกว่า 3 – 4 หมื่นบาท ซึ่งอยู่ในการรักษาดูแลในโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติ ในประเภท 30 บาท รักษาทุกโรค
พญ.รักฝัน สวัสดิ์พาณิชย์ แพทย์ชำนาญการพิเศษ ด้านศัลยกรรมทรวงอก และเป็นแพทย์ในทีมรักษาอาการ “น้องไอดิน” เปิดเผยว่า หมอได้รับผลกระทบที่มีภาพลงในโลกโซเชี่ยลฯ เพราะภาพข่าวที่เป็นภาพประกอบโดยมีหมออยู่ในภาพ ซึ่งไม่เกี่ยวกับหมอและเนื้อหาก็ไม่มีส่วนกล่าวถึงหมอในทางเสียหาย แต่ในโลกโซเชี่ยลฯ มีการแค๊ปภาพไปลงแม้ว่าไม่มีรายละเอียดของข่าวตามข่าวที่ นสพ.ลง หรือออนไลน์อื่นๆได้ลง ประชาชนที่อ่านข่าวและดูภาพประกอบเกิดความเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นแม่ของเด็ก มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบเค้นข้อเท็จจริงกลับตน รู้สึกเสียใจมากในเวลาไม่กี่ชั่วโมงจากที่หมอ 1 ในทีมแพทย์ช่วยรักษากลายเป็นผู้ร้าย ตกเป็นจำเลยของสังคม มีการระบายอารมณ์กล่าวหาตนแบบเสียๆหายๆอย่างรุนแรงมาก
ในส่วนตัวยอมรับว่ามีความเสียใจอย่างมาก ขอให้สื่อมวลชนที่เสนอภาพข่าวของหมอในโลกโซเชี่ยนเน๊ตเวิร์ค 2 เรื่อง คือ การทำงานข่าวขอให้ดูแลคณะทีมแพทย์ที่เข้ารักษาน้องไอดินด้วยในเรื่องเนื้อหาข่าวสารที่ออกไปสู่สังคมด้วย และให้มีการระมัดระวังในการเสนอข่าวออกสู่สังคมภายนอก ในการที่จะนำเสนอข่าวทุกครั้ง อย่าให้เกิดความเสียหายกลับบุคคลที่ 3 ประชาชนทั่วไปการเสพข่าวต้องใช้วิจารณญาณแยกแยะข่าวไหนเป็นความจริง ข่าวไหนเป็นความเท็จ
ด้านนางอภิญญา ก้อยทอง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ในส่วนของ “น้องไอดิน” จะต้องไปแจ้งเกิดที่ อ.แวงใหญ่ ในวันที่ 29 ก.พ. นี้ และทีมสหวิชาชีพ จ.ขอนแก่น จะต้องลงไปหาข้อมูลของ “น้องไอดิน”ในครอบครอบครัวของเขา เพื่อจะประเมินครอบครัวและดูรอบด้านของครอบครัวในเรื่องสุขภาพจิต เศรษฐกิจ และ ในหลายอย่างในครอบครัวของ “น้องไอดิน” ตอนนี้เขามีพ่อ มีแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อมาประเมินหลังจากรักษาหายดีแล้ว “น้องไอดิน”สมควรจะไปอยู่กลับใคร ถ้าประเมินแล้วยังไม่พร้อมแต่เด็กหายก่อน รพ.ขอนแก่นจะต้องทำหนังสือส่งน้องไอดินไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ขอนแก่น หลังจากนั้นจะส่งต่อไปที่บ้านแคนทอง จ.ขอนแก่น เพื่อดูแลคุ้มครองน้องไอดินขณะไม่มีผู้ปกครอง แม้ว่ามีผู้ประสงค์ดีต้องการเด็กอยู่ในความดูแลไม่น้อยกว่า 20 ราย ก็ต้องอยู่ในการพิจาณาของทีมสหวิชาชีพ จ.ขอนแก่นเห็นสมควร
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถึงขณะนี้ ได้มีประชาชนที่เกิดความสงสาร “น้องไอดิน” ได้มาให้เงินสงเคราะห์ช่วยเหลือมียอดเงินร่วม 6 หมื่นบาท พร้อมอุปกรณ์เด็กหลายอย่างเป็นจำนวนมากมาให้กับน้องไอดินที่ รพ.ขอนแก่น โดยเฉพาะเงินสดจะต้องไปเปิดบัญชีในนามน้องไอดิน และมีคณะกรรมการสหวิชาชีพเป็นผู้บริหาร
หมอเผย”น้องไอดิน”พ้นวิกฤต พญ.โอดโลกโซเชียล ทำเข้าใจผิดว่าเป็นแม่เด็ก รุมด่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ก.พ. ที่ชั้น 4 ห้องประชุมแก่นเงิน อาคารสมเด็จพระเทพฯ รพ.ขอนแก่น น.พ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น พ.ญ.รักฝัก สวัสดิ์พาณิชย์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ ด้านศัลยกรรมทรวงอก นพ.ฉัตรชัย ซื่อศิริสวัสดิ์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ แพทย์เจ้าของไข้ นางอภิญญา ก้อยทอง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น และคณะ ร่วมกันแถลงข่าว กรณีผู้ป่วยทารกแรกเกิดถูกของแหลมทิ่มแทงตามลำตัว 14 แผล ฝังดินในป่ายู่คาลิปตัส อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น
ส่วนที่หน้าห้องหอผู้ป่วยทารกแรกเกิดระยะวิกฤติ 1 ที่รักษา “น้องไอดิน” ที่ยังอยู่ในตู้เด็กควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม และคณะแพทย์ที่ชำนาญการด้านศัลยกรรมทรวงอก ด้านศัลยกรรมเด็ก พร้อมด้วยแพทย์เจ้าของไข้ ได้พากันตรวจรักษา พร้อมกลับเขียนบันทึกอย่างละเอียด หลังจากทราบว่า น.ส.สุดา หรือ มล ทองดี อายุ 42 ปี ที่อยู่ 11 หมู่ 1 บ้านใหม่นาเพียง ต.ใหม่นาเพียง อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่นยอมรับสารภาพว่าพยายามฆ่าน้องไอดินที่บริเวณทุ่งนาบ้านโนนสวรรค์ หมู่ 3 ต.คอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ปาฏิหาริย์ได้มีคนมาช่วยให้รอดชีวิตมาถึงทุกวันนี้
น.พ.ชาญชัย ผอ.รพ.ขอนแก่น กล่าวว่า อาการล่าสุด ณ วันที่ 27 ก.พ. ผู้ป่วยมีอาการรู้สึกตัวดี ใส่ท่อช่วยหายใจและลดการใช้เครื่องช่วยหายใจได้ดี มีแนวโน้มถอดท่อช่วยหายใจและเครื่องช่วยหายใจ แต่ยังใส่สายระบายลมจากช่องเยื่อหุ้มปอด ยังคงงดน้ำ และอาหาร และให้สารน้ำและยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ แผนการรักษาขณะนี้คือเฝ้าระวังภาวการณ์ติดเชื้อและสังเกตอาการอัตราการหายใจที่ยังมีอาการหอบเล็กน้อย อีกไม่นานก็จะกลับมาเป็นปกติ คือ ว่ารอดจากวิกฤติ 80 % หาย ไม่หาย 20 % การรักษาดูแล “น้องไอดิน” ขณะนี้ไม่ต่ำกว่า 3 – 4 หมื่นบาท ซึ่งอยู่ในการรักษาดูแลในโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติ ในประเภท 30 บาท รักษาทุกโรค
พญ.รักฝัน สวัสดิ์พาณิชย์ แพทย์ชำนาญการพิเศษ ด้านศัลยกรรมทรวงอก และเป็นแพทย์ในทีมรักษาอาการ “น้องไอดิน” เปิดเผยว่า หมอได้รับผลกระทบที่มีภาพลงในโลกโซเชี่ยลฯ เพราะภาพข่าวที่เป็นภาพประกอบโดยมีหมออยู่ในภาพ ซึ่งไม่เกี่ยวกับหมอและเนื้อหาก็ไม่มีส่วนกล่าวถึงหมอในทางเสียหาย แต่ในโลกโซเชี่ยลฯ มีการแค๊ปภาพไปลงแม้ว่าไม่มีรายละเอียดของข่าวตามข่าวที่ นสพ.ลง หรือออนไลน์อื่นๆได้ลง ประชาชนที่อ่านข่าวและดูภาพประกอบเกิดความเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นแม่ของเด็ก มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบเค้นข้อเท็จจริงกลับตน รู้สึกเสียใจมากในเวลาไม่กี่ชั่วโมงจากที่หมอ 1 ในทีมแพทย์ช่วยรักษากลายเป็นผู้ร้าย ตกเป็นจำเลยของสังคม มีการระบายอารมณ์กล่าวหาตนแบบเสียๆหายๆอย่างรุนแรงมาก
ในส่วนตัวยอมรับว่ามีความเสียใจอย่างมาก ขอให้สื่อมวลชนที่เสนอภาพข่าวของหมอในโลกโซเชี่ยนเน๊ตเวิร์ค 2 เรื่อง คือ การทำงานข่าวขอให้ดูแลคณะทีมแพทย์ที่เข้ารักษาน้องไอดินด้วยในเรื่องเนื้อหาข่าวสารที่ออกไปสู่สังคมด้วย และให้มีการระมัดระวังในการเสนอข่าวออกสู่สังคมภายนอก ในการที่จะนำเสนอข่าวทุกครั้ง อย่าให้เกิดความเสียหายกลับบุคคลที่ 3 ประชาชนทั่วไปการเสพข่าวต้องใช้วิจารณญาณแยกแยะข่าวไหนเป็นความจริง ข่าวไหนเป็นความเท็จ
ด้านนางอภิญญา ก้อยทอง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ในส่วนของ “น้องไอดิน” จะต้องไปแจ้งเกิดที่ อ.แวงใหญ่ ในวันที่ 29 ก.พ. นี้ และทีมสหวิชาชีพ จ.ขอนแก่น จะต้องลงไปหาข้อมูลของ “น้องไอดิน”ในครอบครอบครัวของเขา เพื่อจะประเมินครอบครัวและดูรอบด้านของครอบครัวในเรื่องสุขภาพจิต เศรษฐกิจ และ ในหลายอย่างในครอบครัวของ “น้องไอดิน” ตอนนี้เขามีพ่อ มีแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อมาประเมินหลังจากรักษาหายดีแล้ว “น้องไอดิน”สมควรจะไปอยู่กลับใคร ถ้าประเมินแล้วยังไม่พร้อมแต่เด็กหายก่อน รพ.ขอนแก่นจะต้องทำหนังสือส่งน้องไอดินไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ขอนแก่น หลังจากนั้นจะส่งต่อไปที่บ้านแคนทอง จ.ขอนแก่น เพื่อดูแลคุ้มครองน้องไอดินขณะไม่มีผู้ปกครอง แม้ว่ามีผู้ประสงค์ดีต้องการเด็กอยู่ในความดูแลไม่น้อยกว่า 20 ราย ก็ต้องอยู่ในการพิจาณาของทีมสหวิชาชีพ จ.ขอนแก่นเห็นสมควร
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถึงขณะนี้ ได้มีประชาชนที่เกิดความสงสาร “น้องไอดิน” ได้มาให้เงินสงเคราะห์ช่วยเหลือมียอดเงินร่วม 6 หมื่นบาท พร้อมอุปกรณ์เด็กหลายอย่างเป็นจำนวนมากมาให้กับน้องไอดินที่ รพ.ขอนแก่น โดยเฉพาะเงินสดจะต้องไปเปิดบัญชีในนามน้องไอดิน และมีคณะกรรมการสหวิชาชีพเป็นผู้บริหาร