วังเวียง – หลวงพระบาง – เวียงจันทน์ 4 วัน 5 คืน กับเงิน 4,000 บาท
อาจมีใครหลายคน ออกเดินทาง เพื่อเก็บเรื่องราวระหว่างทางมาเติมเต็มความทรงจำ
แต่อาจมีใครบางคน ออกเดินทาง เพื่อหวังให้เรื่องราวเหล่านั้นช่วยลบเลือนความทรงจำ . . .
การเดินทางในครั้งนี้ มีหัวใจเซเซเป็นแรงผลัก และมีต้นไม้กับภูเขาของวังเวียงเป็นจุดหมาย
ความคิดกังวลร้อยแปดพันเก้าวนเวียนเข้ามาไม่ขาดระยะ
หนึ่งจากในนั้นคือความกลัวกับการออกเดินทางคนเดียว สองจากในนั้นคือกลัวกับการต้องนอนคนเดียว
สามจากในนั้นคือกลัวกับความเหงา สี่จากในนั้นคือกลัวกับเส้นทางข้างหน้าที่คาดเดาไม่ได้
แต่โชคดีที่อีก ห้า หก เจ็ด ถึงพันเก้า จากในนั้นคือเรากลัว .. กลัวว่าจะแพ้ต่อความกลัว
และไม่มีโอกาสได้ลองออกเดินทางคนเดียวสักครั้งในชีวิต
เราเก็บความกลัวทั้งหมดที่มี ยัดมันใส่ไปในกระเป๋าสีแสด
แล้วกดทับด้วยใจช้ำช้ำรูปทรงไม่เข้าที่เข้าทาง
เอาล่ะ สัญญาณความพร้อมผลักขาก้าวออกจากบ้าน...
การเดินทางในครั้งนี้ มี ร ถ ไ ฟ ฟ รี เป็นพาหนะ มีคำพูดดีดีเป็นเครื่องนำทาง บวกกับรอยยิ้มหวานหวานเป็นเครื่องกำจัดความเหงา
ณ จุดจุดนี้ หลายคนอาจคิดว่านี่คือกระทู้โลกสวย เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว หยุดประเดี๋ยวนี้!!
นี่กระทู้บู้บู้นะ แบกเป้ ลุยเดี่ยว เที่ยวลาว --- อะไรทำนองนี้ ---- โอเค เข้าเรื่องกันเลยค่ะท่านผู้อ่าน
การเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นในคืนวันสุดท้ายของภาคเรียนที่ 1/2558 ซึ่งก็ตรงกับช่วงเดือน ตุ ล า ค ม 2 5 5 8
เราพึ่งว่าง และอยากแชร์เรื่องราวการไปลาวแบบ * ดิ บ ดิ บ * ให้ได้เป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจ
Page 1 / 5
1. ออกเดินทางโดย *รถไฟฟรี* จากสถานีหัวลำโพง ปลายทางคือจังหวัดหนองคาย
กำหนดการเขาบอกว่า ออก 2 ทุ่ม ถึง 9 โมงเช้า
การเดินทางในครั้งนี้ไม่สามารถอธิบายความรู้สึกได้จริงจริง คงบอกได้แค่ว่า ไม่ลองไม่รู้ มันสุดติ่งมาก มาก.
อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณรถไฟฟรีที่ทำให้เราได้เห็นโลกในมุมมองใหม่ มันทำให้เราคิดอะไรได้เยอะมาก
โลกมีมุมอื่นอื่นอีกมากมายที่เราไม่เคยได้เห็น แม้เป็นมุมที่ดูไม่สวยงามดั่งใจ
แต่เมื่อได้มองดีดี ทุกสังคม ทุกที่ มีความสุขเล็กเล็กซ่อนอยู่เสมอ
เราไม่มีทางรู้ จนกว่าจะหามันเจอ และเมื่อเราได้พบความสุขนั้น หัวใจเราจะพองโต และจดจำมันได้ตลอดไป
เราได้พบเพื่อนร่วมเดินทางลำดับที่ 1 --- แม่และเด็กน้อยน่ารัก บุคคลผู้เป็นเพื่อนคุย และได้รับรางวัลนักแบ่งปันรอยยิ้มดีเด่นจากเรา
2. นั่งรถสามล้อไปที่สถานีขนส่ง และต่อรถทัวร์ ไปถึงวังเวียงเลย ราคา 270 บาท มีเบาะให้นั่งแถมที่วางเท้าให้ด้วย
....ระหว่างทาง รถจะจอดให้ทำเรื่องเข้าประเทศลาว แสดง passport จ่ายเงิน แลกเงิน เยอะแยะไปหมด
เราไม่รู้อะไรหรอก จนถึงตอนนี้ ยังงงอยู่เลย เดินเดินตามเขา ทำทำตามเขา เดี๋ยวมันก็ผ่านไป //
รถบรรทุกคนคันนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-7 ชั่วโมง บนพื้นผิวขรุขระ ขึ้นเขาบ้าง คดเคี้ยวบ้าง กระทั่งจุดหมายของเราอยู่ตรงหน้า
มีเด็กนักเรียนเดินกลับบ้านเต็มไปหมด และข้างทางเดินเท้าถูกจองพื้นที่ไว้ด้วยร้านขายแพนเค้ก
จากที่ได้เห็น ต้องยอมรับว่าวังเวียงเป็นเมืองของนักท่องเที่ยวจริงจริง โดยเฉพาะหนุ่มสาวเกาหลี .. .. พรึ่บบบบบ*
3. เราเดินหาที่พักสักระยะ เพราะมัวมาเปรียบเทียบราคา คิดไว้ว่าจะเซฟรายจ่ายให้มากที่สุด
จนได้ที่พักชื่อว่า *บ้านสุขสมบูรณ์* ในราคา 60,000 กีบ ที่นี่มี wifi free ซึ่งเป็นปัจจัยจำเป็นมากเพราะเราปิดระบบโทรศัพท์
ใช้แต่ wifi นี่แหละ เหมือนตัดขาดโลกภายนอกเลยทีเดียว ใช้สัญญาณ internet เพื่อหาข้อมูลที่เที่ยว เพราะเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่
รู้จักแค่ว่านี่คือ วั ง เ วี ย ง มาถึงแค่นี่ มาหาเอาตรงนี้แหละ
*มีที่พักติดน้ำ ชื่อว่า Backpacker 60,000 กีบพร้อมอาหารเช้า (ได้เจอตอนไปเดินเล่น ใครสนใจลองไปดูได้นะคะ )
บรรยากาศที่วังเวียง * ดี * ต้นไม้และภูเขา * สวยงาม * อย่างที่ใครใครเขาว่าไว้จริงจริง
ใครที่เคยไปวังเวียง คงได้สัมผัสความรู้สึกแบบเดียวกัน ภูเขาล้อมรอบเรา ธรรมชาติที่ตาเห็นสวยงามเกินจะบรรยาย
4. กลางคืนในวังเวียง คงหนีไม้พ้น ซากุระ บาร์ เราไม่เคยรู้ข้อมูลนี้ แต่ที่ตัดสินใจเดินเข้าไป เพราะไฟสีเหลืองหน้าร้านมันพยายามเชิญชวนเรา
แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงจริง // ที่นี่มี FREE DRINK // หนึ่งชั่วโมงเต็ม สนุกสนานเฮฮามาก
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้สำคัญยิ่งไปกว่าที่เราได้เจอกับใครบางคน ที่นั่น
ซึ่งกลายมาเป็นเพื่อนร่วมเดินทางลำดับที่ 2 และเป็นบุคคลสำคัญในความทรงจำ จนถึง ณ ขณะนี้
ฉะนั้น แนะนำแนะนำ เพราะหากกลางคืนมันมืดและเหงา ซากุระบาร์อาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ณ วังเวียง
Page 2 / 5
5. เช้าวันนี้ มีนัดส่งตรงจากเมื่อคืน ให้ไปร่วม One-Day-Trip กับครูตุ้มและผองเพื่อน
( ล่องห่วงยางเข้าถ้ำ พายเรือคยัก ไปถ้ำจัง บลูลากูน ถ้ำปูคำ ถ้ำช้าง พร้อมอาหารกลางวัน )
ราคาอยู่ที่ 130,000 กีบ สนุกมาก คุ้มค่ามาก ถ้าไม่เจอทุกคนในวันนั้น คิดไม่ออกเลยว่าจะเคว้งที่วังเวียงขนาดไหน
ขอบคุณครูตุ้ม จ๋า นัส เฟิร์น แบงค์ ท็อป ที่ให้นัทได้ไปเที่ยวด้วย และขอบคุณที่ทำให้วันนั้นในวังเวียงเป็นวันที่มีความสุขและน่าจดจำ
ขอบคุณที่ให้ฝากกระเป๋า และไปอาบน้ำที่ห้อง เพื่อนร่วมเดินทางที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน // แต่คุ้นเคยและไว้ใจเหมือนรักกันมานาน
ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งของความบังเอิญที่ความหมาย ... อ่านอยู่หรือเปล่า ยังคิดถึงเสมอน๊า
ฝากยิ้มนี้ไปให้ถึงนะคะ ถ้าดูอยู่ก็ยิ้มตอบด้วยนะ :')
จขกท. เป็นคนรักเด็กค่ะ 55555
6. คืนนี้ .. นอนบนรถทัวร์ // จากห้าคืนที่มา นอนบนรถไฟ 2 คืน (ไป-กลับ) นอนบนรถทัวร์ 2 คืน และนอนเกสเฮาส์ 1 คืน
คืนนี้เรานอนจากวังเวียงเพื่อจะไปหลวงพระบาง ไม่มีข้อมูลหรอก ไม่รู้จะไปไหน เที่ยวอะไร รู้แค่ว่ามีรถไปถึง และอยากจะไป
ค่ารถมีถูกแพงหลายหลากหลากหลาย แต่ราคาที่ดีที่สุดที่เราได้ คือ 100,000 กีบ ออกตอนกลางคืน ไปถึงเช้าพอดี
ระหว่างที่รอ ความมืดและความเงียบ เมื่อมารวมกันมันกลายเป็นความเหงาไปเลย
ยิ่งมองไปข้างหน้า ต้องบอกว่า ตะ-เตือน-ไต มาก กกกกกกกก

Page 3 / 5
7. เป็นความบังเอิญของเช้าวันใหม่ เราตื่นนอนขึ้นมาพร้อมกับผู้หญิงข้างข้างหนึ่งคน *วี* จากมาเลเซีย
บุคคลผู้กลายเป็นเพื่อนร่วมเดินทางลำดับที่ 3 และหลังจากลงรถทัวร์ ขึ้นสามล้อเข้าในเมือง
เราก็ได้พบเพื่อนร่วมเดินทางลำดับที่ 4 คือฮยอกและสเตฟาน จากสวิสเซอร์แลนด์
เราทั้งสี่คนตัดสินใจเหมารถสองแถว ตะลอนเที่ยวในหลวงพระบาง
ไปถ้ำปากอู น้ำตกกวางสี น้ำตกตาดแซ่ แต่ละที่สวยมาก โดยเฉพาะน้ำตก สวยมากจริงจริง
1. ถ้ำปากอู : ต้องนั่งเรือข้ามไป วิวสวยมาก แม่น้ำกว้างสุดลูกหูลูกตา ถูกโอบล้อมด้วยป่าเขาและต้นไม้
2. น้ำตกตาดแซ่ : สามารถเล่นน้ำได้ และมีที่นั่ง นอนสำหรับอาบแดด น้ำใส และ เย็นสดชื่น ชื่นใจจริงจริง
3. น้ำตกกวางสี : ขอยกให้เป็น The best of this TRIP สวยมาก เหมือนในรูปภาพที่เคยเห็น น้ำตกสูง ตกกระทบพื้น
ไอน้ำเป็นละอองกระเซ็นมา โอ้ยยยย แนะนำแนะนำ สวยมากจริงจริง
เราปิดทริปหลวงพระบางด้วยการเดินเล่นตลาดกลางคืน สินค้าที่มีนั้นไม่ต่างจากตลาดกลางคืนในไทย
คือเน้นสินค้าท้องถิ่น และของฝาก เราเดินเล่น กินข้าวก่อนจะนั่งรถนอนจากหลวงพระบาง
เพื่อไปถึงเวียงจันทน์ในเช้าวันรุ่งขึ้น (ราคา 150,000 กีบ) – แ พ ง ก ว่ า ที่ คิ ด ห น้ า ซี ด เ ล ย
[CR] ไปเที่ยวกันไหม l ไป วั ง เ วี ย ง กัน (4 พัน 4 วัน 5 คืน)
อาจมีใครหลายคน ออกเดินทาง เพื่อเก็บเรื่องราวระหว่างทางมาเติมเต็มความทรงจำ
แต่อาจมีใครบางคน ออกเดินทาง เพื่อหวังให้เรื่องราวเหล่านั้นช่วยลบเลือนความทรงจำ . . .
การเดินทางในครั้งนี้ มีหัวใจเซเซเป็นแรงผลัก และมีต้นไม้กับภูเขาของวังเวียงเป็นจุดหมาย
ความคิดกังวลร้อยแปดพันเก้าวนเวียนเข้ามาไม่ขาดระยะ
หนึ่งจากในนั้นคือความกลัวกับการออกเดินทางคนเดียว สองจากในนั้นคือกลัวกับการต้องนอนคนเดียว
สามจากในนั้นคือกลัวกับความเหงา สี่จากในนั้นคือกลัวกับเส้นทางข้างหน้าที่คาดเดาไม่ได้
แต่โชคดีที่อีก ห้า หก เจ็ด ถึงพันเก้า จากในนั้นคือเรากลัว .. กลัวว่าจะแพ้ต่อความกลัว
และไม่มีโอกาสได้ลองออกเดินทางคนเดียวสักครั้งในชีวิต
เราเก็บความกลัวทั้งหมดที่มี ยัดมันใส่ไปในกระเป๋าสีแสด
แล้วกดทับด้วยใจช้ำช้ำรูปทรงไม่เข้าที่เข้าทาง
เอาล่ะ สัญญาณความพร้อมผลักขาก้าวออกจากบ้าน...
การเดินทางในครั้งนี้ มี ร ถ ไ ฟ ฟ รี เป็นพาหนะ มีคำพูดดีดีเป็นเครื่องนำทาง บวกกับรอยยิ้มหวานหวานเป็นเครื่องกำจัดความเหงา
ณ จุดจุดนี้ หลายคนอาจคิดว่านี่คือกระทู้โลกสวย เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว หยุดประเดี๋ยวนี้!!
นี่กระทู้บู้บู้นะ แบกเป้ ลุยเดี่ยว เที่ยวลาว --- อะไรทำนองนี้ ---- โอเค เข้าเรื่องกันเลยค่ะท่านผู้อ่าน
การเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นในคืนวันสุดท้ายของภาคเรียนที่ 1/2558 ซึ่งก็ตรงกับช่วงเดือน ตุ ล า ค ม 2 5 5 8
เราพึ่งว่าง และอยากแชร์เรื่องราวการไปลาวแบบ * ดิ บ ดิ บ * ให้ได้เป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจ
Page 1 / 5
1. ออกเดินทางโดย *รถไฟฟรี* จากสถานีหัวลำโพง ปลายทางคือจังหวัดหนองคาย
กำหนดการเขาบอกว่า ออก 2 ทุ่ม ถึง 9 โมงเช้า
การเดินทางในครั้งนี้ไม่สามารถอธิบายความรู้สึกได้จริงจริง คงบอกได้แค่ว่า ไม่ลองไม่รู้ มันสุดติ่งมาก มาก.
อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณรถไฟฟรีที่ทำให้เราได้เห็นโลกในมุมมองใหม่ มันทำให้เราคิดอะไรได้เยอะมาก
โลกมีมุมอื่นอื่นอีกมากมายที่เราไม่เคยได้เห็น แม้เป็นมุมที่ดูไม่สวยงามดั่งใจ
แต่เมื่อได้มองดีดี ทุกสังคม ทุกที่ มีความสุขเล็กเล็กซ่อนอยู่เสมอ
เราไม่มีทางรู้ จนกว่าจะหามันเจอ และเมื่อเราได้พบความสุขนั้น หัวใจเราจะพองโต และจดจำมันได้ตลอดไป
เราได้พบเพื่อนร่วมเดินทางลำดับที่ 1 --- แม่และเด็กน้อยน่ารัก บุคคลผู้เป็นเพื่อนคุย และได้รับรางวัลนักแบ่งปันรอยยิ้มดีเด่นจากเรา
2. นั่งรถสามล้อไปที่สถานีขนส่ง และต่อรถทัวร์ ไปถึงวังเวียงเลย ราคา 270 บาท มีเบาะให้นั่งแถมที่วางเท้าให้ด้วย
....ระหว่างทาง รถจะจอดให้ทำเรื่องเข้าประเทศลาว แสดง passport จ่ายเงิน แลกเงิน เยอะแยะไปหมด
เราไม่รู้อะไรหรอก จนถึงตอนนี้ ยังงงอยู่เลย เดินเดินตามเขา ทำทำตามเขา เดี๋ยวมันก็ผ่านไป //
รถบรรทุกคนคันนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-7 ชั่วโมง บนพื้นผิวขรุขระ ขึ้นเขาบ้าง คดเคี้ยวบ้าง กระทั่งจุดหมายของเราอยู่ตรงหน้า
มีเด็กนักเรียนเดินกลับบ้านเต็มไปหมด และข้างทางเดินเท้าถูกจองพื้นที่ไว้ด้วยร้านขายแพนเค้ก
จากที่ได้เห็น ต้องยอมรับว่าวังเวียงเป็นเมืองของนักท่องเที่ยวจริงจริง โดยเฉพาะหนุ่มสาวเกาหลี .. .. พรึ่บบบบบ*
3. เราเดินหาที่พักสักระยะ เพราะมัวมาเปรียบเทียบราคา คิดไว้ว่าจะเซฟรายจ่ายให้มากที่สุด
จนได้ที่พักชื่อว่า *บ้านสุขสมบูรณ์* ในราคา 60,000 กีบ ที่นี่มี wifi free ซึ่งเป็นปัจจัยจำเป็นมากเพราะเราปิดระบบโทรศัพท์
ใช้แต่ wifi นี่แหละ เหมือนตัดขาดโลกภายนอกเลยทีเดียว ใช้สัญญาณ internet เพื่อหาข้อมูลที่เที่ยว เพราะเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่
รู้จักแค่ว่านี่คือ วั ง เ วี ย ง มาถึงแค่นี่ มาหาเอาตรงนี้แหละ
*มีที่พักติดน้ำ ชื่อว่า Backpacker 60,000 กีบพร้อมอาหารเช้า (ได้เจอตอนไปเดินเล่น ใครสนใจลองไปดูได้นะคะ )
บรรยากาศที่วังเวียง * ดี * ต้นไม้และภูเขา * สวยงาม * อย่างที่ใครใครเขาว่าไว้จริงจริง
ใครที่เคยไปวังเวียง คงได้สัมผัสความรู้สึกแบบเดียวกัน ภูเขาล้อมรอบเรา ธรรมชาติที่ตาเห็นสวยงามเกินจะบรรยาย
4. กลางคืนในวังเวียง คงหนีไม้พ้น ซากุระ บาร์ เราไม่เคยรู้ข้อมูลนี้ แต่ที่ตัดสินใจเดินเข้าไป เพราะไฟสีเหลืองหน้าร้านมันพยายามเชิญชวนเรา
แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงจริง // ที่นี่มี FREE DRINK // หนึ่งชั่วโมงเต็ม สนุกสนานเฮฮามาก
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้สำคัญยิ่งไปกว่าที่เราได้เจอกับใครบางคน ที่นั่น
ซึ่งกลายมาเป็นเพื่อนร่วมเดินทางลำดับที่ 2 และเป็นบุคคลสำคัญในความทรงจำ จนถึง ณ ขณะนี้
ฉะนั้น แนะนำแนะนำ เพราะหากกลางคืนมันมืดและเหงา ซากุระบาร์อาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ณ วังเวียง
Page 2 / 5
5. เช้าวันนี้ มีนัดส่งตรงจากเมื่อคืน ให้ไปร่วม One-Day-Trip กับครูตุ้มและผองเพื่อน
( ล่องห่วงยางเข้าถ้ำ พายเรือคยัก ไปถ้ำจัง บลูลากูน ถ้ำปูคำ ถ้ำช้าง พร้อมอาหารกลางวัน )
ราคาอยู่ที่ 130,000 กีบ สนุกมาก คุ้มค่ามาก ถ้าไม่เจอทุกคนในวันนั้น คิดไม่ออกเลยว่าจะเคว้งที่วังเวียงขนาดไหน
ขอบคุณครูตุ้ม จ๋า นัส เฟิร์น แบงค์ ท็อป ที่ให้นัทได้ไปเที่ยวด้วย และขอบคุณที่ทำให้วันนั้นในวังเวียงเป็นวันที่มีความสุขและน่าจดจำ
ขอบคุณที่ให้ฝากกระเป๋า และไปอาบน้ำที่ห้อง เพื่อนร่วมเดินทางที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน // แต่คุ้นเคยและไว้ใจเหมือนรักกันมานาน
ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งของความบังเอิญที่ความหมาย ... อ่านอยู่หรือเปล่า ยังคิดถึงเสมอน๊า
ฝากยิ้มนี้ไปให้ถึงนะคะ ถ้าดูอยู่ก็ยิ้มตอบด้วยนะ :')
จขกท. เป็นคนรักเด็กค่ะ 55555
6. คืนนี้ .. นอนบนรถทัวร์ // จากห้าคืนที่มา นอนบนรถไฟ 2 คืน (ไป-กลับ) นอนบนรถทัวร์ 2 คืน และนอนเกสเฮาส์ 1 คืน
คืนนี้เรานอนจากวังเวียงเพื่อจะไปหลวงพระบาง ไม่มีข้อมูลหรอก ไม่รู้จะไปไหน เที่ยวอะไร รู้แค่ว่ามีรถไปถึง และอยากจะไป
ค่ารถมีถูกแพงหลายหลากหลากหลาย แต่ราคาที่ดีที่สุดที่เราได้ คือ 100,000 กีบ ออกตอนกลางคืน ไปถึงเช้าพอดี
ระหว่างที่รอ ความมืดและความเงียบ เมื่อมารวมกันมันกลายเป็นความเหงาไปเลย
ยิ่งมองไปข้างหน้า ต้องบอกว่า ตะ-เตือน-ไต มาก กกกกกกกก
Page 3 / 5
7. เป็นความบังเอิญของเช้าวันใหม่ เราตื่นนอนขึ้นมาพร้อมกับผู้หญิงข้างข้างหนึ่งคน *วี* จากมาเลเซีย
บุคคลผู้กลายเป็นเพื่อนร่วมเดินทางลำดับที่ 3 และหลังจากลงรถทัวร์ ขึ้นสามล้อเข้าในเมือง
เราก็ได้พบเพื่อนร่วมเดินทางลำดับที่ 4 คือฮยอกและสเตฟาน จากสวิสเซอร์แลนด์
เราทั้งสี่คนตัดสินใจเหมารถสองแถว ตะลอนเที่ยวในหลวงพระบาง
ไปถ้ำปากอู น้ำตกกวางสี น้ำตกตาดแซ่ แต่ละที่สวยมาก โดยเฉพาะน้ำตก สวยมากจริงจริง
1. ถ้ำปากอู : ต้องนั่งเรือข้ามไป วิวสวยมาก แม่น้ำกว้างสุดลูกหูลูกตา ถูกโอบล้อมด้วยป่าเขาและต้นไม้
2. น้ำตกตาดแซ่ : สามารถเล่นน้ำได้ และมีที่นั่ง นอนสำหรับอาบแดด น้ำใส และ เย็นสดชื่น ชื่นใจจริงจริง
3. น้ำตกกวางสี : ขอยกให้เป็น The best of this TRIP สวยมาก เหมือนในรูปภาพที่เคยเห็น น้ำตกสูง ตกกระทบพื้น
ไอน้ำเป็นละอองกระเซ็นมา โอ้ยยยย แนะนำแนะนำ สวยมากจริงจริง
เราปิดทริปหลวงพระบางด้วยการเดินเล่นตลาดกลางคืน สินค้าที่มีนั้นไม่ต่างจากตลาดกลางคืนในไทย
คือเน้นสินค้าท้องถิ่น และของฝาก เราเดินเล่น กินข้าวก่อนจะนั่งรถนอนจากหลวงพระบาง
เพื่อไปถึงเวียงจันทน์ในเช้าวันรุ่งขึ้น (ราคา 150,000 กีบ) – แ พ ง ก ว่ า ที่ คิ ด ห น้ า ซี ด เ ล ย