นิยายรักไทย ถ้าเขียนนางเอกเต็มใจมีซัมติงกับพระเอกก่อนแต่ง จะโดนมองว่าแร่ด ส่งเสริมให้หญิงไทยไม่มียางอายฤา

ที่มาเกิดจากความสงสัยเวลาเห็นนิยายไทยใน 7-11 ส่วนใหญ่ก็เป็นนิยายรักโรแมนติก...และหน้าปกนิยายก็พระเอกหล่อ นางเอกสวย (แถมอึ๋มด้วย)
และเมื่ออ่านหลังปก ถ้าไม่มีคำโปรยประเภท พระเอกจ้องจะงาบนางเอก ก็มักจะเอาฉากที่นางเอกจะโดนข่มขืนมาเป็นจุดขายหนังสือ


...วันนึงเกิดเข้าไปซื้อของใน 7-11 เห็นมีคนมายืนอ่านเลือกนิยายจากชั้น ซึ่งคนซื้อนั้นเป็น...เด็กหญิงผมทรงมารุโกะ ในชุดนักเรียน วัยน่าจะประถมปลาย ก็ยืนคุยเลือกนิยายกับเพื่อนว่า...
"ต๊าย นางเอกเรื่องนี้แร่ดอะ ยอมมีอะไรกับพระเอกก่อนแต่ง โครตคันเลยเนอะ"
อีกคนก็หยิบอีกเล่มขึ้นมา แล้วคุยกับเพื่อนว่า
"เล่มนี้ดีกว่า พระเอกข่มขืนนางเอก ต้องโครตมันส์แน่ๆ เอาเล่มนี้แหละ..." แล้วพวกนางเด็กน้อยๆ ก็หยิบหนังสือนิยายเล่มนั้นไปจ่าย 7-11....

นี่เรามาถึงจุดนี่ได้ยังไงเนี่ย จุดที่นักเรียนหญิงวัยที่หน้าอกยังไม่ใส่คัพ A (แต่เมนท์คงมาแล้ว เพราะได้ยินว่าเด็กยุคนี้ 9 ขวบเมนท์ก็มาแล้ว) ชอบอ่านนิยายข่มขืนเพศเดียวกัน ในขณะที่นิยายที่เขียนให้พระนางเต็มใจทั้งคู่ กลับโบ้ยว่าฝ่ายหญิงที่สมยอมเป็นคนไม่มียางอายFacepalm


ตัวอิฉันเองก็ขอยอมรับก่อนว่า เคยผ่านในจุดที่ชอบอ่านนิยาย 'รักต้องปล้ำ-ข่มขืน' มา เรื่องแรกที่อ่านก็คือ 'คู่กรรม' นั้นแหละ ส่วนละครก็ดู 'ดาวพระศุกร์' ที่เป็นกระแสบ้านเมืองสมัยนั้นว่า รอดูฉากคุณภาคย์ปล้ำดาวพระศุกร์


และแน่นอนว่าเคยผ่านจุดที่เขียนแฟนฟิคชั่นแนวรักแบบนั้นมาก่อนด้วย เพราะสมัยนั้นมันเหมือนจะมีแต่นิยายแบบนั้นเกร่อจริงๆ จนหลงคิดว่ามันเป็นเอกลักษณ์ความนิยมของนิยายละครไทย ที่ฉากรักต้องเป็นแบบนั้น

   จนกระทั่งเพื่อนรุ่นพี่ท่านนึงได้แนะนำว่า อ่านนิยายไทยแบบนั้นเยอะ ลองมาอ่านนิยายแปลโรแมนต์ฝรั่งดูไหม...ที่รุ่นพี่แนะนำมา เป็นผลงานของ ไอริส โจแฮนเซ่น แปลโดยคุณกัณหา แก้วไทย ของสนพ.แก้วกานต์...ซึ่งรุ่นพี่บอกว่า ลองอ่านดูว่าฉากเข้าพระเข้านางนั้นมันแตกต่างกับของไทยตรงไหน คนเขียนเรื่องนี้เขียนดี ไม่โจ่งครึ๋มมาก และคนแปลนั้นเขาแปลได้ละมุนละไมกว่า

   ยอมรับว่าตอนอ่านครั้งแรกนั้น...เกือบหลับ...เพราะไม่คุ้นกับการอ่านนิยายแปล ที่จะเน้นการบรรยายละเอียดละออกมาก จะไม่ค่อยเหมือนนิยายไทยแนวละคร ที่เขียนเหมือนสคริปต์ละคร ที่มันจะลื่นไหลรวดเร็วกว่า ในขณะที่นิยายฝรั่ง เขียนบรรยายฉากเดียว ปาเข้าไป 5 หน้า
   เมื่ออ่านมาถึงฉากเข้าพระเข้านาง...เกือบที่จะหลับอีกรอบ ยังนึกรำคาญในใจว่า แค่ฉากเข้าพระนาง ปาเข้าไปตั้ง 20 กว่าหน้า ไม่รวดเร็วแบบนิยายไทย โยนขึ้นเตียง ปล้ำกันสองหน้าจบแล้ว

   แต่เมื่ออ่านไปนานๆ มันเกิดอาการ...เริ่มติด...จนต้องไปขวนขวายหาอ่านอีกหลายเล่ม แน่นอนว่าก็มีเรื่องราวประเภทรักต้องปล้ำแบบไทยเหมือนกัน จนคิดว่าหรือว่านิยายไทยเราได้รับอิทธิพลจากนิยายฝรั่งแน่...แต่เท่าที่อ่านนิยายฝรั่งมา ที่เป็นแนวรักยุคปัจจุบัน จะเป็นรักที่ 'เต็มใจ-สมยอม' กัน

   พระเอกในเรื่อง แม้จะมีความต้องการในร่างกายของนางเอก แต่มักจะบอกนางเอกว่า...จะไม่บังคับ รอให้นางเอกพร้อม รอให้นางเต็มใจ...ทั้งๆที่มีสถานการณ์ที่จะรวบหัวรวบหางได้ แต่ก็ไม่ทำ...สิ่งที่พระเอกทำคือ เอาอกเอาใจนางเอก หรือฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัวพอประมาณ เหมือนประมาณสร้างความใคร่ความต้องการให้นางเอกมีความรู้สึก มีไฟก่อน...บางทีนางเอกเต็มใจแล้ว พระเอกยังมีการถามเลยว่าพร้อมไหม ไม่เสียใจนะ?

   จริงๆแนวยุควิคตอเรียนหรือยุคเก่าก็มีแนวรักต้องปล้ำบ้าง แต่จะมีคละเคล้าว่ามีฉากสมยอมเต็มใจบ้าง

   รายละเอียดของฉากเข้าพระเข้านาง แทบจะเขียนบอกทุกขั้นตอนว่าพระเอกจะจุดไฟในตัวนางเอกยังไง ต้องจูบต้องสัมผัสขนาดไหน ต้องเล้าโลมยังไง ซึ่งรุ่นพี่บอกว่า การจะเต็มใจมีเพศสัมพันธ์ทั้งสองฝ่าย มันต้องจุดไฟอีกฝ่ายให้ติด...และเมื่อเสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว ถ้าเป็นการเต็มใจกัน นางเอกจะยิ้มเริงร่ากระแซะพระเอก เหมือนอยากต่ออีกรอบ...ซึ่งมันก็เป็นเรื่องมีความสุขของคนทั้งสองที่มีในชีวิตจริงของคน


    แต่ถ้านางเอกไทยไปแสดงอาการแบบนั้นบ้าง จะถูกนักอ่านชี้หน้าตีตาว่า 'ทำตัวไม่รักนวลสงวนตัว'

    เราเคยอ่านขุนช้างขุนแผนแบบพวกการ์ตูนที่ทำให้เด็กอ่านง่ายๆ เพื่อนสาวที่อ่านด้วยกัน ก็จะพูดว่า "ยัยพิมนี่แร่ดเนอะ มีอะไรกับขุนแผนก่อนแต่งงานเสียอีก"

    แต่ถ้าถึงบทนางแก้วกริยา ที่โดนขุนแผนเป่ามหาระทวยจนหลงมนต์ตกเป็นของขุนแผน เพื่อนสาวจะพูดว่า "สงสารแก้วกริยาเนอะ" แต่ไม่ยักกะด่าขุนแผนว่าเลว แถมรู้สึกดีว่า ท้ายสุดนางแก้วกริยาได้กับขุนแผนแล้วแฮปปี้ดีเสียอีก...ก็ไม่น่าจะต่างกับคนดูละครไทย ที่นางเอกโดนปล้ำ แต่ท้ายสุดก็เชียร์ให้นางได้กับพระเอก ยิ่งถ้านางเอกไม่ยอมแต่งงานดีๆ จะออกอาการรำคาญว่า...จะเล่นตัวอะไรนักหนา พระเอกเค้าก็สำนึกผิดแล้ว เค้าก็ขอเธอแต่งงานแล้ว จะเล่นแง่อะไร แต่งๆไปก็จบดีๆแล้วดีไหมย่ะ...เหมือนที่นักเขียนบางท่านอ้างช่วยแก้ตัวแทนพระเอกในเรื่องว่า "ถึงยังไงพระเอกก็รับผิดชอบ"....อ่า ถ้ารับผิดชอบก็หมายถึง ไม่มีความผิด ซินะFacepalm

      ในทางกลับกัน พระเอกไปมีอะไรกับนางร้าย ซึ่งนางร้ายบางเรื่อง ก็ใช่ว่าจะร้ายตั้งแต่เกิด เต็มใจมีอะไรกับพระเอก แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้มีครั้งแรกกับพระเอก แต่พอพระเอกไปชอบนางเอก ทำให้นางร้ายเสียใจจนหึงหวงออกด้านร้ายออกมา แหงไม่มีใครเห็นใจนางร้ายเลย กลับโบ้ยว่าแร่ดเอง เธอทำตัวเธอเอง...แบบนี้หรือเปล่า ที่นิยายไทยมักไม่เขียนให้นางเอกมีอะไรกับผู้ชายก่อนแต่ง เพราะการมีอะไรก่อนแต่ง สงวนให้แต่บทนางร้ายเท่านั้น (คนละเรื่องกับปล่อยเนื้อปล่อยตัวนะ อย่างแรกหมายถึงการเต็มใจมีอะไรกับแฟนด้วยความรัก ไม่ใช่อย่างหลังที่ออกวันไนซ์สแตนซ์ เจอผู้ชายคนไหนก็คว้าหมด)

    แล้วรู้สึกละครไทย...แทบจะส่วนใหญ่ ในยุค 5 ปี 10 ปี ไม่ค่อยเห็นนางเอกสมยอมเต็มใจมีอะไรกับพระเอกก่อนแต่งเลย หรือถ้ามี ก็จะเป็นประเภทคลุมถุงชนแต่งก่อน เหมือนเป็นไฟต์บังคับว่า ถ้าแต่งงานแล้วการมีอะไรหลังแต่งคือเรื่องที่ถูกกฎจารีตสังคมแล้ว...การมีอะไรก่อนแต่งเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ทั้งที่จริงๆในสังคมไทย...หญิงไทยอยู่กับแฟนก่อนแต่งมีกันตั้งกี่คู่แล้ว?


    มันทำให้เราเกิดความสงสัยนะว่า...การที่จะเขียนนิยาย(ที่จะนำไปเป็นละคร)ถ้าเขียนเรื่องราวให้นางเอกเต็มใจสมยอมมีอะไรกับพระเอกก่อนแต่งงาน...มันเป็นเรื่องที่ไปส่งเสริมให้เด็กสาวไทย ไปทำตัวแบบนั้นตามฤา? แบบว่าทำได้เพราะนิยายเค้าก็ยังเขียนแบบนั้นเลย...เลยยังต้องเขียนให้นางเอกยังเป็นผู้หญิงยุควิคตอเรียน ที่มองว่าการถูกเล้าโลมเป็นเรื่องผิดบาป ต้องห้ามมีความรู้สึกพอใจในทางเพศ เพราะเป็นเรื่องน่าอายไม่เป็นกุลสตรี? การถูกข่มขืนเป็นเรื่องน่าสงสารกว่า...แต่กลับเชียร์ให้นางเอกได้กับคนที่ล่วงละเมิดเธอเอง เพราะเขาเป็นพระเอก?

    ในขณะที่นิยายฝรั่ง การที่นางเอกมีอะไรก่อนแต่ง มันเป็นเรื่องธรรมดาของฝรั่ง เป็นเรื่องธรรมชาติของร่างกายคนที่มีความต้องการกันได้ รวมถึงเป็นความคิดของฝรั่งว่า อยู่กันก่อนแต่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่เป็นการศึกษาว่าถ้าใช้ชีวิตคู่กันเวิร์คแล้ว ค่อยไปยังขั้นแต่งงานแต่งการกันต่อไป

    หรือแม้แต่ในการ์ตูนญี่ปุ่น เอาเป็นแนวรักโรแมนติกปกตินะ เอาที่ไม่ใช่แนว H...นางเอกมีอะไรกับพระเอกในวัยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ แต่หาได้น้อยเรื่องมากที่จะข่มขืนบังคับจิตใจอีกฝ่าย

      ปัจจุบันเราแทบจะไม่แตะอ่านนิยายแนวข่มขืนบังคับใจนางเอกแล้วนะ คงเพราะอายุมาก คงเพราะอ่านมาเยอะจนเอียน จนรู้สึกไม่เมกเซ้นส์กับความจริง หรือเวลามีละครไทยที่ชอบโปรโมทในไทยรัฐว่ามีฉากปล้ำ ยิ่งเบือนหน้าหนี ไม่เข้าใจว่าเบื้องหลังกองละคร คือการเอาฉากข่มขืนมาโปรโมทเนี่ยนะ?

      ปัจจุบันเราก็อ่านนิยายไทยของรุ่นน้องที่ส่งมาให้อ่าน มีเรื่องราวที่นางเอกมีอะไรกับพระเอกก่อนแต่ง แต่ก็เต็มใจสมยอมกันทั้งสองฝ่าย อ่านแล้วก็รู้สึกเมกเซ้นส์ดีว่ามันเป็นชีวิตจริงของมนุษย์

      ...แต่ก็ยังมีนิยายไทยอีกมากบนชั้นวางขาย ที่ยังเน้นขายฉากรักต้องปล้ำ โดนปล้ำแล้วต้องรัก ถ้าไม่แต่งด้วยถือว่าโง่ ซึ่งเป็นนิยายที่คนนิยมซื้อมากกว่า...นิยายที่เต็มใจมีกันทั้งสองฝ่าย กลับถูกมองว่าจะไปส่งเสริมให้คนอ่าน(ผู้หญิง)ไปทำตัวแร่ดก่อนวัยอันควร?

      หรือว่าการข่มขืนในนิยายกับในชีวิตจริงนั้น คนอ่านเค้าสามารถแยกแยะกันได้? นิยายเรื่องเดียวแต่มองได้สองมุมก็มี เหมือนนิยายรักสมยอม บางคนมองว่าเรียล บางคนมองว่าชี้โพรงให้กระรอก...ส่วนนิยายรักต้องปล้ำ บางคนมองว่าเสื่อมถอย บางคนมองว่ามันเป็นเรื่องของจินตนาการที่อย่าไปปะปนกับชีวิตจริงมากนัก คนอ่านก็ใช่จะยอมไปใจง่ายเสียตัวให้คนง่ายๆในชีวิตจริงที่ไหน
      
      อิฉันไม่อยากนึกถึงน้องสองคนวัยประถมที่ซื้อนิยายแนวนี้ไปแล้ว เขาจะแยกแยะว่ามันคือความสนุกแค่ในนิยายได้จริงๆหรือ?


เพื่อนๆ มีความคิดเห็นว่าอย่างไรคะ ว่าทำไมนิยาย-ละครรักไทยส่วนใหญ่ ยังเน้นไปเรื่องรักต้องปล้ำ ปล้ำแล้วต้องรัก คนดูคนอ่านชอบกว่าจะไปอ่านนิยายประเภทเต็มใจมีอะไรกัน แต่โดนมองว่านางเอกทำตัวแร่ด ไม่เหมาะเป็นกุลสตรี?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่