อันที่จริงไม่ใช่รีวิว 100% หรอก ออกจะโม้บ้าง บ่นบ้าง เลอะเทอะบ้าง ถ้าไม่ชอบอ่านก็ข้ามๆไปก็ได้ไม่ว่ากัน เป็นแนวการเขียนแบบเล่าสู่กันฟังมากกว่าตั้งหน้าตั้งตารีวิว
อยากให้เข้าใจถึงอารมณ์ว่า ทริปเที่ยวเกาะช้างครั้งนี้ฉันไปไหนมาบ้าง เจออะไรบ้าง ดีหรือไม่ดี แนะนำไหม ประมาณนี้
ทริปเที่ยวเกาะช้างนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าพวกเราไปอยากไปเสม็ดกันก่อน เอ๊ะ!ยังไง งง? เอ่อ...เราก็งง
ว่าง่ายๆ คือตอนแรกวางแผนจะไปเที่ยวเสม็ดกันดิบดี แต่ด้วยเรื่องที่พักแล้วหลายๆเรื่อง เลยเปลี่ยนแผนไป "เกาะช้าง”
ใช่แล้ว "เกาะช้าง" !!!!!
ซึ่งเกาะนี้เคยไปเที่ยวมามานมากแล้ว (ตอนนี้เปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว)
เอาล่ะพูดพร่ำเยอะแล้ว เริ่มไปเกาะช้างกันเลยดีกว่าเนาะ พยายามจะเล่าให้ละเอียดแล้วกัน...
DAY 1
ตอนแรกทั้งทริปมีไปกันแค่ 5 คน มีรถ 1 คัน
คุยกันในไลน์ว่า นัดไปเจอกันที่ แอร์พอร์ตลิ้ง ลงสถานีหัวหมาก เจอกันไม่เกิน 3 ทุ่ม >> ทุกคนโอเค
แต่!!! ก่อนจะเดินทางเพียง 5 นาที ก็มีเพิ่มมาอีกคน เป็น 6 คน (ชาย2หญิง4)และมีรถเพิ่มอีก 1 คัน (เซอร์ไพรส์เกิ้นนนน)
ก็เลยต้องเปลี่ยนแผนกะทันหัน รถ 2 คัน แบ่งกันไปคันละ 3 คน
คันของเรา(น้องมาสด้าสีดำ) เริ่มต้นจากแถวๆนพวงศ์
คันของเพื่อเรา(น้องฮอนสีขาว) เริ่มต้นจากแถวๆพัฒนาการ
หลังจากเลิก จัดนู้นนี้ก็ปาไปประมาณ 18.00 น. ก็ล้อหมุนทันที
แล้วก็นัดกันไปเจอบนจุดพักรถบนมอเตอร์เวย์
ก็อย่างเรา เริ่มจากนพวงศ์ ก็เก็บเส้นทางตามนี้เลย นพวงศ์ >> บางใหญ่ >> แคราย >> ขึ้นทางด่วน >> ตามเส้นพระราม 9 >> ทางหลวงพิเศษ กรุงเทพ-ชลบุรี หรือ Motorway นั่นเอง
ส่วนเพื่อนก็ง่ายเลย พัฒนาการ >> ทางด่วน >> ตามเส้นพระราม 9 >> Motorway
และแล้วเราก็มาเจอกันครั้งแรกที่จุดพักรถบน Motorway
ออกจะโล่ง เพราะตอนนี้น่าจะ 22.00 น.
จุดนี้ให้ความฟิน 5 ปีกนางฟ้า เพราะได้เจอเพื่อนสมัยเรียนที่ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงพวกแกจัง 555+
เสร็จแล้วก็นัดแนะกันว่าจะขับตามๆกันไปนะ
เพราะวางแผนไว้ว่าจะรีบขับไปให้ถึง จ.ตราด เร็วๆ และหาที่พักนอนกัน
ตอนเช้าตื่นปุ๊บก็ไปอ่าวธรรมชาติขึ้นเรือเลย กลัวว่าถ้าไปช้าจะรอรถขึ้นเรือนาน ทำให้เสียเวลาเที่ยว
พร้อมกับออกรถทันที เพื่อไม่ให้เสียเวลา
เราก็ขับตามกันไปเรื่อยๆ อาศัยขุ่นพี่ GPS เป็นช่วงๆ ถึงพี่ชอบพาลัดพาหลงก็ยอม
ลงจาก motorway >> ไปชลบุรี เสียค่าขึ้น motorway >> ไปเส้นอ.บ้านบึง อ.แกลง แต่ช่วงที่ไปถนนทำทาง เบี่ยงกันให้มันเลยฮ่ะ แถมยังเจอเพื่อนร่วมทางไปเป็นผู้พิชิตบุญแห่งเขาคิฌกูฏด้วย รถติดแดงเถือกเลยจ้า >> ตามป้าย จ.ระยอง >> ตามป้าย จ.จันทบุรี >> ตามป้าย จ.ตราด
แล้วพอเข้าสู่ป้าย จ.ตราด >> แล้วก็ตามป้ายที่ไป อ. แหลมงอบ >> หลังจากนั้นจะมีป้ายบอกไป อ่าวธรรมชาติ >> เกาะช้างเฟอร์รี่
ทางตั้งแต่เข้าสู้ จ. ตราด ไม่ได้ซับซ้อนค่ะ ไม่พึ่งคุณGPS ก็ได้ ไม่หลง เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ป้ายบอกทางมีเป็นระยะถี่ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวไม่พลาดที่จะไปเที่ยวชมล่ะนะ
DAY 1 แลดูสั้นๆเนอะ
DAY 2
เอาล่ะ เริ่มจะถึงจุดไคล์แม็กซ์แรกกันล่ะ
พวกเราไปถึงอ่าวธรรมชาติประมาณ 02.00 AM. ว่าง่ายๆ เวลาตี2
ซึ่งตามแผนต้องหาที่พักเพื่อนอน
แต่แถวนั้นไม่มีที่พักค่ะ มืดและมนมาก อารมณ์กลางป่า
น้ำมันรถคันเราก็เหลือ 3 ขีด กลัวว่าถ้าไปรอที่ท่าเรือเฟอร์รี่เลย พอข้ามไปเกาะช้างน้ำมันจะไม่พอ
จึงปรึกษากันว่า จะย้อนออกไปตรงถนนเส้นหลัก ที่มีปั๊ม ปตท. ตรงก่อนเลี้ยวขวาเข้าอ่าวธรรมชาติ เพื่อไปเติมน้ำมันให้เต็มถัง แวะนอนในปั๊ม และทำธุระกัน อ่ะ...โอเคตกลงกันได้ก็เลี้ยวออกไป น่าจะประมาณ 25 กิโลเมตรเห้็นจะได้
จอดรถที่ปั๊มประมาณ 02.30 AM. ตีสองครึ่ง
OMG! ไหมล่ะแก นี่ฉันต้องนอนปั๊มจนถึงเช้าหรือนี่
จุดนี้ให้ความมุนสะพรึงที่ 1 กะโหลกพอ เพราะยังมีที่หนักกว่านี้
ก็ผู้ชายก็เช็คสภาพรถกันไป
ส่วนผู้หญิงก็ไปล้างหน้าแปรงฟันเตรียมตัวนอน
แต่ตอนนั้นยังตาแจ้งกันอยู่ก็นั่งเล่น ถ่ายรูปกัน หน้าเซเว่นก่อน
ยังตื้นเต้นดีดเด้งกันอยู่สินะ
แวะเข้าไปในเซเว่นซื้อขนมกินเล่น โอ้วแม่เจ้า...เราเจอสิ่งนี้
ขวดซอสในเซเว่นที่กลายเป็นตำนานไปแล้ว แต่ที่นี้มีอยู่ค่ะคุณณณ
ถึงจะไม่มีหลุมผักก็ไม่เป็นไร
ถือเป็นของหายาก แชะๆ ไว้สักหน่อยเนาะ
ยังๆ ยังมีอารมณ์เล่นนะแก พอเวลาผ่านไปประมาณ ตี3 เพื่อนๆและชายหนุ่มทั้งสองผู้เป็นโชเฟอร์ก็เริ่มทยอยกันไปนอน เหลือชะนีน้อยหอยสังข์อีกสามคนที่ยังเด้งดึ๋งไม่เลิก ก็เลยตัดสินใจนอนเกลือกกลิ้งอยู่ที่ม้านั่งหน้าเซเว่นซะเลย คุยกันไปเรื่อยเปื่อยตั้งแต่เรื่องงาน ยันการ์ตูนมังงะ เพราะตามันแจ้งแล้ว
อีกสักพักก็แบ็คแพ็คเกอร์อีกสองคนมานั่งเป็นเพื่อน มีรถแวะเวียนมาจอดซื้อของบ้าง จอดนอนบ้างทั้งคืน ราตรีนี้จึงยาวปายยยยย~
แคปชั่นไม่มี ที่นอนดีๆก็เช่นกัน
พอถึงเวลาตีห้าปุ๊บอิสามคนที่นั่งเรื่อยเปื่อยไร้สาระก็เริ่มหาของกินในเซเว่นจ๊ะ แถมปั๊มน้ำมันก็เปิดบริการแล้วด้วย
จึงได้เวลาไปปลุกเพื่อนและเหล่าโชเฟอร์ชายตื่น ไปล้างหน้าเติมน้ำมัน
แล้วมุ่งหน้าสู่ท่าเรือเฟอร์บี้ เอ้ย! เฟอร์รี่เกาะช้างกันโลดดดดดด
พอไปถึงท่าเทียบเรือของเรารอบแรกเลย นะ...ที่จริงมาถึงตั้งแต่ตีสองและ
มีรถมาก่อนหน้าเราหลายคันเยอะอยู่เหมือนกัน แถมยังมีลุงมอเตอร์ไซต์พ่วงขายทุกอย่างข้ามฝั่งไปด้วย
พระอาทิตย์กำลังเลียของฟ้า สวยงามมาก
เสียค่าเรื่อเฟอร์รี่ข้ามฝั่งทั้งหมด 720 บาท ดังนี้
- รถยนตร์ 2 คัน >> 120บาท : 1 คัน >> 240 บาท
- คน 6 คน >> 80บาท : 1 คน >> 480 บาท
เสียตังแล้วข้ามไปยังแกรนด์ไลน์เลย ผิดๆ ข้ามไปเกาะช้างก่อน
พระอาทิตย์ขึ้นที่ขอบฟ้า ถึงเวลาสนุกแล้วสิ ถึงเวลาสนุกแล้วสิ

รถเราแลดูเป็นแกะดำเลยอ่ะ
ตอนนั้นเริ่มง่วงและ บนเรือชั้นสองมีซุ้มขายอาหารแห้งเล็กๆ เผื่อหิว
นั่งเรือประมาณ20นาที ถึงครึ่งชั่วโมง รึเปล่าไม่แน่ใจจ๊ะ ไม่ได้จับเวลา
พอถึงฝั่งปุ๊บก็ขึ้นฝั่งแล้วจัดการเลี้ยวขวาในทันที
เพราะที่พักของเราคือ
V
V
V
V
V
Penny House Resort
ที่พักของเราขับขึ้นเขาไปแปบเดียวก็ถึง จะผ่าน Makro แล้วพอถึง BigC ก็จัดการมองทางขวาแล้วเลี้ยวเข้าซอยได้เลย
หาง่ายมาสะดวกมาก
แท่นแท้นนนนนนนน
โปรยรูปรีสอร์ทในครั้งนี้ ตอนแรกเห็นราคาถูก เลยลุ้นนิสนุง ว่าจะโอเคไหม
กล้องที่ใช้ไม่มีกล้องโปรหรือกล้องใหญ่อะไรทั้งนั้น มือถือล้วนๆ
Iphone
Samsung
OPPO
พาโนราม่าสักรูปสิเคอะ
สระน้ำรูปปลาโลมาบุ้ยๆ
ดอกอะไรไม่รู้เห็นสวยดี ถ่ายมาสักหน่อย
เดินจากสระน้ำลงบันไดมาที่ชายหาด มีเก้าอี้ให้นั่งด้วย
โดยรวมแล้วสำหรับเราก็โอเคนะ
ให้ความฟิน 3 ปีกนางฟ้า
ที่พักน่าจะจัดอยู่ในระดับ 2.5-3 ดาว ไม่ได้ใหญ่อลังเว่อวังอะไร แต่ก็ติดทะเล มีสระว่ายน้ำเล็กๆ
- ไม่มีคีย์การ์ด ใช้ระบบกุญแจ ไม่มีตู้เซฟ ไม่มีกระติกน้ำร้อนและกาแฟ,ชาฟรี ไม่มีจานชามและช้อนส้อมด้วย มีผ้าเช็ดตัว 2 ผืนตามจำนวนเข้าพัก
- มีแอร์ น้ำอุ่น มีทีวีแบบธรรมดา(แอบเก่านิสนุง) ไม่ใช่จอ LED หรือ LCD มีตู้แขวนเสื้อผ้าอันพอดีๆ มีตู้เย็นขนาดประมาณ4-5คิว 1 หลังพร้อมน้ำเปล่า2ขวด แก้วเปล่า2แก้ว ห้องน้ำก็ไม่แคบเกินไป มีกั้นแบ่งระหว่างที่อาบน้ำกับชักโครก หน้าห้องพักมีโต๊ะให้นั่งชมวิวสระวิวทะเลเบาๆ
แต่หักคะแนนตรงในห้องน้ำปูกระเบื้อธรรมดา แล้วตรงยาแนวขอบกระเบื้องที่เป็นปูนสีขาว มันเป็นคราบดำ ก็ไม่ถึงก็อี้! แต่ก็ไม่สะอาดตาเท่าไหร่ ประตูปิดไม่ค่อยสนิท เราเปิดทาโร่ไว้แล้วไปดำน้ำ กลับมากองทัพมดบุกเลยจ้า แล้วน้ำ ในห้องน้ำของห้องเพื่อนเราไหลไม่ค่อยแรง กว่าจะอาบน้ำล้างสบู่เสร็จ นานอยู่
เคยไปพักพาราไดซ์ปาร์ค ขนาดห้องก็พอๆกัน จะแพ้ที่การตกแต่งภายใน หรือเซอร์วิสเพิ่มเติมเช่นเวลคัมดริงค์ ผลไม้ แล้วก็รายละเอียดในห้องเล็กๆน้อยๆ เช่นลายกระจก ความนิ่มของเตียง,หมอน ของใช้ในห้องน้ำ จำนวนผ้าขนหนู อะไรประมาณนี้ แล้วตรงที่พาราไดซ์เป็นชายหาดและทรายสีขาวมาก มีร้านดริ้งค์ที่หาด มีของเล่นเด็กๆด้วย นับว่าเป็นเซอร์วิสอย่างนึงเนาะ
แต่ก็คงไม่เทียบพวกคชา เซนทารา เมอร์เคียว เคซี หรืออะไรพวก4-5ดาว เพราะไม่ได้หวังจะให้ดีเด่อยู่แล้ว
เพราะทริปนี้เราเน้นเที่ยว และรีสอร์ทเป็นแค่ที่ซุกหัวนอน ค่าห้องก็ตกคนละ 1000 บาท นอน2คืน จอง 2ห้อง
เอาไว้ทริปพักผ่อนจริงๆ คงจะแตะ 5 ดาวสักครั้งล่ะ
เอาจริงๆที่ต้องเขียนละเอียดขนาดนี้ เพราะไม่ได้ถ่ายบรรยากาศในห้องมาเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพราะไปถึงเช้า แขกยังไม่เช็คเอ้าท์ พวกเราเลยเข้าพักไม่ได้ บวกกับไม่ได้นอนทั้งคืนก็ง่วงมาก
พอตอนบ่ายรอห้องเสร็จปุ๊บ พุ่งเข้าไปอาบน้ำและนอนทันที (แอบมีบางคนไม่อาบน้ำด้วย แต่นอนพักเลย)
เล่าเยอะไม่ได้เดี๋ยวข้ามช็อต
อ่ะเรื่องที่พักเสร็จปุ๊บ เรายังเข้าพักไม่ได้ค่ะ เพราะแขกยังไม่ได้เช็กเอ้าท์ รอตอนบ่าย แล้วตอนนี้คือเวลาประมาณ 08.30 AM. หรือแปดโมงครึ่งนี่เอง
ง่วงก็ง่วง หิวก็หิว ทำไงดีหว่า
ตกลงกันใหม่ เราจะไปหาทัวร์ดำน้ำ แล้วก็หาข้าวกินกัน เค้าแนะนำมาว่าให้ไปแถวหาดทรายขาว จะมีเยอะ OK, Let go!!!!
เห้ย! เร็วจัง ถึงหาดทรายขาวแล้วแก
ยังอยู่ในเครื่องแบบเมื่อวานอยู่ บ่งบอกว่าไม่ได้อาบน้ำเลย 555+ (ช่างภูมิใจในความซกมกเหลือเกิน)
ก็เดินเตร่อยู่แปบหนึ่งก็ไปหาทัวร์ดำน้ำกันดีฟ่า เดินไป
และเราไปติดต่อซื้อทริปดำน้ำ 4 เกาะได้แบ้ว
มีให้เลือก 2 แบบคือ
- เรือใหญ่ ไปกันเยอะๆ 50 คนอัพ >> 550 บาท
- เรือสปีดโบ้ท ไปกันน้อยๆได้ >> 900 บาท
ทั้งหมดไม่รวมค่าเข้าอุทยานอีกคนละ 40 บาท ซึ่งต้องไปเสียตอนขึ้นเรือพรุ่งนี้
ประหยัดงบกันดีกว่า เลยเลือกไปเรือใหญ่กัน
ตกลงจ่ายเงิน แล้วบอกชื่อที่พัก พร้อมเลขห้อง
เพราะจะมีรถไปรับถึงที่ เค้าจะได้ระบุได้ถูกว่าของใคร...
ทริปดำน้ำไปกัน 5 คน ไปกันพรุ่งนี้เช้า
ส่วนท่านสุภาพบุรุษอินดี้ 1 ท่าน ไม่ไปกับพวกเรา ท่านบอกจะไปหาวันพีช ผิดๆ...ไปตกปลา ซึ่งต้องไปกลางคืน
โอเค เราตกลงกันได้ก็แยกย้ายกันไปแตะขอบฟ้าและกันเนาะ ยังไงก็ล่องทะเลเหมือนกัน
DAY2 ยังไม่จบนะ
@
[CR] ลอยคอที่ "เกาะช้าง" ทั้งฟิน ทั้งมึน ในทริปเดียวกัน
อันที่จริงไม่ใช่รีวิว 100% หรอก ออกจะโม้บ้าง บ่นบ้าง เลอะเทอะบ้าง ถ้าไม่ชอบอ่านก็ข้ามๆไปก็ได้ไม่ว่ากัน เป็นแนวการเขียนแบบเล่าสู่กันฟังมากกว่าตั้งหน้าตั้งตารีวิว
อยากให้เข้าใจถึงอารมณ์ว่า ทริปเที่ยวเกาะช้างครั้งนี้ฉันไปไหนมาบ้าง เจออะไรบ้าง ดีหรือไม่ดี แนะนำไหม ประมาณนี้
ทริปเที่ยวเกาะช้างนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าพวกเราไปอยากไปเสม็ดกันก่อน เอ๊ะ!ยังไง งง? เอ่อ...เราก็งง
ว่าง่ายๆ คือตอนแรกวางแผนจะไปเที่ยวเสม็ดกันดิบดี แต่ด้วยเรื่องที่พักแล้วหลายๆเรื่อง เลยเปลี่ยนแผนไป "เกาะช้าง”
ใช่แล้ว "เกาะช้าง" !!!!!
ซึ่งเกาะนี้เคยไปเที่ยวมามานมากแล้ว (ตอนนี้เปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว)
เอาล่ะพูดพร่ำเยอะแล้ว เริ่มไปเกาะช้างกันเลยดีกว่าเนาะ พยายามจะเล่าให้ละเอียดแล้วกัน...
ตอนแรกทั้งทริปมีไปกันแค่ 5 คน มีรถ 1 คัน
คุยกันในไลน์ว่า นัดไปเจอกันที่ แอร์พอร์ตลิ้ง ลงสถานีหัวหมาก เจอกันไม่เกิน 3 ทุ่ม >> ทุกคนโอเค
แต่!!! ก่อนจะเดินทางเพียง 5 นาที ก็มีเพิ่มมาอีกคน เป็น 6 คน (ชาย2หญิง4)และมีรถเพิ่มอีก 1 คัน (เซอร์ไพรส์เกิ้นนนน)
ก็เลยต้องเปลี่ยนแผนกะทันหัน รถ 2 คัน แบ่งกันไปคันละ 3 คน
คันของเรา(น้องมาสด้าสีดำ) เริ่มต้นจากแถวๆนพวงศ์
คันของเพื่อเรา(น้องฮอนสีขาว) เริ่มต้นจากแถวๆพัฒนาการ
หลังจากเลิก จัดนู้นนี้ก็ปาไปประมาณ 18.00 น. ก็ล้อหมุนทันที
แล้วก็นัดกันไปเจอบนจุดพักรถบนมอเตอร์เวย์
ก็อย่างเรา เริ่มจากนพวงศ์ ก็เก็บเส้นทางตามนี้เลย นพวงศ์ >> บางใหญ่ >> แคราย >> ขึ้นทางด่วน >> ตามเส้นพระราม 9 >> ทางหลวงพิเศษ กรุงเทพ-ชลบุรี หรือ Motorway นั่นเอง
ส่วนเพื่อนก็ง่ายเลย พัฒนาการ >> ทางด่วน >> ตามเส้นพระราม 9 >> Motorway
และแล้วเราก็มาเจอกันครั้งแรกที่จุดพักรถบน Motorway
ออกจะโล่ง เพราะตอนนี้น่าจะ 22.00 น.
จุดนี้ให้ความฟิน 5 ปีกนางฟ้า เพราะได้เจอเพื่อนสมัยเรียนที่ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงพวกแกจัง 555+
เสร็จแล้วก็นัดแนะกันว่าจะขับตามๆกันไปนะ
เพราะวางแผนไว้ว่าจะรีบขับไปให้ถึง จ.ตราด เร็วๆ และหาที่พักนอนกัน
ตอนเช้าตื่นปุ๊บก็ไปอ่าวธรรมชาติขึ้นเรือเลย กลัวว่าถ้าไปช้าจะรอรถขึ้นเรือนาน ทำให้เสียเวลาเที่ยว
พร้อมกับออกรถทันที เพื่อไม่ให้เสียเวลา
เราก็ขับตามกันไปเรื่อยๆ อาศัยขุ่นพี่ GPS เป็นช่วงๆ ถึงพี่ชอบพาลัดพาหลงก็ยอม
ลงจาก motorway >> ไปชลบุรี เสียค่าขึ้น motorway >> ไปเส้นอ.บ้านบึง อ.แกลง แต่ช่วงที่ไปถนนทำทาง เบี่ยงกันให้มันเลยฮ่ะ แถมยังเจอเพื่อนร่วมทางไปเป็นผู้พิชิตบุญแห่งเขาคิฌกูฏด้วย รถติดแดงเถือกเลยจ้า >> ตามป้าย จ.ระยอง >> ตามป้าย จ.จันทบุรี >> ตามป้าย จ.ตราด
แล้วพอเข้าสู่ป้าย จ.ตราด >> แล้วก็ตามป้ายที่ไป อ. แหลมงอบ >> หลังจากนั้นจะมีป้ายบอกไป อ่าวธรรมชาติ >> เกาะช้างเฟอร์รี่
ทางตั้งแต่เข้าสู้ จ. ตราด ไม่ได้ซับซ้อนค่ะ ไม่พึ่งคุณGPS ก็ได้ ไม่หลง เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ป้ายบอกทางมีเป็นระยะถี่ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวไม่พลาดที่จะไปเที่ยวชมล่ะนะ
DAY 1 แลดูสั้นๆเนอะ
เอาล่ะ เริ่มจะถึงจุดไคล์แม็กซ์แรกกันล่ะ
พวกเราไปถึงอ่าวธรรมชาติประมาณ 02.00 AM. ว่าง่ายๆ เวลาตี2
ซึ่งตามแผนต้องหาที่พักเพื่อนอน
แต่แถวนั้นไม่มีที่พักค่ะ มืดและมนมาก อารมณ์กลางป่า
น้ำมันรถคันเราก็เหลือ 3 ขีด กลัวว่าถ้าไปรอที่ท่าเรือเฟอร์รี่เลย พอข้ามไปเกาะช้างน้ำมันจะไม่พอ
จึงปรึกษากันว่า จะย้อนออกไปตรงถนนเส้นหลัก ที่มีปั๊ม ปตท. ตรงก่อนเลี้ยวขวาเข้าอ่าวธรรมชาติ เพื่อไปเติมน้ำมันให้เต็มถัง แวะนอนในปั๊ม และทำธุระกัน อ่ะ...โอเคตกลงกันได้ก็เลี้ยวออกไป น่าจะประมาณ 25 กิโลเมตรเห้็นจะได้
จอดรถที่ปั๊มประมาณ 02.30 AM. ตีสองครึ่ง
OMG! ไหมล่ะแก นี่ฉันต้องนอนปั๊มจนถึงเช้าหรือนี่
จุดนี้ให้ความมุนสะพรึงที่ 1 กะโหลกพอ เพราะยังมีที่หนักกว่านี้
ก็ผู้ชายก็เช็คสภาพรถกันไป
ส่วนผู้หญิงก็ไปล้างหน้าแปรงฟันเตรียมตัวนอน
แต่ตอนนั้นยังตาแจ้งกันอยู่ก็นั่งเล่น ถ่ายรูปกัน หน้าเซเว่นก่อน
ยังตื้นเต้นดีดเด้งกันอยู่สินะ
แวะเข้าไปในเซเว่นซื้อขนมกินเล่น โอ้วแม่เจ้า...เราเจอสิ่งนี้
ขวดซอสในเซเว่นที่กลายเป็นตำนานไปแล้ว แต่ที่นี้มีอยู่ค่ะคุณณณ
ถึงจะไม่มีหลุมผักก็ไม่เป็นไร
ถือเป็นของหายาก แชะๆ ไว้สักหน่อยเนาะ
ยังๆ ยังมีอารมณ์เล่นนะแก พอเวลาผ่านไปประมาณ ตี3 เพื่อนๆและชายหนุ่มทั้งสองผู้เป็นโชเฟอร์ก็เริ่มทยอยกันไปนอน เหลือชะนีน้อยหอยสังข์อีกสามคนที่ยังเด้งดึ๋งไม่เลิก ก็เลยตัดสินใจนอนเกลือกกลิ้งอยู่ที่ม้านั่งหน้าเซเว่นซะเลย คุยกันไปเรื่อยเปื่อยตั้งแต่เรื่องงาน ยันการ์ตูนมังงะ เพราะตามันแจ้งแล้ว
อีกสักพักก็แบ็คแพ็คเกอร์อีกสองคนมานั่งเป็นเพื่อน มีรถแวะเวียนมาจอดซื้อของบ้าง จอดนอนบ้างทั้งคืน ราตรีนี้จึงยาวปายยยยย~
พอถึงเวลาตีห้าปุ๊บอิสามคนที่นั่งเรื่อยเปื่อยไร้สาระก็เริ่มหาของกินในเซเว่นจ๊ะ แถมปั๊มน้ำมันก็เปิดบริการแล้วด้วย
จึงได้เวลาไปปลุกเพื่อนและเหล่าโชเฟอร์ชายตื่น ไปล้างหน้าเติมน้ำมัน
แล้วมุ่งหน้าสู่ท่าเรือเฟอร์บี้ เอ้ย! เฟอร์รี่เกาะช้างกันโลดดดดดด
พอไปถึงท่าเทียบเรือของเรารอบแรกเลย นะ...ที่จริงมาถึงตั้งแต่ตีสองและ
มีรถมาก่อนหน้าเราหลายคันเยอะอยู่เหมือนกัน แถมยังมีลุงมอเตอร์ไซต์พ่วงขายทุกอย่างข้ามฝั่งไปด้วย
พระอาทิตย์กำลังเลียของฟ้า สวยงามมาก
เสียค่าเรื่อเฟอร์รี่ข้ามฝั่งทั้งหมด 720 บาท ดังนี้
- รถยนตร์ 2 คัน >> 120บาท : 1 คัน >> 240 บาท
- คน 6 คน >> 80บาท : 1 คน >> 480 บาท
เสียตังแล้วข้ามไปยังแกรนด์ไลน์เลย ผิดๆ ข้ามไปเกาะช้างก่อน
ตอนนั้นเริ่มง่วงและ บนเรือชั้นสองมีซุ้มขายอาหารแห้งเล็กๆ เผื่อหิว
นั่งเรือประมาณ20นาที ถึงครึ่งชั่วโมง รึเปล่าไม่แน่ใจจ๊ะ ไม่ได้จับเวลา
พอถึงฝั่งปุ๊บก็ขึ้นฝั่งแล้วจัดการเลี้ยวขวาในทันที
เพราะที่พักของเราคือ
V
V
V
V
V
Penny House Resort
ที่พักของเราขับขึ้นเขาไปแปบเดียวก็ถึง จะผ่าน Makro แล้วพอถึง BigC ก็จัดการมองทางขวาแล้วเลี้ยวเข้าซอยได้เลย
หาง่ายมาสะดวกมาก
แท่นแท้นนนนนนนน
โปรยรูปรีสอร์ทในครั้งนี้ ตอนแรกเห็นราคาถูก เลยลุ้นนิสนุง ว่าจะโอเคไหม
กล้องที่ใช้ไม่มีกล้องโปรหรือกล้องใหญ่อะไรทั้งนั้น มือถือล้วนๆ
Iphone
Samsung
OPPO
โดยรวมแล้วสำหรับเราก็โอเคนะ
ให้ความฟิน 3 ปีกนางฟ้า
ที่พักน่าจะจัดอยู่ในระดับ 2.5-3 ดาว ไม่ได้ใหญ่อลังเว่อวังอะไร แต่ก็ติดทะเล มีสระว่ายน้ำเล็กๆ
- ไม่มีคีย์การ์ด ใช้ระบบกุญแจ ไม่มีตู้เซฟ ไม่มีกระติกน้ำร้อนและกาแฟ,ชาฟรี ไม่มีจานชามและช้อนส้อมด้วย มีผ้าเช็ดตัว 2 ผืนตามจำนวนเข้าพัก
- มีแอร์ น้ำอุ่น มีทีวีแบบธรรมดา(แอบเก่านิสนุง) ไม่ใช่จอ LED หรือ LCD มีตู้แขวนเสื้อผ้าอันพอดีๆ มีตู้เย็นขนาดประมาณ4-5คิว 1 หลังพร้อมน้ำเปล่า2ขวด แก้วเปล่า2แก้ว ห้องน้ำก็ไม่แคบเกินไป มีกั้นแบ่งระหว่างที่อาบน้ำกับชักโครก หน้าห้องพักมีโต๊ะให้นั่งชมวิวสระวิวทะเลเบาๆ
แต่หักคะแนนตรงในห้องน้ำปูกระเบื้อธรรมดา แล้วตรงยาแนวขอบกระเบื้องที่เป็นปูนสีขาว มันเป็นคราบดำ ก็ไม่ถึงก็อี้! แต่ก็ไม่สะอาดตาเท่าไหร่ ประตูปิดไม่ค่อยสนิท เราเปิดทาโร่ไว้แล้วไปดำน้ำ กลับมากองทัพมดบุกเลยจ้า แล้วน้ำ ในห้องน้ำของห้องเพื่อนเราไหลไม่ค่อยแรง กว่าจะอาบน้ำล้างสบู่เสร็จ นานอยู่
เคยไปพักพาราไดซ์ปาร์ค ขนาดห้องก็พอๆกัน จะแพ้ที่การตกแต่งภายใน หรือเซอร์วิสเพิ่มเติมเช่นเวลคัมดริงค์ ผลไม้ แล้วก็รายละเอียดในห้องเล็กๆน้อยๆ เช่นลายกระจก ความนิ่มของเตียง,หมอน ของใช้ในห้องน้ำ จำนวนผ้าขนหนู อะไรประมาณนี้ แล้วตรงที่พาราไดซ์เป็นชายหาดและทรายสีขาวมาก มีร้านดริ้งค์ที่หาด มีของเล่นเด็กๆด้วย นับว่าเป็นเซอร์วิสอย่างนึงเนาะ
แต่ก็คงไม่เทียบพวกคชา เซนทารา เมอร์เคียว เคซี หรืออะไรพวก4-5ดาว เพราะไม่ได้หวังจะให้ดีเด่อยู่แล้ว
เพราะทริปนี้เราเน้นเที่ยว และรีสอร์ทเป็นแค่ที่ซุกหัวนอน ค่าห้องก็ตกคนละ 1000 บาท นอน2คืน จอง 2ห้อง
เอาไว้ทริปพักผ่อนจริงๆ คงจะแตะ 5 ดาวสักครั้งล่ะ
เอาจริงๆที่ต้องเขียนละเอียดขนาดนี้ เพราะไม่ได้ถ่ายบรรยากาศในห้องมาเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เล่าเยอะไม่ได้เดี๋ยวข้ามช็อต
อ่ะเรื่องที่พักเสร็จปุ๊บ เรายังเข้าพักไม่ได้ค่ะ เพราะแขกยังไม่ได้เช็กเอ้าท์ รอตอนบ่าย แล้วตอนนี้คือเวลาประมาณ 08.30 AM. หรือแปดโมงครึ่งนี่เอง
ง่วงก็ง่วง หิวก็หิว ทำไงดีหว่า
ตกลงกันใหม่ เราจะไปหาทัวร์ดำน้ำ แล้วก็หาข้าวกินกัน เค้าแนะนำมาว่าให้ไปแถวหาดทรายขาว จะมีเยอะ OK, Let go!!!!
ก็เดินเตร่อยู่แปบหนึ่งก็ไปหาทัวร์ดำน้ำกันดีฟ่า เดินไป
และเราไปติดต่อซื้อทริปดำน้ำ 4 เกาะได้แบ้ว
มีให้เลือก 2 แบบคือ
- เรือใหญ่ ไปกันเยอะๆ 50 คนอัพ >> 550 บาท
- เรือสปีดโบ้ท ไปกันน้อยๆได้ >> 900 บาท
ทั้งหมดไม่รวมค่าเข้าอุทยานอีกคนละ 40 บาท ซึ่งต้องไปเสียตอนขึ้นเรือพรุ่งนี้
ประหยัดงบกันดีกว่า เลยเลือกไปเรือใหญ่กัน
ตกลงจ่ายเงิน แล้วบอกชื่อที่พัก พร้อมเลขห้อง
เพราะจะมีรถไปรับถึงที่ เค้าจะได้ระบุได้ถูกว่าของใคร...
ทริปดำน้ำไปกัน 5 คน ไปกันพรุ่งนี้เช้า
ส่วนท่านสุภาพบุรุษอินดี้ 1 ท่าน ไม่ไปกับพวกเรา ท่านบอกจะไปหาวันพีช ผิดๆ...ไปตกปลา ซึ่งต้องไปกลางคืน
โอเค เราตกลงกันได้ก็แยกย้ายกันไปแตะขอบฟ้าและกันเนาะ ยังไงก็ล่องทะเลเหมือนกัน
DAY2 ยังไม่จบนะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น