ด้วย ดิฉัน ใช้บริการโทรศัพท์มือถือในระบบ ดีแทค หมายเลข 08-6773-9167 ในระบบ รายเดือน วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2558 เข้ารับบริการ จากช๊อปทรู ที่สาขาย่อยโลตัส ศรีนครินทร์ เพื่อทำการโอนย้ายจากค่ายจาก ดีแทค เป็น ทรูมูฟเฮช และต้องการใช้สิทธิในการซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ พนักงานหญิง ได้อธิบายให้เข้าใจว่า หากซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ จะต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เบอร์ใหม่ของทรู และใช้โปรโมชั่นอื่น ไม่สามารถใช้ร่วมกับ โปรโมชั่น ย้ายค่ายเบอร์เดิม (ซึ่งจะได้รับส่วนลดรายเดือน 50 % จากราคา 599 บาทเหลือเพียง 299 บาท เป็นเวลา 12 รอบบิล )ดิฉัน จึงตัดสินใจ ใช้ เบอร์และโทรศัพท์เครื่องเดิม ไม่ได้ใช้สิทธิ์ซื้อเครื่อง และแจ้งพนักงานอย่างขัดเจนว่า ต้องการเพียง ย้ายค่ายเบอร์เดิม เพื่อรับโปรโมชั่นส่วนลดรายเดือน 50 % ตามที่มีการโฆษณา พนักงานชายในร้านดูท่าทางรับทราบ ไม่ได้พูดใด ๆ พยักหน้าตอบรับ ได้พิมพ์สัญญาการย้ายค่าย และให้ดิฉันลงนามในสัญญาเพื่อปิดการขาย ด้วยความรวดเร็วอย่างที่สุด
วันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2559 บริษัททรูมูฟเฮช ได้ทำการย้ายสำเร็จ เป็นค่าบริการเต็ม 100 % ไมมีส่วนลด 50 % ตามที่โฆษณา
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 เวลาประมาณ 09.00น ดิฉันจึงได้โทรสอบถาม Call center ของทรูมูฟเฮช เจ้าหน้าที่ รับโทรศัพท์ คุณผ่องศรี อ้างว่าดิฉันใช้สิทธิ ซื้อเครื่องใหม่ ทำให้ไม่ได้รับโปรโมชั่นดังกล่าว ไม่สามารถแก้ไขได้ ให้กลับไปติดต่อช๊อปทรู สาชาดังกล่าวเอง ดิฉันรู้สึกไม่พอใจในบริการอย่างมาก คุณผ่องศรีจึงแจ้งว่าจะให้พนักงานร้านโทรติดต่อกลับมา แต่ปัจจุบันไม่มีการติดต่อใด ๆ จากบริษัท ดิฉันยังต้องจ่ายเงินราคาเต็ม 100 %
ดิฉันได้เล่าเรืองดังกล่าวให้พี่สาว ซึ่งใช้โทรศัพท์ หมายเลข 08-0594-0957 ซึ่งจดทะเบียนในนามสามี ซึ่งเกิดปัญหากับ บริษัททรูมูฟเฮชเช่นกัน ดังนี้
ปลายเดือนกันยายน 2558 ได้ทำการย้ายค่ายจากดีแทค เป็นทรูมูฟ ที่ช๊อปทรู สาขาย่อยโลตัส ลาดพร้าว ตรงข้ามเซนทรัลลาดพร้าว เนื่องจากทรู มีการโฆษณา ย้ายค่ายเบอร์เดิมระบบเติมเงิน ลด 50 % (โปรเสริมเน็ต เดือนละ 199 บาท จ่ายเพียง 99 บาท เป็นเวลา 6 เดือน)
วันที่ 3 ตุลาคม 2558 ย้ายค่ายสำเร็จ พบว่าไม่ได้ลด 50 % ตามที่บริษัท โฆษณา ต้องจ่ายเต็ม 100 % เมื่อโทรศัพท์ไปถาม Call center ของทรูมูฟเฮช ประมาณ 20 ครั้ง (ครั้งละ 3 บาท) และกลับไปติดต่อที่ช๊อปทรู สาขาดังกล่าว พนักงานหญิงที่ย้ายค่ายให้ไม่อยู่ และพนักงานอื่นแจ้งว่า สาขาที่ย้ายค่ายให้ ไม่มีโปรดังกล่าว พนักงานหญิงท่านนั้น จึงตัดสินใจย้ายให้เป็นโปรอื่น (โดยไม่สนใจการแจ้งความประสงค์ของพี่สาว) เพื่อปิดการขายด้วยความรวดเร็วอย่างที่สุด ทั้งที่พี่สาวได้พยายามแจ้งแล้วว่าที่ย้ายค่ายเบอร์เดิม เพราะต้องการโปรลด 50 %
จากความพยายามที่ล้มเหลว ในการประสานขอความช่วยเหลือดังกล่าวจากบริษัท ประกอบกับพี่สาวดิฉัน รู้สึกสงสารที่พนักงานหญิง อาจต้องรับผิด หากร้องเรียนต่อ จึงยุติเรืองและยินยอมจ่ายเต็ม 100 % ด้วยความเสียใจอย่างยิ่งมาตลอด
ดิฉัน และพี่สาวพิจารณาเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำเดิม พบว่าการกระทำดังกล่าว ของบริษัท ไม่อาจยอมรับได้ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 เวลาประมาณ 11.00 น ดิฉันจึงได้โทรสอบถาม Call center ของทรูมูฟเฮช ในเริ่องพี่สาวของเดิฉัน เจ้าหน้าที่ รับโทรศัพท์ คุณ สรัญญา แจ้งว่าจะให้เจ้าหน้าที่ระบบเติมเงินโทรมาแจ้งเรื่องกับดิฉัน แต่ปัจจุบันไม่มีการติดต่อใด ๆ จากบริษัท พี่สาวดิฉันยังต้องจ่ายเงินราคาเต็ม 100 %
ย้ายค่ายเบอร์เดิม จากดีแทค มาทรูมูฟ ไม่ได้ลด 50% ตามที่โฆษณา ทำไงดี
วันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2559 บริษัททรูมูฟเฮช ได้ทำการย้ายสำเร็จ เป็นค่าบริการเต็ม 100 % ไมมีส่วนลด 50 % ตามที่โฆษณา
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 เวลาประมาณ 09.00น ดิฉันจึงได้โทรสอบถาม Call center ของทรูมูฟเฮช เจ้าหน้าที่ รับโทรศัพท์ คุณผ่องศรี อ้างว่าดิฉันใช้สิทธิ ซื้อเครื่องใหม่ ทำให้ไม่ได้รับโปรโมชั่นดังกล่าว ไม่สามารถแก้ไขได้ ให้กลับไปติดต่อช๊อปทรู สาชาดังกล่าวเอง ดิฉันรู้สึกไม่พอใจในบริการอย่างมาก คุณผ่องศรีจึงแจ้งว่าจะให้พนักงานร้านโทรติดต่อกลับมา แต่ปัจจุบันไม่มีการติดต่อใด ๆ จากบริษัท ดิฉันยังต้องจ่ายเงินราคาเต็ม 100 %
ดิฉันได้เล่าเรืองดังกล่าวให้พี่สาว ซึ่งใช้โทรศัพท์ หมายเลข 08-0594-0957 ซึ่งจดทะเบียนในนามสามี ซึ่งเกิดปัญหากับ บริษัททรูมูฟเฮชเช่นกัน ดังนี้
ปลายเดือนกันยายน 2558 ได้ทำการย้ายค่ายจากดีแทค เป็นทรูมูฟ ที่ช๊อปทรู สาขาย่อยโลตัส ลาดพร้าว ตรงข้ามเซนทรัลลาดพร้าว เนื่องจากทรู มีการโฆษณา ย้ายค่ายเบอร์เดิมระบบเติมเงิน ลด 50 % (โปรเสริมเน็ต เดือนละ 199 บาท จ่ายเพียง 99 บาท เป็นเวลา 6 เดือน)
วันที่ 3 ตุลาคม 2558 ย้ายค่ายสำเร็จ พบว่าไม่ได้ลด 50 % ตามที่บริษัท โฆษณา ต้องจ่ายเต็ม 100 % เมื่อโทรศัพท์ไปถาม Call center ของทรูมูฟเฮช ประมาณ 20 ครั้ง (ครั้งละ 3 บาท) และกลับไปติดต่อที่ช๊อปทรู สาขาดังกล่าว พนักงานหญิงที่ย้ายค่ายให้ไม่อยู่ และพนักงานอื่นแจ้งว่า สาขาที่ย้ายค่ายให้ ไม่มีโปรดังกล่าว พนักงานหญิงท่านนั้น จึงตัดสินใจย้ายให้เป็นโปรอื่น (โดยไม่สนใจการแจ้งความประสงค์ของพี่สาว) เพื่อปิดการขายด้วยความรวดเร็วอย่างที่สุด ทั้งที่พี่สาวได้พยายามแจ้งแล้วว่าที่ย้ายค่ายเบอร์เดิม เพราะต้องการโปรลด 50 %
จากความพยายามที่ล้มเหลว ในการประสานขอความช่วยเหลือดังกล่าวจากบริษัท ประกอบกับพี่สาวดิฉัน รู้สึกสงสารที่พนักงานหญิง อาจต้องรับผิด หากร้องเรียนต่อ จึงยุติเรืองและยินยอมจ่ายเต็ม 100 % ด้วยความเสียใจอย่างยิ่งมาตลอด
ดิฉัน และพี่สาวพิจารณาเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำเดิม พบว่าการกระทำดังกล่าว ของบริษัท ไม่อาจยอมรับได้ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 เวลาประมาณ 11.00 น ดิฉันจึงได้โทรสอบถาม Call center ของทรูมูฟเฮช ในเริ่องพี่สาวของเดิฉัน เจ้าหน้าที่ รับโทรศัพท์ คุณ สรัญญา แจ้งว่าจะให้เจ้าหน้าที่ระบบเติมเงินโทรมาแจ้งเรื่องกับดิฉัน แต่ปัจจุบันไม่มีการติดต่อใด ๆ จากบริษัท พี่สาวดิฉันยังต้องจ่ายเงินราคาเต็ม 100 %