[CR] รีวิว " Sapporo Snow Festival 2016"

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาขอเขียนรีวิวแรก ในชีวิต เกี่ยวกับการเที่ยวซับโปโร ญี่ปุ่นในช่วงเทศกาลหิมะ Sapporo snow festival 2016 วันที่ 2-11กุมภาพันธ์ 2559 ค่ะ



เดิม สองจิตสองใจอยู่นาน ว่าจะเขียนรีวิวดีไหม เพราะ ข้อมูลก็ไม่ได้แน่นปึ๊ก รูปภาพที่ถ่ายมาก็ธรรมด๊า ธรรมดา (ถ่ายมือถือ) แต่อยากเขียนรีวิว เพราะ การไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกนี้ ได้แรงบันดาลใจ และข้อมูลจากผู้เขียนรีวิวท่านอื่นๆ ทำให้เกิด trip นี้ขึ้นมาได้

ออกตัวก่อนค่ะ ว่ารีวิวนี้ อาจจะไม่ได้เน้นเรื่องรูปภาพสวย หรือข้อมูลการท่องเที่ยวที่เน้นปึก แต่จะเขียนในมุมมองของคนที ไม่เคยเจอหิมะ ไม่เคยไปญี่ปุ่น เตรียมตัวอย่างไรบ้าง ไป เจออะไรมาบ้างก็อยากจะเอามาเล่าให้ฟัง บางอย่าง ผิดหรือถูก ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ค่ะ

ไม่เว่นเวอร์ ขอเข้าเรื่องเลยและกันค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

Trip นี้เป็น Trip ที่เรา พ่อ แม่ และ พี่สาวจะไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันค่ะ เราวางแผนไว้ตั้งแต่กลางปี 2558 มีเหตุการณ์เกี่ยวกับ ICAO ทำให้เราต้องเปลี่ยนแผนหลายครั้ง แต่สุดท้ายเราก็ได้แผนการท่องเที่ยวประมาณนี้ค่ะ



เอาละเริ่มเดินทางกันเลยค่ะ

วันที่ 1/2/2016

วันนี้ เราลาพักร้อน เพื่อที่จะเตรียมจัดกระเป๋า และจัดการเกี่ยวกับน้องหมา ทั้ง 4 ตัว ของเรา  ที่ลุงจะมาดูแลให้ (แอบกังวลน้องหมาเราจะอยู่กับลุงได้ไหมน้อ เพราะอิทฤิทธ์น้องหมาเราไม่ธรรมดาซะด้วยสิ แต่ the tour must go on ก็ต้องฝากลุงไว้แล้ว)

เราออกจากบ้าน ประมาณ 2 ทุ่ม เพื่อไปสนามบินดอนเมือง counter checkin เปิดแล้ว เราไปรอต่อคิวที่ drop bag counter  หลังจาก check in เสร็จ  เดินเข้าไปตม และไปเข้าเครื่อง scan ตามลำดับ
หลังจากผ่านการตรวจมาแล้วเรียบร้อย เราเดินเล่นในสนามบิน และไปนั่งรอที่ gate Gate ของเราวันนี้อยู่เกือบท้ายสุด



  
นั่งรอจน gate เปิด เห็นแอร์ฮอสเตทยืนประจำที่เพื่อเตรียมเรียกขึ้นเครื่อง เราก็เตรียมไปรอต่อแถว

ที่นั่งเราจองไว้ในโซนเงียบ (quite zone) พ่อนั่งติดหน้าต่าง พี่สาวขอแลกที่นั่ง พ่อไม่ยอมบอกว่า อยากคุยกับเทวดาตอนเครื่องขึ้น แม่นั่งตรงกลาง พี่สาวนั่งริมทางเดิน ส่วนเรานั่งแถวกลาง วันนี้เที่ยวบินไม่ค่อยมีคน เราได้นั่งคนเดียวทั้งแถว

หลังจากเครื่องขึ้นแล้วข้างๆ เราไม่มีใครนั่ง เราเลยให้แม่มานั่งด้วย เพราะเขาจะได้ยืดขาได้ นั่งหลับไปจนเกือบ ตี2 แอร์ฮอสเตท เริ่มนำอาหารที่เราสั่งล่วงหน้ามาเสริฟ เราบอกน้องเขาว่า ยังไม่กินได้ไหม มันเร็วเกิน เขาแจ้งว่าไม่ได้เพราะเครื่องใกล้จะลงแล้ว เราก็โอเค เอามา
หล้งจากนอนไปได้สักพัก เครื่องใกล้ถึงแล้ว เราก็เตรียมกรอกใบตม และใบ custom declaration  ญี่ปุ่น สักพักกัปตันประกาศลงจอด เตรียมความพร้อม เราจะถึงญี่ปุ่นแล้ว
Tip
1. ควรทำ web check in จากที่บ้าน แล้วปรินต์ไปเลย เพราะเราสามารถไปที่ counter drop bag ได้เลย ไม่ต้องไปรอต่อคิว check in counter ที่คนเยอะมากมาย
2. แนะนำว่าถ้ามีผู้ใหญ่เดินทางไปด้วย และเป็น flight ดึก ถ้าจองเป็น business class ให้เขาได้ ก็จะดีกว่าค่ะ รอดูช่วงที่มีโปรโมชั่นดีๆ บางที ราคา อาจจะพอๆ กับ economy แล้วต้องจ่ายค่าที่นั่ง ค่ากระเป๋าเพิ่มต่างหาก แต่ถ้าไปกับเพื่อนๆไม่จำเป็นค่ะ
3. แบบฟอร์ม custom declaration ถ้าไปแบบเป็นครอบครัว กรอกแค่ใบเดียวก็พอค่ะ ส่วนถ้าเพื่อนๆ คนไหนไม่รู้ว่าจะกรอกยังไง ตระกร้าที่เบาะด้านหน้า เขามีวิธีกรอกให้ค่ะ ลองค้นดู

วันที่ 2/2/2016

ถึงแล้วโตเกียว
วันนี้เรามาถึงเร็วกว่ากำหนด 1 ชั่วโมง บระเจ้า เราต้องแกว่วรอ domestic flight อีก เกือบ 5 ชม เลยทีเดียว (AAX ทำดีเกิ๊น)
หลังจากที่เครื่องลงจอดแล้ว เรา พ่อ แม่ และ พี่สาวเดินออกมาจากตัวเครื่อง รู้สึกได้ถึงความหนาวของโตเกียวได้ทันที ตอนนั้น เรารีบจ้ำๆ ให้เข้าอาคารให้เร็วที่สุด
ทางเดินจาก gate ไป ตม ค่อนข้างไกลเลยทีเดียว ดีที่มีทางเลื่อนให้ ยืนเฉยๆ ปล่อยให้มันไหลไป ดีๆ ไปเหอะ เราไม่รีบ





เดินมาถึง counter ตม ก็รอต่อคิว มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจเอกสารของเราว่าเขียนเรียบร้อยไหม มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งพยายามบอกแม่ กับพี่สาว และน้องคนไทยอีก 2 คน แต่ดูเหมือนจะคุยกันไม่รู้เรื่อง เราเลยเดินไปหาเขา เขาบอกให้เอาซองพลาสติกใสที่ใส่passport ออก อ้อ โอเค เราก็บอกแม่และพี่สาว รวมถึงน้องคนไทยด้วย

ยืนรอต่อคิวสักพัก ถึงตาเราไปที่ counter เจ้าหน้าที่ ตม ไม่ได้ถามอะไร รอพ่อ แม่ พี่สาว ทุกคนก็ไม่ได้โดนถามอะไร

เราก็ไปรับกระเป๋าและเดินออกไปที่ custom เขาเรียกเราเข้าไป เราก็เรียกให้ พ่อ แม่ และพี่สาว ตามมาด้วย คราวนี้มีเขาถามเราว่า  1 family เหรอ เราก็บอกใช่ เขาถามต่อว่าจะอยู่กี่วัน เราบอกว่า 10 วัน เขาก็อืม แล้วเขาเหลือบไปเห็นที่พักที่ระบุในแบบฟอร์ม เขาก็บอกว่าไปซับโปโรเหรอ เราก็ตอบว่าใช่ เราจะไปเทศกาลหิมะที่โน้น เขายิ้มกว้าง และบอกเราว่า สุโก่ยยยย

หลังจากที่เราผ่านcustom แล้ว เราก็เลี้ยวขวา เดินไปจนสุดทาง  จุดหมายคือ Terminal 3
(ลืมบอกว่า AAX ลงที่ terminal 2) จะมีประตูอยู่ทางซ้าย พอออกจากประตูแล้ว จะเห็น walking corridor ด้านบนเขียน Terminal 3 หรือเราสามารถไปยืนรอที่ bus stop หมายเลข 24  เพื่อนั่ง shuttle bus ไป terminal 3



ไม่ต้องคิดมาก เราเลือกทางเลือก 2 อยู่แล้ว เวลาเราเหลือเฟือ เอาแบบสบายๆ เราไปยืนรอสักพัก รถบัสคนสีเหลืองสดใสก็วิ่งมา เราหอบหิ้วกระเป๋าขึ้น รถ รถแล่นประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้ว
เราเดินขึ้นบันไดเลื่อน เห็น counter jetstar แต่ยัง check in ไม่ได้ เลยไปนั่งตรง meeting point ซึ่งเป็น zone ร้านอาหารและ sofa นอน คนนอนกันเยอะแยะ เราเลยนอนกันตรงนั้นแหละ

เวลาผ่านไป 1 ชม 2 ชม 3 ชม counter เปิดให้ check in แล้ว เราลากกระเป๋าไป check in เห็นฝรั่งตัวโต หลายคน แบกสกีอันใหญ่มาด้วย เออ ฝรั่งมาเล่นสกีที่ญี่ปุ่นเยอะเลย

และแล้วก็ถึงเวลาขึ้นเครื่อง เครื่อง jetstar เป็นเครื่อง 3 ที่นั่ง 2 แถว พ่อนั่งติดกระจกเช่นเคย ส่วนพี่สาว เราให้เขานั่งติดกระจกสมใจ เครื่องใช้เวลาบิน 1.45 ชม เราก็มาถึง New Chitose Airport เสียที
ชื่อสินค้า:   Japan Hokkaido Hokodate Sapporo Toya Noboribetsu
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่