
ขอฝากกระทู้เก่าด้วยนะคะ ออกเดินทางสู่ปิล็อก สังขละ ทองผาภูมิ
http://pantip.com/topic/34829509/comment54-1
สวัสดีเพื่อนชาวพันทิพย์ทุกท่านเลยนะคะ ได้ดูของเพื่อนๆๆมาคราวนี้ตัวเองก็ขอรีวิวการท่องเที่ยวของตัวเองบ้าง ทริปนี้ไม่ได้วางแผนเพราะดอกชมพูพันธ์ทิพย์แต่ละปีจะบานไม่พร้อมกัน ก็เริ่มการเดินทางเลย ขอแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการก่อนนะคะ ชื่อบอมคะ แต่ชื่อบอมดูโหดไปนิด1 บอมหรือคาร์บอม (ที่แปลว่าระเบิด) 55 โดยส่วยตัวชอบประเทศญี่ปุ่น ชอบดูเซเลอร์มูล ชอบทานซูชิ เลยอยากมีชื่อเป็นญี่ปุ่น เลยเป็นที่มาของ ชื่อบอมมิโกะ บอมเองเป็นสาวประเภทสองคะ ชีวิตก็เจออะไรหลายๆๆอย่าง ทั้งดีและไม่ดี เพราะก็เค้าใจนะคะว่าเพศอย่างเราเองสังคมก็ยังไม่ค่อยยอมรับสักเท่าไร กระเทยสวยๆๆเท่านั้นหรือคนที่มีความสามารถจริงๆๆที่จะถูกยอมรับ เป็นกระเทยไม่พอยังไม่สวย อ้วนและดำอีก อะไรจะขนาดนั้นนะคุณบอมมิโกะ ไปไหนมาไหนก็มักจะถูกนินทา ใช้สายตามองอย่างน่ารังเกลียด บางทีก็โดนด่าไอ้กระเทยควาย เหมือนจะชินนะ แต่ก็แอบเสียใจทุกๆๆครั้ง ว่าเราทำอะไรผิด ทำไมถึงเจอคนมาดูถูกหรือรังเกลียด แต่ก็ชั่งมันเถอะ ปล่อยว่าง เราห้ามความคิดใครไม่ได้เน้อ ก็ทำตัวเองให้ดีที่สุดและกัน ไม่สร้างปัญหาให้สังคม ทำงานสุจริต ไม่ดูถูกคน ก็สบายใจและ และอีกสิ่งที่ตัวบอมมิโกะเองชอบคือ การท่องเที่ยว เที่ยวได้ทุกรูปแบบ ไปได้ทุกทาง จะมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ รถทัวร์ เรือ เครื่องบิน ไปหมดคะ ขอให้ไปถึงจุดมุ่งหมายได้ เห็นอ้วนๆๆแบบนี้ ไม่เป็นภาระใครแน่นอนค่ะ ครั้งนี้ไม่ได้แว้นมอเตอร์ไซด์ไป เพราะ ครั้งนี้มีสมาชิค ไปด้วยหลายท่าน เราก็เลยไปรถของรุ่นพี่ บอมมีโกะไปได้อยู่แล้ว ไปได้ทุกรูปแบบ
การเดินทางในครั้งนี้
เราใช้รถ Honda jazz
กล้องถ่ายภาพ ก็ถ่ายจากโทรศัพท์ samsung s4 zoom ใช้โปรแกรมอัตโนมัติ ไม่แต่งภาพใดๆๆ กล้อง i phone กล้อง olympus
ชุดแสกลายดอกสี่ชมพูจากตลาดนัดตัวละ 100 บาท
รองเท้านินจาแบบสั้นสีน้ำเงิน ยี่ห้อ cs choes
https://www.facebook.com/cs.thaininja?fref=ts
ค่าน้ำมัน ค่ากิน หารกัน

สมาชิคทั้ง 5 ของเรา
เริ่มการเดินทาง เรานัดเจอกันที่ ปตท วิภาดี ตอนเวลา 07.30 ทุกคนมาพร้อมเพียงกัน สมาชิคในทริปนี้มี 5 คน ร่วมบอมมิโกะแล้ว หลังจากขึ้นรถเรียบร้อย เราก็มุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางของเรา ด้วยการวิ่ง เส้นวิภาวดีรังสิต ถึงหลักสี่ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนแจ้งวัฒนะ จากนั้นวิ่งข้ามสะพานพระราม วิ่งถนนชัยพฤก เข้า ถนนหมายเลข 3215 ไทรน้อย วิ่งไปสุดถนน เลี้ยวซ้ายเข้าถนน หมายเลข 346 แล้ววิ่งยาวจนถึงกำแพงแสนได้เลย
เรามาถึงที่มหาวิยาลัยเกษตรกำแพงแสน 08.30 เราใช้เวลาเดินทาง 1 ชม.

ถึงปุ๊ปไม่พูดพร่ำทำเพลง รออะไรอ่ะคะรีบเลย นี้ขนาด 08.30 คนยังเยอะขนาดนี้ ไม่ต้องกลัวสายๆๆคนจะเยอะขึ้นอีก รีบหามุมโพสได้เลย

ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือ ตาเบบูย่า (Tabebuia) นั้น สามารถหาชมกันได้ในเขต กทม. และปริมณฑล อย่างเช่น สวนจตุจักร สวนรถไฟ และสถานที่นิยมมากอันดับต้นๆ และไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก นั่นก็คือที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม บทความนี้จะแนะนำข้อมูล แผนที่ การเดินทาง และสถิติการบานในแต่ละปี เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าควรไปดูช่วงไหนดี
จุดชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ใน ม.เกษตร กำแพงแสน
1) สระพระพิรุณ อยู่ตรงวงเวียนกลางมหาวิทยาลัย มีพระพิรุณทรงนาคอยู่กลางสระน้ำ แวดล้อมรอบด้วยต้นชมพูพันธุ์ทิพย์รอบสระทั้ง 4 ทิศ จุดนี้มักจะเริ่มบานก่อนเพราะได้รับแสงแดดเต็มที่มากกว่า
2) ถนนหน้า รร.สาธิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จุดนี้ถือว่าเป็น Hi-light เลยก็ว่าได้ เพราะจะมีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนยังมีบ่อน้ำและทุ่งหญ้าสวยๆ จะถ่ายไปทางไหนก็สวย แต่เนื่องจากเป็นโซนยอดฮิตก็ควรรีบมาจับจองพื้นที่ถ่ายรูปกันแต่เช้าๆ

แต่วันนี้เราจะไปชมกันที่ถนนหน้า รร.สาธิต มหาวิยาลัยเกษตรศาสตร์

ปีนี้ถือว่าดอกออกเรากว่าปกติเมื่อเทียบกับปีอื่นๆๆ อย่างเมื่อปีที่แล้วนี้กว่าจะบาน100 % ก็ปาไปกลางเดือนมีนาคม แต่ปีหน้า กลางเดือน กพ ก็บานแล้ว


นึกว่ามาเที่ยวประเทศญี่ปุ่น นี้ถ้าใส่ชุดกิมโมโนด้วยนะ โอ้ยเข้าสุดๆๆ

เต่าทองน้อยแวะมาทักทาย

พยายามเดินไปจุดที่คนไปน้อยๆๆ อยู่ห่างๆๆแต่ฟิน

อีกฝั่งคลอง จะเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี

ดอกที่ร่วง ก็จะลงมาอยู่ในน้ำ ก็สวยดีนะ

อย่าได้แต่อิจฉา ยึงมีเวลา รีบไปนะคะ ไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่ พญาเสือโคร่งก็เถอะ ชิดซ้ายไปเลยคะ

สถานที่ทุกที่ถ้าเราจัดองค์ประกอบดีๆๆภาพก็ออกมาสวยได้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องแต่ง และใช้แอพเลยคะ



ไปเที่ยวที่ไหน ต้องมีกระโดด พลังซุปเปอร์ไซย้า

ฉันคือเซเลอร์มูล 55

เจ้าชู้ใช่ไหม

กินรีเริ่งร่า

ไอ เลิฟ ยู

ถนนสายนี้ถือว่าเป็นถนนอีกสายนึงที่โรแมนติค หายๆๆคนตั้งตารอที่จะมาชมความงดงาม ซึ่งใน 1 ปีจะมีแค่ช่วงเดียว
หลังจากเราอิ่มเอมเปรมใจแล้ว เราก็ไปหาอะไรทาน ซึ่งไม่ใกล้มาจากตรงนั้น ด้วยความที่หิวมากมื้อนี้เลยไม่ได้ถ่ายภาพเลย
จากนั้นเราก็เดินทางต่อ เพื่อไป พระราชวังสนามจันทน์ ที่นี้ถือ ว่าเป็นที่ๆๆตระกูลของฉันคุ้นเคย เพราะ ทวดของฉันเคยเป็นนางห้องเครื่องอยู่ั้พระราชวังนี้เพื่อรับใช้รัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นเกียรติต่อวงตระกูลฉันมากๆ

พระราชวังสนามจันทน์
ตั้งอยู่ในตัวเมือง ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์ ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 2 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 888 ไร่ 3 งาน 24 ตารางวา พระราชวังแห่งนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ตั้งแต่ยังทรงดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2450 โดย หลวงพิทักษ์มานพ (น้อย ศิลปี) ซึ่งต่อมาเลื่อนยศเป็นพระยาศิลป์ประสิทธิ์ เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง พระที่นั่ง เมื่อแรกสร้างมี ีเพียง 2 พระที่นั่ง ได้แก่ พระที่นั่งพิมานปฐม และพระที่นั่งอภิรมย์ฤดี และพระราชทานนามตาม ประกาศลงวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2454 และต่อมาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำพิธียกพระมหาเศวตฉัตร ขึ้นประดิษฐานเหนือพระแท่นรัตนสิงหาสน์ ภายในพระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2466
การสร้างพระราชวังสนามจันทร์มีมูลเหตุจูงใจมาจากการบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระปฐมเจดีย์ซึ่ง ทำให้พระองค์ ทรงพอพระราชหฤทัยเมืองนครปฐมเป็นอย่างยิ่งทรงเห็นว่าเป็นเมืองที่เหมาะสมสำหรับประทับพักผ่อนเนื่องจากมี ภูมิประเทศที่งดงาม ร่มเย็น นอกจากนี้ยังทรงมีพระราชดำริที่ลึกซึ้ง นั่นก็คือ ทรงเห็นว่านครปฐมเป็นเมืองที่มีชัยภูมิ เหมาะสำหรับต้านทานข้าศึกซึ่งจะยกเข้ามาทางน้ำได้อย่างดี ด้วยทรงจดจำเหตุการณ์ เมื่อ ร.ศ.112 ที่ฝรั่งเศสนำ เรือรบเข้ามาปิดปากอ่าวไทยได้ และไม่ต้องการที่จะให้ประเทศไทยตกอยู่ในสภาพดังกล่าว จึงตั้งพระทัยที่จะ สร้างพระราชวัง สนามจันทร์ไว้สำหรับเป็นเมืองหลวงที่สองหากประเทศชาติประสบปัญหา วิกฤติพระราชวัง สนามจันทร์ มีอาณาเขตกว้างขวางประกอบด้วยสนามใหญ่อยู่กลาง มีถนนโอบเป็นวงโดยรอบ และมีคูน้ำล้อม อยู่ชั้นนอก ส่วนพระที่นั่งต่าง ๆนั้นรวมกันอยู่ส่วนกลางของพระราชวังเท่าที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
ถึงเวลาชมพูพันธ์ทิพย์ ณ มหาวิทยาลัยเกษตรกำแพงแสน 2559
ขอฝากกระทู้เก่าด้วยนะคะ ออกเดินทางสู่ปิล็อก สังขละ ทองผาภูมิ http://pantip.com/topic/34829509/comment54-1
สวัสดีเพื่อนชาวพันทิพย์ทุกท่านเลยนะคะ ได้ดูของเพื่อนๆๆมาคราวนี้ตัวเองก็ขอรีวิวการท่องเที่ยวของตัวเองบ้าง ทริปนี้ไม่ได้วางแผนเพราะดอกชมพูพันธ์ทิพย์แต่ละปีจะบานไม่พร้อมกัน ก็เริ่มการเดินทางเลย ขอแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการก่อนนะคะ ชื่อบอมคะ แต่ชื่อบอมดูโหดไปนิด1 บอมหรือคาร์บอม (ที่แปลว่าระเบิด) 55 โดยส่วยตัวชอบประเทศญี่ปุ่น ชอบดูเซเลอร์มูล ชอบทานซูชิ เลยอยากมีชื่อเป็นญี่ปุ่น เลยเป็นที่มาของ ชื่อบอมมิโกะ บอมเองเป็นสาวประเภทสองคะ ชีวิตก็เจออะไรหลายๆๆอย่าง ทั้งดีและไม่ดี เพราะก็เค้าใจนะคะว่าเพศอย่างเราเองสังคมก็ยังไม่ค่อยยอมรับสักเท่าไร กระเทยสวยๆๆเท่านั้นหรือคนที่มีความสามารถจริงๆๆที่จะถูกยอมรับ เป็นกระเทยไม่พอยังไม่สวย อ้วนและดำอีก อะไรจะขนาดนั้นนะคุณบอมมิโกะ ไปไหนมาไหนก็มักจะถูกนินทา ใช้สายตามองอย่างน่ารังเกลียด บางทีก็โดนด่าไอ้กระเทยควาย เหมือนจะชินนะ แต่ก็แอบเสียใจทุกๆๆครั้ง ว่าเราทำอะไรผิด ทำไมถึงเจอคนมาดูถูกหรือรังเกลียด แต่ก็ชั่งมันเถอะ ปล่อยว่าง เราห้ามความคิดใครไม่ได้เน้อ ก็ทำตัวเองให้ดีที่สุดและกัน ไม่สร้างปัญหาให้สังคม ทำงานสุจริต ไม่ดูถูกคน ก็สบายใจและ และอีกสิ่งที่ตัวบอมมิโกะเองชอบคือ การท่องเที่ยว เที่ยวได้ทุกรูปแบบ ไปได้ทุกทาง จะมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ รถทัวร์ เรือ เครื่องบิน ไปหมดคะ ขอให้ไปถึงจุดมุ่งหมายได้ เห็นอ้วนๆๆแบบนี้ ไม่เป็นภาระใครแน่นอนค่ะ ครั้งนี้ไม่ได้แว้นมอเตอร์ไซด์ไป เพราะ ครั้งนี้มีสมาชิค ไปด้วยหลายท่าน เราก็เลยไปรถของรุ่นพี่ บอมมีโกะไปได้อยู่แล้ว ไปได้ทุกรูปแบบ
การเดินทางในครั้งนี้
เราใช้รถ Honda jazz
กล้องถ่ายภาพ ก็ถ่ายจากโทรศัพท์ samsung s4 zoom ใช้โปรแกรมอัตโนมัติ ไม่แต่งภาพใดๆๆ กล้อง i phone กล้อง olympus
ชุดแสกลายดอกสี่ชมพูจากตลาดนัดตัวละ 100 บาท
รองเท้านินจาแบบสั้นสีน้ำเงิน ยี่ห้อ cs choes https://www.facebook.com/cs.thaininja?fref=ts
ค่าน้ำมัน ค่ากิน หารกัน
สมาชิคทั้ง 5 ของเรา
เริ่มการเดินทาง เรานัดเจอกันที่ ปตท วิภาดี ตอนเวลา 07.30 ทุกคนมาพร้อมเพียงกัน สมาชิคในทริปนี้มี 5 คน ร่วมบอมมิโกะแล้ว หลังจากขึ้นรถเรียบร้อย เราก็มุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางของเรา ด้วยการวิ่ง เส้นวิภาวดีรังสิต ถึงหลักสี่ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนแจ้งวัฒนะ จากนั้นวิ่งข้ามสะพานพระราม วิ่งถนนชัยพฤก เข้า ถนนหมายเลข 3215 ไทรน้อย วิ่งไปสุดถนน เลี้ยวซ้ายเข้าถนน หมายเลข 346 แล้ววิ่งยาวจนถึงกำแพงแสนได้เลย
เรามาถึงที่มหาวิยาลัยเกษตรกำแพงแสน 08.30 เราใช้เวลาเดินทาง 1 ชม.
ถึงปุ๊ปไม่พูดพร่ำทำเพลง รออะไรอ่ะคะรีบเลย นี้ขนาด 08.30 คนยังเยอะขนาดนี้ ไม่ต้องกลัวสายๆๆคนจะเยอะขึ้นอีก รีบหามุมโพสได้เลย
ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือ ตาเบบูย่า (Tabebuia) นั้น สามารถหาชมกันได้ในเขต กทม. และปริมณฑล อย่างเช่น สวนจตุจักร สวนรถไฟ และสถานที่นิยมมากอันดับต้นๆ และไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก นั่นก็คือที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม บทความนี้จะแนะนำข้อมูล แผนที่ การเดินทาง และสถิติการบานในแต่ละปี เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าควรไปดูช่วงไหนดี
จุดชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ใน ม.เกษตร กำแพงแสน
1) สระพระพิรุณ อยู่ตรงวงเวียนกลางมหาวิทยาลัย มีพระพิรุณทรงนาคอยู่กลางสระน้ำ แวดล้อมรอบด้วยต้นชมพูพันธุ์ทิพย์รอบสระทั้ง 4 ทิศ จุดนี้มักจะเริ่มบานก่อนเพราะได้รับแสงแดดเต็มที่มากกว่า
2) ถนนหน้า รร.สาธิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จุดนี้ถือว่าเป็น Hi-light เลยก็ว่าได้ เพราะจะมีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนยังมีบ่อน้ำและทุ่งหญ้าสวยๆ จะถ่ายไปทางไหนก็สวย แต่เนื่องจากเป็นโซนยอดฮิตก็ควรรีบมาจับจองพื้นที่ถ่ายรูปกันแต่เช้าๆ
แต่วันนี้เราจะไปชมกันที่ถนนหน้า รร.สาธิต มหาวิยาลัยเกษตรศาสตร์
ปีนี้ถือว่าดอกออกเรากว่าปกติเมื่อเทียบกับปีอื่นๆๆ อย่างเมื่อปีที่แล้วนี้กว่าจะบาน100 % ก็ปาไปกลางเดือนมีนาคม แต่ปีหน้า กลางเดือน กพ ก็บานแล้ว
นึกว่ามาเที่ยวประเทศญี่ปุ่น นี้ถ้าใส่ชุดกิมโมโนด้วยนะ โอ้ยเข้าสุดๆๆ
เต่าทองน้อยแวะมาทักทาย
พยายามเดินไปจุดที่คนไปน้อยๆๆ อยู่ห่างๆๆแต่ฟิน
อีกฝั่งคลอง จะเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี
ดอกที่ร่วง ก็จะลงมาอยู่ในน้ำ ก็สวยดีนะ
อย่าได้แต่อิจฉา ยึงมีเวลา รีบไปนะคะ ไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่ พญาเสือโคร่งก็เถอะ ชิดซ้ายไปเลยคะ
สถานที่ทุกที่ถ้าเราจัดองค์ประกอบดีๆๆภาพก็ออกมาสวยได้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องแต่ง และใช้แอพเลยคะ
ไปเที่ยวที่ไหน ต้องมีกระโดด พลังซุปเปอร์ไซย้า
ฉันคือเซเลอร์มูล 55
เจ้าชู้ใช่ไหม
กินรีเริ่งร่า
ไอ เลิฟ ยู
ถนนสายนี้ถือว่าเป็นถนนอีกสายนึงที่โรแมนติค หายๆๆคนตั้งตารอที่จะมาชมความงดงาม ซึ่งใน 1 ปีจะมีแค่ช่วงเดียว
หลังจากเราอิ่มเอมเปรมใจแล้ว เราก็ไปหาอะไรทาน ซึ่งไม่ใกล้มาจากตรงนั้น ด้วยความที่หิวมากมื้อนี้เลยไม่ได้ถ่ายภาพเลย
จากนั้นเราก็เดินทางต่อ เพื่อไป พระราชวังสนามจันทน์ ที่นี้ถือ ว่าเป็นที่ๆๆตระกูลของฉันคุ้นเคย เพราะ ทวดของฉันเคยเป็นนางห้องเครื่องอยู่ั้พระราชวังนี้เพื่อรับใช้รัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นเกียรติต่อวงตระกูลฉันมากๆ
พระราชวังสนามจันทน์
ตั้งอยู่ในตัวเมือง ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์ ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 2 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 888 ไร่ 3 งาน 24 ตารางวา พระราชวังแห่งนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ตั้งแต่ยังทรงดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2450 โดย หลวงพิทักษ์มานพ (น้อย ศิลปี) ซึ่งต่อมาเลื่อนยศเป็นพระยาศิลป์ประสิทธิ์ เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง พระที่นั่ง เมื่อแรกสร้างมี ีเพียง 2 พระที่นั่ง ได้แก่ พระที่นั่งพิมานปฐม และพระที่นั่งอภิรมย์ฤดี และพระราชทานนามตาม ประกาศลงวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2454 และต่อมาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำพิธียกพระมหาเศวตฉัตร ขึ้นประดิษฐานเหนือพระแท่นรัตนสิงหาสน์ ภายในพระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2466
การสร้างพระราชวังสนามจันทร์มีมูลเหตุจูงใจมาจากการบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระปฐมเจดีย์ซึ่ง ทำให้พระองค์ ทรงพอพระราชหฤทัยเมืองนครปฐมเป็นอย่างยิ่งทรงเห็นว่าเป็นเมืองที่เหมาะสมสำหรับประทับพักผ่อนเนื่องจากมี ภูมิประเทศที่งดงาม ร่มเย็น นอกจากนี้ยังทรงมีพระราชดำริที่ลึกซึ้ง นั่นก็คือ ทรงเห็นว่านครปฐมเป็นเมืองที่มีชัยภูมิ เหมาะสำหรับต้านทานข้าศึกซึ่งจะยกเข้ามาทางน้ำได้อย่างดี ด้วยทรงจดจำเหตุการณ์ เมื่อ ร.ศ.112 ที่ฝรั่งเศสนำ เรือรบเข้ามาปิดปากอ่าวไทยได้ และไม่ต้องการที่จะให้ประเทศไทยตกอยู่ในสภาพดังกล่าว จึงตั้งพระทัยที่จะ สร้างพระราชวัง สนามจันทร์ไว้สำหรับเป็นเมืองหลวงที่สองหากประเทศชาติประสบปัญหา วิกฤติพระราชวัง สนามจันทร์ มีอาณาเขตกว้างขวางประกอบด้วยสนามใหญ่อยู่กลาง มีถนนโอบเป็นวงโดยรอบ และมีคูน้ำล้อม อยู่ชั้นนอก ส่วนพระที่นั่งต่าง ๆนั้นรวมกันอยู่ส่วนกลางของพระราชวังเท่าที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน