สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
คห.2 เป็นข้อถกเถียงระหว่างจำเลยกับศาลครับ
หลังคำพิพากษาจำคุกเธอเกือบสามสิบปี
หญิงเสื้อแดงเธอเอ่ยทั้งน้ำตาถึงชายคนนั้นว่า หายไปไหน เขาเป็นคนครอบครองอาวุธ เธอไม่เกี่ยว
ทำไมไม่โดนคดี ไม่ปรากฎตัวเป็นจำเลย หรือเป็นพยาน ใช้เพียงคำซัดทอดของชายคนนั้นว่าเธอเป็นเจ้าของอาวุธ
ผู้พิพากษาก็ย้อนว่า เป็นหน้าที่ของเธอที่จะไปตามชายคนนั้นมาเพื่อมาให้ปากคำยืนยันว่าเธอบริสุทธิ์
เธอจึงเถียงศาลไปว่า จะให้เธอไปตามได้อย่างไร
เป็นการถกเถียง
แต่ในความเป็นจริง ญาติเธอ ทนายความเธอก็คงตามหาชายคนนั้น
แต่ประเด็นที่ควรพิจารณาก็คือ ชายคนนั้น ที่เป็นเจ้าของห้องที่พบอาวุธ หายไปไหน ? หายไปได้อย่างไร ?
สลิ่มนี่ ไม่เคยเลยที่จะโพสต์แบบใช้ความคิด มีสติปัญญา และรู้เรื่องในเรื่องที่โพสต์
ไร้ความคิด ไม่มีสติปัญญา ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจในเรื่องราวที่โพสต์
เอาแต่ว่า มองเห็นอะไรที่หยิบมาโพสต์ได้ก็ทำ โดยไม่คำนึงถึงอะไรเลย
ไม่ฉลาดน้อย เป็นสลิ่มไม่ได้จริง ๆ
หลังคำพิพากษาจำคุกเธอเกือบสามสิบปี
หญิงเสื้อแดงเธอเอ่ยทั้งน้ำตาถึงชายคนนั้นว่า หายไปไหน เขาเป็นคนครอบครองอาวุธ เธอไม่เกี่ยว
ทำไมไม่โดนคดี ไม่ปรากฎตัวเป็นจำเลย หรือเป็นพยาน ใช้เพียงคำซัดทอดของชายคนนั้นว่าเธอเป็นเจ้าของอาวุธ
ผู้พิพากษาก็ย้อนว่า เป็นหน้าที่ของเธอที่จะไปตามชายคนนั้นมาเพื่อมาให้ปากคำยืนยันว่าเธอบริสุทธิ์
เธอจึงเถียงศาลไปว่า จะให้เธอไปตามได้อย่างไร
เป็นการถกเถียง
แต่ในความเป็นจริง ญาติเธอ ทนายความเธอก็คงตามหาชายคนนั้น
แต่ประเด็นที่ควรพิจารณาก็คือ ชายคนนั้น ที่เป็นเจ้าของห้องที่พบอาวุธ หายไปไหน ? หายไปได้อย่างไร ?
สลิ่มนี่ ไม่เคยเลยที่จะโพสต์แบบใช้ความคิด มีสติปัญญา และรู้เรื่องในเรื่องที่โพสต์
ไร้ความคิด ไม่มีสติปัญญา ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจในเรื่องราวที่โพสต์
เอาแต่ว่า มองเห็นอะไรที่หยิบมาโพสต์ได้ก็ทำ โดยไม่คำนึงถึงอะไรเลย
ไม่ฉลาดน้อย เป็นสลิ่มไม่ได้จริง ๆ

แสดงความคิดเห็น
จากทู้เรื่องสืบพยานคดีชายชุดดำ ถามจริง ๆ เถอะครับ ไม่มีความสงสัยกันสักนิดเหรอครับ ผมนี่อ่านปั๊บ สะดุ้งเลย
เห็นมีคนเข้าไปเม้นท์แบบไม่สงสัยในเรื่องราวสักคน
ทั้งที่มีข้อสงสัยหลายประการ เช่น
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดร่วมกันแต่งกายเป็นชายชุดดำใช้อาวุธสงครามยิงและขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนจนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายจำนวนหลายราย รวมทั้ง พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนตะนาว และบริเวณใกล้เคียง เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 เวลาประมาณ 20.00 น. ในปฏิบัติการขอคืนพื้นที่กลุ่มผู้ชุมนุม
แต่ข้อหาที่โดนฟ้อง คือ
ในความผิดฐานร่วมกันพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ หรือชุมชน และมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ตาม พ.ร.บ. อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4, 8 ทวิ, 55, 72 ทวิ และ 78
ข้อหาฆ่าคนตาย ข้อหาพยายามฆ่า หายไปไหน ???
เหมือนเรื่องจำคุกหญิงเสื้อแดงข้อหามีอาวุธสงครามในครอบครอง
คดีนั้น มีผู้ต้องหาสองคน ค้นอาวุธได้ที่ห้องผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นชาย
แล้วขยายผลมาจับหญิงเสื้อแดงซึ่งอยู่ห้องติดกัน ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นชาย ทหารนำตัวแยกออกไป
และก็หายไปเลยตั้งแต่บัดนั้น ไม่โดนคดีด้วย ไม่โดนฟ้องด้วย
วันศาลติดสินจำคุก หญิงเสื้อแดงถึงกับเถียงศาล ว่าจะให้ไปตามไอ้ชายคนนั้นได้อย่างไร
เพื่อมาเป็นพยานว่าเธอไม่เกี่ยวข้อง เพราะเธอไม่ได้รับการประกันตัว โดนขังตั้งแต่วันแรกที่ถูกจับ
ส่วนชายคนนั้น ทหารไม่ฟ้อง เรื่องก็เงียบหายไปเฉย ๆ ไม่รู้หายไปได้อย่างไร
ทั้งที่เป็นเจ้าของห้องที่ค้นพบอาวุธ
นี่คือผิดปกติของเรื่องราวแห่งคดี
และแทบทุกคดีครับ จะมีข้อน่าสงสัย มีข้อเคลือบแคลง